คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตามความเห็นแรกค่ะ พระเอกเห็นภาพหลอนตั้งแต่ต้นเรื่อง รูมเมทของพระเอกก็ไม่มีจริง แต่หลัง ๆ พระเอกอาการหนักมาก ไปบ้าถอดรหัส ซึ่งมันส่งผลกระทบถึงชีวิตประจำวัน เลยต้องเข้าบำบัด
ส่วนที่ถามว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงดัง เพราะหนังมันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพระเอกค่ะ จอน แนช ผู้ซึ่งอยากเป็นที่ยอมรับจากสังคมและคนรอบข้าง เขาพยายามเขียนทฤษฎีที่ดีออกมา พอเขียนทฤษฎีได้แล้ว กลับต้องมามีอาการทางประสาท ต้องบำบัดด้วยการช็อตไฟฟ้า ต้องทานยา การทานยาทำให้สมองเขาไม่เหมือนเดิม ภาพหลอนหายก็จริง แต่คุณไม่สามารถคิดอะไรแบบอัจฉริยะได้อีก ลองนึกดูสิคะ คนที่เคยสมองเร็ว ปราดเปรื่อง ต้องมาตื้อตัน คิดไม่ออกแบบนั้นจะทรมานแล้วรู้สึกด้อยค่าขนาดไหน ยาทำให้เขาไม่มีอารมณ์ทางเพศกับภรรยาด้วย เขาเลิกที่จะหยุดยาและต่อสู้กับอาการทางสมองด้วยตัวเอง จากอัจฉริยะ มากลายเป็นคนเพี้ยน ๆ เดินสู้กับภาพหลอนให้คนหัวเราะ จนมีโอกาสได้เป็นอาจารย์สอนที่พรินซ์ตัน ในที่สุดก็ได้รับรางวัลโนเบล มันน่าทึ่งนะคะ มันเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คน มันถึงได้ตราตรึงจิตใจผู้คนทั่วโลก
อีกส่วนที่สำคัญคือบทของภรรยา อลิเซียอดทนมาก เคียงข้างสามีตลอด เธอเลี้ยงลูกลำพังตอนที่เขาป่วย และยังยอมอยู่กับเขาทั้ง ๆ ที่เขาตัดสินใจหยุดการรักษาและอาจทำร้ายเธอด้วยอาการทางประสาท เธออยังพูดกับจอนว่า "บางทีสิ่งที่จะรักษาอาการของคุณมันได้ได้อยู่ที่สมอง มันอาจอยู่ตรงนี้ (วางมือบนหัวใจ)" เธอยืนหยัดข้างสามีเธอเสมอ ในท้ายที่สุด เมื่อจอนรับรางวัลโนเบล เขายังกล่าวถึงภรรยาว่า
"ผมเชื่อมั่นในตัวเลขเสมอ ในสมการและตรรกยะซึ่งนำไปสู่เหตุผล แต่หลังจากที่ค้นหามาทั้งชีวิต ผมถามอะไรคือตรรกยะที่แท้จริง ใครตัดสินเหตุผล ผมไปค้นคว้าเรื่องนี้ ผ่านทางภาพหลอน แต่การค้นพบที่สำคัญที่สุดในชีวิตมีแต่สมการลึกลับของความรัก ที่คุณจะพบเหตุผลตรรกยะ. ผมอยู่ตรงนี้ได้เพราะคุณ คุณคือเหตุผลที่ผมยังอยู่ คุณคือเหตุผลทั้งปวง ขอบคุณ"
หนังประทับใจนะคะ แม้ใครจะบอกว่าผู้กำกับแกบิ้วท์ก็เถอะ จริง ๆ ชีวประวัติของจอน ไม่เหมือนในหนังทุกเรื่องนะ แล้วล่าสุดท่านและภรรยาเพิ่ง
ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ด้วย ส่วนตัวเรารักหนังเรื่องนี้มาก เป็นหนึ่งในดวงใจของเราเลย
ส่วนที่ถามว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงดัง เพราะหนังมันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพระเอกค่ะ จอน แนช ผู้ซึ่งอยากเป็นที่ยอมรับจากสังคมและคนรอบข้าง เขาพยายามเขียนทฤษฎีที่ดีออกมา พอเขียนทฤษฎีได้แล้ว กลับต้องมามีอาการทางประสาท ต้องบำบัดด้วยการช็อตไฟฟ้า ต้องทานยา การทานยาทำให้สมองเขาไม่เหมือนเดิม ภาพหลอนหายก็จริง แต่คุณไม่สามารถคิดอะไรแบบอัจฉริยะได้อีก ลองนึกดูสิคะ คนที่เคยสมองเร็ว ปราดเปรื่อง ต้องมาตื้อตัน คิดไม่ออกแบบนั้นจะทรมานแล้วรู้สึกด้อยค่าขนาดไหน ยาทำให้เขาไม่มีอารมณ์ทางเพศกับภรรยาด้วย เขาเลิกที่จะหยุดยาและต่อสู้กับอาการทางสมองด้วยตัวเอง จากอัจฉริยะ มากลายเป็นคนเพี้ยน ๆ เดินสู้กับภาพหลอนให้คนหัวเราะ จนมีโอกาสได้เป็นอาจารย์สอนที่พรินซ์ตัน ในที่สุดก็ได้รับรางวัลโนเบล มันน่าทึ่งนะคะ มันเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คน มันถึงได้ตราตรึงจิตใจผู้คนทั่วโลก
อีกส่วนที่สำคัญคือบทของภรรยา อลิเซียอดทนมาก เคียงข้างสามีตลอด เธอเลี้ยงลูกลำพังตอนที่เขาป่วย และยังยอมอยู่กับเขาทั้ง ๆ ที่เขาตัดสินใจหยุดการรักษาและอาจทำร้ายเธอด้วยอาการทางประสาท เธออยังพูดกับจอนว่า "บางทีสิ่งที่จะรักษาอาการของคุณมันได้ได้อยู่ที่สมอง มันอาจอยู่ตรงนี้ (วางมือบนหัวใจ)" เธอยืนหยัดข้างสามีเธอเสมอ ในท้ายที่สุด เมื่อจอนรับรางวัลโนเบล เขายังกล่าวถึงภรรยาว่า
"ผมเชื่อมั่นในตัวเลขเสมอ ในสมการและตรรกยะซึ่งนำไปสู่เหตุผล แต่หลังจากที่ค้นหามาทั้งชีวิต ผมถามอะไรคือตรรกยะที่แท้จริง ใครตัดสินเหตุผล ผมไปค้นคว้าเรื่องนี้ ผ่านทางภาพหลอน แต่การค้นพบที่สำคัญที่สุดในชีวิตมีแต่สมการลึกลับของความรัก ที่คุณจะพบเหตุผลตรรกยะ. ผมอยู่ตรงนี้ได้เพราะคุณ คุณคือเหตุผลที่ผมยังอยู่ คุณคือเหตุผลทั้งปวง ขอบคุณ"
หนังประทับใจนะคะ แม้ใครจะบอกว่าผู้กำกับแกบิ้วท์ก็เถอะ จริง ๆ ชีวประวัติของจอน ไม่เหมือนในหนังทุกเรื่องนะ แล้วล่าสุดท่านและภรรยาเพิ่ง
ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่ด้วย ส่วนตัวเรารักหนังเรื่องนี้มาก เป็นหนึ่งในดวงใจของเราเลย
maetel ซึ้ง, hamuhamoo ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 1134726 ถูกใจ, สุธิพงษ์ ถูกใจ, pantipjayjay ถูกใจ, Fernny ซึ้ง, จิตต์ประภัสร์ ถูกใจ, pixelchio ถูกใจ, ทานยาทันที ซึ้ง, LONGBridge ถูกใจรวมถึงอีก 14 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
พึ่งดู a beautiful mind จบ มีคำถามค่ะ?
ทำไมเรื่องนี้ถึงดังมากๆ มีแต่คนแนะนำ
คือเราดูสองรอบแล้ว ยังไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ