มติชนสุดสัปดาห์ 10-16 กรกฎาคม 2558
จากตัวเลขส่งออกเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ติดลบหนักถึง 5.01% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ทำให้ 5 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไทยติดลบ 4.2% หรือมีมูลค่า 88,694 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยติดลบจากสินค้าส่วนใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรและเกษตรแปรรูป ติดลบเฉลี่ย 10% ด้านตลาดส่งออกส่วนใหญ่ก็ติดลบแม้ตลาดความหวัง อย่างอาเซียน ก็ติดลบ 7.2% ญี่ปุ่นติดลบ 4.1% เกาหลีใต้ติดลบ 15.9% สหภาพยุโรป (อียู) ติดลบ 13.7% ที่ยังดีอยู่แต่ขยายตัวก็ไม่สูง ทั้งสหรัฐ โต 0.4% จีน โต 3.3% ออสเตรเลียโต 18.2% และกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์-เวียดนาม) โต 3.5%
ผนวกกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เช่นกัน
ซึ่งทางวิชาการระบุแล้วว่าเป็นภาวะเงินฝืดทางเทคนิค นั่นสะท้อนถึงประชาชนทั่วไปยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ และชะลอการใช้จ่ายหรือทำกิจกรรมที่ต้องเพิ่มรายได้
เมื่อดูองค์ประกอบด้านอื่นๆ ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ทั้งการลงทุนภาครัฐ ยังถูกมองว่าล่าช้ากว่าแผนงานที่ได้ระบุไว้ ไม่ว่าจะการก่อสร้างโครงการด้านขนส่ง โครงการปรับปรุงสนามบิน หรือ การประมูล 4 จี และยังไม่มั่นใจต่อแผนการดึงตัวเลขส่งออกในอนาคต ทำให้ภาคลงทุนของเอกชนชะงักลง ดูได้จากตัวเลขการนำเข้าในกลุ่มทุนและกลุ่มวัตถุดิบเพื่อการผลิต ลดลงอย่างมาก จนทำสถิติใหม่ต่ำสุดอีกครั้งรอบ 10 ปี ล้วนเป็นแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น
จะพูดว่าเกิดความรู้สึกระส่ำก็ได้ ...เพราะหลังจากตัวเลขต่างๆ ออกเผยแพร่สู่สาธารณะ ผลที่ตามมา คือ ทุกหน่วยงานรัฐ เอกชน และนักวิชาการ ต่างออกมาส่งสัญญาณถึงการปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ทั้งสิ้น
และทั้งหมดเห็นพ้องว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวไม่เกิน 3% แน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436784882
เข็น "ส่งออก" ไม่ขึ้น "จีดีพี" รูดต่ำ 3% ฤๅวิกฤตต้มยำกุ้งวนมาอีกรอบ
จากตัวเลขส่งออกเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ติดลบหนักถึง 5.01% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ทำให้ 5 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไทยติดลบ 4.2% หรือมีมูลค่า 88,694 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยติดลบจากสินค้าส่วนใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรและเกษตรแปรรูป ติดลบเฉลี่ย 10% ด้านตลาดส่งออกส่วนใหญ่ก็ติดลบแม้ตลาดความหวัง อย่างอาเซียน ก็ติดลบ 7.2% ญี่ปุ่นติดลบ 4.1% เกาหลีใต้ติดลบ 15.9% สหภาพยุโรป (อียู) ติดลบ 13.7% ที่ยังดีอยู่แต่ขยายตัวก็ไม่สูง ทั้งสหรัฐ โต 0.4% จีน โต 3.3% ออสเตรเลียโต 18.2% และกลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์-เวียดนาม) โต 3.5%
ผนวกกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เช่นกัน
ซึ่งทางวิชาการระบุแล้วว่าเป็นภาวะเงินฝืดทางเทคนิค นั่นสะท้อนถึงประชาชนทั่วไปยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ และชะลอการใช้จ่ายหรือทำกิจกรรมที่ต้องเพิ่มรายได้
เมื่อดูองค์ประกอบด้านอื่นๆ ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย ทั้งการลงทุนภาครัฐ ยังถูกมองว่าล่าช้ากว่าแผนงานที่ได้ระบุไว้ ไม่ว่าจะการก่อสร้างโครงการด้านขนส่ง โครงการปรับปรุงสนามบิน หรือ การประมูล 4 จี และยังไม่มั่นใจต่อแผนการดึงตัวเลขส่งออกในอนาคต ทำให้ภาคลงทุนของเอกชนชะงักลง ดูได้จากตัวเลขการนำเข้าในกลุ่มทุนและกลุ่มวัตถุดิบเพื่อการผลิต ลดลงอย่างมาก จนทำสถิติใหม่ต่ำสุดอีกครั้งรอบ 10 ปี ล้วนเป็นแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น
จะพูดว่าเกิดความรู้สึกระส่ำก็ได้ ...เพราะหลังจากตัวเลขต่างๆ ออกเผยแพร่สู่สาธารณะ ผลที่ตามมา คือ ทุกหน่วยงานรัฐ เอกชน และนักวิชาการ ต่างออกมาส่งสัญญาณถึงการปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ทั้งสิ้น
และทั้งหมดเห็นพ้องว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวไม่เกิน 3% แน่นอน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436784882