ต่อไปนี้เป็น 10 อันดับการลงโทษแบนครั้งใหญ่ตลอดกาลของศึกพรีเมียร์ลีกเท่าที่เคยมีมา
10. โจอี้ บาร์ตัน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ปี 2007) 6 นัด
กองกลางแบดบอยที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกับเกมลูกหนังสมัยใหม่ในเกาะอังกฤษ ต้องจบอาชีพค้าแข้งกับ "เรือใบสีฟ้า" หลังก่อเหตุชกต่อยกับ อุสมัน ดาโบ อดีตมิดฟิลด์ชาวน้ำหอมเพื่อนร่วมทีมในสนามซ้อม ซึ่งถึงกับทำให้ ดาโบ หมดสติและมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ รวมทั้งมีปัญหาที่บริเวณจอประสาทตา ในขณะที่ บาร์ตัน โดนลงโทษแบน 6 เดือนและถูกตัดสินจำคุก 4 เดือนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
9. เดวิด แบ็ตตี้ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ปี 1998) 6 นัด
แบ็ตตี้ อดีตกองกลางพันธ์ดุของทัพ "สาลิกาดง" เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่โดนลงโทษแบนจากการไปผลักผู้ตัดสิน แค่ 4 เดือนก่อนที่ เปาโลด ิ คานิโอ จะก่อความผิดร้ายแรงซ้ำจากกรณีเดียวกันนี้ ขณะลงเล่นให้กับถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเวลานั้น เมื่อไปผลัก เดวิด เอลเลอเรย์ เชิ๊ตดำที่ไล่เขาออกจากสนามในเกมกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
8. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล, 2011) 8 นัด
หัวหอกอุรุกวัย เป็น 1 ในนักเตะที่โชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นในซีซั่นนี้ แต่พฤติกรรมด้านลบของเจ้าตัวก็ยังคงมีให้เห็นเสมอมา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เขาไปพูดจาเชิงเหยียดสีผิวใส่ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้าย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเสมอกัน 1-1 ที่แอนฟิลด์ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2011 ซัวเรซ ถูกสอบสวนและพบว่าผิดจริง เมื่อพูดว่าคำว่า "นิโกร" ถึง 5 ครั้งจากการปะทะกับกองหลังชาวน้ำหอมในเกมนี้
7. เบน แธ็ตเชอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ปี 2006) 8 นัด
เหตุการณ์ที่ แธ็ตเชอร์ จะเป็นที่จดจำตลอดไปไม่ใช่จากการเล่นอย่างโดดเด่น แต่เป็นการตีศอกเข้าที่หน้าของ เปโดร เมนเดส กองกลาง พอร์ทมัธ จากจังหวะที่ไม่น่ามีอะไรเลย ซึ่งทำให้ มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสถึงกับหมดสติและต้องการออกซิเจนเพิ่ม รวมทั้งต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลเพื่อเช็คอาการหลังจากการกระทำน่าเกลียดนี้ อย่างไรก็ตาม แธ็ตเชอร์ โดนลงโทษแบน 8 นัด และถูกระงับการเล่น 15 เกมหลังจากนั้น
6. เดวิด พรุตตัน (เซาธ์แฮมป์ตัน, ปี 2006) 10 นัด
พรุตตัน ที่เวลานั้นเล่นคุมทัพตรงกลางสนามให้กับ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ยอมรับกับใบเหลืองที่ 2 หลังจากไปเสียบสกัดหนักใส่ โรแบร์ ปิแรส มิดฟิลด์ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล และไปผลัก อลัน ไวลีย์ เชิ๊ตดำคนดัง ต่อหน้ากล้องและถูกลงโทษแบนถึง 10 นัด
5. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล, ปี 2013) 10 นัด
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ารุนแรงไปหรือไม่กับโทษแบนถึง 10 นัด จากการกัดแขนปราการหลัง เชลซี อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซัวเรซ ทำแบบนี้ เพราะเขาเคยถูกแบนยาวในฮอลแลนด์ จากกรณีไปงับเข้าที่ต้นคอของ ออตมัน บัคคัล ดาวเตะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อปี 2010 มาแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าตัวออกมากล่าวขอโทษจากเหตุการณ์ครั้งล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่วายยังถูกสื่อในแดนผู้ดีนำไปล้อเลียนพร้อมตั้งฉายาว่าเป็น "มนุษย์กินคน" เลยทีเดียว
4. เปาโล ดิ คานิโอ (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, ปี 1998) 11 นัด
กุนซือ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่สมัยนั้นลงเล่นเป็นหัวหอกให้ เชฟฯ เว้นส์เดย์ แสดงให้เห็นถึงด้านมืดของตัวเองออกมา และนี่คือหนึ่งในวีรกรรมสุดฉาวโฉ่ของ ดิ คานิโอ เมื่อเขาไปหาเรื่อง มาร์ติน คีโอว์น อดีตปราการหลังของ อาร์เซน่อล จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ด้วยความที่กำลังฉุนขาด งานนี้เขาเลยผลักอกของ พอล อัลค็อก เชิ้ตดำในเกมดังกล่าวแบบเต็มแรง จนส่งให้ อัลค็อก ล้มลงไปกองกับพื้นสนาม และสุดท้ายอดีตดาวดังชาวอิตาลีต้องโดนโทษแบนถึง 11 นัดด้วยกัน
3. โจอี้ บาร์ตัน (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, ปี 2012) 12 นัด
นี่เป็นอีกหนึ่งเจ้าประจำที่ก่อเรื่องอย่างไม่รู้จักเบื่อ เมื่อสร้างวีรกรรมสุดแสบในเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว ในเกมที่ต้องโคจรมาเจอกับอดีตทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการชัยชนะเพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อแสดงพฤติกรรมสุดถ่อยชักศอกใส่ คาร์ลอส เตเวซ ก่อนเดินไปตีเข่าใส่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ตามด้วยการพยายามเอาหัวโขก แวงซ็องต์ ก็องปานี ขณะที่กำลังเดินออกจากสนามหลังโดนใบแดงและเกือบมีเรื่องกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ 4 แข้งดังของทัพ "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งนำมาสู่การลงโทษแบนถึง 11 นัด ก่อนที่จะโดนต้นสังกัดลอยแพปล่อยให้ โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมดังในเวทีลีก เอิง ยืมตัวไปใช้งานในที่สุด
2. วินนี่ โจนส์ (วิมเบิลดัน, ปี 1992) 6 เดือน
นักเตะเจ้าของฉายา "ไอ้โรคจิต" ตัวจริงเสียงจริงที่เป็นที่รู้จักกันดีถึงความโหดในสนาม ต้องโดนโทษแบนถึง 6 เดือนจากกรณีที่ไปเล่นหนังที่มีเนื้อหาส่อถึงความรุนแรงในเกมลูกหนัง และถูกคาดโทษนานถึง 3 ปี รวมถึงถูกประธานสโมสร "จอมโหด" ประนามว่าเป็นพวกสมองยุงอีกด้วย
1.เอริค คันโตน่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ปี 1995) 9 เดือน
อดีตตำนานกองหน้าของทัพ "เร้ด เดวิลส์" ที่ได้รับการยกย่องจากบรรดาแฟนบอลว่าเป็นศิลปินลูกหนัง สร้างความตกตะลึงให้กับโลกฟุตบอล หลังถูกไล่ออกจากการไปเตะ ริชาร์ด ชอว์ กองหลังของ คริสตัล พาเลซ ในขณะเตรียมตัวเดินกลับเข้าห้องแต่งตัวก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ คันโตน่า วิ่งข้ามป้ายโฆษณาไปกระโดดเตะ แม็ทธิว ซิมม่อนส์ กองเชียร์ พาเลซ ที่ตามตะโกนด่า ซึ่งทำให้เจ้าตัวถูกจับกุมตัวข้อหาทำร้ายร่างกาย และโดนโทษจำคุก 2สัปดาห์ ก่อนที่จะชนะอุทธรณ์ ขณะที่ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) สั่งแบนเขา 4 เดือน ก่อนเพิ่มโทษแบนเขาเป็น 9 เดือนในที่สุด
เครดิต
http://www.siamsport.co.th/column/130430_094.html
ลองดูมาตราฐานการลงโทษของบอลพรีเมียร์ลีก แล้วมามอง TPL
10. โจอี้ บาร์ตัน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ปี 2007) 6 นัด
กองกลางแบดบอยที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกับเกมลูกหนังสมัยใหม่ในเกาะอังกฤษ ต้องจบอาชีพค้าแข้งกับ "เรือใบสีฟ้า" หลังก่อเหตุชกต่อยกับ อุสมัน ดาโบ อดีตมิดฟิลด์ชาวน้ำหอมเพื่อนร่วมทีมในสนามซ้อม ซึ่งถึงกับทำให้ ดาโบ หมดสติและมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ รวมทั้งมีปัญหาที่บริเวณจอประสาทตา ในขณะที่ บาร์ตัน โดนลงโทษแบน 6 เดือนและถูกตัดสินจำคุก 4 เดือนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
9. เดวิด แบ็ตตี้ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ปี 1998) 6 นัด
แบ็ตตี้ อดีตกองกลางพันธ์ดุของทัพ "สาลิกาดง" เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่โดนลงโทษแบนจากการไปผลักผู้ตัดสิน แค่ 4 เดือนก่อนที่ เปาโลด ิ คานิโอ จะก่อความผิดร้ายแรงซ้ำจากกรณีเดียวกันนี้ ขณะลงเล่นให้กับถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในเวลานั้น เมื่อไปผลัก เดวิด เอลเลอเรย์ เชิ๊ตดำที่ไล่เขาออกจากสนามในเกมกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
8. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล, 2011) 8 นัด
หัวหอกอุรุกวัย เป็น 1 ในนักเตะที่โชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นในซีซั่นนี้ แต่พฤติกรรมด้านลบของเจ้าตัวก็ยังคงมีให้เห็นเสมอมา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เขาไปพูดจาเชิงเหยียดสีผิวใส่ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้าย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเสมอกัน 1-1 ที่แอนฟิลด์ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2011 ซัวเรซ ถูกสอบสวนและพบว่าผิดจริง เมื่อพูดว่าคำว่า "นิโกร" ถึง 5 ครั้งจากการปะทะกับกองหลังชาวน้ำหอมในเกมนี้
7. เบน แธ็ตเชอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ปี 2006) 8 นัด
เหตุการณ์ที่ แธ็ตเชอร์ จะเป็นที่จดจำตลอดไปไม่ใช่จากการเล่นอย่างโดดเด่น แต่เป็นการตีศอกเข้าที่หน้าของ เปโดร เมนเดส กองกลาง พอร์ทมัธ จากจังหวะที่ไม่น่ามีอะไรเลย ซึ่งทำให้ มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกสถึงกับหมดสติและต้องการออกซิเจนเพิ่ม รวมทั้งต้องนอนค้างที่โรงพยาบาลเพื่อเช็คอาการหลังจากการกระทำน่าเกลียดนี้ อย่างไรก็ตาม แธ็ตเชอร์ โดนลงโทษแบน 8 นัด และถูกระงับการเล่น 15 เกมหลังจากนั้น
6. เดวิด พรุตตัน (เซาธ์แฮมป์ตัน, ปี 2006) 10 นัด
พรุตตัน ที่เวลานั้นเล่นคุมทัพตรงกลางสนามให้กับ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ยอมรับกับใบเหลืองที่ 2 หลังจากไปเสียบสกัดหนักใส่ โรแบร์ ปิแรส มิดฟิลด์ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล และไปผลัก อลัน ไวลีย์ เชิ๊ตดำคนดัง ต่อหน้ากล้องและถูกลงโทษแบนถึง 10 นัด
5. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล, ปี 2013) 10 นัด
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่ารุนแรงไปหรือไม่กับโทษแบนถึง 10 นัด จากการกัดแขนปราการหลัง เชลซี อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ซัวเรซ ทำแบบนี้ เพราะเขาเคยถูกแบนยาวในฮอลแลนด์ จากกรณีไปงับเข้าที่ต้นคอของ ออตมัน บัคคัล ดาวเตะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น สมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อปี 2010 มาแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าตัวออกมากล่าวขอโทษจากเหตุการณ์ครั้งล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่วายยังถูกสื่อในแดนผู้ดีนำไปล้อเลียนพร้อมตั้งฉายาว่าเป็น "มนุษย์กินคน" เลยทีเดียว
4. เปาโล ดิ คานิโอ (เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, ปี 1998) 11 นัด
กุนซือ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่สมัยนั้นลงเล่นเป็นหัวหอกให้ เชฟฯ เว้นส์เดย์ แสดงให้เห็นถึงด้านมืดของตัวเองออกมา และนี่คือหนึ่งในวีรกรรมสุดฉาวโฉ่ของ ดิ คานิโอ เมื่อเขาไปหาเรื่อง มาร์ติน คีโอว์น อดีตปราการหลังของ อาร์เซน่อล จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ด้วยความที่กำลังฉุนขาด งานนี้เขาเลยผลักอกของ พอล อัลค็อก เชิ้ตดำในเกมดังกล่าวแบบเต็มแรง จนส่งให้ อัลค็อก ล้มลงไปกองกับพื้นสนาม และสุดท้ายอดีตดาวดังชาวอิตาลีต้องโดนโทษแบนถึง 11 นัดด้วยกัน
3. โจอี้ บาร์ตัน (ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, ปี 2012) 12 นัด
นี่เป็นอีกหนึ่งเจ้าประจำที่ก่อเรื่องอย่างไม่รู้จักเบื่อ เมื่อสร้างวีรกรรมสุดแสบในเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว ในเกมที่ต้องโคจรมาเจอกับอดีตทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการชัยชนะเพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อแสดงพฤติกรรมสุดถ่อยชักศอกใส่ คาร์ลอส เตเวซ ก่อนเดินไปตีเข่าใส่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ตามด้วยการพยายามเอาหัวโขก แวงซ็องต์ ก็องปานี ขณะที่กำลังเดินออกจากสนามหลังโดนใบแดงและเกือบมีเรื่องกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ 4 แข้งดังของทัพ "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งนำมาสู่การลงโทษแบนถึง 11 นัด ก่อนที่จะโดนต้นสังกัดลอยแพปล่อยให้ โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมดังในเวทีลีก เอิง ยืมตัวไปใช้งานในที่สุด
2. วินนี่ โจนส์ (วิมเบิลดัน, ปี 1992) 6 เดือน
นักเตะเจ้าของฉายา "ไอ้โรคจิต" ตัวจริงเสียงจริงที่เป็นที่รู้จักกันดีถึงความโหดในสนาม ต้องโดนโทษแบนถึง 6 เดือนจากกรณีที่ไปเล่นหนังที่มีเนื้อหาส่อถึงความรุนแรงในเกมลูกหนัง และถูกคาดโทษนานถึง 3 ปี รวมถึงถูกประธานสโมสร "จอมโหด" ประนามว่าเป็นพวกสมองยุงอีกด้วย
1.เอริค คันโตน่า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ปี 1995) 9 เดือน
อดีตตำนานกองหน้าของทัพ "เร้ด เดวิลส์" ที่ได้รับการยกย่องจากบรรดาแฟนบอลว่าเป็นศิลปินลูกหนัง สร้างความตกตะลึงให้กับโลกฟุตบอล หลังถูกไล่ออกจากการไปเตะ ริชาร์ด ชอว์ กองหลังของ คริสตัล พาเลซ ในขณะเตรียมตัวเดินกลับเข้าห้องแต่งตัวก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ คันโตน่า วิ่งข้ามป้ายโฆษณาไปกระโดดเตะ แม็ทธิว ซิมม่อนส์ กองเชียร์ พาเลซ ที่ตามตะโกนด่า ซึ่งทำให้เจ้าตัวถูกจับกุมตัวข้อหาทำร้ายร่างกาย และโดนโทษจำคุก 2สัปดาห์ ก่อนที่จะชนะอุทธรณ์ ขณะที่ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) สั่งแบนเขา 4 เดือน ก่อนเพิ่มโทษแบนเขาเป็น 9 เดือนในที่สุด
เครดิต http://www.siamsport.co.th/column/130430_094.html