้จากเด็กสายสามัญกลายมาเป็นเด็กช่าง

ตอนจบ ม.3 ที่โรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่พิเศษแถบฝั่งธน  ก็เตรียมสอบจะเข้าโรงเรียนอัสสัมชันธนบุรี เพราะใหญ่ดี คนหน้าตาดีเยอะ.   แต่ความฝันก็พัง แตกสลายลงทันที  เพราะปู่จะให้เรียนช่าง ทั้งที่เราไม่เคยมีความคิดเรื่องการเรียนช่างอยู่ในสมองเลย เพราะว่าเราเป็นเด็กเรียน เกรดเฉลี่ย 3.7ขึ้นตลอดทุกเทอม.  (ปู่ให้เรียนเพรทะเจ้าของวิ'ลัยเป็นเพื่อนสนิทกับปู่ เค้าอยากให้เรียน เพราะเรียนเก่ง หางานง่าย). รู้ตัวอีกทีก็มาสมัครเรียนแล้วว  ยังไม่รู้ ไม่ได้หาความรู้ว่าเรียนแะไรเลย. อยู่ก็ให้เลือกเรียน ไฟฟ้า อิเล็กฯ สำรวจ ก่อสร้าง กลโรงงาน และช่างยนต์ เราไม่รู้อะไรเลยยย. ตอนนั้นใช้สมองที่งงๆ เลือกเรียน ไฟฟ้ากำลัง.  อีอย่างที่ลืมบอกคือ เราไม่ใช่ผู้ชายทั้งแท่ง.    สมัครแล้วจ้ายค่าเทอมแล้ว. (เกือบหมื่น แพ๊งแพง).  แล้วจะต้องไปเข้าค่ายปฐมนิเทศ เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยย. จัดเสื้อผ้าไป เค้าให้ไปก็ไป ทั้งที่ไม่อยากไปเลยย เพราะอาย กลัวเพื่อนจับได้ว่าไม่ใช้ผู้ชาย. ดีนะที่มีเพื่อนผู้หญิงเรียนด้วย. ไม่งั้นไม่ไหวๆแน่ๆ. 2วัน หนึ่งคืน ที่อยู่ค่าย ไม่ไหวจริงๆ เกลียดการอาบน้ำรวมหับคนอื่น  เกลียดการกินข้าวที่คนเยอะๆ  แต่จะทำไงได้ เลือกแล้วนิ ก็ต้องเรียนให้จบ 3ปี  หลังจากเข้าค่าย 1 อาทิตย์ก็เปิดเรียน. วันแรก ไม่รู้จักใครเลยยยย.  เศร้า เหงา เพื่อนใหม่ในห้องก็ต่างคนต่างดึงหน้าใส่กัน (ในใจ ผู้ชายยิ้มเป็นอะไรกันนักกันหนา. ). แต่พอสักพักในห้องก็เริ่มสนิทกัน คุยกัน รู้ว่าเราเป็นอะไร ยอมรับได้ว่าเราเป็นอะไร. แต่บางคนก็รับไม่ได้   ตอนนี้มีเพื่อนเยอะ.  เพื่อนให้ความสำคัญ เพราะว่า เราเป็นคนที่เป็นหลักให้เพื่อนลอกการบ้าน. โชคดีที่ฉลาดอยู่บ้างไม่งั้นตายยย.
ก็ตอนนี้ตั้งใจเรียนครับ. เดี๋ยวยังก็จะตั้งกระทู้เขียนให้อ่านอีกนะ. ถึงจะไม่มีคนอ่านก็ตามม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่