บิ๊กเสือเดิมพันตำแหน่งดันบอลลีกยช.ให้เป็นระบบ (ในที่สุดปีหน้าก็ได้เห็นแล้ว ลีกเยาวชน ปลื้มปริมม)

บิ๊กเสือเดิมพันตำแหน่งดันบอลลีกยช.ให้เป็นระบบ

"บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าฯ กกท. ยึดโมเดล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2" เพื่อนำมาจัดลีกเยาวชนอะคาเดมี่ เตรียมดึงภาคเอกชนเข้าร่วมสมทบ คาดโครงการพร้อมประเดิมฟาดแข้งปีหน้าทันที ยืนยันโครงการลีกเยาวชนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยต่อยอดสร้างผลผลิตใหม่ให้กับทีมชาติไทยในอนาคตได้แน่ ประกาศชัดหากโครงการไม่สัมฤทธิ์ผล พร้อมให้บอร์ดกกท. ประเมินผลงานได้ทันที ขณะที่ "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เห็นด้วยที่ลีกอาชีพยช.จะแบ่งโซนแข่งขันแบบดิวิชั่น 2 เป็นแบบเดียวกับ "ฮอลแลนด์" ที่เคยไปศึกษาดูงาน และสามารถปล

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 58 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. "บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนของสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นระบบ ครั้งที่ 2  โดยมี "บังยี"วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย, ผู้แทนฝ่ายจัดด.2, ผู้แทนสโมสรฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก และผู้แทนจากภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม

         โดยที่ประชุมได้หารือกันในเรื่องโครงสร้างของการจัดการแข่งขันลีกเยาวชน ซึ่งเบื้องต้นเห็นตรงกันว่าจะจัดการแข่งขัน  4 ลีก ประกอบด้วย  13, 15, 17 และ 19 ปี ซึ่งจะจัดการแข่งขันในรูปแบบลีก (เหย้า-เยือน) และจะยึดรูปแบบของการจัดการแข่งขันฟุตบอล "เอไอเอส ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" มาเป็นแบบอย่างในการจัดแข่งขัน กล่าวคือ เปิดให้สโมสรฟุตบอลส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันแบ่งเป็น 5 โซน คัดเอาโซนละ 2 ทีม เข้ามาแข่งขันในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อหาแชมป์ในแต่ละรุ่น ซึ่งเด็กที่มีอายุระหว่างนี้จะมีเวทีในการฝึกทักษะ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ อีกทั้งมีการฝึกเล่นทั้งแบบลีก และแบบทัวร์นาเมนต์

"บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ กล่าวว่า "กกท.ซึ่งเป็นภาครัฐจะดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยภาครัฐจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และช่วยสนับสนุนบ้าง เช่น สถานที่จัดการแข่งขัน เป็นต้น อีกทั้งยังพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องมาแล้ว 2 ปี คาดว่าโครงการดังกล่าวจะลงตัวพร้อมจัดการแข่งขันในฤดูกาล 2016 ทันที โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ตนเองตั้งใจสร้างเพื่อหวังเป็นการต่อยอดทีมชาติไทยในอนาคตให้ได้ หากไม่สำเร็จขึ้นมาจริงๆ ก็พร้อมให้บอร์ดบริหารกกท. พิจารณาการทำงานของตนเองได้ทันที ซึ่งเชื่อว่าแผนงานดังกล่าวจะออกมาสำเร็จได้อย่างแน่นอน"

         ทางด้าน ประดิษฐ์ นิธิยานันท์ ตัวแทนบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด หรือทีพีแอล ในฐานะคณะทำงานเตรียมจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนของสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นระบบเผยข้อมูล สมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ทุ่มเงินกว่า 800 ล้านบาทเพื่อใช้สร้างทีม "ยัง ไลออนส์" สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ 2015 ที่รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ แต่สุดท้ายยังไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่สมาคมฟุตบอลมาเลเซียทุ่มเงินมหาศาลกว่า 8,000 ล้านริงกิต หรือราว 67,120 ล้านบาทสร้างทีม "ฮาลิเมา" 3 ชุดเพื่อต่อยอดสู่ทีมเสือเหลืองชุดใหญ่ แต่ล่าสุดอันดับโลกตกพรวดหล่นมาอยู่ที่ 168 ในฟีฟ่าเวิลด์แร้งกิ้งล่าสุด

         "โค้ชซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยเสนอไอเดียการจัดลีกเยาวชนอาชีพ เสนอแนะรูปแบบของ "ฮอลแลนด์" ที่ตนเองเคยเดินทางไปศึกษาดูงานซึ่งจัดลีกยช. 10 ปี โดยสมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ได้จ้างอดีตนักเตะทีมชาติของตัวเองเป็นทีมงานสเกาต์เพื่อมองแข้งฝีเท้าดีในลีกยช. โดยการแข่งขันในรอบแรกจะเป็นระบบทัวร์นาเมนต์ทั่วประเทศ เพื่อหา 18 ทีมต่อยอดสู่ระบบลีกต่อไป ย้ำหากไทยจะสร้างลีกเยาวชนถ้าเป็นไปได้และถ้าจัดจริงๆ ควรแบ่งเป็นระบบภูมิภาคแบบเดียวกับการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 2 ที่แบ่งเป็นโซน อีกทั้งนักเตะในระดับเยาวชนฝีเท้าไม่ได้หนีกันมาก เชื่อจะเป็นการเฟ้นหาช้างเผือกสายเลือดใหม่ในแต่ละภูมิภาคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

         ขณะที่ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า "การจัดทำทีมเยาวชนนั้น จะช่วยเหลือสโมสรในเรื่องของรายได้ มากกว่าจะเป็นการเพิ่มรายจ่าย เพราะจากการดำเนินงานของสโมสรที่ผ่านมา รายจ่ายเกี่ยวกับนักเตะของสโมสรลดลงทุกปี และการสร้างลีกเยาวชนก็จะช่วยเสริมให้สโมสรแข็งแรง เหมือนตอนนี้ที่เอสซีจี เมืองทอง มีนักเตะจากเยาวชนขึ้นมาหลายคน ทั้ง สารัช อยู่เย็น, อาทิตย์ ดาวสว่าง เป็นต้น"

         นอกจากนี้กกท. ยังจะมีโครงการเฟ้นหาผู้ตัดสินรุ่นเยาว์ควบคู่ไปด้วย ซึ่งเป็นโครงการที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาผู้ตัดสินอย่างเป็นระบบ ด้วยการร่วมมือกับกรมพลศึกษา และสถาบันพลศึกษา โดยจะมีการแบ่งเป็นอายุ 13-15 ปี จะให้ร.ร.กีฬา เป็นผู้ผลิต เปิดสอน, อายุ 17-19 ให้สถาบันพลศึกษาเปิดสอน ซึ่งผู้ตัดสินกลุ่มนี้จะได้ลงทำหน้าที่จริงในลีกดังกล่าว อาทิ ผู้ตัดสิน 15 ปี ลงทำหน้าที่ในลีก 13 ปี, ผู้ตัดสิน 17 ลงทำหน้าที่ลีก 15 ปี, ผู้ตันสิน 19 ปี ลงทำหน้าที่ลีก 17 ปี  และให้ผู้ตัดสินซี ไลเซนส์ ลงทำหน้าที่ลีก 19 ปี เป็นต้น โครงการนี้จะเปิดโอกาสให้มีผู้ตัดสินโชว์ผลงาน พร้อมทั้งขัดเกลาให้มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และก้าวขึ้นไปเป็นผู้ตัดสินที่ดีมีคุณภาพในอนาคต ซึ่งนายวรวีร์เห็นด้วยกับการยึดโมเดลของลีกภูมิภาคมาใช้ โดยการประชุมหารือครั้งต่อไปจะมีการสรุปงบประมาณที่เตรียมนำมาใช้อย่างเป็นทางการต่อไปอีกด้วย

ขอบคุณข่าวจาก
http://m.siamsport.co.th/news/detail/284984
มีคลิปข่าว ตามไปดูได้ตามลิงค์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่