เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จัดสัมมนาเรื่อง“ปฏิรูปป.ป.ช.แก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น” โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายชัยสิทธิ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และนายโสภณ จันเทรมะ ประธานคณะกรรมการป.ป.ท.นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกมธ.ปฏิรูปฯ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมาย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ และนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ สมาชิกสปช.เข้าร่วมด้วย
โดย พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราไม่อยากจะวิจารณ์ป.ป.ช. เพราะเป็นทำงานหนัก และเราไม่อยากให้ฝ่ายที่ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบอยู่ เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นข้อมูลดิสเครดิต ทั้งนี้ บ้านเรามีการคอร์รัปชั่นกันมาก ปัญหาเกิดจากข้าราชการและนักการเมืองสุมหัวกันทุจริต ซึ่งคนเป็นป.ป.ช. ต้องเป็นมนุษย์พิเศษกว่าศาล และการคัดเลือกป.ป.ช.ไม่ใช่ทำอย่างที่คัดเลือกกันในปัจจุบัน ที่เน้นเฉพาะกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้มาเป็นอนุกรรมการ เพราะป.ป.ช.ไม่ใช่แค่ตรวจสอบว่าใครถูก ใครผิดเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ใช่คนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนมาทำงาน เพราะป.ป.ช. ต้องทำเหมือนศาลคือต้องอบรมให้เป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษ มองการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องอันตรายและกระหายที่ต้องเข้าไปแก้ไข
พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ที่ตั้งนายสมบัติ ธรธรรม เป็นที่ปรึกษาฯ ทั้งที่มีคดีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น มานั่งหน้าห้องแล้วปล่อยให้คดีหลุดไปแบบนี้ไม่มีมนุษย์พันธุ์ไหนทำได้ ถ้าเป็นป.ป.ช. แบบนี้ ปล่อยให้คดีที่ก่อความเสียหายกว่าพันกว่าล้านบาทหลุดไปถือเป็นการฟอกคน ซึ่งถ้าตนเป็นเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. จะเดินขบวนขับไล่พล.ต.อ.สถาพร ให้ลาออก เพราะทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งตนเคยคุยกับคนในป.ป.ช. หลายคนว่าต้องดำเนินการเรื่องนี้จะปล่อยให้องค์กรเน่าแบบนี้ได้อย่างไร เพราะคนคาดหวังไว้มาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437129819
"พะจุณณ์" ยก "ป.ป.ช" ต้องเป็นมนุษย์พิเศษกว่าศาล อัด "สถาพร"
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จัดสัมมนาเรื่อง“ปฏิรูปป.ป.ช.แก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น” โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายชัยสิทธิ ตราชูธรรม ประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และนายโสภณ จันเทรมะ ประธานคณะกรรมการป.ป.ท.นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกมธ.ปฏิรูปฯ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมาย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ และนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ สมาชิกสปช.เข้าร่วมด้วย
โดย พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราไม่อยากจะวิจารณ์ป.ป.ช. เพราะเป็นทำงานหนัก และเราไม่อยากให้ฝ่ายที่ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบอยู่ เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นข้อมูลดิสเครดิต ทั้งนี้ บ้านเรามีการคอร์รัปชั่นกันมาก ปัญหาเกิดจากข้าราชการและนักการเมืองสุมหัวกันทุจริต ซึ่งคนเป็นป.ป.ช. ต้องเป็นมนุษย์พิเศษกว่าศาล และการคัดเลือกป.ป.ช.ไม่ใช่ทำอย่างที่คัดเลือกกันในปัจจุบัน ที่เน้นเฉพาะกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ได้มาเป็นอนุกรรมการ เพราะป.ป.ช.ไม่ใช่แค่ตรวจสอบว่าใครถูก ใครผิดเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ใช่คนที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนมาทำงาน เพราะป.ป.ช. ต้องทำเหมือนศาลคือต้องอบรมให้เป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษ มองการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องอันตรายและกระหายที่ต้องเข้าไปแก้ไข
พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ที่ตั้งนายสมบัติ ธรธรรม เป็นที่ปรึกษาฯ ทั้งที่มีคดีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น มานั่งหน้าห้องแล้วปล่อยให้คดีหลุดไปแบบนี้ไม่มีมนุษย์พันธุ์ไหนทำได้ ถ้าเป็นป.ป.ช. แบบนี้ ปล่อยให้คดีที่ก่อความเสียหายกว่าพันกว่าล้านบาทหลุดไปถือเป็นการฟอกคน ซึ่งถ้าตนเป็นเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. จะเดินขบวนขับไล่พล.ต.อ.สถาพร ให้ลาออก เพราะทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งตนเคยคุยกับคนในป.ป.ช. หลายคนว่าต้องดำเนินการเรื่องนี้จะปล่อยให้องค์กรเน่าแบบนี้ได้อย่างไร เพราะคนคาดหวังไว้มาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1437129819