...ครั้งนี้ ดิฉันเป็นพระธิดาที่พอพระทัยกรุณาโปรดปราน
ของพระเจ้ามัททราช ในสากลนครอันอุดม พร้อมกับเมื่อดิฉันเกิด
พระนครนั้นได้มีความเกษมสุข โดยคุณนิรมิตนั้น ชื่อดิฉันปรากฏว่า
เขมา เมื่อใด ดิฉันเจริญวัยโตเป็นสาว มีรูปและผิวพรรณงาม เมื่อ
นั้น พระราชบิดาก็โปรดปรานประทาน ดิฉันแก่พระเจ้าพิมพิสาร
ดิฉันเป็นที่โปรดปรานของพระราชสวามียินดีแต่ในการบำรุงรูป ไม่
พอใจคนที่กล่าวโทษรูปเป็นอันมาก ครั้งนั้น พระเจ้าพิมพิสารโปรด
ให้นักขับร้องขับเพลงพรรณนาพระมหาวิหารเวฬุวัน ด้วยพระ
ประสงค์จะทรงอนุเคราะห์ดิฉัน ดิฉันสำคัญว่าพระมหาวิหารเวฬุวัน
อันเป็นที่ประทับแห่งพระสุคตเจ้าเป็นที่น่ารื่นรมย์ผู้ใดยังมิได้เห็นก็
จัดว่าผู้นั้นยังไม่เห็นนันทวัน พระมหาวิหารเวฬุวันเป็นดังว่านันทวัน
อันเป็นที่เพลิดเพลินของนรชน ผู้ใดได้เห็นแล้ว นับว่าผู้นั้นเห็นดี
แล้ว ซึ่งนันทวัน อันเป็นที่เพลิดเพลิน ของท้าวอมรินทร์ สักก-
เทวราชทวยเทพละนันทวันแล้วลงมาที่พื้นดินเห็นพระมหาวิหาร-
เวฬุวันอันน่ารื่นรมย์เข้าแล้ว ก็อัศจรรย์ใจเพลินชมมิได้เบื่อ พระ-
มหาวิหารเวฬุวันเกิดขึ้นเพราะบุญของพระราชา อันบุญญานุภาพ
แห่งพระพุทธเจ้าประดับแล้ว ใครเล่าจะกล่าวถึงความเจริญด้วยคุณ
แห่งพระมหาวิหารเวฬุวันให้จบได้ครั้งนั้นดิฉันได้ฟังความสำเร็จแห่ง
พระมหาวิหารเวฬุวันอันเป็นที่ชอบโสตและชอบใจแล้วประสงค์จะ
เห็นดิฉันจึงได้กราบทูลพระราชา ครั้งนั้น ท้าวมหิบดีจึงโปรดสั่งดิฉัน
ผู้มุ่งจะชมพระมหาวิหารเวฬุวัน พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมาก ด้วย
พระดำรัสว่า พระนางผู้มีสมบัติมาก เชิญเสด็จไปชม พระมหาวิหาร
เวฬุวัน อันเป็นที่เย็นตา เปล่งปลั่งด้วยพระรัศมีแห่งพระสุคตเจ้า
งามด้วยสิริทุกสมัย ดิฉันทูลว่า เมื่อใด พระพุทธมุนีเสด็จเข้ามา
ทรงบาตรในพระนครราชคฤห์อันอุดม เมื่อนั้น หม่อมฉันจะเข้าไป
ชมพระมหาวิหารเวฬุวัน เวลานั้น พระมหาวิหารเวฬุวันมีสวน
ดอกไม้กำลังแย้มบาน วู่ว่อนไปด้วยภมรต่างๆ ชนิด และมีเสียง
นกดุเหว่าร่ำร้องดังเพลงขับ ทั้งมีเหล่านกยูงฟ้อนรำ เงียบเสียง ไม่
พลุกพล่าน ประดับไปด้วยที่จงกรมต่างๆ สะพรั่งไปด้วยกุฎีและ
มณฑปที่พระโยคีชอบปรารภบำเพ็ญเพียร เมื่อดิฉันเที่ยวไปได้รู้สึก
ว่านัยน์ตาของเรามีผล ครั้งนั้น ดิฉันได้เห็นภิกษุรูปหนึ่งประกอบกิจ
อยู่ แล้วคิดไปว่า ภิกษุนี้ตั้งอยู่ในปฐมวัย มีรูปน่าปรารถนา ปฏิบัติ
ดีอยู่ในป่าที่น่ารื่นรมย์เช่นนี้ เหมือนคนอยู่ในที่มืด ภิกษุนี้ศีรษะโล้น
คลุมสังฆาฏินั่งอยู่ที่โคนไม้ ละความยินดีที่เกิดแต่อารมณ์เจริญฌาน
อยู่ธรรมดาคฤหัสถ์ควรจะบริโภคกามตามความสุข แก่แล้วจึงควรจะ
ประพฤติธรรมอันเจริญงามนี้ในภายหลัง ดิฉันสำคัญว่าพระคันธกุฎี
ที่ประทับแห่งพระพิชิตมารว่างเปล่าจึงเข้าไป ได้เห็นพระพิชิตมาร
ดังดวงอาทิตย์แรกอุทัย ประทับสำราญพระองค์เดียว มีหญิงสาว
สวยพัดถวายอยู่
ว่าด้วยบุพจริยาของพระเขมาเถรี
ของพระเจ้ามัททราช ในสากลนครอันอุดม พร้อมกับเมื่อดิฉันเกิด
พระนครนั้นได้มีความเกษมสุข โดยคุณนิรมิตนั้น ชื่อดิฉันปรากฏว่า
เขมา เมื่อใด ดิฉันเจริญวัยโตเป็นสาว มีรูปและผิวพรรณงาม เมื่อ
นั้น พระราชบิดาก็โปรดปรานประทาน ดิฉันแก่พระเจ้าพิมพิสาร
ดิฉันเป็นที่โปรดปรานของพระราชสวามียินดีแต่ในการบำรุงรูป ไม่
พอใจคนที่กล่าวโทษรูปเป็นอันมาก ครั้งนั้น พระเจ้าพิมพิสารโปรด
ให้นักขับร้องขับเพลงพรรณนาพระมหาวิหารเวฬุวัน ด้วยพระ
ประสงค์จะทรงอนุเคราะห์ดิฉัน ดิฉันสำคัญว่าพระมหาวิหารเวฬุวัน
อันเป็นที่ประทับแห่งพระสุคตเจ้าเป็นที่น่ารื่นรมย์ผู้ใดยังมิได้เห็นก็
จัดว่าผู้นั้นยังไม่เห็นนันทวัน พระมหาวิหารเวฬุวันเป็นดังว่านันทวัน
อันเป็นที่เพลิดเพลินของนรชน ผู้ใดได้เห็นแล้ว นับว่าผู้นั้นเห็นดี
แล้ว ซึ่งนันทวัน อันเป็นที่เพลิดเพลิน ของท้าวอมรินทร์ สักก-
เทวราชทวยเทพละนันทวันแล้วลงมาที่พื้นดินเห็นพระมหาวิหาร-
เวฬุวันอันน่ารื่นรมย์เข้าแล้ว ก็อัศจรรย์ใจเพลินชมมิได้เบื่อ พระ-
มหาวิหารเวฬุวันเกิดขึ้นเพราะบุญของพระราชา อันบุญญานุภาพ
แห่งพระพุทธเจ้าประดับแล้ว ใครเล่าจะกล่าวถึงความเจริญด้วยคุณ
แห่งพระมหาวิหารเวฬุวันให้จบได้ครั้งนั้นดิฉันได้ฟังความสำเร็จแห่ง
พระมหาวิหารเวฬุวันอันเป็นที่ชอบโสตและชอบใจแล้วประสงค์จะ
เห็นดิฉันจึงได้กราบทูลพระราชา ครั้งนั้น ท้าวมหิบดีจึงโปรดสั่งดิฉัน
ผู้มุ่งจะชมพระมหาวิหารเวฬุวัน พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมาก ด้วย
พระดำรัสว่า พระนางผู้มีสมบัติมาก เชิญเสด็จไปชม พระมหาวิหาร
เวฬุวัน อันเป็นที่เย็นตา เปล่งปลั่งด้วยพระรัศมีแห่งพระสุคตเจ้า
งามด้วยสิริทุกสมัย ดิฉันทูลว่า เมื่อใด พระพุทธมุนีเสด็จเข้ามา
ทรงบาตรในพระนครราชคฤห์อันอุดม เมื่อนั้น หม่อมฉันจะเข้าไป
ชมพระมหาวิหารเวฬุวัน เวลานั้น พระมหาวิหารเวฬุวันมีสวน
ดอกไม้กำลังแย้มบาน วู่ว่อนไปด้วยภมรต่างๆ ชนิด และมีเสียง
นกดุเหว่าร่ำร้องดังเพลงขับ ทั้งมีเหล่านกยูงฟ้อนรำ เงียบเสียง ไม่
พลุกพล่าน ประดับไปด้วยที่จงกรมต่างๆ สะพรั่งไปด้วยกุฎีและ
มณฑปที่พระโยคีชอบปรารภบำเพ็ญเพียร เมื่อดิฉันเที่ยวไปได้รู้สึก
ว่านัยน์ตาของเรามีผล ครั้งนั้น ดิฉันได้เห็นภิกษุรูปหนึ่งประกอบกิจ
อยู่ แล้วคิดไปว่า ภิกษุนี้ตั้งอยู่ในปฐมวัย มีรูปน่าปรารถนา ปฏิบัติ
ดีอยู่ในป่าที่น่ารื่นรมย์เช่นนี้ เหมือนคนอยู่ในที่มืด ภิกษุนี้ศีรษะโล้น
คลุมสังฆาฏินั่งอยู่ที่โคนไม้ ละความยินดีที่เกิดแต่อารมณ์เจริญฌาน
อยู่ธรรมดาคฤหัสถ์ควรจะบริโภคกามตามความสุข แก่แล้วจึงควรจะ
ประพฤติธรรมอันเจริญงามนี้ในภายหลัง ดิฉันสำคัญว่าพระคันธกุฎี
ที่ประทับแห่งพระพิชิตมารว่างเปล่าจึงเข้าไป ได้เห็นพระพิชิตมาร
ดังดวงอาทิตย์แรกอุทัย ประทับสำราญพระองค์เดียว มีหญิงสาว
สวยพัดถวายอยู่