เนื่องจากผมมีโอกาสไปเกาหลีมาช่วงมิถุนา และแวะไปขับรถในเกาะเชจูมาด้วย
เลยอยากแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ เพราะก่อนไปผมก็กล้าๆกลัวๆไม่เคยขับรถเมืองนอกมาก่อน
เลยมาตั้งคำถามเพื่อนๆในนี้ด้วย ก็ได้คำแนะนำดีๆติดตัวไปลองดูก็ต้องขอบคุณมากครับ^^
เที่ยวเสร็จกลับมาโดยสวัสดิภาพแล้วเลยอยากมาเล่าของจริงหน่อย
ผมเช่ารถของ KT kumho ครับ แต่ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นไม่รู้นะครับ ที่จองอันนี้เพราะเวบมันอ่านรู้เรื่องดี
แล้วก็โชว์ราคาเปิดเผย แถมกำหนดเวลาจองเป็นจำนวนชั่วโมงได้ ผมเลยเช่า 2 วันครึ่ง ราคา 120,000 krw แพงป่าวไม่รู้น้อ
พอไปถึงสนามบินเชจูแล้วก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์เลยครับสังเกตง่ายๆมีเรียงกันหลายเจ้า พอโชว์ใบจองเสร็จก็ไปขึ้นรถบัส
เค้าก็พาไปส่งที่บริษัทอยู่ติดสนามบิน ก็ยื่นเอกสารใบขับขี่สากลอะไรให้เค้าแล้วก็ตัดบัตรเครดิตเลย
จากนั้นพนักงานก็พาไปที่รถสอนวิธีใช้ โดยเฉพาะ navigator (ภาษาเกาหลี T.T) ให้ตรวจสภาพรถถ่ายรูปอะไรเสร็จสรรพ
ก็เอารถออกได้ เร็วมากๆใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
สรุปลองขับอยู่สองวันครึ่งได้ข้อคิดดังนี้ครับ ผิดถูกยังไงถ้าใครชำนาญก็ช่วยแก้ให้ด้วยละกัน
1. รถพวงมาลัยซ้ายนั้นไฟเลี้ยวกับที่ปัดน้ำฝนเป็นปัญหาดังคำร่ำลือจริงๆครับ เพราะมันสลับกันทุกที55
พอกลับมาเมืองไทยยังงงติดมาด้วยเลย
2. คนเกาหลีค่อนข้างขับรถรีบร้อน ขับช้าเกินโดนบีบแตรไล่ครับ ตอนขับออกจากบริษัทใหม่ๆยังงงๆอยู่ก็เลยชิดขวาแล้วไปช้าๆ
ปรากฎว่าโดนไล่เลยนี่ขนาดเราอยู่เลนขวาสุดนะ สรุปแล้วในเมืองค่อนข้างขับยากสำหรับมือใหม่ แต่พออกนอกเมืองแล้วก็สบาย
3. ถนนถูกใช้งานทุกเลนครับ เลนขวาสุดติดทางเท้าก็ยังขับกันเร็วโดยเฉพาะในเมือง เพราะจะมีรถจอดข้างทางน้อยมากๆ
ไม่รู้เค้าห้ามจอดรึงัยเนี่ย ส่วนใหญ่จะจอดกันตามลานจอดและซอกซอย
4. Navigator ถึงเป็นภาษาเกาหลีแต่ใช้งานได้ดีมากเหมือนที่เค้าว่ากัน แค่มีเบอร์โทรศัพท์ที่ๆจะไปก็โอเคแล้ว
ฟังไม่รู้เรื่องแต่อาศัยชำเลืองหน้าจอเอาก็ใช้ได้ speed hump อะไรอยู่ตรงไหนเตือนหมด
แนะนำว่าควรศึกษาแผนที่เกาะเชจูให้ดีก่อนด้วยว่าอะไรที่เราจะไปมันอยู่ตรงไหน
5. ไฟแดงเยอะมากแต่ก็ประสิทธิภาพดีมากเช่นกัน เพราะทำงานประสานกันสุดๆ ขับผ่านไฟเขียวสิบอันไม่ต้องจอดเลยก็มี
6. เวลาจะเลี้ยวขวาผ่านตลอดแนะนำให้มองซ้ายมองขวาดีๆครับ ผมเองก็เกือบโดนชนไปแล้ว เพราะเหมือนที่บอกว่ารถที่ชิดขวา
มันจะมาเร็วครับไม่เหมือนเมืองไทย
7. รถเช่าในเกาะเชจูก็มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุพอควรครับ เพราะขับเสร็จคืนแรกนอนดูทีวีโรงแรมเป็นช่องข่าวท้องถิ่น(ภาคภาษาอังกฤษ)
ปรากฎสกู๊ปข่าวออกเลยว่า 10%ของอุบัติเหตุในเกาะเชจูเกิดจากรถเช่า พอฟังเสร็จอ้าวซวยแล้ว55 ยังไงๆก็ระวังกันหน่อยละกันครับ
วันสุดท้ายก็แค่ขัรถกลับไปคืนที่เดิมคือบริษัท จะมีพนักงานมารับรถถามแค่ว่ารถมีปัญหามั้ย บอกว่าไม่มี
ก็จอดทิ้งไว้แล้วก็ไปขึ้นรถบัสไปสนามบินได้เลยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที สรุปทั้งทริปเติมน้ำมันคืนไปครึ่งถัง(บอกเด็กปั๊มง่ายๆสั้นๆว่า full)
เล่าแค่นี้ละกันครับอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่จะลองไปขับบ้างไม่รู้นะครับ^^
แชร์ประสบการณ์เช่ารถขับในเกาะเชจู
เลยอยากแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ เพราะก่อนไปผมก็กล้าๆกลัวๆไม่เคยขับรถเมืองนอกมาก่อน
เลยมาตั้งคำถามเพื่อนๆในนี้ด้วย ก็ได้คำแนะนำดีๆติดตัวไปลองดูก็ต้องขอบคุณมากครับ^^
เที่ยวเสร็จกลับมาโดยสวัสดิภาพแล้วเลยอยากมาเล่าของจริงหน่อย
ผมเช่ารถของ KT kumho ครับ แต่ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นไม่รู้นะครับ ที่จองอันนี้เพราะเวบมันอ่านรู้เรื่องดี
แล้วก็โชว์ราคาเปิดเผย แถมกำหนดเวลาจองเป็นจำนวนชั่วโมงได้ ผมเลยเช่า 2 วันครึ่ง ราคา 120,000 krw แพงป่าวไม่รู้น้อ
พอไปถึงสนามบินเชจูแล้วก็ตรงไปที่เคาน์เตอร์เลยครับสังเกตง่ายๆมีเรียงกันหลายเจ้า พอโชว์ใบจองเสร็จก็ไปขึ้นรถบัส
เค้าก็พาไปส่งที่บริษัทอยู่ติดสนามบิน ก็ยื่นเอกสารใบขับขี่สากลอะไรให้เค้าแล้วก็ตัดบัตรเครดิตเลย
จากนั้นพนักงานก็พาไปที่รถสอนวิธีใช้ โดยเฉพาะ navigator (ภาษาเกาหลี T.T) ให้ตรวจสภาพรถถ่ายรูปอะไรเสร็จสรรพ
ก็เอารถออกได้ เร็วมากๆใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
สรุปลองขับอยู่สองวันครึ่งได้ข้อคิดดังนี้ครับ ผิดถูกยังไงถ้าใครชำนาญก็ช่วยแก้ให้ด้วยละกัน
1. รถพวงมาลัยซ้ายนั้นไฟเลี้ยวกับที่ปัดน้ำฝนเป็นปัญหาดังคำร่ำลือจริงๆครับ เพราะมันสลับกันทุกที55
พอกลับมาเมืองไทยยังงงติดมาด้วยเลย
2. คนเกาหลีค่อนข้างขับรถรีบร้อน ขับช้าเกินโดนบีบแตรไล่ครับ ตอนขับออกจากบริษัทใหม่ๆยังงงๆอยู่ก็เลยชิดขวาแล้วไปช้าๆ
ปรากฎว่าโดนไล่เลยนี่ขนาดเราอยู่เลนขวาสุดนะ สรุปแล้วในเมืองค่อนข้างขับยากสำหรับมือใหม่ แต่พออกนอกเมืองแล้วก็สบาย
3. ถนนถูกใช้งานทุกเลนครับ เลนขวาสุดติดทางเท้าก็ยังขับกันเร็วโดยเฉพาะในเมือง เพราะจะมีรถจอดข้างทางน้อยมากๆ
ไม่รู้เค้าห้ามจอดรึงัยเนี่ย ส่วนใหญ่จะจอดกันตามลานจอดและซอกซอย
4. Navigator ถึงเป็นภาษาเกาหลีแต่ใช้งานได้ดีมากเหมือนที่เค้าว่ากัน แค่มีเบอร์โทรศัพท์ที่ๆจะไปก็โอเคแล้ว
ฟังไม่รู้เรื่องแต่อาศัยชำเลืองหน้าจอเอาก็ใช้ได้ speed hump อะไรอยู่ตรงไหนเตือนหมด
แนะนำว่าควรศึกษาแผนที่เกาะเชจูให้ดีก่อนด้วยว่าอะไรที่เราจะไปมันอยู่ตรงไหน
5. ไฟแดงเยอะมากแต่ก็ประสิทธิภาพดีมากเช่นกัน เพราะทำงานประสานกันสุดๆ ขับผ่านไฟเขียวสิบอันไม่ต้องจอดเลยก็มี
6. เวลาจะเลี้ยวขวาผ่านตลอดแนะนำให้มองซ้ายมองขวาดีๆครับ ผมเองก็เกือบโดนชนไปแล้ว เพราะเหมือนที่บอกว่ารถที่ชิดขวา
มันจะมาเร็วครับไม่เหมือนเมืองไทย
7. รถเช่าในเกาะเชจูก็มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุพอควรครับ เพราะขับเสร็จคืนแรกนอนดูทีวีโรงแรมเป็นช่องข่าวท้องถิ่น(ภาคภาษาอังกฤษ)
ปรากฎสกู๊ปข่าวออกเลยว่า 10%ของอุบัติเหตุในเกาะเชจูเกิดจากรถเช่า พอฟังเสร็จอ้าวซวยแล้ว55 ยังไงๆก็ระวังกันหน่อยละกันครับ
วันสุดท้ายก็แค่ขัรถกลับไปคืนที่เดิมคือบริษัท จะมีพนักงานมารับรถถามแค่ว่ารถมีปัญหามั้ย บอกว่าไม่มี
ก็จอดทิ้งไว้แล้วก็ไปขึ้นรถบัสไปสนามบินได้เลยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที สรุปทั้งทริปเติมน้ำมันคืนไปครึ่งถัง(บอกเด็กปั๊มง่ายๆสั้นๆว่า full)
เล่าแค่นี้ละกันครับอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่จะลองไปขับบ้างไม่รู้นะครับ^^