สืบเนื่องจากกิจกรรม ก้าวออกจากฝัน สร้างสรรค์ให้เป็นจริง กับพันทิปและสิงห์คอปอเรชั่น ที่ให้สมาชิกที่มีความฝันในการเดินทางและอยากทำความฝันให้เป็นจริงได้เขียนความฝันและความฝันที่ถูกใจกรรมการที่สุด ก็จะได้ก้าวออกจากฝัน สร้างสรรค์ให้เป็นจริง และอย่างที่ประกาศไปแล้วและผม ลอกอิน Humble ก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลนั้น ผมดีใจมากครับ ก็เลยขอเขียนเล่าเรื่องราวในครั้งนี้ครับ
ในตอนแรกที่เห็นกระทู้นั้น ผมเพียงต้องการที่จะเขียนความฝันเล็กๆของผมลงในกระทู้เท่านั้น ซึ่งในสังคมที่ผมอยู่นั้นยากที่จะหาคนที่จะสนใจในเรื่องมรดกโลกและชาติพันธุ์ ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบแต่พูดกับใครไม่รู้เรื่องเพราะเราสนใจอยู่คนเดียว ตอนเขียนความฝันและการเดินทางลงในกระทู้นั้น ก็เกือหมดเขตแล้วครับเพราะเป็นวันสุดท้ายพอดี ไม่คิดว่าจะได้เข้ารอบหรือได้รางวัลใดๆ ความฝันของผมเป็นความเห็นท้ายๆเลยครับในกระทู้นั้น
ตามไปอ่านควาฝันต่างๆได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33417009
จากความเห็นทั้งหมดกว่า 200 กว่าความเห็นในกระทู้นั้น คณะกรรมการทั้ง 8 ท่านได้ทำการให้คะแนนและคัดเลือกให้เหลือ 20 คนสุดท้าย และผมรู้สึกแปลกใจมากๆ ที่ผมก็เป็นหนึ่งใน 20 คนสุดท้ายด้วย เพราะในกระทู้นั้นมีหลายความฝันที่น่าสนใจมากๆ ครับ
หลังจากนั้นทางพันทิปได้แจ้งให้ผู้เข้ารอบทั้ง 20 คนให้ทำวิดีโอแนะนำตัวและความฝัน เนื่องจากว่าไม่คิดว่าจะได้เข้ารอบอะไร ผมก็เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากครับ จับโสร่งได้หนึ่งผืนและกล้องหนึ่งตัว แล้วก็เดินไปตั้งกล้องถ่ายที่สวนหลังบ้านเลยครับ เอาแบบบ้านๆนี่แหละครับ ไม่มีเทคนิคหรือเอฟเฟคหรือการตัดต่อใดๆเลย เพราะทำไม่เป็น ถ่ายเสร็จแล้วก็อัพลงเนตแล้วก็ส่งไปให้ทีมงานพันทิปเลยครับ พอไปดูวิดิโอของผู้เข้ารอบคนอื่นๆ แล้ว ผมอายมาก เพราะคนอื่นทำได้ปราณีต ตัดต่อกันได้ดีมากครับ
และระหว่างนั้นทางพันทิปก็ได้ตั้งกระทู้ให้โหวตวิดิโอเล่าเรื่องความฝัน ของผู้เข้ารอบแต่ละคน ตามกระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33668427
แม้ทางพันทิปจะบอกว่าคะแนนโหวตไม่มีผลต่อการเข้ารอบ แต่เมื่อดูการโหวตแล้ว แต่ก็พอเดาได้ว่าจะมีความฝันไหนเข้ารอบบ้างและความฝันไหนที่มีโอกาสชนะเลิศ และผมก็คิดว่าความฝันของผมคงยากที่จะเข้ารอบ ได้เข้าถึงรอบ 20 คนสุดท้ายนี้ก็ถือว่ามาได้ไกลแล้ว แล้วก็ลืมเรื่องนี้ไป
ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่คณะกรรมการทั้งแปดท่านได้ดูคลิปวิดิโอและพิจารณาแผนการเดินทางของผู้เข้ารอบทั้ง 20 คน ผลปรากฎว่าผมเป็น 1 ใน 10 ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบสุดท้าย ต้องไปสัมภาษณ์กับคณะกรรมการทั้ง 8 ท่านครับ ผมนี่แทบไม่เชื่อเลยว่าตัวเองเข้ารอบ
ตอนรู้ว่าเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายและต้องไปสัมภาษณ์กับคณะกรรมการที่กรุงเทพนั้น ผมตัดสินใจยากมากครับ ว่าจะไปสัมภาษณ์ดีมั้ย เนื่องจากว่าบ้านผมอยู่ไกล เดินทางลำบาก มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากบึงกาฬไปกรุงเทพ ทุกความฝันนั้นมีค่า แต่เนื่องจากว่าโครงการนี้คือการแข่งขันเพื่อหาหนึ่งเดียวที่ดีที่สุด และคณะกรรมการก็ต้องเลือกความฝันที่เหมาะกับโครงการนี้ที่สุด จากกระทู้ที่ผ่านมา กระแส และการโหวตต่างๆ ทำให้ผมรู้ว่ามันคงเป็นการยากสำหรับความฝันของผมที่จะเป็นที่หนึ่งสำหรับโครงการนี้ ดังนั้นผมจึงไม่อยากจะเสียเวลาเดินทางไปสัมภาษณ์ในครั้งนี้ และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นเงินไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับเกษตรกรคนหนึ่ง มันคือน้ำมันที่เติมรถไถหลายลิตร หรือผ้าสะแรนเป็นร้อยเมตรเลยครัย ซึ่งได้เข้ามาถึงรอบ 10 คนสุดท้ายนี้ผมก็ดีใจมากแล้ว อย่างน้อยก็มีหลายคนที่ได้อ่านความฝันของเราในกระทู้นั้น
แต่หลังจากคิดอยู่หลายวัน ผมก็ตัดสินใจส่งเมลล์ตอบทางพันทิปว่าสามารถเดินทางไปสัมภาษณ์ได้ เพราะคิดว่าได้มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ลองมาร่วมสนุกกับพันทิปซักครั้ง ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าซื้อประสบการณ์ก็แล้วกัน ตอนแรกคิดว่าเป็นการสัมภาษณ์ธรรมดา แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องนำเสนอแผนงานด้วย ผมก็เลยเตรียม Powerpoint อย่างง่ายๆไปด้วย ครับ เพราะว่าไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ถ้ากรรมการถามอะไรเกี่ยวกับการเดินทาง เราก็สามารถจำจนขึ้นใจแล้ว
ในวันที่ 30 พฤษภาคม ผมเดินทางจากบึงกาฬถึงหมอชิต และเดินทางไปไหว้หลวงพ่อพระเสริมที่วัดปทุมวนารามข้างสยามพารากอนก่อนครับเพื่อความเป็นศิริมงคล จากนั้นก็เดินไปยัง Bangkok Convention Center โรงแรมเซนทาร่า ใจกลางเมือง ผมไปถึงงานเป็นคนที่สองครับ แต่พอจับฉลากลำดับการนำเสนอแผนงานกลับได้ลำดับสุดท้ายเลยครับ นอกจากนี้ยังได้รับแจกเสื้อก้าวออกจากฝัน สร้างสรรค์ให้เป็นจริง ตุ๊กตาน้องเพี้ยนและนาฬิกา G-Shock ด้วยครับ รู้สึกดีใจมากครับ
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่ามาร่วมสนุกเฉยๆ นานๆได้เข้ามากรุงเทพ แต่ว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากรรมการโหดมาก จากที่คิดว่าจะไม่ตื่นเต้น นำเสนอเล่นๆ ชิลๆ กลับกลายเป็นเครียดแทน กลัวว่ากรรมการถามคำถามแล้วจะตอบไม่ได้
พอเข้าไปนำเสนอแผนงาน ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยครับ แม้ตื่นเต้นเล็กน้อยครับเพราะไม่เคยชินกับการจับไมค์พูดเท่าไหร่ และวันนี้ได้มีโอกาสใส่ผ้าโสร่งมานำเสนองานด้วย เป็นครั้งแรกจริงๆครับกับการใส่โสร่งทำอะไรแบบนี้ พอนำเสนอแผนงานเสร็จ ก็เป็นช่วงตอบคำถามครับ นอกจากกรรมการจะถามเกี่ยวกับการเดินทางแล้ว กรรมการยังสนใจเรื่องการทำการเกษตรผสมผสานที่บ้านและประสบการณ์การเดินทางอื่นๆด้วยครับ เพราะผมนั้นรักในการแบคแพค และเทรคกิ้ง และได้มีโอกาสไปเนปาลก่อนเหตุแผ่นดินไหว และได้ตั้งกระทู้ Pray for Nepal เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ตามมาตราริคเตอร์ที่เนปาล
และหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็เป็นการอัดวิดิโอให้แนะนำตัวและเล่าความฝันของเราครับเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อไป
ตอนแรกจะมีการประกาศผลในวันที่ 3 มิถุนายนครับ แต่เนื่องจากว่าคณะกรรมการเห็นว่าควรจะประกาศผลวันนี้เลยก็เลยต้องอยู่ต่อครับ
และแล้ว ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมามาถึง บรรยากาศข้างในห้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นครับ พี่หนุ่ยจากแบไต๋ไฮเทคเป็นตัวแทนของคณะกรรมการเป็นผู้ประกาศรางวัลครับ โดยพี่หนุ่ยบอกว่าความฝันของทุกคนนั้นมีค่า แต่คณะกรรมการไม่สามารถทำให้ฝันของทุกคนเป็นจริงได้ และคณะกรรมการได้ตัดสินด้วยความหนักใจ และสุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกความฝันที่ดีที่สุดที่ตรงคอนเซฟท์ของโครงการคือเป็นความฝันที่ใหญ่และก็สามารถทำได้จริง นั่นก็คือ คุณ Bridgetology กับการเดินทางไปแอนตาร์กติกา ครับ ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณบริดเจทมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ เพราะว่าวันนั้นคุณบริดเจทกลับบ้านไปก่อน ติดตามกระทู้ของคุณ Bridgetology ได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33769402
หลังจากนั้นพี่หนุ่ยก็ได้สร้างเซอรไพรส์ด้วยการประกาศว่ายังมีอีกหนึ่งรางวัล เพื่อมอบให้แก่ Humble ผมนี่ไม่รู้จะอุทานเป็นคำว่าอะไรดีเพราะนั่นคือลอกอินของผม ได้แต่พูดว่า พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ไม่คิดว่าจะได้รางวัลอะไร จากที่คิดว่าจะเขียนเล่าความฝันลงในกระทู้เฉยๆ จากที่คิดว่ามาเที่ยวกรุงเทพสนุกๆ ซักหนึ่งวัน กลายเป็นว่าได้รางวัลจริงๆ มันเป็นไปได้ไง มันมีรางวัลเดียวไม่ใช่หรอ
จากนั้นพี่หนุ่ยก็ได้สร้างเซอร์ไพร์เป็นครั้งที่สองด้วยการประกาศผู้ที่ได้รางวัลอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือน้ององุ่น ผู้พิการที่มีหัวใจไม่ยอมแพ้ ที่ต้องการเอาชนะข้อจำกัดด้านร่างกายเพื่อไปดำน้ำ ซึ่งคุณหมอ JFK ถึงกับน้ำตาคลอ เมื่อพูดถึงเหตุผลที่เลือกน้ององุ่นเป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ ติดตามอ่านกระทู้ของน้ององุ่นได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33792326
http://pantip.com/topic/33821947
คณะกรรมการได้ชี้แจงไว้ว่า หลังจากรวมคะแนนจากกรรมการทั้ง 8 ท่าน คะแนนสามอันดับแรกนั้นใกล้เคียงกันมาก จากคะแนนเต็ม 800 คะแนน คะแนนห่างกันแค่ไม่กี่คะแนนเท่านั้น และยากต่อการตัดอีก 2 คนที่เหลือเพื่อหาอันดับหนึ่งหลังจากถกเถียงกันอย่างยาวนาน ทางสิงห์คอเปเรชั่นจึงได้เพิ่มรางวัลจากหนึ่งเป็นสามรางวัล
ผมต้องขอขอบคุณสิงห์คอปอเรชั่นที่เพิ่มรางวัลจากหนึ่งรางวัลเป็นสามรางวัลในครั้งนี้ ที่ทำให้ความฝันของผมนั้นมีโอกาสเป็นความจริง ถ้ามีโอกาสกินเบียร์ครั้งหน้า ผมสัญญาว่าจะกินแต่เบียร์สิงห์ครับ
หลังจากเสร็จงาน ผมต้องรีบกลับครับ เพราะจองตั๋วรถทัวร์กรุงเทพ-บึงกาฬ เอาไว้ตอนหนึ่งทุ่ม ปรากฎว่ากว่าจะเสร็จงานก็หกโมงกว่าแล้ว มีเวลาไม่ถึงชั่วโมงกับการเดินทางไปหมอชิต ไม่มีเวลาเปลี่ยนชุดเลยครับ จึงต้องวิ่งทั้งโสร่งนั่นแหละไปขึ้นบีทีเอส ไปลงสวนจตุจักรและต่อวินมอไซต์ไปหมอชิต ทันรถออกพอดีครับ เป็นอีกหนึ่งดีๆที่คาดไม่ถึงจริงๆครับ
ก้าวออกจากฝัน สร้างสรรค์ให้เป็นจริงกับพันทิปและสิงห์ ตอน บ่าวผู้ไทเตรียมไปเมืองจีน
ในตอนแรกที่เห็นกระทู้นั้น ผมเพียงต้องการที่จะเขียนความฝันเล็กๆของผมลงในกระทู้เท่านั้น ซึ่งในสังคมที่ผมอยู่นั้นยากที่จะหาคนที่จะสนใจในเรื่องมรดกโลกและชาติพันธุ์ ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ผมชื่นชอบแต่พูดกับใครไม่รู้เรื่องเพราะเราสนใจอยู่คนเดียว ตอนเขียนความฝันและการเดินทางลงในกระทู้นั้น ก็เกือหมดเขตแล้วครับเพราะเป็นวันสุดท้ายพอดี ไม่คิดว่าจะได้เข้ารอบหรือได้รางวัลใดๆ ความฝันของผมเป็นความเห็นท้ายๆเลยครับในกระทู้นั้น
ตามไปอ่านควาฝันต่างๆได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33417009
จากความเห็นทั้งหมดกว่า 200 กว่าความเห็นในกระทู้นั้น คณะกรรมการทั้ง 8 ท่านได้ทำการให้คะแนนและคัดเลือกให้เหลือ 20 คนสุดท้าย และผมรู้สึกแปลกใจมากๆ ที่ผมก็เป็นหนึ่งใน 20 คนสุดท้ายด้วย เพราะในกระทู้นั้นมีหลายความฝันที่น่าสนใจมากๆ ครับ
หลังจากนั้นทางพันทิปได้แจ้งให้ผู้เข้ารอบทั้ง 20 คนให้ทำวิดีโอแนะนำตัวและความฝัน เนื่องจากว่าไม่คิดว่าจะได้เข้ารอบอะไร ผมก็เลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากครับ จับโสร่งได้หนึ่งผืนและกล้องหนึ่งตัว แล้วก็เดินไปตั้งกล้องถ่ายที่สวนหลังบ้านเลยครับ เอาแบบบ้านๆนี่แหละครับ ไม่มีเทคนิคหรือเอฟเฟคหรือการตัดต่อใดๆเลย เพราะทำไม่เป็น ถ่ายเสร็จแล้วก็อัพลงเนตแล้วก็ส่งไปให้ทีมงานพันทิปเลยครับ พอไปดูวิดิโอของผู้เข้ารอบคนอื่นๆ แล้ว ผมอายมาก เพราะคนอื่นทำได้ปราณีต ตัดต่อกันได้ดีมากครับ
และระหว่างนั้นทางพันทิปก็ได้ตั้งกระทู้ให้โหวตวิดิโอเล่าเรื่องความฝัน ของผู้เข้ารอบแต่ละคน ตามกระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33668427
แม้ทางพันทิปจะบอกว่าคะแนนโหวตไม่มีผลต่อการเข้ารอบ แต่เมื่อดูการโหวตแล้ว แต่ก็พอเดาได้ว่าจะมีความฝันไหนเข้ารอบบ้างและความฝันไหนที่มีโอกาสชนะเลิศ และผมก็คิดว่าความฝันของผมคงยากที่จะเข้ารอบ ได้เข้าถึงรอบ 20 คนสุดท้ายนี้ก็ถือว่ามาได้ไกลแล้ว แล้วก็ลืมเรื่องนี้ไป
ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่คณะกรรมการทั้งแปดท่านได้ดูคลิปวิดิโอและพิจารณาแผนการเดินทางของผู้เข้ารอบทั้ง 20 คน ผลปรากฎว่าผมเป็น 1 ใน 10 ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบสุดท้าย ต้องไปสัมภาษณ์กับคณะกรรมการทั้ง 8 ท่านครับ ผมนี่แทบไม่เชื่อเลยว่าตัวเองเข้ารอบ
ตอนรู้ว่าเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายและต้องไปสัมภาษณ์กับคณะกรรมการที่กรุงเทพนั้น ผมตัดสินใจยากมากครับ ว่าจะไปสัมภาษณ์ดีมั้ย เนื่องจากว่าบ้านผมอยู่ไกล เดินทางลำบาก มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากบึงกาฬไปกรุงเทพ ทุกความฝันนั้นมีค่า แต่เนื่องจากว่าโครงการนี้คือการแข่งขันเพื่อหาหนึ่งเดียวที่ดีที่สุด และคณะกรรมการก็ต้องเลือกความฝันที่เหมาะกับโครงการนี้ที่สุด จากกระทู้ที่ผ่านมา กระแส และการโหวตต่างๆ ทำให้ผมรู้ว่ามันคงเป็นการยากสำหรับความฝันของผมที่จะเป็นที่หนึ่งสำหรับโครงการนี้ ดังนั้นผมจึงไม่อยากจะเสียเวลาเดินทางไปสัมภาษณ์ในครั้งนี้ และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นเงินไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับเกษตรกรคนหนึ่ง มันคือน้ำมันที่เติมรถไถหลายลิตร หรือผ้าสะแรนเป็นร้อยเมตรเลยครัย ซึ่งได้เข้ามาถึงรอบ 10 คนสุดท้ายนี้ผมก็ดีใจมากแล้ว อย่างน้อยก็มีหลายคนที่ได้อ่านความฝันของเราในกระทู้นั้น
แต่หลังจากคิดอยู่หลายวัน ผมก็ตัดสินใจส่งเมลล์ตอบทางพันทิปว่าสามารถเดินทางไปสัมภาษณ์ได้ เพราะคิดว่าได้มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ลองมาร่วมสนุกกับพันทิปซักครั้ง ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ถือว่าซื้อประสบการณ์ก็แล้วกัน ตอนแรกคิดว่าเป็นการสัมภาษณ์ธรรมดา แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องนำเสนอแผนงานด้วย ผมก็เลยเตรียม Powerpoint อย่างง่ายๆไปด้วย ครับ เพราะว่าไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ถ้ากรรมการถามอะไรเกี่ยวกับการเดินทาง เราก็สามารถจำจนขึ้นใจแล้ว
ในวันที่ 30 พฤษภาคม ผมเดินทางจากบึงกาฬถึงหมอชิต และเดินทางไปไหว้หลวงพ่อพระเสริมที่วัดปทุมวนารามข้างสยามพารากอนก่อนครับเพื่อความเป็นศิริมงคล จากนั้นก็เดินไปยัง Bangkok Convention Center โรงแรมเซนทาร่า ใจกลางเมือง ผมไปถึงงานเป็นคนที่สองครับ แต่พอจับฉลากลำดับการนำเสนอแผนงานกลับได้ลำดับสุดท้ายเลยครับ นอกจากนี้ยังได้รับแจกเสื้อก้าวออกจากฝัน สร้างสรรค์ให้เป็นจริง ตุ๊กตาน้องเพี้ยนและนาฬิกา G-Shock ด้วยครับ รู้สึกดีใจมากครับ
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่ามาร่วมสนุกเฉยๆ นานๆได้เข้ามากรุงเทพ แต่ว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนที่สัมภาษณ์เสร็จแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากรรมการโหดมาก จากที่คิดว่าจะไม่ตื่นเต้น นำเสนอเล่นๆ ชิลๆ กลับกลายเป็นเครียดแทน กลัวว่ากรรมการถามคำถามแล้วจะตอบไม่ได้
พอเข้าไปนำเสนอแผนงาน ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยครับ แม้ตื่นเต้นเล็กน้อยครับเพราะไม่เคยชินกับการจับไมค์พูดเท่าไหร่ และวันนี้ได้มีโอกาสใส่ผ้าโสร่งมานำเสนองานด้วย เป็นครั้งแรกจริงๆครับกับการใส่โสร่งทำอะไรแบบนี้ พอนำเสนอแผนงานเสร็จ ก็เป็นช่วงตอบคำถามครับ นอกจากกรรมการจะถามเกี่ยวกับการเดินทางแล้ว กรรมการยังสนใจเรื่องการทำการเกษตรผสมผสานที่บ้านและประสบการณ์การเดินทางอื่นๆด้วยครับ เพราะผมนั้นรักในการแบคแพค และเทรคกิ้ง และได้มีโอกาสไปเนปาลก่อนเหตุแผ่นดินไหว และได้ตั้งกระทู้ Pray for Nepal เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ตามมาตราริคเตอร์ที่เนปาล
และหลังจากสัมภาษณ์เสร็จ ก็เป็นการอัดวิดิโอให้แนะนำตัวและเล่าความฝันของเราครับเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อไป
ตอนแรกจะมีการประกาศผลในวันที่ 3 มิถุนายนครับ แต่เนื่องจากว่าคณะกรรมการเห็นว่าควรจะประกาศผลวันนี้เลยก็เลยต้องอยู่ต่อครับ
และแล้ว ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยมามาถึง บรรยากาศข้างในห้องเต็มไปด้วยความตื่นเต้นครับ พี่หนุ่ยจากแบไต๋ไฮเทคเป็นตัวแทนของคณะกรรมการเป็นผู้ประกาศรางวัลครับ โดยพี่หนุ่ยบอกว่าความฝันของทุกคนนั้นมีค่า แต่คณะกรรมการไม่สามารถทำให้ฝันของทุกคนเป็นจริงได้ และคณะกรรมการได้ตัดสินด้วยความหนักใจ และสุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกความฝันที่ดีที่สุดที่ตรงคอนเซฟท์ของโครงการคือเป็นความฝันที่ใหญ่และก็สามารถทำได้จริง นั่นก็คือ คุณ Bridgetology กับการเดินทางไปแอนตาร์กติกา ครับ ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณบริดเจทมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ เพราะว่าวันนั้นคุณบริดเจทกลับบ้านไปก่อน ติดตามกระทู้ของคุณ Bridgetology ได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33769402
หลังจากนั้นพี่หนุ่ยก็ได้สร้างเซอรไพรส์ด้วยการประกาศว่ายังมีอีกหนึ่งรางวัล เพื่อมอบให้แก่ Humble ผมนี่ไม่รู้จะอุทานเป็นคำว่าอะไรดีเพราะนั่นคือลอกอินของผม ได้แต่พูดว่า พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ไม่คิดว่าจะได้รางวัลอะไร จากที่คิดว่าจะเขียนเล่าความฝันลงในกระทู้เฉยๆ จากที่คิดว่ามาเที่ยวกรุงเทพสนุกๆ ซักหนึ่งวัน กลายเป็นว่าได้รางวัลจริงๆ มันเป็นไปได้ไง มันมีรางวัลเดียวไม่ใช่หรอ
จากนั้นพี่หนุ่ยก็ได้สร้างเซอร์ไพร์เป็นครั้งที่สองด้วยการประกาศผู้ที่ได้รางวัลอีกคนหนึ่ง นั่นก็คือน้ององุ่น ผู้พิการที่มีหัวใจไม่ยอมแพ้ ที่ต้องการเอาชนะข้อจำกัดด้านร่างกายเพื่อไปดำน้ำ ซึ่งคุณหมอ JFK ถึงกับน้ำตาคลอ เมื่อพูดถึงเหตุผลที่เลือกน้ององุ่นเป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ ติดตามอ่านกระทู้ของน้ององุ่นได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://pantip.com/topic/33792326
http://pantip.com/topic/33821947
คณะกรรมการได้ชี้แจงไว้ว่า หลังจากรวมคะแนนจากกรรมการทั้ง 8 ท่าน คะแนนสามอันดับแรกนั้นใกล้เคียงกันมาก จากคะแนนเต็ม 800 คะแนน คะแนนห่างกันแค่ไม่กี่คะแนนเท่านั้น และยากต่อการตัดอีก 2 คนที่เหลือเพื่อหาอันดับหนึ่งหลังจากถกเถียงกันอย่างยาวนาน ทางสิงห์คอเปเรชั่นจึงได้เพิ่มรางวัลจากหนึ่งเป็นสามรางวัล
ผมต้องขอขอบคุณสิงห์คอปอเรชั่นที่เพิ่มรางวัลจากหนึ่งรางวัลเป็นสามรางวัลในครั้งนี้ ที่ทำให้ความฝันของผมนั้นมีโอกาสเป็นความจริง ถ้ามีโอกาสกินเบียร์ครั้งหน้า ผมสัญญาว่าจะกินแต่เบียร์สิงห์ครับ
หลังจากเสร็จงาน ผมต้องรีบกลับครับ เพราะจองตั๋วรถทัวร์กรุงเทพ-บึงกาฬ เอาไว้ตอนหนึ่งทุ่ม ปรากฎว่ากว่าจะเสร็จงานก็หกโมงกว่าแล้ว มีเวลาไม่ถึงชั่วโมงกับการเดินทางไปหมอชิต ไม่มีเวลาเปลี่ยนชุดเลยครับ จึงต้องวิ่งทั้งโสร่งนั่นแหละไปขึ้นบีทีเอส ไปลงสวนจตุจักรและต่อวินมอไซต์ไปหมอชิต ทันรถออกพอดีครับ เป็นอีกหนึ่งดีๆที่คาดไม่ถึงจริงๆครับ