เมื่อต้องตัดสินใจ เลือกระหว่าง งานประจำ กับ ลาออก ?
สวัสดีครับเพื่อนๆ
ผม อนุชิต ทรัพย์อบรม ชาติ ครับคนนครปฐม จบการจัดการที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี ปัจจุบัน อายุ 45 แล้วครับ เริ่มทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ นอกมหาลัยเรียนคอมพิวเตอร์ ในมหาลัยเรียนการจัดการ จบมาสมัครงานที่แรกเขาก็ให้ทำงานอยู่แผนกคลังสินค้าเลย ทำ Stock card คุมของเข้าของออก ทำทะเบียนสินค้า เป็นพนักงานคลังสินค้าธรรมดาคนหนึ่ง ช่วงนั้นของเข้าของออกเยอะมาก แล้วคนทำงานก็น้อย มีไม่กี่คน เริ่มทำงานไม่ทัน บริษัทเห็นว่า ผมพอมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เลยฝากให้ช่วยรับผิดชอบจัดหา โปรแกรมบริหารคลังสินค้ามาใช้ เพื่อช่วยลดเวลาการจัดการในคลังลง เพื่อให้การจัดส่งเป็นอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และใช้ค่าใช้จ่ายน้อยลง ช่วงนั้นต้องทำทุกหน้าที่ทั้งงานในระบบการจัดการแบบเก่า และ งานในระบบการจัดการแบบใหม่ ทำจนทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ บริษัทก็เลื่อนตำแหน่งให้เป็น ผู้ช่วยผู้จัดการคลังสินค้า แล้วก็เลื่อนต่อเป็น ผู้จัดการคลังสินค้า ความรู้ที่เรียนมาเริ่มไม่พอ ต้องหาความรู้เพิ่มเติม เข้าอบรมกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ISO 9000 ,5 ส และ อีกหลายหลักสูตร ตำแหน่ง หน้าที่การงาน ก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์ แต่ว่าวันหนึ่งบริษัทก็แจ้งข่าวว่า มีความจำเป็นต้องขายกิจการออกไป
งานเข้าล่ะที่นี้
ต้องออกจากงาน หางานทำใหม่เหรอ แล้วงานใหม่ จะเป็นอะไร ตำแหน่งอะไร ....บลาๆๆ เต็มไปหมด
ใจก็บอกกับตัวเองว่า งานอะไรก็ได้ ถ้าเราตั้งใจจริงก็ทำได้หมดล่ะ แล้วบริษัทใหม่ ที่เข้าซื้อกิจการต่อจากบริษัทเดิม ก็เรียกสัมภาษณ์ เห็นว่าเป็นคนขยัน ตั้งใจ สู้งาน แต่ตำแหน่งในคลังสินค้าไม่ว่าง งั้นให้ลองงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ให้นำสินค้าที่บริษัทผลิต ไปติดต่อวางขายในห้าง รับผิดชอบตั้งแต่นำเสนอ Profile บริษัท ส่งตัวอย่างสินค้า ส่งตัวอย่างการจัดเรียง การจัดทำรายการส่งเสริมการขาย จัดหา PC พนักงานขาย ทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อขอตำแหน่งดีๆ จากห้าง มาเป็นจุดขาย จุดทำเงิน ให้กับบริษัท ติดต่อตั้งแต่ Tesco Lotus ,Big C ,Carrefour , Robinson ,Central , The mall และ ห้างท้องถิ่นทุกห้าง ทุกจังหวัดในประเทศไทย
ทำตั้งแต่ยอดขายหลักแสนต่อเดือน เป็นหลายสิบล้านบาทต่อเดือน เงินเดือน ค่า Commission เพิ่มขึ้นทุกปี จนได้รับตำแหน่งใหม่ เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด เป็นผู้จัดการมาแล้ว 2 ฝ่าย 2 แผนก ทุกอย่างเหมือนเป็นไปด้วยดี ลูกชายเจ้าของบริษัท เรียนจบกลับจากต่างประเทศ เข้ามาตำแหน่งบริหารในบริษัท เริ่มเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน ฝ่ายพ่อต้องการแบบหนึ่ง ฝ่ายลูกต้องการแบบหนึ่ง เราคนทำงานทำอย่างไรล่ะที่นี้ อยู่ตรงกลาง อีดอีด เพราะต้องปฎิบัติ 2 คำสั่งในเวลาเดียวกัน ที่เดียวกัน เรื่องเดียวกัน บริษัทเดียวกัน
แล้วความอึดอัดที่เก็บสะสม ก็เดินทางมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ “ลาออก”
2 หน้าที่ 2 ฝ่าย 2 ตำแหน่งผู้จัดการ พกพาความมั่นใจเต็มร้อย ไปหาที่ใหม่ทำ สมัครงานอยู่นานพอดู จนบริษัทหนึ่งเห็นแววการทำงาน จึงชักชวนเข้าทำงาน ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ชื่อตำแหน่งเขียนเหมือนเดิม แต่หน้าที่ที่รับผิดชอบมากกว่าเดิม บริษัทเดิม มีหน้าที่หาจุดขายสินค้า จุดกระจายสินค้า แต่บริษัทใหม่ เพิ่มหน้าที่ ต้องจัดหาสินค้ามาขายด้วย ชีวิตคลุกคลี่แต่กับ คลัง สินค้า ห้าง คน
เห็นคนที่ถือสินค้าเข้ามาเสนอให้ห้างขายทุกวัน บางรายห้างก็ตอบตกลง หลายรายห้างก็ตอบไม่ตกลง หน้าเศร้าไปตามๆกัน
เพราะคนที่ถือสินค้ามาไม่ได้เป็นพนักงานอย่างเราๆ แต่เป็นอาเสี่ย เถ้าแก่ เจ้าของโรงงานเลยก็มี บางรายเคยทักเคยคุยกับเราก็มี
เพราะเขาเป็นเจ้าของโรงงาน คุ้นเคยกับการทำงานในโรงงานที่ตัวเองนั้นสั่งได้
กำหนดได้ ว่าต้องการอย่างนั้นอย่างนี้ ลูกน้อง พนักงานก็ยินยอมทำให้หมดแต่โดยดี แต่กับห้างสรรพสินค้า ที่ถือกำลังต่อรองมหาศาล
เรื่องช่องทางขาย สั่งเขาไม่ได้ เขาต้องอย่างหนึ่ง แต่เถ้าแก่เจ้าของโรงงานต้องการอีกอย่างหนึ่ง หลายครั้งก็จบกันไม่ได้ ก็หันกลับไปขายในช่องทางจำหน่ายเดิม ยอดขายก็สาละวันเตี้ยลง เตี้ยลง จนยอดขายคู่แข่งทิ้งห่างอย่างไม่เห็นฝุ่น
จนวันหนึ่งมีเถ้าแก่รายหนึ่งถามผมว่า ต้องทำอย่างไรห้างถึงตอบตกลง
เท่านั้นแหละ สมองผมโลดแล่นขึ้นมาทันที
การลาออกครั้งสุดท้ายของผมมาถึงแล้ว ผมจะทำธุรกิจช่วยเจ้าของสินค้าได้นำสินค้าเข้าไปขายในห้างได้ อยู่กับสินค้า คลุกคลี่กับห้างมาเกือบ 20 ปี เข้าใจสินค้า เข้าใจห้าง
เ
พื่อนท่านใด มีสินค้า ติดต่อเข้ามากันนะครับ รับทุกสินค้าแหละ ช่วยๆกัน ช่วยกันขาย ฝากด้วยนะครับ
ชาติ : 089-007-6706
โทรมานะครับ ผมอยู่ทุกวันล่ะ
เมื่อต้องตัดสินใจ เลือกระหว่าง งานประจำ กับ ลาออก ?
เมื่อต้องตัดสินใจ เลือกระหว่าง งานประจำ กับ ลาออก ?
สวัสดีครับเพื่อนๆ
ผม อนุชิต ทรัพย์อบรม ชาติ ครับคนนครปฐม จบการจัดการที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี ปัจจุบัน อายุ 45 แล้วครับ เริ่มทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ นอกมหาลัยเรียนคอมพิวเตอร์ ในมหาลัยเรียนการจัดการ จบมาสมัครงานที่แรกเขาก็ให้ทำงานอยู่แผนกคลังสินค้าเลย ทำ Stock card คุมของเข้าของออก ทำทะเบียนสินค้า เป็นพนักงานคลังสินค้าธรรมดาคนหนึ่ง ช่วงนั้นของเข้าของออกเยอะมาก แล้วคนทำงานก็น้อย มีไม่กี่คน เริ่มทำงานไม่ทัน บริษัทเห็นว่า ผมพอมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เลยฝากให้ช่วยรับผิดชอบจัดหา โปรแกรมบริหารคลังสินค้ามาใช้ เพื่อช่วยลดเวลาการจัดการในคลังลง เพื่อให้การจัดส่งเป็นอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และใช้ค่าใช้จ่ายน้อยลง ช่วงนั้นต้องทำทุกหน้าที่ทั้งงานในระบบการจัดการแบบเก่า และ งานในระบบการจัดการแบบใหม่ ทำจนทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ บริษัทก็เลื่อนตำแหน่งให้เป็น ผู้ช่วยผู้จัดการคลังสินค้า แล้วก็เลื่อนต่อเป็น ผู้จัดการคลังสินค้า ความรู้ที่เรียนมาเริ่มไม่พอ ต้องหาความรู้เพิ่มเติม เข้าอบรมกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ISO 9000 ,5 ส และ อีกหลายหลักสูตร ตำแหน่ง หน้าที่การงาน ก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์ แต่ว่าวันหนึ่งบริษัทก็แจ้งข่าวว่า มีความจำเป็นต้องขายกิจการออกไป
งานเข้าล่ะที่นี้
ต้องออกจากงาน หางานทำใหม่เหรอ แล้วงานใหม่ จะเป็นอะไร ตำแหน่งอะไร ....บลาๆๆ เต็มไปหมด
ใจก็บอกกับตัวเองว่า งานอะไรก็ได้ ถ้าเราตั้งใจจริงก็ทำได้หมดล่ะ แล้วบริษัทใหม่ ที่เข้าซื้อกิจการต่อจากบริษัทเดิม ก็เรียกสัมภาษณ์ เห็นว่าเป็นคนขยัน ตั้งใจ สู้งาน แต่ตำแหน่งในคลังสินค้าไม่ว่าง งั้นให้ลองงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ให้นำสินค้าที่บริษัทผลิต ไปติดต่อวางขายในห้าง รับผิดชอบตั้งแต่นำเสนอ Profile บริษัท ส่งตัวอย่างสินค้า ส่งตัวอย่างการจัดเรียง การจัดทำรายการส่งเสริมการขาย จัดหา PC พนักงานขาย ทำทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อขอตำแหน่งดีๆ จากห้าง มาเป็นจุดขาย จุดทำเงิน ให้กับบริษัท ติดต่อตั้งแต่ Tesco Lotus ,Big C ,Carrefour , Robinson ,Central , The mall และ ห้างท้องถิ่นทุกห้าง ทุกจังหวัดในประเทศไทย
ทำตั้งแต่ยอดขายหลักแสนต่อเดือน เป็นหลายสิบล้านบาทต่อเดือน เงินเดือน ค่า Commission เพิ่มขึ้นทุกปี จนได้รับตำแหน่งใหม่ เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด เป็นผู้จัดการมาแล้ว 2 ฝ่าย 2 แผนก ทุกอย่างเหมือนเป็นไปด้วยดี ลูกชายเจ้าของบริษัท เรียนจบกลับจากต่างประเทศ เข้ามาตำแหน่งบริหารในบริษัท เริ่มเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน ฝ่ายพ่อต้องการแบบหนึ่ง ฝ่ายลูกต้องการแบบหนึ่ง เราคนทำงานทำอย่างไรล่ะที่นี้ อยู่ตรงกลาง อีดอีด เพราะต้องปฎิบัติ 2 คำสั่งในเวลาเดียวกัน ที่เดียวกัน เรื่องเดียวกัน บริษัทเดียวกัน
แล้วความอึดอัดที่เก็บสะสม ก็เดินทางมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจ “ลาออก”
2 หน้าที่ 2 ฝ่าย 2 ตำแหน่งผู้จัดการ พกพาความมั่นใจเต็มร้อย ไปหาที่ใหม่ทำ สมัครงานอยู่นานพอดู จนบริษัทหนึ่งเห็นแววการทำงาน จึงชักชวนเข้าทำงาน ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ชื่อตำแหน่งเขียนเหมือนเดิม แต่หน้าที่ที่รับผิดชอบมากกว่าเดิม บริษัทเดิม มีหน้าที่หาจุดขายสินค้า จุดกระจายสินค้า แต่บริษัทใหม่ เพิ่มหน้าที่ ต้องจัดหาสินค้ามาขายด้วย ชีวิตคลุกคลี่แต่กับ คลัง สินค้า ห้าง คน
เห็นคนที่ถือสินค้าเข้ามาเสนอให้ห้างขายทุกวัน บางรายห้างก็ตอบตกลง หลายรายห้างก็ตอบไม่ตกลง หน้าเศร้าไปตามๆกัน
เพราะคนที่ถือสินค้ามาไม่ได้เป็นพนักงานอย่างเราๆ แต่เป็นอาเสี่ย เถ้าแก่ เจ้าของโรงงานเลยก็มี บางรายเคยทักเคยคุยกับเราก็มี
เพราะเขาเป็นเจ้าของโรงงาน คุ้นเคยกับการทำงานในโรงงานที่ตัวเองนั้นสั่งได้
กำหนดได้ ว่าต้องการอย่างนั้นอย่างนี้ ลูกน้อง พนักงานก็ยินยอมทำให้หมดแต่โดยดี แต่กับห้างสรรพสินค้า ที่ถือกำลังต่อรองมหาศาล
เรื่องช่องทางขาย สั่งเขาไม่ได้ เขาต้องอย่างหนึ่ง แต่เถ้าแก่เจ้าของโรงงานต้องการอีกอย่างหนึ่ง หลายครั้งก็จบกันไม่ได้ ก็หันกลับไปขายในช่องทางจำหน่ายเดิม ยอดขายก็สาละวันเตี้ยลง เตี้ยลง จนยอดขายคู่แข่งทิ้งห่างอย่างไม่เห็นฝุ่น
จนวันหนึ่งมีเถ้าแก่รายหนึ่งถามผมว่า ต้องทำอย่างไรห้างถึงตอบตกลง
เท่านั้นแหละ สมองผมโลดแล่นขึ้นมาทันที
การลาออกครั้งสุดท้ายของผมมาถึงแล้ว ผมจะทำธุรกิจช่วยเจ้าของสินค้าได้นำสินค้าเข้าไปขายในห้างได้ อยู่กับสินค้า คลุกคลี่กับห้างมาเกือบ 20 ปี เข้าใจสินค้า เข้าใจห้าง
เพื่อนท่านใด มีสินค้า ติดต่อเข้ามากันนะครับ รับทุกสินค้าแหละ ช่วยๆกัน ช่วยกันขาย ฝากด้วยนะครับ
ชาติ : 089-007-6706
โทรมานะครับ ผมอยู่ทุกวันล่ะ