เหตุเกิด วันนี้ตอนพักเที่ยง
บริษัทที่เราทำงานอยู่ใกล้ห้างๆนี้มาก และน้ากับยายก็มาอยู่เป็นเพื่อนได้ไม่นาน พอพักเที่ยงก็เลยโทรชวนให้น้ากับยายมาหาข้าวกินที่ห้างๆนี่ เพราะหอพักที่เราอยู่ก็ใกล้ห้างมาก นั่งพี่วินมา 10บาทก็ถึงแล้ว พอมาถึงห้างก็ตัดสินใจว่าจะไปกินก๋วยเตี๊ยวไข่กัน เพราะเคยพายายมากินแล้วแกบอกว่ามันอร่อยดี ก็เลยเดินไปชั้น 6 (รึป่าวไม่แน่ใจ ชั้นเดียวกันกับโรงหนังและใกล้ร้านโพนยางคำ) เราสามคนก็เลยสั่งอาหารมากินตามปกติ แล้วปิดท้ายด้วยตำถาดสูตรพิเศษจากทางร้าน พอกินไปสักพักจนส้มตำถาดใกล้จะหมด เจ้ากรรม
แมงสาบโผล่ออกมาจากใบตองที่ใช้รองถาดอยู่ ซึ่งอิตรงที่มาโผล่ออกมาเป็นบริเวณที่เขาวางหมี่ขาวลวกไว้ตรงนั้น ซึ่งไม่ใช่ใครที่กิน แต่เป็นเก๊าเอง

ออกมาวิ่งเล่นซุกซนไปมา ดีน่ะที่เราเป็นคนไม่กลัวแมงสาบ 5555+ ไม่งั้นกรี๊ดร้านแตกพอดี
ที่จริงตามสัญชาตญาณของคนเราก็คิดนะ มื้อนี่ได้กินฟรีชัวร์ 555555
แมงสาบวิ่งเล่นไปมาสักพักมันมาหยุดอยู่ที่ไข่ แถมหยุดอยู่นานซะด้วย ประหนึ่งว่าไม่เคยได้ลิ้มรสไข่มานาน
เราก็เลยเรียกน้องพนักงานคนหนึ่งมาดู ว่าเออ..นี่มันแมงสาปน่ะ มันมาเกาะอยู่ที่นี่
น้องพนักงานก็เลยเดินไปหาผู้หญิงที่โต๊ะเค้าเตอร์เก็บเงิน เดาว่าผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้จัดการร้าน
พนก กับ ผจก คุยกันสักพักแล้ว พนง กลับมาคีย์ข้อมูลอาหารลงเครื่องต่อ โดยไม่มีมาดูดำดูดีเราเลย 55555+
เราก็เลยเรียกเก็บตังซะ หนหวยเว๊ย!
เราก็เลยเดินไปที่โต๊ะ ผจก.เลย เดินไปบอกว่า มันมีแมงสาปออกมาจากใบตองรองตำถาดนะ อะไรงี้
ผจก.บอกว่า
เป็นแมงหวี่หรือเปล่า มันบินมาเล่นไฟ
เราคิดในใจ แมงหวี่บ้าน ผจก.ตัวใหญ่ขนาดนี่
เราก็เลยเอารูปที่ถ่ายมาให้ดู
ผจก.เลยบอกว่า
เออใช่คะ ใช่แมงสาปจริงๆด้วย พร้อมขอโทษขอโพย ซึ่งเป็นคำขอโทษครั้งแรกที่ได้ยินหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็รู้สึกโอเคขึ้นมานิดหน่อยที่ได้ยินคำขอโทษจากปาก ผจก. ที่จริงเราก็ไม่อยากจะอะไรมาก (หราาา) เพราะอย่างน้อย ผจก. ก็น่าจะเป็นคนบ้านเดียวกันกับเรา
ปล่อยผ่าน ไสยๆ ค้าาาา
สุดท้าย เราเลยได้จ่ายตังเต็มจำนวน พร้อมรัปประทานอาหารที่เต็มไปด้วยโอเมก้า3 (หรอออออ)
ตามภาพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แมงหวี่ตัวใหญ่อยู่บนไข่ ร้านเตี๋ยวไข่ย้อนยุค
บริษัทที่เราทำงานอยู่ใกล้ห้างๆนี้มาก และน้ากับยายก็มาอยู่เป็นเพื่อนได้ไม่นาน พอพักเที่ยงก็เลยโทรชวนให้น้ากับยายมาหาข้าวกินที่ห้างๆนี่ เพราะหอพักที่เราอยู่ก็ใกล้ห้างมาก นั่งพี่วินมา 10บาทก็ถึงแล้ว พอมาถึงห้างก็ตัดสินใจว่าจะไปกินก๋วยเตี๊ยวไข่กัน เพราะเคยพายายมากินแล้วแกบอกว่ามันอร่อยดี ก็เลยเดินไปชั้น 6 (รึป่าวไม่แน่ใจ ชั้นเดียวกันกับโรงหนังและใกล้ร้านโพนยางคำ) เราสามคนก็เลยสั่งอาหารมากินตามปกติ แล้วปิดท้ายด้วยตำถาดสูตรพิเศษจากทางร้าน พอกินไปสักพักจนส้มตำถาดใกล้จะหมด เจ้ากรรมแมงสาบโผล่ออกมาจากใบตองที่ใช้รองถาดอยู่ ซึ่งอิตรงที่มาโผล่ออกมาเป็นบริเวณที่เขาวางหมี่ขาวลวกไว้ตรงนั้น ซึ่งไม่ใช่ใครที่กิน แต่เป็นเก๊าเอง
ที่จริงตามสัญชาตญาณของคนเราก็คิดนะ มื้อนี่ได้กินฟรีชัวร์ 555555แมงสาบวิ่งเล่นไปมาสักพักมันมาหยุดอยู่ที่ไข่ แถมหยุดอยู่นานซะด้วย ประหนึ่งว่าไม่เคยได้ลิ้มรสไข่มานาน
เราก็เลยเรียกน้องพนักงานคนหนึ่งมาดู ว่าเออ..นี่มันแมงสาปน่ะ มันมาเกาะอยู่ที่นี่
น้องพนักงานก็เลยเดินไปหาผู้หญิงที่โต๊ะเค้าเตอร์เก็บเงิน เดาว่าผู้หญิงคนนั้นคงเป็นผู้จัดการร้าน
พนก กับ ผจก คุยกันสักพักแล้ว พนง กลับมาคีย์ข้อมูลอาหารลงเครื่องต่อ โดยไม่มีมาดูดำดูดีเราเลย 55555+
เราก็เลยเรียกเก็บตังซะ หนหวยเว๊ย!
เราก็เลยเดินไปที่โต๊ะ ผจก.เลย เดินไปบอกว่า มันมีแมงสาปออกมาจากใบตองรองตำถาดนะ อะไรงี้
ผจก.บอกว่า เป็นแมงหวี่หรือเปล่า มันบินมาเล่นไฟ
เราคิดในใจ แมงหวี่บ้าน ผจก.ตัวใหญ่ขนาดนี่
เราก็เลยเอารูปที่ถ่ายมาให้ดู
ผจก.เลยบอกว่า เออใช่คะ ใช่แมงสาปจริงๆด้วย พร้อมขอโทษขอโพย ซึ่งเป็นคำขอโทษครั้งแรกที่ได้ยินหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราก็รู้สึกโอเคขึ้นมานิดหน่อยที่ได้ยินคำขอโทษจากปาก ผจก. ที่จริงเราก็ไม่อยากจะอะไรมาก (หราาา) เพราะอย่างน้อย ผจก. ก็น่าจะเป็นคนบ้านเดียวกันกับเรา ปล่อยผ่าน ไสยๆ ค้าาาา
สุดท้าย เราเลยได้จ่ายตังเต็มจำนวน พร้อมรัปประทานอาหารที่เต็มไปด้วยโอเมก้า3 (หรอออออ)
ตามภาพ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้