26 April, 2015 - Yokohama to Aomori
วันนี้เป็นวันที่ 8 ของทริปแล้วค่ะ ...กำหนดการวันนี้คือ ตื่นเช้าตรู่ ต้องลากกระเป๋าที่เต็มปริ่มจากการช็อปสะสมมาหลายวัน จนหนักอึ้ง อิอิ เมื่อคืนก็รีแพ็คไปจนดึกเลยค่ะ...เช็คเอ้าท์จาก โรงแรมแต่เช้า ลงมาด้านล่าง เข้าร้าน Lawson หาของกินตุนระหว่างนั่งรถไปเดินทางไกลสักหน่อย
เช้าๆแบบนี้ต้องกาแฟอร่อยๆสิคะ...น้ำเปล่าด้วย ขาดไม่ได้เลย....น้ำแพง แต่ก็ต้องดื่ม เพราะมันดื่มแล้วสดชื่น อิอิ
ลากกระเป๋ามาขึ้นรถที่สถานี Kannai ด้วยการใช้บัตรเบ่ง JR Pass เช่นเดิมค่ะ สะดวกสบายและแสนจะรวดเร็ว คริคริ...เรานั่งจากคันไน กลับไปขึ้นชินคังเซ็น เริ่มต้นที่โตเกียวเลยค่ะ คิดว่าง่ายดี และตัวเลือกเยอะ เพราะจากโยโกฮาม่าไปโตเกียวก็นั่งรถไปไม่นานค่ะ
เราเลือกเดินทางที่เร็วที่สุดค่ะ ต้องรีบกันหน่อยแล้ว เพราะไปถึงก็เที่ยงกว่าๆแล้วค่ะ วันนี้ใช้เวลาเดินทางยาวหน่อย ดีที่ประหยัดเวลาได้เพราะนั่งชินคังเซ็น...นี่ขนาดประหยัดได้ยังใช้เวลานั่งตั้ง 3 ชั่วโมงเลยนะคะ
เวลาจองชินคังเซ็น เราต้องเผื่อเวลาในการหา Track ที่เราจะไปขึ้นไว้เยอะๆนะคะ โดยเฉพาะขึ้นจากสถานีใหญ่ๆที่คนเยอะๆ วันนี้ก็ว่าเผื่อไว้เยอะเลยค่ะ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องวิ่งลากกระเป๋าจนลิ้นห้อยเช่นเคย อิอิ...ไปถึงก่อนเราก็มีเวลาได้ถ่ายรูปกับรถไฟชินคังเซ็น ได้ภาพเก็บเป็นที่ระลึกด้วยค่ะ...ตามมาเลยนะคะ...รอบนี้ได้นั่งเจ้าความเร็วชื่อ Hayabusa ค่ะ นั่งยาวจากโตเกียวไปลงที่ Shin-Aomori กันเลยนะคะ...วันนี้ไม่รีบ เพราะเราวางแผนไปนอนค้างที่อาโอโมริ 2 คืนค่ะ JR Pass เนี่ย ทำให้เรานั่งรถไฟชินคังเซ็นแบบทำเอาคนญี่ปุ่นเองอิจฉาเลย คริคริ เพราะเร็ว ประหยัดเวลา แต่ราคาก็แพงไม่ใช่เล่นเลย...
เตรียมตัวหลับาบาย หรือชมวิวข้างทางกันเลยค่า....
ภูเขาชื่ออะไรไม่ทราบค่ะ แต่สวยมาก ลูกใหญ่ด้วย...ทั้งหลับทั้งตื่นมาชมวิวไปเป็นระยะๆ ...รู้สึกว่าทริปนี้คุ้มค่ามากๆ...เที่ยวแบบสบายๆ
อยากไปไหนก็ไป...กินของที่อยากกิน...แถมมาทันช่วงพีคของ Sakura Festival ที่นี่อีก...ปลื้มปริ่ม สุดๆค่ะ
ระหว่างทาง ที่หิว แก้วนี้ช่วยได้เลย อร่อยด้วยค่ะ อิอิ
ถึงชินอาโอโมริแล้วจ้า...ทีนี้ก็ต่อ Lacal Train ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม ที่ Aomori ก่อนนะคะ
มาดูซิว่าเราเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว อิอิ ไม่น่าเชื่อเลย...
มาถึง แล้ว เราลงจากชินคังเซ็นก็ตอนเที่ยงกว่าๆเกือบบ่ายแล้วค่ะ ...ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ...มองไปทางไหนก็เริ่มเป็นของกินไปหมด อิอิ
น้องๆเลยร้องท้องด้วยข้าวปั้นกะซูชิจากร้านในสถานีไปก่อนค่ะ หน้าตาก็น่ากินเหมือนกันนะเนี่ย
อีกสถานีเดียวเท่านั้นค่ะไปกันเลยนะค้าาาา
ระหว่ารอรถไฟมา ก็โบร์ชัวร์เตรียมแผนเที่ยวไปพลางๆนะคะ
เราจองโรงแรมนี้ไว้พัก 2 คืนค่ะ...จองล่วงหน้ามาเกือบ 4 เดือนเลย ขนาจองล่วงหน้านานขนาดนี้ที่พักยังแทบจะไม่มีว่างค่ะ...
ถึงสถานีAomori แล้ว เราก็ตั้งพิกัด GPS หาที่ตั้งโรงแรมเลยค่ะ...ดูเหมือนไม่ไกล แต่กระเป๋าหนักๆเรานี่สิคะ มันทำให้รู้สึกว่าไกลและเริ่มเพลีย แหะๆ...เดินไปเรื่อยๆค่ะ บางทีGPS ก็หลอกให้เราอ้อมไปไกลเลย...ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้ๆเองอ่ะ T_T" ถือเป็นประสบการณ์นะคะ เพราะเราไม่เคยมา..ดีแต่ว่าอากาศไม่ร้อน เราเดินตามทางที่ GPS บอก ใช้เวลาหาอยู่ สิบเกือบ ยี่สิบนาทีถึงเจอโรงแรมค่ะ
ตั้งแต่ลงรถไปแล้วเดินหาโรงแรมที่เมืองนี้ รู้สึกว่าอาโอโมริเป็นเมืองที่เงียบมากๆ รึว่าคนไปทำงานกันหมดก็ไม่รู้ ร้านรวงก็ไม่เปิดกัน เงียบทั้งตรอกเลย หรือว่าเป็นเพราะ Golden Week คนปิดร้านกันไปเที่ยวหมดรึเปล่า...แต่โดยรวมแล้วชอบบรรยากาศที่นี่มากๆค่ะ ต่างจากโอซาก้าและโตเกียวโดยสิ้นเชิง...ใครชอบความสงบ ต้องออกมานอกๆ หรือโซนไกลๆแบบนี้เลยค่ะ ...
ก็ไม่ถือว่าเงียบซะทีเดียว เพราะเราเดินมาเจอน้องๆนักเรียนกลุ่มนี้ กำลังมาช่วยกันร้องเพลง ทำกิจกรรมเพื่อขอบริจาคเงินไปทำอะไรสักอย่าง
มากับคุณครูด้วย...เด็กๆตะโกนเสียงแจ๋วๆ เลยแว้บนึกถึงนักเรียนจัวเอง อิอิ
เราก็เดินมาเรื่อยๆเลย จากอากาศเย็นๆก็เริ่มร้อนและเหงื่อซึมซะแล้ว ฮ่าๆ..ในที่สุดก็มาถึงค่ะ
กว่าจะเจอเล่นเอาเหงื่อชุ่มเลยเรา
(ภาพจาก Booking.com)
(ภาพจาก Booking.com)
เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่เค้าน์เตอร์ สอบถามข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับการเดินทางในเมืองนี้ และแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่จะไปได้ก่อนค่ำ
แล้วเราก็เข้าห้องน้ำทำธุระที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินเล่นชมเมืองกันเลยค่ะ...เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน...ไปหาอะไรอร่อยๆทานกันค่ะ...วันนี้ร้านดูเงียบทุกๆร้าน ตลอดถนนที่ทอดยาวไปจากโรงแรมกลับไปสถานี เงียบมาก อ่านตามหน้าร้านแล้วเปิดช่วงค่ำกันหมดเลย...
สงสัยต้องอาศัยร้านลอว์สันไปก่อนแล้วมั้งเนี่ย....เดินมาเรื่องๆ มาเจอร้านอาหารเปิดอยู่ร้านนึง ดูท่าเป็นร้านเก่าแก่...
แวะเข้าไปลองดีกว่าเรา....เดินเข้ามาก็หอมเลย....มองไปเห็นมีโอบ้าซังเป็นคนเสริ์ฟอาหารเอง...คนทำอาหารน่าจะเป็นลูกชาย...กำลังยกกล้องจะขอถ่ายรูปร้านด้านใน แต่ไม่ได้รับอนุญาต..เลยอดได้บรรยากาศเลยค่ะ...แต่เค้าให้ถ่ายรูปอาหารได้...เราอยากซดน้ำร้อนๆให้หายเมื่อย
เลยหนีไม่พ้นราเม็ง...ลองสั่ง Wantanmen ที่โอบ้าซังแนะนำ...ดูเส้นแล้วเล็กกว่าเส้นราเม็ง คล้ายๆเส้นบะหมี่เหลืองของจีน...ลองดีกว่าแฮะ
อร่อยค่ะ...เมื่ออิ่มท้อง มีแรงเดินแล้ว เราก็เดินกลับไปที่สถานี Aomori วันนี้ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง...เช็คจาก Hyperdia แล้ว จากที่นี่ไปปราสาทฮิโรซากิใช้เวลาไม่นาน เลยตัดสินใจว่าจะไปลองเดินชมเซอร์เวย์ดูก่อนสักหน่อย...ว่าแล้วเราก็ไปกันเลยค่ะ
ตามมานะคะ
ถึงแล้ววววววววววว.....แค่เจอปราสาทจำลองในสถานีที่เค้าจัดไว้ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก็ตื่นเต้นแล้วค่า^^
จากนั้นเราก็ไปนั่งบัสกันต่อเพื่อไปยัง Hirosaki Park บริเวณที่จัด Sakura Festival กันค่ะ ค่ารถบัสคนละ 100 เยนค่ะ
อู้หู...โอ้โห....อ้าฮ้าาาาาาาา....วินาทีแรกที่เห็นถนนที่ทอดยาวไปด้วยต้นซากุระ....มันทำให้เรารู้สึกว่า อยู่บนสวรรค์ หรือดินแดนแห่งความฝันซักที่...ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วค่าาาาา....ไปตะลุยชมความงามของซากุระกันเลย...ถ่ายรูปให้สะใจไปเลยนะคะ....
ดีใจแทนคนที่เราพามา....คุณสามี และน้องสาวคนสวยอีกสองคนค่ะ มาญี่ปุ่นครั้งแรกก็ได้เก็บภาพประทับใจไปสุดเหวี่ยงเลยค่ะ...
เราเคยเจอช่วงพีคๆแบบนี้แล้วครั้งนึงเมื่อไปทริปที่เมือง นาราและเกียวโต ครั้งแรกเมื่อปี 2010 สุดแสนจะประทับใจไม่มีวันลืม...ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ...ไปชมบรรยากาศกันต่อเลยนะคะ...สวยอลังการสุดบรรยายเลยค่ะ...ต่อจากนี้ไปขอกระหน่ำลงรูปล้วนๆนะคะ...
นางแบบคนสวยของพี่...นางมีความสุขมาก และท่าโพสต์ของนาง ยังกับมืออาชีพเลยนะคะ ทั้งคู่เลย...เห็นแล้วคนพามาก็พลอยมีความสุขไปด้วยเลย
ใจจริงอยากลงทุ้กกกกกกกกกกกกกกกกรูปเลยจ้า ....เกรงใจคนเลื่อดู อิอิ...
****สาบานด้วยสัจจริงเลยนะคะว่าไม่ได้แตะต้งดอกซากุระเลย...รักษามารยาทและข้อห้ามทุกอย่างที่เค้าบอกไว้ค่ะ ...เพียงแค่เลือกใช้มุมกล้อง ให้เหมาะๆ...และถ่ายอย่างระมัดระวังที่สุดเลยค่ะ....เรารู้กติกาในการชมดอกซากุระดี ไม่ให้เสียชื่อนักท่องเที่ยวและคนไทยแน่นอนค่ะ***
เริ่มมืดแล้ว และที่ปราสาทก็เริ่มเปิดไฟเพิ่มความสวยงามให้ต้นซากุระและตัวปราสาทให้สวยงามกว่าเดิม....อากาศก็เริ่มเย็นลงๆ จนถึงเกือบหนาว...วันนี้ได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้วค่ะ...กลัวจะไม่ทันรถบัส...วันนี้เอาไว้แค้นี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะกลับมาพาชมอีกทั้งวันเต็มๆเลยค่ะ...เต็มอิ่มไปอีกวันกับวันที่แสนสวยงาม...เช็คเวลาที่จะนั่งรถไปด่วนพอเหมาะพอดีเราก็กลับเลยค่ะ...จากปราสาทฮิโรซากิไปสถานี เราก็ต้องนั่งบัสกลับไปเหมือนเดิมนะคะ...แล้วค่อยต่อรถไฟกลับไปอาโอโมริกันค่ะ
หน้าสถานีเจอาร์ฮิโรซากิ เริ่มเงียบแล้วค่ะ นักท่องเที่ยวเริ่มพากันทะยอยกลับแล้ว
เจ้า Tsugaru นั่งรวดเร็วทันใจ ไม่นานก็กลับถึงอาโอโมริค่ะ..ชอบจังเลย
[SR] เที่ยวญี่ปุ่น 12 วัน 10 คืน จาก Kansai ถึง Kanto 19-30 April,2015#7: Aomori 26-27 April,2015 # Hirosaki Sakura Festival
วันนี้เป็นวันที่ 8 ของทริปแล้วค่ะ ...กำหนดการวันนี้คือ ตื่นเช้าตรู่ ต้องลากกระเป๋าที่เต็มปริ่มจากการช็อปสะสมมาหลายวัน จนหนักอึ้ง อิอิ เมื่อคืนก็รีแพ็คไปจนดึกเลยค่ะ...เช็คเอ้าท์จาก โรงแรมแต่เช้า ลงมาด้านล่าง เข้าร้าน Lawson หาของกินตุนระหว่างนั่งรถไปเดินทางไกลสักหน่อย
เช้าๆแบบนี้ต้องกาแฟอร่อยๆสิคะ...น้ำเปล่าด้วย ขาดไม่ได้เลย....น้ำแพง แต่ก็ต้องดื่ม เพราะมันดื่มแล้วสดชื่น อิอิ
ลากกระเป๋ามาขึ้นรถที่สถานี Kannai ด้วยการใช้บัตรเบ่ง JR Pass เช่นเดิมค่ะ สะดวกสบายและแสนจะรวดเร็ว คริคริ...เรานั่งจากคันไน กลับไปขึ้นชินคังเซ็น เริ่มต้นที่โตเกียวเลยค่ะ คิดว่าง่ายดี และตัวเลือกเยอะ เพราะจากโยโกฮาม่าไปโตเกียวก็นั่งรถไปไม่นานค่ะ
เราเลือกเดินทางที่เร็วที่สุดค่ะ ต้องรีบกันหน่อยแล้ว เพราะไปถึงก็เที่ยงกว่าๆแล้วค่ะ วันนี้ใช้เวลาเดินทางยาวหน่อย ดีที่ประหยัดเวลาได้เพราะนั่งชินคังเซ็น...นี่ขนาดประหยัดได้ยังใช้เวลานั่งตั้ง 3 ชั่วโมงเลยนะคะ
เวลาจองชินคังเซ็น เราต้องเผื่อเวลาในการหา Track ที่เราจะไปขึ้นไว้เยอะๆนะคะ โดยเฉพาะขึ้นจากสถานีใหญ่ๆที่คนเยอะๆ วันนี้ก็ว่าเผื่อไว้เยอะเลยค่ะ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องวิ่งลากกระเป๋าจนลิ้นห้อยเช่นเคย อิอิ...ไปถึงก่อนเราก็มีเวลาได้ถ่ายรูปกับรถไฟชินคังเซ็น ได้ภาพเก็บเป็นที่ระลึกด้วยค่ะ...ตามมาเลยนะคะ...รอบนี้ได้นั่งเจ้าความเร็วชื่อ Hayabusa ค่ะ นั่งยาวจากโตเกียวไปลงที่ Shin-Aomori กันเลยนะคะ...วันนี้ไม่รีบ เพราะเราวางแผนไปนอนค้างที่อาโอโมริ 2 คืนค่ะ JR Pass เนี่ย ทำให้เรานั่งรถไฟชินคังเซ็นแบบทำเอาคนญี่ปุ่นเองอิจฉาเลย คริคริ เพราะเร็ว ประหยัดเวลา แต่ราคาก็แพงไม่ใช่เล่นเลย...
เตรียมตัวหลับาบาย หรือชมวิวข้างทางกันเลยค่า....
ภูเขาชื่ออะไรไม่ทราบค่ะ แต่สวยมาก ลูกใหญ่ด้วย...ทั้งหลับทั้งตื่นมาชมวิวไปเป็นระยะๆ ...รู้สึกว่าทริปนี้คุ้มค่ามากๆ...เที่ยวแบบสบายๆ
อยากไปไหนก็ไป...กินของที่อยากกิน...แถมมาทันช่วงพีคของ Sakura Festival ที่นี่อีก...ปลื้มปริ่ม สุดๆค่ะ
ระหว่างทาง ที่หิว แก้วนี้ช่วยได้เลย อร่อยด้วยค่ะ อิอิ
ถึงชินอาโอโมริแล้วจ้า...ทีนี้ก็ต่อ Lacal Train ไปฝากกระเป๋าที่โรงแรม ที่ Aomori ก่อนนะคะ
มาดูซิว่าเราเดินทางมาไกลแค่ไหนแล้ว อิอิ ไม่น่าเชื่อเลย...
มาถึง แล้ว เราลงจากชินคังเซ็นก็ตอนเที่ยงกว่าๆเกือบบ่ายแล้วค่ะ ...ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ...มองไปทางไหนก็เริ่มเป็นของกินไปหมด อิอิ
น้องๆเลยร้องท้องด้วยข้าวปั้นกะซูชิจากร้านในสถานีไปก่อนค่ะ หน้าตาก็น่ากินเหมือนกันนะเนี่ย
ระหว่ารอรถไฟมา ก็โบร์ชัวร์เตรียมแผนเที่ยวไปพลางๆนะคะ
เราจองโรงแรมนี้ไว้พัก 2 คืนค่ะ...จองล่วงหน้ามาเกือบ 4 เดือนเลย ขนาจองล่วงหน้านานขนาดนี้ที่พักยังแทบจะไม่มีว่างค่ะ...
ถึงสถานีAomori แล้ว เราก็ตั้งพิกัด GPS หาที่ตั้งโรงแรมเลยค่ะ...ดูเหมือนไม่ไกล แต่กระเป๋าหนักๆเรานี่สิคะ มันทำให้รู้สึกว่าไกลและเริ่มเพลีย แหะๆ...เดินไปเรื่อยๆค่ะ บางทีGPS ก็หลอกให้เราอ้อมไปไกลเลย...ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้ๆเองอ่ะ T_T" ถือเป็นประสบการณ์นะคะ เพราะเราไม่เคยมา..ดีแต่ว่าอากาศไม่ร้อน เราเดินตามทางที่ GPS บอก ใช้เวลาหาอยู่ สิบเกือบ ยี่สิบนาทีถึงเจอโรงแรมค่ะ
ตั้งแต่ลงรถไปแล้วเดินหาโรงแรมที่เมืองนี้ รู้สึกว่าอาโอโมริเป็นเมืองที่เงียบมากๆ รึว่าคนไปทำงานกันหมดก็ไม่รู้ ร้านรวงก็ไม่เปิดกัน เงียบทั้งตรอกเลย หรือว่าเป็นเพราะ Golden Week คนปิดร้านกันไปเที่ยวหมดรึเปล่า...แต่โดยรวมแล้วชอบบรรยากาศที่นี่มากๆค่ะ ต่างจากโอซาก้าและโตเกียวโดยสิ้นเชิง...ใครชอบความสงบ ต้องออกมานอกๆ หรือโซนไกลๆแบบนี้เลยค่ะ ...
ก็ไม่ถือว่าเงียบซะทีเดียว เพราะเราเดินมาเจอน้องๆนักเรียนกลุ่มนี้ กำลังมาช่วยกันร้องเพลง ทำกิจกรรมเพื่อขอบริจาคเงินไปทำอะไรสักอย่าง
มากับคุณครูด้วย...เด็กๆตะโกนเสียงแจ๋วๆ เลยแว้บนึกถึงนักเรียนจัวเอง อิอิ
เราก็เดินมาเรื่อยๆเลย จากอากาศเย็นๆก็เริ่มร้อนและเหงื่อซึมซะแล้ว ฮ่าๆ..ในที่สุดก็มาถึงค่ะ
กว่าจะเจอเล่นเอาเหงื่อชุ่มเลยเรา
เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่เค้าน์เตอร์ สอบถามข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับการเดินทางในเมืองนี้ และแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่จะไปได้ก่อนค่ำ
แล้วเราก็เข้าห้องน้ำทำธุระที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินเล่นชมเมืองกันเลยค่ะ...เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน...ไปหาอะไรอร่อยๆทานกันค่ะ...วันนี้ร้านดูเงียบทุกๆร้าน ตลอดถนนที่ทอดยาวไปจากโรงแรมกลับไปสถานี เงียบมาก อ่านตามหน้าร้านแล้วเปิดช่วงค่ำกันหมดเลย...
สงสัยต้องอาศัยร้านลอว์สันไปก่อนแล้วมั้งเนี่ย....เดินมาเรื่องๆ มาเจอร้านอาหารเปิดอยู่ร้านนึง ดูท่าเป็นร้านเก่าแก่...
แวะเข้าไปลองดีกว่าเรา....เดินเข้ามาก็หอมเลย....มองไปเห็นมีโอบ้าซังเป็นคนเสริ์ฟอาหารเอง...คนทำอาหารน่าจะเป็นลูกชาย...กำลังยกกล้องจะขอถ่ายรูปร้านด้านใน แต่ไม่ได้รับอนุญาต..เลยอดได้บรรยากาศเลยค่ะ...แต่เค้าให้ถ่ายรูปอาหารได้...เราอยากซดน้ำร้อนๆให้หายเมื่อย
เลยหนีไม่พ้นราเม็ง...ลองสั่ง Wantanmen ที่โอบ้าซังแนะนำ...ดูเส้นแล้วเล็กกว่าเส้นราเม็ง คล้ายๆเส้นบะหมี่เหลืองของจีน...ลองดีกว่าแฮะ
อร่อยค่ะ...เมื่ออิ่มท้อง มีแรงเดินแล้ว เราก็เดินกลับไปที่สถานี Aomori วันนี้ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง...เช็คจาก Hyperdia แล้ว จากที่นี่ไปปราสาทฮิโรซากิใช้เวลาไม่นาน เลยตัดสินใจว่าจะไปลองเดินชมเซอร์เวย์ดูก่อนสักหน่อย...ว่าแล้วเราก็ไปกันเลยค่ะ
ถึงแล้ววววววววววว.....แค่เจอปราสาทจำลองในสถานีที่เค้าจัดไว้ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก็ตื่นเต้นแล้วค่า^^
จากนั้นเราก็ไปนั่งบัสกันต่อเพื่อไปยัง Hirosaki Park บริเวณที่จัด Sakura Festival กันค่ะ ค่ารถบัสคนละ 100 เยนค่ะ
อู้หู...โอ้โห....อ้าฮ้าาาาาาาา....วินาทีแรกที่เห็นถนนที่ทอดยาวไปด้วยต้นซากุระ....มันทำให้เรารู้สึกว่า อยู่บนสวรรค์ หรือดินแดนแห่งความฝันซักที่...ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วค่าาาาา....ไปตะลุยชมความงามของซากุระกันเลย...ถ่ายรูปให้สะใจไปเลยนะคะ....
ดีใจแทนคนที่เราพามา....คุณสามี และน้องสาวคนสวยอีกสองคนค่ะ มาญี่ปุ่นครั้งแรกก็ได้เก็บภาพประทับใจไปสุดเหวี่ยงเลยค่ะ...
เราเคยเจอช่วงพีคๆแบบนี้แล้วครั้งนึงเมื่อไปทริปที่เมือง นาราและเกียวโต ครั้งแรกเมื่อปี 2010 สุดแสนจะประทับใจไม่มีวันลืม...ครั้งนี้ก็เช่นกันค่ะ...ไปชมบรรยากาศกันต่อเลยนะคะ...สวยอลังการสุดบรรยายเลยค่ะ...ต่อจากนี้ไปขอกระหน่ำลงรูปล้วนๆนะคะ...
นางแบบคนสวยของพี่...นางมีความสุขมาก และท่าโพสต์ของนาง ยังกับมืออาชีพเลยนะคะ ทั้งคู่เลย...เห็นแล้วคนพามาก็พลอยมีความสุขไปด้วยเลย
ใจจริงอยากลงทุ้กกกกกกกกกกกกกกกกรูปเลยจ้า ....เกรงใจคนเลื่อดู อิอิ...
****สาบานด้วยสัจจริงเลยนะคะว่าไม่ได้แตะต้งดอกซากุระเลย...รักษามารยาทและข้อห้ามทุกอย่างที่เค้าบอกไว้ค่ะ ...เพียงแค่เลือกใช้มุมกล้อง ให้เหมาะๆ...และถ่ายอย่างระมัดระวังที่สุดเลยค่ะ....เรารู้กติกาในการชมดอกซากุระดี ไม่ให้เสียชื่อนักท่องเที่ยวและคนไทยแน่นอนค่ะ***
เริ่มมืดแล้ว และที่ปราสาทก็เริ่มเปิดไฟเพิ่มความสวยงามให้ต้นซากุระและตัวปราสาทให้สวยงามกว่าเดิม....อากาศก็เริ่มเย็นลงๆ จนถึงเกือบหนาว...วันนี้ได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้วค่ะ...กลัวจะไม่ทันรถบัส...วันนี้เอาไว้แค้นี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะกลับมาพาชมอีกทั้งวันเต็มๆเลยค่ะ...เต็มอิ่มไปอีกวันกับวันที่แสนสวยงาม...เช็คเวลาที่จะนั่งรถไปด่วนพอเหมาะพอดีเราก็กลับเลยค่ะ...จากปราสาทฮิโรซากิไปสถานี เราก็ต้องนั่งบัสกลับไปเหมือนเดิมนะคะ...แล้วค่อยต่อรถไฟกลับไปอาโอโมริกันค่ะ
หน้าสถานีเจอาร์ฮิโรซากิ เริ่มเงียบแล้วค่ะ นักท่องเที่ยวเริ่มพากันทะยอยกลับแล้ว
เจ้า Tsugaru นั่งรวดเร็วทันใจ ไม่นานก็กลับถึงอาโอโมริค่ะ..ชอบจังเลย