Ant-Man ความยิ่งใหญ่ในสิ่งเล็ก



Ant-Man (2015) เป็นหนังในตระกูลซุปเปอร์ฮีโร่ค่าย Mavel คราวนี้มาในแนวตลก + จารกรรม ผมดูด้วยความสนุก บันเทิง ขำฮา อย่างถึงที่สุด นับว่าเป็นสองชั่วโมงจากการชมภาพยนตร์ที่มีความสุขมากที่สุดในรอบปีนี้

พิจารณาเฉพาะความตลก ทีมนักแสดงก็ทำได้ดีทั้งคณะ ช่วยกันยิง ตบ รับมุขกันอย่างเข้าขา ตัวร้ายก็พลอยตลกไปด้วยในบางฉาก ยังไม่นับรวมอุปกรณ์ประกอบฉาก ตลอดจนงานภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์ขันเบาสมองออกมาได้เต็มที่ ขนาดต่อสู้กันยังมีฉากตลกได้เลยนะ ตลกทั้งที่ลุ้นนั่นแหละ

ที่ผมชอบที่สุดคือคุณ Luis เพื่อนพระเอกชาวละตินที่ตลกได้แย่งซีนไปหลายครั้ง ที่เด็ดสุดคือฉากการเล่าเรื่องแฟลชแบ็ครัวๆ ที่คำบรรยายสอดรับกับคำในเครื่องหมายอัญประกาศ ต้องขอชื่นชมทีมออกแบบฉากและทีมตัดต่อที่ทำได้สุดยอดเป๊ะจริงๆ เรื่องนี้ต้องยกให้ แปะ แปะ แปะ

พูดถึงความเก่งของทีมตัดต่ออีกหน่อย คือ เรื่องนี้มีเรื่องให้เล่ามากมายมหาศาล บางช่วงบางตอนต้องเล่าอย่างสลับซับซ้อน คุณแฮงค์ พิม นี้พูดเป็นต่อยหอย แต่หนังก็ยังตัดเรื่องให้เราตามติดได้ไม่ขาดตอน

ฉากการต่อสู้ก็นับว่าออกแบบได้ดี น่าตื่นตาตื่นใจ อารมณ์ซาบซึ้งก็ทำให้ผมต้องหลั่งน้ำตาได้ถึงสองสามครั้ง เรียกว่ามีครบรสจริงๆ

ที่ดีอีกประการคือเพลงประกอบ โดยเฉพาะเพลงละตินเข้าบรรยากาศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังให้เกียรติคนนานาเชื้อชาติในอเมริกามากที่สุดเรื่องหนึ่ง ขอน่าชื่นชม แปะ แปะ

หากจะเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ในจักรวาล Avenger แล้วล่ะก็ นี่เป็นหนังที่ผมชอบอันดับต้นๆ เลยเทียวล่ะ เพราะรับอารมณ์สนุกตลอดทั้งเรื่อง ใครที่เป็นแฟนมาเวลก็แนะนำว่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้อย่างย่ิงทีเดียว

ให้ดาวไว้ก่อน 4.5 เต็ม 5

-----------------
(ต่อไปนี้สปอยล์)

ส่วนที่ผมประทับใจในเชิงเนื้อหาก็คือการตีโจทย์ “พลังที่ยิ่งใหญ่ ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่” ซึ่งได้บรรจุอยู่แล้วในพลังของซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ มนุษย์มดที่ร่างขนาดเล็กแล้วก็จะมีพลังเพิ่มขึ้น เพราะความหนาแน่นต่อปริมาตรหนึ่งหน่วยมีมากขึ้น

แต่กระนั้น ก็ยังมีประเด็น "ของเล็ก ยิ่งใหญ่" อีกหลายประเด็น ตั้งแต่แรงจูงใจของพระเอก ที่แกก็ไม่ได้ต้องการเป็นผู้ยิ่งใหญ่อะไรมาก แรงจูงใจประการเดียวของแกคือการกลับไปอยู่กับลูกเยี่ยงพ่อธรรมดา ได้กลับตัวเป็นคนดี ทำงานได้ในร้านขายไอติม

แต่ความรักของพ่อตัวเล็กๆ นี่แหละ ที่มอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้เขา ทำภารกิจสำเร็จหลายต่อหลายครั้ง กลับเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ท่านฟอลคอนยังต้องเกรงขาม

จุดเปลี่ยนของการชนะวายร้ายยิ่งทำได้ดี ยิ่งเล็ก ยิ่งชนะ กระทั่งการกลับมาจากโลกควอนตัมพิสวง ก็กลับมาด้วยเสียงเรียกเล็กๆ ของลูกตัวน้อย
นัยนี้ นับว่าผู้สร้างได้ตีโจทย์ “ความเล็ก” ได้ดีอย่างถึงที่สุด

มาถึงอีกจุดที่น่าขบคิด คือ การกระทำผิด-ถูกในโลกสมัยใหม่ โลกที่เทคโนโลยีให้อำนาจแก่เรามากมาย กลายเป็นเรื่องพร่ามัว หากพิจารณาผิวเผินก็นับว่าพระเอกเป็นโจรที่ขโมยของได้สำเร็จนั่นแหละ ระเบิดตึกพังอาคารได้สำเร็จนั่นแหละ หากมองในมุมของรัฐบาลก็คงมองว่าพระเอกคือผู้ร้าย

แต่เมื่อเรามองด้วยสายตาของคนดูแล้วก็จะพบว่า พระเอกนี้เป็นคนดีจริงๆ ปฏิบัติการโจรกรรมของพระเอกและพวกพ้องนี้ย่อมถูกคลองธรรมแล้ว การไม่ยอมแบ่งปันสูตรอนุภาคพิมเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ตรงข้าม การซื้อขายแลกเปลี่ยนถูกต้องตามนิติกรรมระหว่างคุณครอสกับไฮดรา กลับเป็นสิ่งผิดบาป สร้างความเสียหายมหันต์

อันทำให้เราต้องมองความผิด - ถูก ให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อนค่อยตัดสิน ไม่รีบด่วนสรุป รีบตัดสินพิพากษา มิฉะนั้นพระเอกคงกลายเป็นตัวร้าย และผองเพื่อนของเขาก็กลับคงมาอยู่ฝ่ายธรรมะไม่ได้เลย

อีกจุดที่น่าชื่นชม คือการไม่ละเลยชีวิตเล็กๆ ที่ตกหล่นอยู่ตามรายทาง ได้แก่ ฉากการจากไปของมดบินได้คู่ใจ (ปีกของมันถูกร่วงพาให้ใจหาย) กับฉากที่ Luis ช่วยชีวิตลูกกระจ๊อกให้ออกจากตึกก่อนจะระเบิดเป็นผุยผง นี่เป็นตัวอย่างของมุมมองที่อ่อนโยนต่อคุณค่าของชีวิต แม้ว่าชีวิตนั้นจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่