ตั้งกระทู้ครั้งแรก ขอแบ่งปันเรื่องราวการขอวีซ่าท่องเที่ยวจากสถานทูตเยอรมันที่ว่ากันว่าโหดหินก่อนนะคะ
ก่อนจะต้องไปขอเอง เราหาข้อมูลเยอะมาก เพราะไม่เคยไปเที่ยวประเทศที่ต้องขอวีซ่าเองเลย
พาสปอร์ตเล่มใหม่ เกือบจะว่าง แถมมีแต่ประเทศแถบเอเชียที่คนไทยเข้าได้เลย
ก็เลยค่อนข้างกังวลกับการขอวีซ่าพอสมควรค่ะ
หาอ่านรีวิว ทั้งในพันทิปเองและที่อื่น ก็ยังหาบางข้อมูลที่ต้องการไม่ได้
พอได้ไปเองเลยตั้งใจว่าจะมาแชร์ข้อมูลที่เราเองหาจากอินเตอร์เน็ตไม่เจอ เผื่อจะเป็นประโยชน์ค่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้มีงานประจำนะคะ ทางบ้านเป็นร้านโชว์ห่วยขนาดกลางอยู่ต่างจังหวัด
ไม่มีเงินเดือนเป็นประจำ แต่ว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีอยู่เรื่อยๆเป็นทางผ่านค่ะ โอนเข้าบัญชีเรา เราก็ต้องโอนต่อให้พ่อที่เป็นคนดูแลบัญชีร้าน
คิดอยู่นานว่าจะทำยังไงดี แบบนี้จะน่าเชื่อถือมั้ย
ยิ่งหาข้อมูล เซิร์ชกูเกิลมาก็เจอบริษัททัวร์ให้ข้อมูลว่า *สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันและพันธบัตรทุกชนิด*
บางที่บอกว่าไม่รับฝากประจำด้วยนะคะ ออมทรัพย์เท่านั้น
เราก็ยิ่งกังวล จะทำยังไงดี ที่บ้านมีแต่บัญชีกระแสรายวัน กับฝากประจำ ที่มีเงินก้อนเอาไว้ cover เวลาไปเที่ยว
จริงๆก็ไม่ได้ใช้เงินจากบัญชีพวกนั้นหรอกค่ะ เราใช้เงินสดที่แลกไว้ตอนยูโรลงเยอะๆ แล้วก็บัตรเครดิตของพ่อ
แต่สถานทูตต้องการให้โชว์ แล้วรีวิวก็เน้นว่าให้ใช้ออมทรัพย์ แต่ก็มีคนแย้งว่าเคยฝากประจำได้ กระแสรายวันได้ ขัดกันไปมา เราก็ยิ่งไม่มั่นใจอย่างแรง
สุดท้าย ก็จบที่ลองของค่ะ ขอ Bank Guarantee ยอดบัญชีฝากประจำของพ่อไป ลงว่าซัพพอร์ทการเดินทางของเราได้ แล้วก็ขอ statement บัญชีฝากประจำของพ่อ โชว์การเคลื่อนไหวของธุรกิจ กับ statement ออมทรัพย์ ยอดเงินพันกว่าบาทของเราเอง(แต่มีเงินเข้าออกตลอดนะคะ) ซีรอกซ์หน้าบัญชีออมทรัพย์ของร้าน และของพ่อ (ยอดเงินหลักร้อยค่ะ) ตัดสินใจว่าจะใช้แค่นี้ เขียนจดหมายแนะนำเอาละกัน
ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการติดต่อกับสถานทูตค่ะ
ตามที่กระทู้อื่นรีวิวไว้เลย โทรไปจองคิวก่อนนะคะ เบอร์ 1900 222 343 นาทีละ9บาทค่ะ และเหมือนเคยอ่านเจอว่าใช้กับเครือข่าย Truemove ไม่ได้
เรารอสายแค่แปบเดียวนะคะ ไม่ถึง 2นาที เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากค่ะ ให้คำแนะนำ
เราจองของเรากับพ่อ แจ้งว่าเดินทางไปคนละพีเรียด แต่กลับพร้อมกัน เค้าก็จัดให้เป็นคิวเดียวกันค่ะ แนะนำวันด้วย ว่าเดินทางวันนี้ควรจองคิววันไหน
ได้คิวเป็นตอนเช้า 7.30น. วันศุกร์ที่ 10 ก.ค.58 ที่ผ่านมานี้แหละค่ะ
เราไปจากต่างจังหวัด คิดว่าเช้าไป จะขอเปลี่ยน
เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอให้รอบแรกเต็มถึงจะเปิดรอบต่อไป เราเลยขี้เกียจรอ เอารอบนี้ไปเลย
เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รหัสยาวๆเอาไว้ จดไว้ แล้วเอาไปยื่นวันขอนะคะ
จากนั้นเราก็เตรียมเอกสาร แต่ก็ไม่ละเอียดนะคะ
มาละเอียดเอาคืนสุดท้าย 555 เอกสารที่เตรียมก็ทั่วไปค่ะ
- พาสปอร์ต + สำเนาพาสปอร์ต
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเก้น ปรินท์จากเว็บสถานทูตได้เลยค่ะ
http://videx.diplo.de/
- หนังสือลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55 ปรินท์จากเว็บสถานทูตเหมือนกัน
http://m.bangkok.diplo.de/contentblob/3762722/Daten/2922822/SchengenBelehrung.pdf
- รูปถ่ายไบโอเมตริก ตัวอย่างมาจากเว็บสถานทูตอีกเช่นกันค่ะ (
http://m.bangkok.diplo.de/contentblob/3431148/Daten/2062571/Fotomustertafeldownloaddatei.pdf
**ในส่วนของรูปถ่ายคือบอกให้เตรียม2รูป แต่ที่เราไปขอคือแค่แปะฟอร์มขอวีซ่าไป ที่เหลือไม่ใช้ ยังไงเผื่อไปก็ดีนะคะ**
- เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน (แค่จองพอค่ะ เราปรินท์แค่ confirmation จากอีเมลล์)
- เอกสารการจองที่พัก ของเราครบทุกคืนจาก Booking.com และจ่าย 10% แค่คืนเดียว ที่เหลือจ่ายหน้างานหมดเลย กลัวไม่ได้วีซ่าค่ะ
- ประกันการเดินทาง ซื้อในอินเตอร์เน็ตได้เลยค่ะ ส่วนมากบริษัทที่สถานทูตยอมรับ จะมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าแบบไหนขอวีซ่าได้ บริษัทที่สถานทูตยอมรับก็ตามลิงค์นี้ค่ะ
http://m.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/5561189/Krankenversicherung.pdf
- หลักฐานทางการเงิน ตามที่บอกข้างต้นเลยค่ะ เราให้พ่อเป็นสปอนเซอร์ ก็เตรียม
1.Bank Guarantee ฝากประจำของพ่อ
2.Statement กระแสรายวันของพ่อ
3.Statement ออมทรัพย์(จาง) ของเรา
4.สมุดบัญชีออมทรัพย์ตัวจริง อัพเดทก่อนไปขอไม่ควรเกิน 7วัน และสำเนาค่ะ
- หลักฐานที่แสดงว่าเราผูกพันกับประเทศไทยและจะกลับมา ของเรามี
1.ทะเบียนการค้า (ร้านในกงสี เป็นชื่อเราค่ะ อันนี้ต้องแปลนะคะ แล้วก็จากที่อ่านเจอมา ไม่แน่ใจเหมือนกัน บางคนบอกต้องออกไม่เกิน 6เดือน บางคนบอกไม่ต้อง แต่เราป๊อด เลยไปคัดมาใหม่ค่ะ) + สำเนา + แปลอังกฤษ
2.สำเนาบัตรประชาชน
3.สำเนาทะเบียนบ้าน
4.สำเนาโฉนดทึ่ดิน (ถ่ายเป็น A4 นะคะ เราโดนดุมาแล้วว่าเขาต้องพับให้ เสียเวลา 555)
5.จดหมายแนะนำตัว เราเขียนแนะนำอาชีพ แนะนำความกงสีไม่มีเงินเก็บของเรา บอกความอยากเที่ยว และรับรองว่าจะไม่หนีหายค่ะ

(ภาษาอังกฤษ)
6.จดหมายรับรองเป็นสปอนเซอร์ ให้สปอนเซอร์เซ็นด้วยค่ะ (ภาษาอังกฤษ)
- หลักฐานอื่นๆ ของเรามี
1.แผนการเดินทาง เราบอกว่าวันนี้ไปไหนบ้าง และคืนนั้นนอนโรงแรมอะไร ใส่ชื่อโรงแรมกับเบอร์โทรกำกับทุกคืนค่ะ
2.ใบจองรถไฟและเที่ยวบินในยุโรปตามทริป
แค่นี้ค่ะ เราเรียงเอกสารตามที่บอกเลย แต่ว่าเอาประกันมาไว้หลังสุด
แอบบอกนิดนึง ในฟอร์ม VIDEX เราเป๋อมาก ตรงให้กรอกโรงแรม เราไปหลายคืนหลายที่หลายประเทศ กรอกที่ไหนดี เลยกรอกโรงแรมที่พักเยอะคืนสุดในเยอรมันไป จริงๆผิดค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องเป็นโรงแรมใน"คืนแรก"เท่านั้น โดนดุอีกแล้ว TT
พอถึงวันนัด ก็แต่งตัวเรียบร้อยสุภาพ ไปตรงเวลา คือไม่สายและไม่ก่อน 55
ไม่มีคิวหน้าสถานทูตแล้วค่ะ เข้าไปกันหมดแล้ว ฮ่าๆๆ
สถานทูตอยู่ถนนสาทรใต้ค่ะ รถไฟใต้ดิน MRT สถานีลุมพินี ทางออก2 เดินตรงผ่าน LHBank มาเรื่อยๆ ก่อนถึงตึก Q house เตี้ยๆนะคะ
พอเข้าไปด่านแรกจะเจอรปภ.ก่อนเลย ขอรื้อทุกสิ่งที่ถือมาอย่างละเอียดเว่อร์ๆ พร้อมเก็บอุปกรณ์สื่อสารและพาวเวอร์แบงค์ออกมา ยื่นให้เราไปฝากที่ด่านต่อไปค่ะ ต้องปิดเครื่องด้วยนะคะ
พอฝากของเสร็จ จะเป็นเคานท์เตอร์กระจกใสๆ ข้างล่างมีช่องให้หย่อนรหัสยาวๆที่ call center ให้ไว้ ลงไป เขาจะหาชื่อเรา (และคนที่จองพร้อมกัน) แล้วจะให้กระดาษเล็กๆ ระบุชื่อเรา และเคานท์เตอร์ที่จะสัมภาษณ์ด้านใน เราได้เบอร์ 12 ค่ะ
จากนั้นก็ไปเรียงเอกสารที่โต๊ะได้เลย ใครไม่ได้ซีรอกซ์อะไรมาก็มีบริการนะคะ
เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปตามลำดับเวลา เราได้เข้าไปคนแรกๆเลยค่ะ รอแค่คิวเดียว
พอไปถึงเคานท์เตอร์สัมภาษณ์ เห็นว่างปุ๊บ ก็เดินเข้าไปหย่อนแผ่นจดชื่อและเคานท์เตอร์ที่ได้มาตอนแรก ลงไปเลย แล้วออกมารอเขาประกาศเรียกชื่อ
ของเราไปกับพ่อค่ะ แต่เรียกแยก เรียกเราก่อน กลัวมากกกก
พอเดินเข้าไป เราก็หย่อนเอกสารที่เราให้สถานทูตเก็บไว้ได้เลยลงไปก่อน เรียงมาแล้วนะคะ
ตัวจริงที่ให้ไม่ได้ เราก็ถือไว้ รอเขาเรียกดู
เจ้าหน้าที่ดูเอกสารผ่านๆ แล้วก็เริ่มถามค่ะ ว่าจะไปทำอะไร (เราขอไป 30กว่าวัน)
จองโรงแรมมาครบทุกคืนแล้วใช่มั้ย
แล้วก็เริ่มให้เราไล่ให้ฟัง ว่าคืนไหน นอนที่เมืองอะไร
ระหว่างนั้นก็จด แล้วบวกตามไปด้วยค่ะ ละเอียดมาก
บางอย่างเราจำไม่ได้ ก็บอกเขาได้นะคะ ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น
แต่ส่วนใหญ่ถ้าเราวางแผนเอง เราจำได้อยู่แล้ว
แล้วก็ถามว่า ไปคนเดียวเหรอ
เราเลยตอบว่า ไปคนเดียวก่อน พ่อตามไปตอนหลัง (หลังมากๆ)
จากนั้นก็ถามเรื่องงาน เราเลยบอกว่าเป็นเจ้าของกิจการ เขาถามด้วยนะคะว่าขายอะไร 55
เราก็เลยอธิบายความโชว์ห่วยและกงสีไป (แบบในจดหมาย) แล้วก็บอกว่าพ่อซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายบางส่วนค่ะ
ส่วนมากเราแลกเงินสดไว้แล้ว แล้วก็จองรถไฟล่วงหน้าไว้เยอะแล้ว (ชี้เอกสารการจอง)
จากนั้นก็เริ่มดูเอกสาร(ผ่านๆ)ค่ะ เราโดนไล่ไปถ่ายเอกสารทะเบียนการค้า
เจ้าหน้าที่บอกเลยนะคะ ว่าเอกสารตัวไหนคุณให้ตัวจริงกับสถานทูตไม่ได้ คุณต้อง"สำเนา"มา ทุกอย่าง
แล้วก็ดุเรื่องกรอกโรงแรมใน VIDEX ผิด
ถามเรื่องโฉนด ว่าของคุณเองใช่มั้ย
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรค่ะ ไม่ขอดูเอกสารตัวจริงใดๆ ถามหารูป นอกจากที่แปะ VIDEX แต่ก็คืนมา
แล้วก็ถามเราว่า แผนชัวร์แล้วนะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแล้วนะ ซ้ำๆ ค่อยให้เราสแกนลายนิ้วมือค่ะ
พอสัมภาษณ์เราเสร็จก็ถามว่า คุณพ่อรู้แผนการเดินทางมั้ย เราเลยตอบว่า คร่าวๆ แล้วเขาก็เรียกพ่อเราค่ะ
มีหวาดเสียวนิดหน่อยตรงพอเสร็จแล้ว เราเก็บเอกสาร เจอว่าเจ้าหน้าที่คืนประกันของพ่อเรามา
โอย ใจแป้วเลยค่ะ หรือจะโดนตั้งแต่ยังไม่พ้นสถานทูต TT
แต่ก็เดินไปจ่ายเงินปกตินะคะ ตอนเราไปคนละ 2100บาทค่ะ (กรุณาเตรียมเงินพอดี)
แล้วค่อยเอาใบไปยื่นบูทไปรษณีย์ กรอกที่อยู่บนซอง แล้วก็จ่ายคนละ 130บาทค่ะ (เตรียมเงินให้พอดีเหมือนกัน มีเงินทอนนิดหน่อย)
ต้องเอาซองไปคืนที่เคานท์เตอร์สัมภาษณ์ด้วยนะคะ เราเลยกะไปถามว่าคืนประกันพ่อมาทำไม
แต่โดนพี่ผู้ชายตรงหน้าห้องดักไว้ บอกให้ฝากไว้ ไม่งั้นรอคิวนาน เราเลยฝากทั้งซอง และเอกสารประกันไว้เลย
ก่อนกลับอย่าลืมของที่ฝากไว้นะคะ
ออกมาจากสถานทูตแบบหวิวๆ ตอนแรกมั่น ตอนนี้แบบ...หวาดและกังวลมากค่ะ
สารภาพด้วยว่าจองตั๋วเครื่องบินก่อนหน้าวันเดียว(จองเพื่อมาขอโดยเฉพาะ) แล้วสะกดชื่อพ่อผิด แต่แก้ไม่ทันแล้วเพราะวันรุ่งขึ้นต้องขอแต่เช้า
พอโดยคืนประกันของพ่อ เลยยิ่งกลัว
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะค่ะลุ้นอย่างเดียว
เจอรีวิวว่าสถานทูตทำงานเร็ว เป็นระบบมาก ขอวันนี้บางทีตอนเย็นส่งเลย
เราก็ยิ่งรอ เช็คสถานะแล้วไม่ขึ้นซักที ติดเสาร์อาทิตย์อีก นอยด์มากค่ะ
แต่ว่า...พอวันจันทร์มาเช็ค สถานะขึ้นแล้ว
เย้! .....................แล้วจะได้วีซ่ามั้ยน้อ
วันอังคารซองมาถึง
ท้าดาาาาาาาาาาาาาาาาา
ได้วีซ่าแลัวค่าาาาาาา
ให้เกินมาเฉพาะขาไป 2วัน ขากลับพอดีตามแผนเรา ไม่เผื่อดึเลย์ให้เลย
ส่วนของพ่อ ได้เกินมานิดหน่อยเหมือนกัน
ยังไงก็ยังดีใจมากกกที่ได้อยู่ดี
ก็เลยมาแชร์ให้เพื่อนๆในนี้ เผื่อเป็นประโยชน์บ้างค่ะ

)
เราชอบความเป๊ะ ตามระเบียบของเยอรมัน
พอลองมาขอ ก็ตามนั้นจริงๆนะคะ
เป็นระเบียบชัดเจน เราอวยเพราะได้วีซ่าด้วยค่ะ นี่ยอมรับเลย 5555
แต่เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ไม่ได้หยาบคายหรือไม่มีมารยาทนะคะ
เราว่าเขาแค่แข็งๆ ไม่อ่อนข้อหรือมีท่าทีอ่อนให้
เจ้าหน้าที่ส่วนอื่นเฟรนด์ลี่ดีค่ะ อาจจะเพราะเราโชคดีก็ได้
ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการขอวีซ่านะคะ
[CR] ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวจากสถานทูตเยอรมันค่ะ
ก่อนจะต้องไปขอเอง เราหาข้อมูลเยอะมาก เพราะไม่เคยไปเที่ยวประเทศที่ต้องขอวีซ่าเองเลย
พาสปอร์ตเล่มใหม่ เกือบจะว่าง แถมมีแต่ประเทศแถบเอเชียที่คนไทยเข้าได้เลย
ก็เลยค่อนข้างกังวลกับการขอวีซ่าพอสมควรค่ะ
หาอ่านรีวิว ทั้งในพันทิปเองและที่อื่น ก็ยังหาบางข้อมูลที่ต้องการไม่ได้
พอได้ไปเองเลยตั้งใจว่าจะมาแชร์ข้อมูลที่เราเองหาจากอินเตอร์เน็ตไม่เจอ เผื่อจะเป็นประโยชน์ค่ะ
ออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้มีงานประจำนะคะ ทางบ้านเป็นร้านโชว์ห่วยขนาดกลางอยู่ต่างจังหวัด
ไม่มีเงินเดือนเป็นประจำ แต่ว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีอยู่เรื่อยๆเป็นทางผ่านค่ะ โอนเข้าบัญชีเรา เราก็ต้องโอนต่อให้พ่อที่เป็นคนดูแลบัญชีร้าน
คิดอยู่นานว่าจะทำยังไงดี แบบนี้จะน่าเชื่อถือมั้ย
ยิ่งหาข้อมูล เซิร์ชกูเกิลมาก็เจอบริษัททัวร์ให้ข้อมูลว่า *สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันและพันธบัตรทุกชนิด*
บางที่บอกว่าไม่รับฝากประจำด้วยนะคะ ออมทรัพย์เท่านั้น
เราก็ยิ่งกังวล จะทำยังไงดี ที่บ้านมีแต่บัญชีกระแสรายวัน กับฝากประจำ ที่มีเงินก้อนเอาไว้ cover เวลาไปเที่ยว
จริงๆก็ไม่ได้ใช้เงินจากบัญชีพวกนั้นหรอกค่ะ เราใช้เงินสดที่แลกไว้ตอนยูโรลงเยอะๆ แล้วก็บัตรเครดิตของพ่อ
แต่สถานทูตต้องการให้โชว์ แล้วรีวิวก็เน้นว่าให้ใช้ออมทรัพย์ แต่ก็มีคนแย้งว่าเคยฝากประจำได้ กระแสรายวันได้ ขัดกันไปมา เราก็ยิ่งไม่มั่นใจอย่างแรง
สุดท้าย ก็จบที่ลองของค่ะ ขอ Bank Guarantee ยอดบัญชีฝากประจำของพ่อไป ลงว่าซัพพอร์ทการเดินทางของเราได้ แล้วก็ขอ statement บัญชีฝากประจำของพ่อ โชว์การเคลื่อนไหวของธุรกิจ กับ statement ออมทรัพย์ ยอดเงินพันกว่าบาทของเราเอง(แต่มีเงินเข้าออกตลอดนะคะ) ซีรอกซ์หน้าบัญชีออมทรัพย์ของร้าน และของพ่อ (ยอดเงินหลักร้อยค่ะ) ตัดสินใจว่าจะใช้แค่นี้ เขียนจดหมายแนะนำเอาละกัน
ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการติดต่อกับสถานทูตค่ะ
ตามที่กระทู้อื่นรีวิวไว้เลย โทรไปจองคิวก่อนนะคะ เบอร์ 1900 222 343 นาทีละ9บาทค่ะ และเหมือนเคยอ่านเจอว่าใช้กับเครือข่าย Truemove ไม่ได้
เรารอสายแค่แปบเดียวนะคะ ไม่ถึง 2นาที เจ้าหน้าที่พูดจาดีมากค่ะ ให้คำแนะนำ
เราจองของเรากับพ่อ แจ้งว่าเดินทางไปคนละพีเรียด แต่กลับพร้อมกัน เค้าก็จัดให้เป็นคิวเดียวกันค่ะ แนะนำวันด้วย ว่าเดินทางวันนี้ควรจองคิววันไหน
ได้คิวเป็นตอนเช้า 7.30น. วันศุกร์ที่ 10 ก.ค.58 ที่ผ่านมานี้แหละค่ะ
เราไปจากต่างจังหวัด คิดว่าเช้าไป จะขอเปลี่ยน
เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอให้รอบแรกเต็มถึงจะเปิดรอบต่อไป เราเลยขี้เกียจรอ เอารอบนี้ไปเลย
เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รหัสยาวๆเอาไว้ จดไว้ แล้วเอาไปยื่นวันขอนะคะ
จากนั้นเราก็เตรียมเอกสาร แต่ก็ไม่ละเอียดนะคะ
มาละเอียดเอาคืนสุดท้าย 555 เอกสารที่เตรียมก็ทั่วไปค่ะ
- พาสปอร์ต + สำเนาพาสปอร์ต
- แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าเชงเก้น ปรินท์จากเว็บสถานทูตได้เลยค่ะ http://videx.diplo.de/
- หนังสือลงนามรับทราบข้อกำหนดตามกฎหมายการพำนักมาตรา 54 ข้อ 6 และมาตรา 55 ปรินท์จากเว็บสถานทูตเหมือนกัน http://m.bangkok.diplo.de/contentblob/3762722/Daten/2922822/SchengenBelehrung.pdf
- รูปถ่ายไบโอเมตริก ตัวอย่างมาจากเว็บสถานทูตอีกเช่นกันค่ะ (http://m.bangkok.diplo.de/contentblob/3431148/Daten/2062571/Fotomustertafeldownloaddatei.pdf
**ในส่วนของรูปถ่ายคือบอกให้เตรียม2รูป แต่ที่เราไปขอคือแค่แปะฟอร์มขอวีซ่าไป ที่เหลือไม่ใช้ ยังไงเผื่อไปก็ดีนะคะ**
- เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน (แค่จองพอค่ะ เราปรินท์แค่ confirmation จากอีเมลล์)
- เอกสารการจองที่พัก ของเราครบทุกคืนจาก Booking.com และจ่าย 10% แค่คืนเดียว ที่เหลือจ่ายหน้างานหมดเลย กลัวไม่ได้วีซ่าค่ะ
- ประกันการเดินทาง ซื้อในอินเตอร์เน็ตได้เลยค่ะ ส่วนมากบริษัทที่สถานทูตยอมรับ จะมีเขียนไว้อยู่แล้วว่าแบบไหนขอวีซ่าได้ บริษัทที่สถานทูตยอมรับก็ตามลิงค์นี้ค่ะ http://m.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/5561189/Krankenversicherung.pdf
- หลักฐานทางการเงิน ตามที่บอกข้างต้นเลยค่ะ เราให้พ่อเป็นสปอนเซอร์ ก็เตรียม
1.Bank Guarantee ฝากประจำของพ่อ
2.Statement กระแสรายวันของพ่อ
3.Statement ออมทรัพย์(จาง) ของเรา
4.สมุดบัญชีออมทรัพย์ตัวจริง อัพเดทก่อนไปขอไม่ควรเกิน 7วัน และสำเนาค่ะ
- หลักฐานที่แสดงว่าเราผูกพันกับประเทศไทยและจะกลับมา ของเรามี
1.ทะเบียนการค้า (ร้านในกงสี เป็นชื่อเราค่ะ อันนี้ต้องแปลนะคะ แล้วก็จากที่อ่านเจอมา ไม่แน่ใจเหมือนกัน บางคนบอกต้องออกไม่เกิน 6เดือน บางคนบอกไม่ต้อง แต่เราป๊อด เลยไปคัดมาใหม่ค่ะ) + สำเนา + แปลอังกฤษ
2.สำเนาบัตรประชาชน
3.สำเนาทะเบียนบ้าน
4.สำเนาโฉนดทึ่ดิน (ถ่ายเป็น A4 นะคะ เราโดนดุมาแล้วว่าเขาต้องพับให้ เสียเวลา 555)
5.จดหมายแนะนำตัว เราเขียนแนะนำอาชีพ แนะนำความกงสีไม่มีเงินเก็บของเรา บอกความอยากเที่ยว และรับรองว่าจะไม่หนีหายค่ะ
6.จดหมายรับรองเป็นสปอนเซอร์ ให้สปอนเซอร์เซ็นด้วยค่ะ (ภาษาอังกฤษ)
- หลักฐานอื่นๆ ของเรามี
1.แผนการเดินทาง เราบอกว่าวันนี้ไปไหนบ้าง และคืนนั้นนอนโรงแรมอะไร ใส่ชื่อโรงแรมกับเบอร์โทรกำกับทุกคืนค่ะ
2.ใบจองรถไฟและเที่ยวบินในยุโรปตามทริป
แค่นี้ค่ะ เราเรียงเอกสารตามที่บอกเลย แต่ว่าเอาประกันมาไว้หลังสุด
แอบบอกนิดนึง ในฟอร์ม VIDEX เราเป๋อมาก ตรงให้กรอกโรงแรม เราไปหลายคืนหลายที่หลายประเทศ กรอกที่ไหนดี เลยกรอกโรงแรมที่พักเยอะคืนสุดในเยอรมันไป จริงๆผิดค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องเป็นโรงแรมใน"คืนแรก"เท่านั้น โดนดุอีกแล้ว TT
พอถึงวันนัด ก็แต่งตัวเรียบร้อยสุภาพ ไปตรงเวลา คือไม่สายและไม่ก่อน 55
ไม่มีคิวหน้าสถานทูตแล้วค่ะ เข้าไปกันหมดแล้ว ฮ่าๆๆ
สถานทูตอยู่ถนนสาทรใต้ค่ะ รถไฟใต้ดิน MRT สถานีลุมพินี ทางออก2 เดินตรงผ่าน LHBank มาเรื่อยๆ ก่อนถึงตึก Q house เตี้ยๆนะคะ
พอเข้าไปด่านแรกจะเจอรปภ.ก่อนเลย ขอรื้อทุกสิ่งที่ถือมาอย่างละเอียดเว่อร์ๆ พร้อมเก็บอุปกรณ์สื่อสารและพาวเวอร์แบงค์ออกมา ยื่นให้เราไปฝากที่ด่านต่อไปค่ะ ต้องปิดเครื่องด้วยนะคะ
พอฝากของเสร็จ จะเป็นเคานท์เตอร์กระจกใสๆ ข้างล่างมีช่องให้หย่อนรหัสยาวๆที่ call center ให้ไว้ ลงไป เขาจะหาชื่อเรา (และคนที่จองพร้อมกัน) แล้วจะให้กระดาษเล็กๆ ระบุชื่อเรา และเคานท์เตอร์ที่จะสัมภาษณ์ด้านใน เราได้เบอร์ 12 ค่ะ
จากนั้นก็ไปเรียงเอกสารที่โต๊ะได้เลย ใครไม่ได้ซีรอกซ์อะไรมาก็มีบริการนะคะ
เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่จะเรียกเข้าไปตามลำดับเวลา เราได้เข้าไปคนแรกๆเลยค่ะ รอแค่คิวเดียว
พอไปถึงเคานท์เตอร์สัมภาษณ์ เห็นว่างปุ๊บ ก็เดินเข้าไปหย่อนแผ่นจดชื่อและเคานท์เตอร์ที่ได้มาตอนแรก ลงไปเลย แล้วออกมารอเขาประกาศเรียกชื่อ
ของเราไปกับพ่อค่ะ แต่เรียกแยก เรียกเราก่อน กลัวมากกกก
พอเดินเข้าไป เราก็หย่อนเอกสารที่เราให้สถานทูตเก็บไว้ได้เลยลงไปก่อน เรียงมาแล้วนะคะ
ตัวจริงที่ให้ไม่ได้ เราก็ถือไว้ รอเขาเรียกดู
เจ้าหน้าที่ดูเอกสารผ่านๆ แล้วก็เริ่มถามค่ะ ว่าจะไปทำอะไร (เราขอไป 30กว่าวัน)
จองโรงแรมมาครบทุกคืนแล้วใช่มั้ย
แล้วก็เริ่มให้เราไล่ให้ฟัง ว่าคืนไหน นอนที่เมืองอะไร
ระหว่างนั้นก็จด แล้วบวกตามไปด้วยค่ะ ละเอียดมาก
บางอย่างเราจำไม่ได้ ก็บอกเขาได้นะคะ ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น
แต่ส่วนใหญ่ถ้าเราวางแผนเอง เราจำได้อยู่แล้ว
แล้วก็ถามว่า ไปคนเดียวเหรอ
เราเลยตอบว่า ไปคนเดียวก่อน พ่อตามไปตอนหลัง (หลังมากๆ)
จากนั้นก็ถามเรื่องงาน เราเลยบอกว่าเป็นเจ้าของกิจการ เขาถามด้วยนะคะว่าขายอะไร 55
เราก็เลยอธิบายความโชว์ห่วยและกงสีไป (แบบในจดหมาย) แล้วก็บอกว่าพ่อซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายบางส่วนค่ะ
ส่วนมากเราแลกเงินสดไว้แล้ว แล้วก็จองรถไฟล่วงหน้าไว้เยอะแล้ว (ชี้เอกสารการจอง)
จากนั้นก็เริ่มดูเอกสาร(ผ่านๆ)ค่ะ เราโดนไล่ไปถ่ายเอกสารทะเบียนการค้า
เจ้าหน้าที่บอกเลยนะคะ ว่าเอกสารตัวไหนคุณให้ตัวจริงกับสถานทูตไม่ได้ คุณต้อง"สำเนา"มา ทุกอย่าง
แล้วก็ดุเรื่องกรอกโรงแรมใน VIDEX ผิด
ถามเรื่องโฉนด ว่าของคุณเองใช่มั้ย
นอกนั้นก็ไม่มีอะไรค่ะ ไม่ขอดูเอกสารตัวจริงใดๆ ถามหารูป นอกจากที่แปะ VIDEX แต่ก็คืนมา
แล้วก็ถามเราว่า แผนชัวร์แล้วนะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแล้วนะ ซ้ำๆ ค่อยให้เราสแกนลายนิ้วมือค่ะ
พอสัมภาษณ์เราเสร็จก็ถามว่า คุณพ่อรู้แผนการเดินทางมั้ย เราเลยตอบว่า คร่าวๆ แล้วเขาก็เรียกพ่อเราค่ะ
มีหวาดเสียวนิดหน่อยตรงพอเสร็จแล้ว เราเก็บเอกสาร เจอว่าเจ้าหน้าที่คืนประกันของพ่อเรามา
โอย ใจแป้วเลยค่ะ หรือจะโดนตั้งแต่ยังไม่พ้นสถานทูต TT
แต่ก็เดินไปจ่ายเงินปกตินะคะ ตอนเราไปคนละ 2100บาทค่ะ (กรุณาเตรียมเงินพอดี)
แล้วค่อยเอาใบไปยื่นบูทไปรษณีย์ กรอกที่อยู่บนซอง แล้วก็จ่ายคนละ 130บาทค่ะ (เตรียมเงินให้พอดีเหมือนกัน มีเงินทอนนิดหน่อย)
ต้องเอาซองไปคืนที่เคานท์เตอร์สัมภาษณ์ด้วยนะคะ เราเลยกะไปถามว่าคืนประกันพ่อมาทำไม
แต่โดนพี่ผู้ชายตรงหน้าห้องดักไว้ บอกให้ฝากไว้ ไม่งั้นรอคิวนาน เราเลยฝากทั้งซอง และเอกสารประกันไว้เลย
ก่อนกลับอย่าลืมของที่ฝากไว้นะคะ
ออกมาจากสถานทูตแบบหวิวๆ ตอนแรกมั่น ตอนนี้แบบ...หวาดและกังวลมากค่ะ
สารภาพด้วยว่าจองตั๋วเครื่องบินก่อนหน้าวันเดียว(จองเพื่อมาขอโดยเฉพาะ) แล้วสะกดชื่อพ่อผิด แต่แก้ไม่ทันแล้วเพราะวันรุ่งขึ้นต้องขอแต่เช้า
พอโดยคืนประกันของพ่อ เลยยิ่งกลัว
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ล่ะค่ะลุ้นอย่างเดียว
เจอรีวิวว่าสถานทูตทำงานเร็ว เป็นระบบมาก ขอวันนี้บางทีตอนเย็นส่งเลย
เราก็ยิ่งรอ เช็คสถานะแล้วไม่ขึ้นซักที ติดเสาร์อาทิตย์อีก นอยด์มากค่ะ
แต่ว่า...พอวันจันทร์มาเช็ค สถานะขึ้นแล้ว
เย้! .....................แล้วจะได้วีซ่ามั้ยน้อ
วันอังคารซองมาถึง
ท้าดาาาาาาาาาาาาาาาาา
ได้วีซ่าแลัวค่าาาาาาา
ให้เกินมาเฉพาะขาไป 2วัน ขากลับพอดีตามแผนเรา ไม่เผื่อดึเลย์ให้เลย
ส่วนของพ่อ ได้เกินมานิดหน่อยเหมือนกัน
ยังไงก็ยังดีใจมากกกที่ได้อยู่ดี
ก็เลยมาแชร์ให้เพื่อนๆในนี้ เผื่อเป็นประโยชน์บ้างค่ะ
เราชอบความเป๊ะ ตามระเบียบของเยอรมัน
พอลองมาขอ ก็ตามนั้นจริงๆนะคะ
เป็นระเบียบชัดเจน เราอวยเพราะได้วีซ่าด้วยค่ะ นี่ยอมรับเลย 5555
แต่เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ไม่ได้หยาบคายหรือไม่มีมารยาทนะคะ
เราว่าเขาแค่แข็งๆ ไม่อ่อนข้อหรือมีท่าทีอ่อนให้
เจ้าหน้าที่ส่วนอื่นเฟรนด์ลี่ดีค่ะ อาจจะเพราะเราโชคดีก็ได้
ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการขอวีซ่านะคะ