ตอนที่ 1 ปราสาทงู
ปราสาทแห่งหนึ่งที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเถาวัลย์ เลื้อยชอนไซ ไปทุกหย่อมหญ้าปราสาทรูปทรงประหลาดนี้ แต่จะบอกว่าปกติก็คงไม่ใช่ เพราะประตูทางเข้าปราสาทถูกสร้างให้เป็นปากจระเข้ที่กำลังอ้าปาก จนเห็นฟันคมแหลม แล้วท่านทั้งหลายก็เดินเข้ามาในปากจระเข้ (อันที่จริงเป็นข้าพเจ่าคนเดียว)
อ๊าก!!!
ข้าพเจ้าจะตายไหมนี่ ขอบอกว่ายัง ยังไม่ตาย แค่รูปปากจระเข้ เดินต่อมายังอาคารภายในตัวปราสาท ลวดลายของปราสาทถูก เกาะสลักเป็นรูปงู ขนาดใหญ่พันรอบอาคาร ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนทุกอย่างถูกออกแบบเป็นรูปงูทั้งสิ้น เอาเป็นว่าใครกลัวงูอย่าได้ย่างกายเข้ามาเลยไม่งั้นท่านมีหวังหัวใจวายตาย ข้าพเจ้าเตือนพวกท่านแล้วนะ
อย่าว่าแต่รูปงูที่เกาะสลักเลย แค่เห็นงูตัวเป็นๆที่ห้อยตัวลงมาตามเถาวัลย์ เป็นเส้นเป็นสาย ข้าก็อยากจะวิ่งหนีอย่างไม่หันหน้ากลับเข้ามาอีก ติดอยู่ที่ว่าข้าต้องเอาจดหมายไปให้เจ้าหญิงทอรีเนีย เจ้าของปราสาทที่แสน….สวยงามแห่งนี้(ข้าพเจ้าขอบอกว่า ข้าพเจ้าถูกบังคับให้กล่าวว่าสวยงาม)
อ๊ากกก…..
ว่าแล้วงูเขียวก็ตกใส่หัวข้าพเจ้าซะนั้น ข้าพเจ้าแทบจะเป็นลมอยู่ตรงนั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็โชคดีที่ไม่เป็นงูเห่า และก็นั่นไงงูเห่ามันกำลังจ้องข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าไม่น่าพูดถึงมัน แต่สายไปแล้วมันชูคอขึ้นมาแล้ว ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรต่อดี
ด้วยความเป็นชายชาติทหารที่ถูกฝึกไม่ให้เกรงกลัวต่อสิ่งๆต่างคิดจะสู้กับงูซักคร่าวคงมิหนักน่าอะไร ชักดาบออมาพร้อมสู้แต่คงมิทันแล้วมันกำลังเลื้อยมาหาข้าอย่างช้า คอชูชันแผ่แม่เบี้ยออกแสดงอำนาจอย่างองอาจ ข้าพเจ้าทำได้เพียงแต่ยืนแข็งทื่อปล่อยให้น้ำจากจุดต่ำไหลออกมาที่ละนิด
“เอาละซิทีนี่ ข้าพเจ้าจะแบกหน้าไปเจอใครได้อีก องครักษ์มือขาวของเจ้าชายฟาดาเฟีย ไซเทียเรน วอเปอร์คิง ชื่อยาวจริงฉี่แตกใส่กางเกง เพราะเจองูเห่า รู้ถึงไหน อายไปไกลกว่านั้นหลายเท่า ขออย่าให้ใครได้มาเห็นข้าพเจ้าในสภาพเยียงนี้เลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้า เจ้าเป็นใครนี่ ฉี่แตกใส่กางเกง ฮ่าๆๆ เจ้าปอดแหกเสียจริง งูเห่าใยจะทำอะไรท่านได้ มันไร้ซึ่งพิษ” เด็กผู้ชาย(ข้าของย้ำว่าเด็กผู้ชาย) ยืนหัวเราะข้า จนไม่รู้ข้าเอาใบหน้าหล่อๆนี่ไว้ที่ไหนดี(ข้าพเจ้าขอย้ำว่าข้าพเจ้าหล่อ)
“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร” เด็กชายแต่งชุดสีดำ ผ้าคลุมสีแดง กับหมวกสีแดงสดใสอีกใบ เดินเข้าหางูเห่าพร้อมกับก้มลงไปอุ้มเจ้างูเห่า ตัวอ้วนขึ้นมาจูบเล่น (หยี้..สยอง) จูบไม่พอยังให้มันพันคอเล่นอีก หมองูตายเพราะงู ท่าทางไอ้เด็กนี้จะยังไม่รู้
“อ่อ ข้าขอแนะนำให้เจ้ารู้จัก นี่เจ้ามูลี่ เจ้าเห็นมันแล้วว่ามันน่ารักเพียงใด” เด็กชายในผ้าคลุมสีแดงบอกแก่ข้าพเจ้าหน้าตาเฉย (มันน่ารักตรงส้นตีไหนว่ะ ไอ้เด็กเปรต แล้วงูที่ไหนชื่อมูลี่)ข้าพเจ้าขออภัยทีได้ใช้คำหยาบคาย
“อ่อ ข้าเห็นแล้ว มันน่าเอ็นดูเป็นยิ่งนัก” ข้าพเจ้าตอบมันอย่างฝืดๆ เพราะกลัวเด็กชายผ้าคลุมแดงจะปล่อยงูเห่าใส่ข้าพเจ้า
“เจ้าจะลองจับมันดูหน่อยไหม”เจ้าเด็กชายผ้าคลุมแดงทำท่าจะเดินมาหาข้าพเจ้าที่ตอนนี้ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
“อย่าเลย ข้ามีเรื่องด่วนอยากขอพบเจ้าหญิงทอรีเนีย” โครตโล่งอกเลยเมื่อเจ้าเด็กนั้นไม่เดินเข้ามาใกล้ มันหยุดซะงักทันที่ที่ข้าเอ่ยถึงเจ้าหญิงทอเรีย
“เจ้าเป็นใคร มีเรื่องอันใดจะขอพบเจ้าหญิง”
“ข้าชื่อ ไคลน์ เป็นองครักษ์มือขวาของเจ้าชายฟาดาเฟีย ไซเทียเรน วอเปอร์คิง ได้นำจดหมายจากเจ้าชายมาให้แก่เจ้าหญิงทอรีเนีย”
“เจ้าชายของท่านเป็นใคร จากแคว้นใด ข้าหาได้รู้จักไม่”
เจ้าเด็กอวดดีไม่รู้จักเจ้าชายของข้าพเจ้า อยากจะเอาดาบฟันหัวมันนัก
“เจ้าชายฟาดาเพีย ไซเทียเรน วอเปร์คิง เป็นผู้ครอบครองดินแดนแห่งท้องมหาสมุทร เหตุใดท่านไม่รู้จัก อาจเป็นเพราะท่านยังเด็กอยู่เป็นแน่ข้าให้อภัยท่านไม่เอาความหากพาข้าไปพบเจ้าหญิงทอรีเนีย”
“สามหาว เจ้าว่าใครเป็นเด็ก” เด็กชายผ้าคลุมแดง ชักดาบออกมาจากข้างเอว
เอาแล้วไหมล่ะคร่าวนี้จะมีเรื่องกับเด็ก น่าอายแท้องครักษ์แห่งนครมหาสมุทร ใยต้องมาสู้รบตบมือกับเจ้าเด็กนี้ด้วย
“ข้าหาได้ พูออะไรผิดเพี้ยนไป”
“เจ้าพูดผิดเป็นแน่แท้ ข้ามิใช่เด็กอย่างที่ท่านเข้าใจ ชักดาบออกมาอย่ารอช้า” ว่าแล้วก็ควงดาบไปมา
เปรี้ยง … อ่อ ดาบตกพื้นซะงั้น อายไหมล่ะเจ้าหนู( ข้าพเจ้าคิดในใจ ข้าพเจ้าเป็นผู้ดีเกินกว่าจะแสดงสีหน้าหยามเหยียบผู้น้อย)
“มิทราบท่านเป็นใคร พอจะบอกกล่าวผู้มาเยียนได้หรือไม่” ข้าเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่า เด็กชายหน้าแดงเสียแล้ว
“อืม อ่อ … อะแห่ม”เด็กชายทำเสียงเชิด วางท่านิดๆก่อนจะเอ่ยวาจา
“อืม อ่อ …..อะแห่ม ข้ามีนามว่า นอส เป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงทอรีเนีย ฝีมือข้าเยี่ยมยอดที่สุดในท้องป่าแห่งนี้”
องครักษ์นอสกล่าวอย่างภาคภูมิ ข้าไม่ได้ว่ากล่าวอะไรความเป็นจริงเห็นอยู่ต่อหน้าแล้ว(องครักษ์ดาบหล่น ฮ่าๆๆ)
“มิทราบท่านนอส อายุเท่าไร จะบอกได้หรือไม่”ข้าพเจ่ายังคงพูดจาน้อมน้อม หากไม่กลัวงูแล้ว ไหนเลยจำยอมต่อเด็กเพียงนี้
*** ศึกป่วนเทพคัมภีร์สังหาร:ตอนที่ 1 ปราสาทงู ***
ปราสาทแห่งหนึ่งที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเถาวัลย์ เลื้อยชอนไซ ไปทุกหย่อมหญ้าปราสาทรูปทรงประหลาดนี้ แต่จะบอกว่าปกติก็คงไม่ใช่ เพราะประตูทางเข้าปราสาทถูกสร้างให้เป็นปากจระเข้ที่กำลังอ้าปาก จนเห็นฟันคมแหลม แล้วท่านทั้งหลายก็เดินเข้ามาในปากจระเข้ (อันที่จริงเป็นข้าพเจ่าคนเดียว)
อ๊าก!!!
ข้าพเจ้าจะตายไหมนี่ ขอบอกว่ายัง ยังไม่ตาย แค่รูปปากจระเข้ เดินต่อมายังอาคารภายในตัวปราสาท ลวดลายของปราสาทถูก เกาะสลักเป็นรูปงู ขนาดใหญ่พันรอบอาคาร ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนทุกอย่างถูกออกแบบเป็นรูปงูทั้งสิ้น เอาเป็นว่าใครกลัวงูอย่าได้ย่างกายเข้ามาเลยไม่งั้นท่านมีหวังหัวใจวายตาย ข้าพเจ้าเตือนพวกท่านแล้วนะ
อย่าว่าแต่รูปงูที่เกาะสลักเลย แค่เห็นงูตัวเป็นๆที่ห้อยตัวลงมาตามเถาวัลย์ เป็นเส้นเป็นสาย ข้าก็อยากจะวิ่งหนีอย่างไม่หันหน้ากลับเข้ามาอีก ติดอยู่ที่ว่าข้าต้องเอาจดหมายไปให้เจ้าหญิงทอรีเนีย เจ้าของปราสาทที่แสน….สวยงามแห่งนี้(ข้าพเจ้าขอบอกว่า ข้าพเจ้าถูกบังคับให้กล่าวว่าสวยงาม)
อ๊ากกก…..
ว่าแล้วงูเขียวก็ตกใส่หัวข้าพเจ้าซะนั้น ข้าพเจ้าแทบจะเป็นลมอยู่ตรงนั้นเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็โชคดีที่ไม่เป็นงูเห่า และก็นั่นไงงูเห่ามันกำลังจ้องข้าพเจ้าอยู่ ข้าพเจ้าไม่น่าพูดถึงมัน แต่สายไปแล้วมันชูคอขึ้นมาแล้ว ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรต่อดี
ด้วยความเป็นชายชาติทหารที่ถูกฝึกไม่ให้เกรงกลัวต่อสิ่งๆต่างคิดจะสู้กับงูซักคร่าวคงมิหนักน่าอะไร ชักดาบออมาพร้อมสู้แต่คงมิทันแล้วมันกำลังเลื้อยมาหาข้าอย่างช้า คอชูชันแผ่แม่เบี้ยออกแสดงอำนาจอย่างองอาจ ข้าพเจ้าทำได้เพียงแต่ยืนแข็งทื่อปล่อยให้น้ำจากจุดต่ำไหลออกมาที่ละนิด
“เอาละซิทีนี่ ข้าพเจ้าจะแบกหน้าไปเจอใครได้อีก องครักษ์มือขาวของเจ้าชายฟาดาเฟีย ไซเทียเรน วอเปอร์คิง ชื่อยาวจริงฉี่แตกใส่กางเกง เพราะเจองูเห่า รู้ถึงไหน อายไปไกลกว่านั้นหลายเท่า ขออย่าให้ใครได้มาเห็นข้าพเจ้าในสภาพเยียงนี้เลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้า เจ้าเป็นใครนี่ ฉี่แตกใส่กางเกง ฮ่าๆๆ เจ้าปอดแหกเสียจริง งูเห่าใยจะทำอะไรท่านได้ มันไร้ซึ่งพิษ” เด็กผู้ชาย(ข้าของย้ำว่าเด็กผู้ชาย) ยืนหัวเราะข้า จนไม่รู้ข้าเอาใบหน้าหล่อๆนี่ไว้ที่ไหนดี(ข้าพเจ้าขอย้ำว่าข้าพเจ้าหล่อ)
“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร” เด็กชายแต่งชุดสีดำ ผ้าคลุมสีแดง กับหมวกสีแดงสดใสอีกใบ เดินเข้าหางูเห่าพร้อมกับก้มลงไปอุ้มเจ้างูเห่า ตัวอ้วนขึ้นมาจูบเล่น (หยี้..สยอง) จูบไม่พอยังให้มันพันคอเล่นอีก หมองูตายเพราะงู ท่าทางไอ้เด็กนี้จะยังไม่รู้
“อ่อ ข้าขอแนะนำให้เจ้ารู้จัก นี่เจ้ามูลี่ เจ้าเห็นมันแล้วว่ามันน่ารักเพียงใด” เด็กชายในผ้าคลุมสีแดงบอกแก่ข้าพเจ้าหน้าตาเฉย (มันน่ารักตรงส้นตีไหนว่ะ ไอ้เด็กเปรต แล้วงูที่ไหนชื่อมูลี่)ข้าพเจ้าขออภัยทีได้ใช้คำหยาบคาย
“อ่อ ข้าเห็นแล้ว มันน่าเอ็นดูเป็นยิ่งนัก” ข้าพเจ้าตอบมันอย่างฝืดๆ เพราะกลัวเด็กชายผ้าคลุมแดงจะปล่อยงูเห่าใส่ข้าพเจ้า
“เจ้าจะลองจับมันดูหน่อยไหม”เจ้าเด็กชายผ้าคลุมแดงทำท่าจะเดินมาหาข้าพเจ้าที่ตอนนี้ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
“อย่าเลย ข้ามีเรื่องด่วนอยากขอพบเจ้าหญิงทอรีเนีย” โครตโล่งอกเลยเมื่อเจ้าเด็กนั้นไม่เดินเข้ามาใกล้ มันหยุดซะงักทันที่ที่ข้าเอ่ยถึงเจ้าหญิงทอเรีย
“เจ้าเป็นใคร มีเรื่องอันใดจะขอพบเจ้าหญิง”
“ข้าชื่อ ไคลน์ เป็นองครักษ์มือขวาของเจ้าชายฟาดาเฟีย ไซเทียเรน วอเปอร์คิง ได้นำจดหมายจากเจ้าชายมาให้แก่เจ้าหญิงทอรีเนีย”
“เจ้าชายของท่านเป็นใคร จากแคว้นใด ข้าหาได้รู้จักไม่”
เจ้าเด็กอวดดีไม่รู้จักเจ้าชายของข้าพเจ้า อยากจะเอาดาบฟันหัวมันนัก
“เจ้าชายฟาดาเพีย ไซเทียเรน วอเปร์คิง เป็นผู้ครอบครองดินแดนแห่งท้องมหาสมุทร เหตุใดท่านไม่รู้จัก อาจเป็นเพราะท่านยังเด็กอยู่เป็นแน่ข้าให้อภัยท่านไม่เอาความหากพาข้าไปพบเจ้าหญิงทอรีเนีย”
“สามหาว เจ้าว่าใครเป็นเด็ก” เด็กชายผ้าคลุมแดง ชักดาบออกมาจากข้างเอว
เอาแล้วไหมล่ะคร่าวนี้จะมีเรื่องกับเด็ก น่าอายแท้องครักษ์แห่งนครมหาสมุทร ใยต้องมาสู้รบตบมือกับเจ้าเด็กนี้ด้วย
“ข้าหาได้ พูออะไรผิดเพี้ยนไป”
“เจ้าพูดผิดเป็นแน่แท้ ข้ามิใช่เด็กอย่างที่ท่านเข้าใจ ชักดาบออกมาอย่ารอช้า” ว่าแล้วก็ควงดาบไปมา
เปรี้ยง … อ่อ ดาบตกพื้นซะงั้น อายไหมล่ะเจ้าหนู( ข้าพเจ้าคิดในใจ ข้าพเจ้าเป็นผู้ดีเกินกว่าจะแสดงสีหน้าหยามเหยียบผู้น้อย)
“มิทราบท่านเป็นใคร พอจะบอกกล่าวผู้มาเยียนได้หรือไม่” ข้าเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่า เด็กชายหน้าแดงเสียแล้ว
“อืม อ่อ … อะแห่ม”เด็กชายทำเสียงเชิด วางท่านิดๆก่อนจะเอ่ยวาจา
“อืม อ่อ …..อะแห่ม ข้ามีนามว่า นอส เป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงทอรีเนีย ฝีมือข้าเยี่ยมยอดที่สุดในท้องป่าแห่งนี้”
องครักษ์นอสกล่าวอย่างภาคภูมิ ข้าไม่ได้ว่ากล่าวอะไรความเป็นจริงเห็นอยู่ต่อหน้าแล้ว(องครักษ์ดาบหล่น ฮ่าๆๆ)
“มิทราบท่านนอส อายุเท่าไร จะบอกได้หรือไม่”ข้าพเจ่ายังคงพูดจาน้อมน้อม หากไม่กลัวงูแล้ว ไหนเลยจำยอมต่อเด็กเพียงนี้