ชาวอุยกูร์หลบหนีจากจีน เกี่ยวข้องก่อการร้าย ?

สำนักข่าวซินหัวสื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน
ยืนยันในวันนี้ว่า ผู้อพยพโดยผิดกฎหมาย
ทั้งหมด 109 คน
ที่ถูกส่งตัวจากไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อยู่ระหว่างการเตรียมตัวเดินทาง
ไปยังตุรกี,ซีเรีย,อิรัก เพื่อร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย
ในตะวันออกกลาง
รายงานได้อ้างข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงฯ
ว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน
สามารถเปิดโปงกลุ่มนอกกฎหมายในตุรกี
ที่ทำการจัดหาสมาชิกใหม่
เพื่อเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายได้หลายกลุ่ม
และยังพบว่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตตุรกี
ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศ
ได้ให้ความสะดวกแก่การเคลื่อนย้ายผู้คน
โดยผิดกฎหมายเหล่านี้
ในบรรดาผู้อพยพ 109 คน
ที่ถูกส่งตัวกลับมี 13 ราย ที่หลบหนีจากจีน
หลังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
และอีก 2 รายที่หลบหนีการควบคุมตัว
โดยกลุ่มจัดหาสมาชิกใหม่กลุ่มต่างๆ
ได้นำเอาแนวคิดทางศาสนาแบบสุดโต่ง
มาโน้มนำให้ประชาชน
เดินทางไปยังซีเรียและอิรักเพื่อทำสงครามศาสนา
ผู้อพยพผิดกฎหมายเมื่อเดินทางถึงตุรกีหลายคน
ซึ่งนำโดยกลุ่มขบวนการอิสลาม
เตอกิสถานตะวันออก
(ETIM)
จะเดินทางไปยังซีเรียเพื่อทำการร่วมรบ
ส่วนใครที่ไม่ได้เดินทางไปถึงซีเรีย
ก็เข้าร่วมการก่อการร้าย
ไม่ว่าที่ใดก็ตามที่ตัวเองหยุดพัก
โดยยกตัวอย่าง
เหตุการณ์การโจมตีในมณฑลยูนนาน
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี 2014
ว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย
ที่ไม่สามารถหลบหนีออกจากจีนได้
โดยผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า
กลุ่มหัวรุนแรงที่ได้รับการปลูกฝังโดย ETIM
ซึ่งถูกนำไปฝึกในซีเรียและอิรัก
ก่อนกลับมายังจีน
เพื่อขยายเครือข่ายก่อการร้าย
และเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหลายครั้ง
จากแถลงการณ์ของกระทรวงความมั่นคงฯ
โดย CCTV
สื่อโทรทัศน์ของรัฐบาลจีนยังได้เผยแพร่ภาพ
ของกลุ่มชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวไปจากประเทศไทย
ซึ่งจากภาพชาวอุยกูร์เหล่านี้ถูกปฏิบัติ
ราวกับเป็นนักโทษร้ายแรง
โดยมีการใช้ผ้าสีดำคลุมศีรษะ
ขณะควบคุมตัวไว้ด้วย
ก่อนหน้านี้
พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวว่า ผู้อพยพที่ถูกทางการไทย
ส่งไปยังประเทศจีนนั้น
ทางจีนยืนยันว่า
จะดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม
ไม่มีการประหารชีวิต
ใครไม่เกี่ยวก็จะจัดสรรที่ทำกินให้
และดูแลอย่างดี
ทั้งนี้ ไทยตอบรับคำเชิญ
ในการไปตรวจสอบชาวอุยกูร์
พร้อมเชิญองค์กรต่างๆ ไปดูด้วย
อย่างไรก็ดี
ตามประมวลกฎหมายอาญาของจีน
ในหมวดว่าด้วยอาชญากรรมอันเป็นอันตราย
ต่อความมั่นคงสาธารณะนั้น
ในหลายความผิด
ได้ระบุโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตไว้ด้วย
ทั้งนี้
ก่อนหน้านี้ไทยและจีนถูกโจมตีอย่างหนัก
จากนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ
เช่น สำนักงานข้าหลวงใหญ่
เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ที่ออกมาแสดงความกังวลต่อกรณีนี้
โดยระบุว่า ชาวอุยกูร์ที่ถูกผลักดันกลับ
โดยไม่สมัครใจกลุ่มนี้
เผชิญความเสี่ยงอย่างสูง ที่จะถูกทรมาน
ซึ่งเป็นการละเมิด
หลักการห้ามผลักดันกลับโดยไม่สมัครใจ
(non-refoulement principle)
ซึ่งรับรองไว้ในมาตรา 3
ของอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน
และการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรี
ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก
การส่งชาวอุยกูร์กลุ่มนี้กลับไปประเทศจีน
ทำให้ประเทศไทยละเมิดต่อพันธกรณี
ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ชาวมุสลิมอุยกูร์หลบหนีจากจีน 13 รายเกี่ยวข้องก่อการร้าย 2 รายหลบหนีการควบคุมตัว เพียงเพื่อหวังทำสงครามศาสนาจริงหรือ ?
สำนักข่าวซินหัวสื่อรัฐบาลจีนรายงานว่า
กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน
ยืนยันในวันนี้ว่า ผู้อพยพโดยผิดกฎหมาย
ทั้งหมด 109 คน
ที่ถูกส่งตัวจากไทยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อยู่ระหว่างการเตรียมตัวเดินทาง
ไปยังตุรกี,ซีเรีย,อิรัก เพื่อร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย
ในตะวันออกกลาง
รายงานได้อ้างข้อมูลจากกระทรวงความมั่นคงฯ
ว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน
สามารถเปิดโปงกลุ่มนอกกฎหมายในตุรกี
ที่ทำการจัดหาสมาชิกใหม่
เพื่อเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายได้หลายกลุ่ม
และยังพบว่าเจ้าหน้าที่ทางการทูตตุรกี
ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศ
ได้ให้ความสะดวกแก่การเคลื่อนย้ายผู้คน
โดยผิดกฎหมายเหล่านี้
ในบรรดาผู้อพยพ 109 คน
ที่ถูกส่งตัวกลับมี 13 ราย ที่หลบหนีจากจีน
หลังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
และอีก 2 รายที่หลบหนีการควบคุมตัว
โดยกลุ่มจัดหาสมาชิกใหม่กลุ่มต่างๆ
ได้นำเอาแนวคิดทางศาสนาแบบสุดโต่ง
มาโน้มนำให้ประชาชน
เดินทางไปยังซีเรียและอิรักเพื่อทำสงครามศาสนา
ผู้อพยพผิดกฎหมายเมื่อเดินทางถึงตุรกีหลายคน
ซึ่งนำโดยกลุ่มขบวนการอิสลาม
เตอกิสถานตะวันออก
(ETIM)
จะเดินทางไปยังซีเรียเพื่อทำการร่วมรบ
ส่วนใครที่ไม่ได้เดินทางไปถึงซีเรีย
ก็เข้าร่วมการก่อการร้าย
ไม่ว่าที่ใดก็ตามที่ตัวเองหยุดพัก
โดยยกตัวอย่าง
เหตุการณ์การโจมตีในมณฑลยูนนาน
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ปี 2014
ว่าเป็นฝีมือของผู้ก่อการร้าย
ที่ไม่สามารถหลบหนีออกจากจีนได้
โดยผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า
กลุ่มหัวรุนแรงที่ได้รับการปลูกฝังโดย ETIM
ซึ่งถูกนำไปฝึกในซีเรียและอิรัก
ก่อนกลับมายังจีน
เพื่อขยายเครือข่ายก่อการร้าย
และเข้าไปเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหลายครั้ง
จากแถลงการณ์ของกระทรวงความมั่นคงฯ
โดย CCTV
สื่อโทรทัศน์ของรัฐบาลจีนยังได้เผยแพร่ภาพ
ของกลุ่มชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งตัวไปจากประเทศไทย
ซึ่งจากภาพชาวอุยกูร์เหล่านี้ถูกปฏิบัติ
ราวกับเป็นนักโทษร้ายแรง
โดยมีการใช้ผ้าสีดำคลุมศีรษะ
ขณะควบคุมตัวไว้ด้วย
ก่อนหน้านี้
พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กล่าวว่า ผู้อพยพที่ถูกทางการไทย
ส่งไปยังประเทศจีนนั้น
ทางจีนยืนยันว่า
จะดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม
ไม่มีการประหารชีวิต
ใครไม่เกี่ยวก็จะจัดสรรที่ทำกินให้
และดูแลอย่างดี
ทั้งนี้ ไทยตอบรับคำเชิญ
ในการไปตรวจสอบชาวอุยกูร์
พร้อมเชิญองค์กรต่างๆ ไปดูด้วย
อย่างไรก็ดี
ตามประมวลกฎหมายอาญาของจีน
ในหมวดว่าด้วยอาชญากรรมอันเป็นอันตราย
ต่อความมั่นคงสาธารณะนั้น
ในหลายความผิด
ได้ระบุโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตไว้ด้วย
ทั้งนี้
ก่อนหน้านี้ไทยและจีนถูกโจมตีอย่างหนัก
จากนานาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ
เช่น สำนักงานข้าหลวงใหญ่
เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ที่ออกมาแสดงความกังวลต่อกรณีนี้
โดยระบุว่า ชาวอุยกูร์ที่ถูกผลักดันกลับ
โดยไม่สมัครใจกลุ่มนี้
เผชิญความเสี่ยงอย่างสูง ที่จะถูกทรมาน
ซึ่งเป็นการละเมิด
หลักการห้ามผลักดันกลับโดยไม่สมัครใจ
(non-refoulement principle)
ซึ่งรับรองไว้ในมาตรา 3
ของอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน
และการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรี
ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก
การส่งชาวอุยกูร์กลุ่มนี้กลับไปประเทศจีน
ทำให้ประเทศไทยละเมิดต่อพันธกรณี
ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ