ผมก็เป็นเพียงคนธรรมดาๆ เหมือนพวกคุณนั่นแหละ เป็นคนโสดทั่วๆไปที่หาได้ตามแผงปลาทู
ผมมองความโสดเป็นประตูบานหนึ่ง มันไม่ได้แปลว่าเมื่อเราเปิดประตูบานนั้นออกไปเราจะพบใครบางคนยืนอนู่ที่ประตู
บางทีเราเปิดออกมาเราไม่พบใครเลย ตุณอาจไม่พบคน แต่อย่าลืมว่า ประตูเป็นทางเชื่อมของสถานที่หนึ่ง
เมื่อเราเปิดออกยังไงเราก็ต้องพบอีกที่หนึ่ง
ไม่จำเป็นต้องเปิดแล้วพบคนเสมอไป
ในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาผมเป็นควาย สองครั้งในรอบสามปี (ควายล้วนๆไม่มีวัวปน) จนเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเคยบอกกับผมว่า "ชีวิตรักนี่สั้นเหมือนอายุแกงถุงเลยนะ" ผมได้ยินแบบนั้นตอนนั้นมันจุกมาก แต่ตอนนี้พอมันผ่านไปสำหรับผมแล้ว เห้ยมันเป็นเรื่องที่

โคตรตลกเลยว่ะ ก็แค่โดนหลอกไม่ได้ตาย
ทุกวันนี้ผมกับผู้หญิงคนหนึ่งเราได้เลิกกันมาระยะเวลาพักหนึ่งละ เธอคนนั้นคือคนที่ผมรักที่สุด(เสมอและตลอดไป) เราจบกันด้วยดีทุกวันนี้เธอคือเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งนะ เวลาผมเห็นข้อความที่บอกว่า "คนที่เลิกกันแล้วเป็นเพื่อนกันได้เนี่ย เขาไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก"คือ

โคตรไร้สาระเลยอะไรแบบนี้ ใครมันคิดแบบนี้วะ ผมยังคงรักเธอนะแต่คงไม่กลับไปคบกัน ให้ต่างฝ่ายต่างเดินทางทำในสิ่งที่อยากทำ ทำฝันตัวเอง ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ในรูปแบบของแต่ละคน
การโสดมาพักหนึ่งผมก็ว่ามันดี มันไม่ได้เหงาเลยนะความโสดเนี่ย และมันไม่ได้น่ากลัวเลยคือ แค่โสดป่ะวะไม่ใช่ซอมบี้บุกโลก(เออ ถ้ามันบุกจริงชีวิตก็ตื่นเต้นดี) ความสุขที่มันมาคู่กับความโสดมันมีจริงๆนะ ทุกคนในหนึ่งวันมีเวลาเท่ากัน ไม่ใช่ว่าใครบางคนมีกลางคืนยาวนานกว่าคนอื่น ทุกคนล้วนมีกลางวันกลางคืนเท่ากัน หลังจากเลิกกับเธอ ผมตัดสินใจกลับบ้านเพื่อสวมบทเกษตรกรเต็มตัวเต็มเวลา ว่างก็มานั่งเขียนบทความ อยู่บ้านสวนคนเดียวบ้านโล่งๆว่างๆ แต่มันไม่ว่างเปล่า รอบตัวข้างตัวผมทำให้มันมีความสุขได้หมด ผมว่านะจริงๆแล้วคนเราทุกคนสร้างความสุขเองได้ เล็กๆน้อยๆ ก็คือความสุข มันไม่จำเป็นว่าต้องสุขระยะยาว สุขถาวร สุขแท้จริง ความสุขคือความสุข พรุ่งนี้อาจไม่ตื่นก็เป็นได้ วันนี้ตื่นอยู่ก็หาความสุขสิ ไม่เบียดเบียนใคร ม่เดือดร้อนตัวเองหรือคนอื่นก็พอแล้ว
ทีนี้มาดูข้อดีของความโสดในมุมมองของผมนะ
1.คุณมีเวลาตามหาตัวเอง
เชื่อว่าหลายๆคนในโลกนี้ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ยังไม่ค้นพบตัวตนของตัวเอง(ใครที่หาตัวเองเจอสำหรับผมคุณคือคนที่เจ๋งครับ) ช่วงเวลาโสดนี่แหละดีหาตัวเองให้เจอบอกเลยว่าช่วงที่เราจมดิ่งอยู่กับห้วงของความเศร้า จมดิ่งอยู่กับตัวเองเนี่ยเป็นอะไรที่ทำให้เราหาตัวเองได้วิธีหนึ่งนะสำหรับผม ช่วงนั้นคือแบบเศร้านะ แต่ใจบอกว่าจะเศร้าทำไม ออกไปหาตัวตนของตัวเองดิ แล้วผมก็ทำตามใจผมจนหาตัวผมเจอ พอคุณหาตัวเองเจอคุณก็จะเจอเป้าหมายในชีวิตของคุณ
2.คุณมีเวลาศึกษาหาความรู้เพื่อเติม
หนังสือหนังหาในโลกนี้มีเป็นล้านเล่ม ช่วงที่คุณมีแฟนหรืออะไรคุณไม่สามารถอ่านหนังสือได้ทั้งวันหรอกเชื่อผมเลย อ่านได้เต็มที่ อยากไปเรียนดำน้ำ ทำอาหาร โยคะ ยิงปืน ยิงธนู เรียนดนตรี เรียนวาดภาพ เรียนนี่นนั่นที่อยากเรียน ช่วงนี้แหละคุณ เหมาะมากเวลาทั้งโลกเป็นของคุณ
3.ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น
หากคุณมีแฟนแล้วทะเลาะกันก่อนคุณไปทำงานเชื่อได้เลยวันนั้นคุณพังทั้งวัน เวลาโสด คุณสามารถโฟกัสไปยังเป้าหมายไปยังงานที่ต้องรับผิดชอบได้เต็มที่ จำไว้ว่างานคือเงิน เงินบันดาลความสุข...ไม่ใช่ทุนนิยมแต่เรายังอยู่ในโลกที่ต้องใช้เงิน
4.มีเงินเหลือมากขึ้น
ตอนนี้ตัวคุณคนเดียวกินก็กินคนเดียว นอนคนเดียว เที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ไม่ต้องบวกเพิ่มอีกคน เงินเหลือมากขึ้นทำอะไรได้มากขึ้น บางสิ่งคุณอยากได้และมันคุ้มค่ากับคุณคุณก็สามารถซื้อมันได้
5.คุณอยู่ในโลกส่วนตัวของคุณได้ทั้งวัน
ทุกคนล้วนแล้วมีโลกส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวน ใช้มันซะ ใช้มันให้พอ ใช้มันให้เต็มที่ สนุกไปกับมัน ไม่มีใครมารบกวนคุณ
6.คุณได้ทำในสิ่งที่ตนอยากทำ
อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมั้ง
6 ข้อที่กล่าวมาเป็นเพียงมุมมองของผมนะ แต่ละคนแล้วการใช้ชีวิตแตกต่างกันไม่เหมือนกันนะ ใครจะมองความโสดยังไงก็แล้วแต่บุคคลนั้น ผมเพียงแต่อยากแชร์มุมมองความโสดของผมเท่านั้นเอง จริงๆแล้วข้อดีของความโสดนั้นยังมีอีกเยอะ โสดไม่จำเป็นต้องเหงา มีแฟนแล้วเหงามีเยอะแยะไป
ความโสดไม่ได้ฆ่าใคร แต่ความเหงาต่างหากที่ทำให้ชีวิตคุณสั้นลง
แล้วจะจัดการรับมือกับความเหงาอย่างไร สำหรับผมแล้วผม ผมเลือกใช้ชีวิตดื่มด่ำกับความสุขรอบๆตัว แม้จะเป็นอะไรที่เล็กๆน้อยๆแต่เราสามารถดื่มด่ำไปกับมันจนเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ได้ เสพสิ่งที่สร้างสุนทรีย์ในชีวิต หนัง เพลง หนังสือ งานแสดง ศิลปะ ไปเสพมันไปดูมัน ทุกวันนี้ยังคงไม่เข้าใจว่า เวลาอกหักทำไมต้องเสพแต่ บทความ เพลง หนังเศร้าๆเหงาๆเจ็บปวดๆ(แต่ผมก็ชอบอ่านชอบฟังงานแบบนั้นนะเวลาอกหักเหมือนกันนะไม่รู้ทำไม ฮา)
บางทีลองใช้ชีวิตแบบเพลง วันสบาย ของ อภิรมย์ มันก็ดีนะ ชีวิตคุณจะดีขึ้นเลย
มักจะมีหลายๆคนถามผมว่า"โสดเนี่ย แล้วอยู่บ้านคนเดียว ไม่เหงาเหรอวะ"
เหงาทำไมครับ ใช้ชีวิตให้สนุกก็ไม่เหงาแล้ว สร้างความสุขจากสิ่งรอบตัวสิ เบื่อๆนั่งๆนอนๆก็คว้าจักรยานออกไปปั่นรับลม แสงแดดสายลมเพลินๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว คนเมืองชีวิตรีบเร่งใช่ว่าจะหาความสุขไม่ได้ ความสุขอยู่รอบตัวคุณเสมอนะครับมองหามันดีๆแล้วคุณจะพบมัน
อีกอย่างคือ เปิดรับคนใหม่ๆเข้ามา ไม่จำเป็นต้องจมทุกข์แล้วปิดตัวเองครับ เปิดรับคนเข้ามา ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน เพื่อนใหม่ๆหรืออะไรก็ตามแต่
นั่งคุยกันเพลินๆ แลกเปลี่ยนมุมองต่างๆ พูดคุยสาระไร้สาระตามแต่ อย่าปิดตัวเองครับ ยิ่งปิดยิ่งทุกข์ครับผม ใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆ ไม่ใช่ slow life แต่เป็น Minimal life ง่ายๆ สบายๆ
โสดแสนสุข.
โสดแสนสุข
ผมมองความโสดเป็นประตูบานหนึ่ง มันไม่ได้แปลว่าเมื่อเราเปิดประตูบานนั้นออกไปเราจะพบใครบางคนยืนอนู่ที่ประตู
บางทีเราเปิดออกมาเราไม่พบใครเลย ตุณอาจไม่พบคน แต่อย่าลืมว่า ประตูเป็นทางเชื่อมของสถานที่หนึ่ง
เมื่อเราเปิดออกยังไงเราก็ต้องพบอีกที่หนึ่ง
ไม่จำเป็นต้องเปิดแล้วพบคนเสมอไป
ในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาผมเป็นควาย สองครั้งในรอบสามปี (ควายล้วนๆไม่มีวัวปน) จนเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเคยบอกกับผมว่า "ชีวิตรักนี่สั้นเหมือนอายุแกงถุงเลยนะ" ผมได้ยินแบบนั้นตอนนั้นมันจุกมาก แต่ตอนนี้พอมันผ่านไปสำหรับผมแล้ว เห้ยมันเป็นเรื่องที่
ทุกวันนี้ผมกับผู้หญิงคนหนึ่งเราได้เลิกกันมาระยะเวลาพักหนึ่งละ เธอคนนั้นคือคนที่ผมรักที่สุด(เสมอและตลอดไป) เราจบกันด้วยดีทุกวันนี้เธอคือเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งนะ เวลาผมเห็นข้อความที่บอกว่า "คนที่เลิกกันแล้วเป็นเพื่อนกันได้เนี่ย เขาไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก"คือ
การโสดมาพักหนึ่งผมก็ว่ามันดี มันไม่ได้เหงาเลยนะความโสดเนี่ย และมันไม่ได้น่ากลัวเลยคือ แค่โสดป่ะวะไม่ใช่ซอมบี้บุกโลก(เออ ถ้ามันบุกจริงชีวิตก็ตื่นเต้นดี) ความสุขที่มันมาคู่กับความโสดมันมีจริงๆนะ ทุกคนในหนึ่งวันมีเวลาเท่ากัน ไม่ใช่ว่าใครบางคนมีกลางคืนยาวนานกว่าคนอื่น ทุกคนล้วนมีกลางวันกลางคืนเท่ากัน หลังจากเลิกกับเธอ ผมตัดสินใจกลับบ้านเพื่อสวมบทเกษตรกรเต็มตัวเต็มเวลา ว่างก็มานั่งเขียนบทความ อยู่บ้านสวนคนเดียวบ้านโล่งๆว่างๆ แต่มันไม่ว่างเปล่า รอบตัวข้างตัวผมทำให้มันมีความสุขได้หมด ผมว่านะจริงๆแล้วคนเราทุกคนสร้างความสุขเองได้ เล็กๆน้อยๆ ก็คือความสุข มันไม่จำเป็นว่าต้องสุขระยะยาว สุขถาวร สุขแท้จริง ความสุขคือความสุข พรุ่งนี้อาจไม่ตื่นก็เป็นได้ วันนี้ตื่นอยู่ก็หาความสุขสิ ไม่เบียดเบียนใคร ม่เดือดร้อนตัวเองหรือคนอื่นก็พอแล้ว
ทีนี้มาดูข้อดีของความโสดในมุมมองของผมนะ
1.คุณมีเวลาตามหาตัวเอง
เชื่อว่าหลายๆคนในโลกนี้ไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ยังไม่ค้นพบตัวตนของตัวเอง(ใครที่หาตัวเองเจอสำหรับผมคุณคือคนที่เจ๋งครับ) ช่วงเวลาโสดนี่แหละดีหาตัวเองให้เจอบอกเลยว่าช่วงที่เราจมดิ่งอยู่กับห้วงของความเศร้า จมดิ่งอยู่กับตัวเองเนี่ยเป็นอะไรที่ทำให้เราหาตัวเองได้วิธีหนึ่งนะสำหรับผม ช่วงนั้นคือแบบเศร้านะ แต่ใจบอกว่าจะเศร้าทำไม ออกไปหาตัวตนของตัวเองดิ แล้วผมก็ทำตามใจผมจนหาตัวผมเจอ พอคุณหาตัวเองเจอคุณก็จะเจอเป้าหมายในชีวิตของคุณ
2.คุณมีเวลาศึกษาหาความรู้เพื่อเติม
หนังสือหนังหาในโลกนี้มีเป็นล้านเล่ม ช่วงที่คุณมีแฟนหรืออะไรคุณไม่สามารถอ่านหนังสือได้ทั้งวันหรอกเชื่อผมเลย อ่านได้เต็มที่ อยากไปเรียนดำน้ำ ทำอาหาร โยคะ ยิงปืน ยิงธนู เรียนดนตรี เรียนวาดภาพ เรียนนี่นนั่นที่อยากเรียน ช่วงนี้แหละคุณ เหมาะมากเวลาทั้งโลกเป็นของคุณ
3.ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น
หากคุณมีแฟนแล้วทะเลาะกันก่อนคุณไปทำงานเชื่อได้เลยวันนั้นคุณพังทั้งวัน เวลาโสด คุณสามารถโฟกัสไปยังเป้าหมายไปยังงานที่ต้องรับผิดชอบได้เต็มที่ จำไว้ว่างานคือเงิน เงินบันดาลความสุข...ไม่ใช่ทุนนิยมแต่เรายังอยู่ในโลกที่ต้องใช้เงิน
4.มีเงินเหลือมากขึ้น
ตอนนี้ตัวคุณคนเดียวกินก็กินคนเดียว นอนคนเดียว เที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ไม่ต้องบวกเพิ่มอีกคน เงินเหลือมากขึ้นทำอะไรได้มากขึ้น บางสิ่งคุณอยากได้และมันคุ้มค่ากับคุณคุณก็สามารถซื้อมันได้
5.คุณอยู่ในโลกส่วนตัวของคุณได้ทั้งวัน
ทุกคนล้วนแล้วมีโลกส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวน ใช้มันซะ ใช้มันให้พอ ใช้มันให้เต็มที่ สนุกไปกับมัน ไม่มีใครมารบกวนคุณ
6.คุณได้ทำในสิ่งที่ตนอยากทำ
อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมั้ง
6 ข้อที่กล่าวมาเป็นเพียงมุมมองของผมนะ แต่ละคนแล้วการใช้ชีวิตแตกต่างกันไม่เหมือนกันนะ ใครจะมองความโสดยังไงก็แล้วแต่บุคคลนั้น ผมเพียงแต่อยากแชร์มุมมองความโสดของผมเท่านั้นเอง จริงๆแล้วข้อดีของความโสดนั้นยังมีอีกเยอะ โสดไม่จำเป็นต้องเหงา มีแฟนแล้วเหงามีเยอะแยะไป
ความโสดไม่ได้ฆ่าใคร แต่ความเหงาต่างหากที่ทำให้ชีวิตคุณสั้นลง
แล้วจะจัดการรับมือกับความเหงาอย่างไร สำหรับผมแล้วผม ผมเลือกใช้ชีวิตดื่มด่ำกับความสุขรอบๆตัว แม้จะเป็นอะไรที่เล็กๆน้อยๆแต่เราสามารถดื่มด่ำไปกับมันจนเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ได้ เสพสิ่งที่สร้างสุนทรีย์ในชีวิต หนัง เพลง หนังสือ งานแสดง ศิลปะ ไปเสพมันไปดูมัน ทุกวันนี้ยังคงไม่เข้าใจว่า เวลาอกหักทำไมต้องเสพแต่ บทความ เพลง หนังเศร้าๆเหงาๆเจ็บปวดๆ(แต่ผมก็ชอบอ่านชอบฟังงานแบบนั้นนะเวลาอกหักเหมือนกันนะไม่รู้ทำไม ฮา)
บางทีลองใช้ชีวิตแบบเพลง วันสบาย ของ อภิรมย์ มันก็ดีนะ ชีวิตคุณจะดีขึ้นเลย
มักจะมีหลายๆคนถามผมว่า"โสดเนี่ย แล้วอยู่บ้านคนเดียว ไม่เหงาเหรอวะ"
เหงาทำไมครับ ใช้ชีวิตให้สนุกก็ไม่เหงาแล้ว สร้างความสุขจากสิ่งรอบตัวสิ เบื่อๆนั่งๆนอนๆก็คว้าจักรยานออกไปปั่นรับลม แสงแดดสายลมเพลินๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว คนเมืองชีวิตรีบเร่งใช่ว่าจะหาความสุขไม่ได้ ความสุขอยู่รอบตัวคุณเสมอนะครับมองหามันดีๆแล้วคุณจะพบมัน
อีกอย่างคือ เปิดรับคนใหม่ๆเข้ามา ไม่จำเป็นต้องจมทุกข์แล้วปิดตัวเองครับ เปิดรับคนเข้ามา ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน เพื่อนใหม่ๆหรืออะไรก็ตามแต่
นั่งคุยกันเพลินๆ แลกเปลี่ยนมุมองต่างๆ พูดคุยสาระไร้สาระตามแต่ อย่าปิดตัวเองครับ ยิ่งปิดยิ่งทุกข์ครับผม ใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆ ไม่ใช่ slow life แต่เป็น Minimal life ง่ายๆ สบายๆ
โสดแสนสุข.