[CR] เที่ยวญี่ปุ่น 6วัน3คืน(กับทัวร์)ครั้งแรก พูดญี่ปุ่นไม่เป็น พูดอังกฤษได้นิดเดียว

สวัสดีคะ วันนี้จะมารีวิว การไปเที่ยวญี่ปุ่นกับทัวร์
ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่าการจองทัวร์ครั้งนี้ ต้องหาข้อมูลพอสมควรคะ เพราะได้ยินข่าวมาเยอะเกี่ยวกับทัวร์ปลอม
พอหาข้อมูลได้แล้วก็โทรไปบริษัทนี้คะ ครั้งแรกทางบริษัทก็ไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่า ทัวร์นี้ได้บินแน่ๆ เพราะเหมือนว่าคนยังไม่ครบคะ ก็ต้องรอทางบริษัทโทรกลับมาบอกอีกที บริษัทนี้เป็นเหมือนนายหน้าอ่ะคะ เสาร์-อาทิตย์ ก็ให้คำตอบไม่ได้คะ (รอต่อไป 5555 ) รอจนถอดใจคะ เลยไปหาทัวร์ใหม่ แต่สุดท้ายบริษัทนี้ก็โทรมาคอนเฟิร์มว่าบินแน่ๆ สรุประยะเวลาที่รอก็ประมาณ 1 อาทิตย์คะ ทางบริษัทก็ส่งใบจ่ายเงินมาให้ เราก็เตรียมตัวจ่ายเงินอย่างดี แต่เราดันไปเจอทัวร์เหมือนกันแต่คนละบริษัทและถูกกว่า จึงโทรไปถามบริษัทคะ ทางบริษัทก็เลยส่งใบจ่ายเงินมาให้ใหม่คะ (คิดในใจถ้ากูไม่เจอกูคงโดนกินเงินไปหลายพันเลย 555) สิ่งที่เราต้องส่งให้กับทางบริษัทคือ ถ่ายรูปใบพาสปอร์ตของเราและใบชำระเงินที่เราไปจ่ายมา แค่นี้คะ (ง่ายมากกก)
มาเข้าเรื่องกันเลยคะ
ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ไปกับบริษัทไทยทราเวลเซ็นเตอร์ บินกับ แอร์เอเชียคะ  ทัวร์ครั้งนี้ไปทั้งหมด 35 คนคะ ไปช่วง ปลาย มิ.ย-ต้น ก.ค. เป็นช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนของญี่ปุ่น ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นถ้าเทียบกับบ้านเราแล้วเหมือนอยู่ในห้องแอร์คะ อากาศสบายๆ ไม่ร้อนไม่หนาว เราแลกเงินไป 4 หมื่นเยน เยอะนะ เลทเงินตอนที่เราไปอยู่ที่ 2775 บาท = 1หมื่นเยน (คน1พกได้ไม่เกิน 2แสนเยน)

วันแรก
นัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองชั้น3ประตู4หน้าเคาน์เตอร์แอร์เอเชีย  อันดับแรกเราต้องเอากระเป๋าเดินทางของเราเข้าเครื่อง x-ray ก่อน แล้วไกด์ก็จะแจกเอกสารการเที่ยว(บอกว่าแต่ละวันไปเที่ยวไหนบ้าง นอนที่โรงแรมไหนบ้าง รวมถึง ใบขาเข้า ขาออก ไทย และ ญี่ปุ่นคะ) ไปกับทัวร์ดีตรงที่เราไม่ต้องเขียนอะไรมาก แค่เซ็นต์ชื่อตัวเอง เหมือนในใบพาสปอร์ตก็พอ (อะไรจะง่ายขนาดนี้555) เช็คอิน,ชั่งน้ำหนักกระเป๋าและเอาตั๋วขึ้นเครื่อง  ไปเช็คอินครั้งนี้เราไม่มีSeat (ที่นั่ง) คะ เพราะฉะนั้นเราต้องบอกทางบริษัทเรื่องที่นั่งและเรื่องน้ำหนักกระเป๋า (สำหรับคนที่มี seat แล้ว ถ้าจะย้ายที่นั่งต้องเสียเงินเพิ่มนะคะ)  ***อยากจะบอกเพื่อนๆว่าใครที่คิดว่าน้ำหนักกระเป๋าขากลับจะเกินต้องรีบติดต่อบริษัทหรือไกด์ซื้อเพิ่มไปเลยนะคะ เพราะถ้าบินไปถึงนู้นแล้วมาซื้อที่หลังจะยากมาก***  ขึ้นเครื่องตอนเที่ยงคืนคะ

วันที่2
อยู่บนเครื่องบิน แอร์มาเสิร์ฟอาหารตอนเวลาประมาณ ตี 3 คะ แต่เราเก็บไว้กินตอนเช้านะ  ใครที่กินตอนตี3 ตอนเช้าก็ไม่มีกินนะคะ นอกจากเราจะสั่งเพิ่มเอง (เสียตังนะ) มื้อแรกของการเดินทาง เวลาญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทยประมาณ 2 ชม. พอถึงสนามบินนาริตะเขาก็จะมีรถมารับ ลงจากรถแล้วไกด์ก็จะรออยู่และเรียกรวมคะ ไกด์จัดลูกทัวร์แบบเป็นบ้านคะ (เป็นกลุ่มๆ เช่น บ้าน1 บ้าน2 อะไรแบบนี้)  และไกด์อธิบายถึงมารยาทของคนญี่ปุ่น เช่น การเดินขึ้นบันไดเลื่อน เราต้องชิดซ้ายตลอดนะคะ  ต่อไปคือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองคะ ด่านแรกจะเป็นคนตรวจดูใบพาสปอร์ตและใบขาเข้าขาออกของประเทศญี่ปุ่น ด่านนี้ไม่ต้องตกใจคะ ส่วนมากคนที่โดนเรียกคือคนที่ไม่ได้เขียนสถานที่ที่จะไปไว้ แต่เราไปกับทัวร์ ในใบขาเข้าของเราจะเขียนชื่อโรงแรมไว้คะ เพราะฉะนั้นผ่านได้สบายมากก  ด่านที่2 จะเป็นการแสกนลายนิ้วมือนิ้วชี้ 2 ข้างและถ่ายรูปแค่นั้นคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รู้เรื่องในจอคอมมีภาษาไทยคะ เสร็จแล้วก็ลงไปข้างล่างเพื่อไปเอากระเป๋า ด่านที่3ด่านสุดท้าย เอากระเป๋าเสร็จแล้วก็จะต้องเอาใบสีเหลืองให้ ตม จุดนี้บางคนก็โดนถาม บางคนก็ไม่โดนถาม แต่เราโดนถามคะ เขาถามว่า มีกระเป๋าแค่นี้หรอ(พูดภาษาญี่ปุ่น) เราก็ทำหน้างง เขาเลยพูดภาษาอังกฤษ เราก็ไม่รู้อีก เขาเลยชี้นิ้วไปที่กระเป๋าแล้วชู2นิ้ว เราเลยเข้าใจเลย555 และก็ถามว่ามาอยู่กี่วัน เราเป็นคนที่ไม่เก่งอังกฤษเท่าไหร่ ก็ตอบไปว่า yes กับเอาเอกสารที่ไกด์ให้ไว้ครั้งแรก มันจะมีภาษาอังกฤษอยู่คะ เราก็ยื่นให้เขาดูเลย เขาก็จะดูๆ แล้วก็ให้ผ่านคะ ไปกับทัวร์ก็ง่ายแบบนี้ 5555 (สำหรับคนที่กลัวจริงๆก็ค่อยรอไปพร้อมไกด์ก็ได้คะ) ต่อไปก็ทำภาระกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย และไกด์ก็พาขึ้นรถทัวร์ไป(นั่งเป็นบ้านๆคะ กรุ๊ปนี้จะจัดให้ผู้มีอายุนั่งหน้าคะ) สถานที่แรกที่จะไปคือวัดอาซากุสะ และชมโตเกียวสกายรี (แบบไกลๆ 555) อันดับแรกเราต้องจำสถานที่รถจอด

และไกด์ก็พาเดินไปร้านอาหารคะ เราต้องจำให้ได้ว่าร้านอยู่ไหนด้วย เสร็จแล้วก็ให้อิสระกับการเดินเที่ยว ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ เราไปเจอขนมอยากกินมาก ไม่รู้ว่าจะอร่อยไมเพราะไม่เคยกิน แต่พูดญี่ปุ่นไม่ได้ อังกฤษก็ได้นิดเดียว ทำไงหละทีนี้ ชี้นิ้วอย่างเดียวเลยคะ แล้วบอกว่า one เขาก็ทำให้เราก็จ่ายเงินคะ 55 ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะโกงนะคะหน้าขนมจะมีตัวเลขบอกอยู่ว่าเท่าไหร่ บางร้านไม่มีเขาก็จิ้มเครื่องคิดเลขให้ดูคะ 555 จากนั้นก็เดินกินขนม ตามประสาบ้านเรา แต่อยู่ๆคนญี่ปุ่น(คนขายของ)วิ่งมาหาแล้วพูดว่า No No แล้วก็จับเราไว้แล้วชี้นิ้วให้เราดูคนยืนกิน สรุปคือ ประเทศเขาห้ามเดินกินคะ (ตกใจหมดเลยนึกว่าจะเกิดเรื่องอะไร555)

เสร็จตามเวลาก็ต้องไปเจอกันที่ร้านอาหารเพื่อกินข้าว(ไม่เสียตังเพราะมีอยู่ในโปรแกรมทัวร์)

ต่อไปก็เดินกลับไปยังรถบัส นั่งรถไปถึงย่านชินจูกุ ไกด์ก็จะแนะนำเรื่องทางเรื่องที่เที่ยว แต่เรายังไม่ได้ลงจากรถนะ เพราะต้องไปลงที่โรงแรมก่อน พอถึงโรงแรมนำสัมภาระเก็บเรียบร้อย ที่พักโอเค สะอาด แถมยังอยู่ใจกลางเมืองอีก พูดได้ว่าดูดีเลยทีเดียว (ถ่ายแต่ห้องน้ำคะ ลืมถ่ายห้อง55)

ไกด์ก็จะพาเที่ยวคะ อันนี้แล้วแต่ว่าจะไปกับไกด์หรือเดินเที่ยวเอง ไกด์จะมีแผนที่ให้คะ อาหารมื้อค่ำนี้หาทานเองคะ  ย่านชินจูกุนี้ ราเม็งอร่อยมาก ใครไม่ได้ทานถือว่าพลาดมากคะ ย่านนี้มีทั้งที่กินที่ช๊อปที่เล่นเกมส์และผับบาร์ คนเยอะมากเที่ยงคืนตี1 คนยังเดินกันเยอะอยู่เลย เราจะกลับที่พักตอนไหนก็ได้แล้วแต่เรา แต่ตอนเช้าต้องตื่นให้ทันอาหารเช้าและเวลานัดหมายนะคะ จะบอกว่าระหว่างทางที่เราเดินกลับที่พัก เราเจอคนจูบกันด้วย O_O" (อึ้งไป 3 วิ เพราะไม่เคยเจอ55) แต่เรื่องที่อึ้งยิ่งกว่าคือ จู่ ก็มีคนตัวใหญ่ล่ำบึกเดินเข้ามาถามว่าอายุเท่าไหร่(พูดภาษาอังกฤษ) เราถึงกับกลัวเลยคะ เพราะเราไม่รู้จักเขา (ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายเพราะไกด์เคยบอกว่าโดนเป็นบางคน บางคนก็โดนบอกว่าสวยบ้างไรบ้าง555 คือเขาเรียกลูกค้าเข้าร้านหนะคะ เราก็ไม่ต้องไปคุยกับเขา) ลืมบอกไปว่า เดินเที่ยวอย่างเดียวนะคะ แต่สำหรับคนที่เดินแล้วเหนื่อยขากลับกลับไม่ไหวโปกรถแท็กซี่กลับได้คะ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ายิ่งดึกยิ่งแพงคะ คนญี่ปุ่นพูดญี่ปุ่นเป็นหลักคะ พูดอังกฤษได้บางคน แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง 555

วันที่3
ทานอาหารเช้าบนโรงแรม วิวสวยคะ แต่ต้องต่อแถวก่อนเข้าไปทานเพราะโต๊ะไม่พอ (มีทั้งคนไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง ฯลฯ )  
เสร็จแล้วลงไปข้างล่างเอาคีย์การ์ดคืนไกด์และก็ขึ้นรถ นั่งรถหลายชั่วโมงเลยคะ ในระหว่างที่อยู่บนรถไกด์ก็จะเล่าประวัติเรื่องนั้นนู้นนี้ให้ฟัง เช่น โดราเอม่อน (ฟังๆได้สักพักก็หลับคะ เพราะเมื่อคืนเที่ยวหนักมาก555) พอไปถึงก็ทานข้าวเที่ยงเลยคะ จะบอกว่ากระปุกที่อยู่ข้างบนจานหมู ในรูปภาพข้างล่างอ่ะคะ จะมี2รส รส1เป็นวาซาบิ อีกรส1น่าจะเป็นต้นตำหรับ (รสนี้อร่อยมาก จนได้ซื้อกลับไปทานที่บ้านอีก 2 กระปุกแหนะ555) กระปุกแดงๆก็พริกคะ ถ้าสังเกตุจะเห็นผ้า1ผืนด้วย คล้ายๆผ้าเย็นบ้านเรา แต่ที่ญี่ปุ่นเขาให้เช็ดมือก่อนทานข้าวคะ

ต่อด้วยล่องเรือทะเลสาบอาชิ (เรือโจรสลัด)

ต่อด้วยเอาท์เล็ต (ของแบรนด์เยอะมากไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของกินก็มีนะ เช่น H&M ZARA GAP NIKE Adidas Reebok (รองเท้าถูกกว่าบ้านเรามาก แต่ต้องดูราคาดีๆนะ บางอันลด บางอันไม่ลด) สถานที่นี้คนในทัวร์บางคนมาช้าเกินเวลาที่ไกด์กำหนดคะ นั่งรอไปประมาณ ครึ่ง ชม. ได้  (อยากบอกว่าสำหรับคนที่จะไปทัวร์ต้องรักษาเวลามากๆนะคะ เพราะถ้าช้าบางโปรแกรมเที่ยวต้องตัดออก เกือบไม่ได้ไปภูเขาไฟฟูจิแหนะ แต่ก็ได้ไป )

ข้างบนสวยมากและเย็นมากด้วย (แนะนำสำหรับใส่เสื้อหนาวไปเถอะคะ 555) ที่นี้จะมีที่ถ่ายรูป ที่ชมวิว ของที่ระลึกและขนมขาย รูปข้างล่างนี้จะเห็นได้ว่ามีหมอกปกคุมอยู่ จึงเห็นภูเขาไฟฟูจิไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ไปตอนเย็น(ตอนใกล้ปิด)ก็ไม่ดีแบบนี้แหละคะ แถมห้องน้ำแถวนั้นก็ปิดหมดด้วย ที่นี้จะปิดเร็วหน่อยคะ เพราะเวลาเดินทางกลับจะอันตราย เพราะหมอกจะปกคลุม ภาพข้างล่างนี้ถ่ายตอนเวลา 5 โมงเย็นของเวลาญี่ปุ่น ระหว่างทางที่ไปโรงแรมคะ จะเห็นได้ว่าหมอกเยอะมาก

เมื่อถึงโรงแรมแล้ว ก็รับกุญแจห้อง และนำสัมภาระขึ้นไปเก็บบนห้อง ในห้องจะมีชุดยูกาตะให้เปลี่ยนคะ วิธีใส่ชุดยูกาตะที่ถูกต้องคือซ้ายทับขวานะคะ ส่วนขวาทับซ้ายคนญี่ปุ่นใส่ไปงานศพกันคะ มันโบว์ไว้ข้างหลังเสมอ เพราะฉะนั้นอย่าใส่ผิดนะคะ  

พอใส่เสร็จแล้วก็ไปกินอาหารเย็น ซึ่งเป็นขาปูยักษ์บุฟเฟต์ และอาหารอื่นๆที่เราเลือกตักเองได้ พออิ่มแล้วก็ไปแช่ออนเซ็นคะ (แล้วแต่เราจะไปแช่กี่โมงก็ได้คะ แต่มีเวลาเปิดปิดอยู่นะคะต้องดูดีๆแล้วแต่สถานที่นะคะ) ห้องแช่ออนเซ็นจะแยกหญิง แยกชายนะคะ พอเข้าไปถึงก็จะมีห้องแต่งตัว มีล๊อกเกอร์ โต๊ะเคื่องแป้ง ไดร์ และหมวกคุมผม ห้องข้างๆก็จะเป็นห้องแช่ออนเซ็น น้ำแช่ออนเซ็นอุณหภูมิก็ประมาณ40องศาคะ คล้ายๆประมาณบ่น้ำพุร้อนบ้านเราเลย555 ก่อนลงต้องล้างตัวก่อนนะ แช่ประมาณ 15 นาทีแล้วขึ้น ในห้องก็จะมีที่อาบน้ำ(นั่งเก้าอี้อาบ)มีกระจก ยาสระผม และก็สบู่ให้คะ คนญี่ปุ่นเชื่อว่าหลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จก็ต้องดื่มนมสดต่อเพื่อให้แข็งแรง(นม1ขวด 100 เยนคะ กดจากตู้เอา) เสร็จแล้วก็ขึ้นห้องนอนเพราะแถวนั้นมีแต่ป่ากับป่า555 ก่อนจะนอนรู้สึกอยากดูวิว ตอนนั้นประมาณเที่ยงคืนกว่าคะ เดินไปเปิดผ้าม่านแล้วมองวิวผ่านกระจก เพราะห้องไม่มีระเบียง ข้างล่างมืดมากมีแต่ต้นไม้และป่า เรารู้สึกวังเวงขนลุกแปลกๆ แล้วตาของเราไปสะดุดกับสิ่งๆหนึ่งเป็นเหมือนคนใส่ชุดสีขาว ผ้าบางๆ (ในใจก็นึกงานเข้าละ ใครมายืนอยู่ตรงนั้นดึกดื่นป่านนี้ แต่เราปลอบใจตัวเองไง คิดในแง่ดีเข้าไว้ รีบปิดม่านแล้ววิ่งไปนอนเลยจ้า 5555) เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   Thaitravel
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่