ไปซื้อหนังสือที่อุดรมีชัย 11 ก.ค. 58 ទៅទិញសៀវភៅនៅឧត្តរមានជ័យ
จริงๆ ความต้องการของผมคือ ลองไปดูตลาด ตลาดที่ว่าคือตลาดหนังสือเขมร (คงจะเป็นสินค้าเดียวมั้งที่ผมคิดว่าจะขายได้) เพราะร้านหนังสือที่ช่องจอม ที่ผมเคยซื้อไม่ค่อยเอาหนังสือมาขายเลย ทั้งๆ ที่ผมก็พยามไปอุดหนุนเดือนละครั้ง (ไม่รู้ทำไม)
ยังงั้นเราต้องหาคู่ค้าใหม่
ว่าแล้วเราก็ไปอุดรมีชัยดีกว่า ถือโอกาสดูบ้านเมืองเขาด้วยครับ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับ ครั้งแรกคือเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ทำให้ไปครั้งนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่
เนื่องจากไม่ตื่นเต้นผมมีโอกาสสังเกตขั้นตอนต่างๆ โดยละเอียด เลยบันทึกไว้ให้หลายๆคนที่อยากไปเองทราบแนวทางบ้าง
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางคือ หนังสือเดินทาง หมวกบังแดด จริงๆ แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาว และเสื้อผ้ารัดกุมด้วย เพราะเป็นการนั่งมอเตอร์ไซค์กลางแดด ต้องระวังทั้งแดดและอุบัติเหตุ(เผื่อไว้ก็ดี)
ผมจะเรียงเป็นข้อๆ แล้วกัน
1. นั่งรถตู้สุรินทร์ - ช่องจอม
2. ด่านตรวจคนออกเมืองฝั่งไทย
- การข้ามด่านตรวจคนเข้าเมือง เริ่มจากการที่เราไปหาเจ้าหน้าที่ช่อง พร้อมยื่นหนังสือเดินทาง แจ้งกับเขาว่าเราจะไปไหน
- เจ้าหน้าก็จะตรวจความเรียบร้อยหนังสือเดินทาง (หากวัดหมดอายุน้อยกว่า 6 เดือนอาจจะไม่ให้ออก) แล้วให้แบบฟอร์ม ตม.6
ให้กรอกส่วนอื่นๆ เป็นอังกฤษหมด ยกเว้นตรงที่อยู่ในประเทศให้กรอกเป็นไทย มีตัวอย่างติดป้ายไวนิลให้ดู (แต่ผมก็กรอกอังกฤษหมดนั่นแหล่ะ)
- จากนั้นก็เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ เขาก็จะประทับตราหนังสือเดินทางพร้อมฉีกส่วนหนึ่งของ ตม.6 คืนมาให้เรา เรียกว่า "บัตรขาเข้า" เอาไว้ยื่นตอนเข้าประเทศ
3. ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งเขมร
- ผมเคยฟังการประชุมครั้งหนึ่ง มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมาบรรยาย เขาย้ำบ่อยๆว่า ไม่ว่าตรวจคนเข้าเมืองประเทศไหนจะทำเหมือนกันหมด ดังนั้นเราก็ทำเหมือนฝั่งไทย
- ไปที่ป้อมตรวจคนเข้าเมืองทางขวามือ (ฝั่งคาสิโนรอแยล) มีป้ายว่า Arrival ยื่นหนังสือเดินทางพร้อมบอกเขาว่าเราจะไปไหน
- เจ้าหน้าที่ก็ตรวจความเรียบร้อย แล้วให้ฟอร์มคล้ายกับฝั่งไทยมา
- กรอกให้เรียบร้อยแล้วเอาฟอร์มไปส่งเขา
- ทางเขาก็จะประทับตรา พร้อมฉีกส่วนของแบบฟอร์มออกมาเรียกว่า "บัตรขาออก" (แต่ของเขมรนี่ เขาจะเย็บติดในหนังสือเดินทางไว้เลย)
4. ต่อรองมอเตอร์ไซค์
- ผมเคยได้ยินคนเขมรคุยกันในรถตู้ว่า มอเตอร์ไซค์ขาเดียวไปสำโรงคือ 200 บาท
- ผมเรียกมอร์เตอร์ไซค์คนหนึ่งมาต่อรอง เขาก็ถามผมว่าเคยไปเท่าไหร่ ผมก็เอาราคาที่เคยได้ยินคูณสอง ก็ตกลงกันที่ 400 บาท
5. ผ่านด่านตรวจหน้าตลาดโอเสม็ด
- ตม.เขมรจะมีอีกด่านหนึ่งอยู่หน้าตลาดโอเสม็ด ทำหน้าที่ตรวจเอกสารอีก เราก็แค่ยื่นหนังสือเดินทางให้ตรวจเท่านั้น
6. การเดินทางโอเสม็ด-สำโรง
- ไม่มีอะไรพิเศษครับ ถนนเรียบพอสมควร รถมอเตอร์ไซค์โยนตัวบ้างตรงคอสะพานต้องเกาะให้ดี สำหรับระยะทางมาดูที่ Google ภายหลังคือ 42 กม.
7. ร้านหนังสือแรกที่ตลาดสำโรง
- ตลาดสำโรงก็คล้ายๆ กับตลาดอำเภอเรา ตรงกลางเป็นตลาดสดและแบ่งเป็นห้องๆ ขายสินค้าต่างๆ ส่วนรอบๆเป็นอาคารพาณิชย์ของเอกชน

(รูปทั้งสองเป็นรูปถนนหน้าตลาด)
- ร้านหนังสือร้านแรกนี้อยู่ตรงอาคารพาณิชย์รอบๆ เป็นร้านของของทั่วไปจำพวกเครื่องการเกษตร ปุ๋ย หม้อไห กระทะ และมีมุมหนึ่งขายเครื่องเขียนกับหนังสือเรียนของเด็กๆ ด้วย ร้านนี้มีพจนานุกรมไทยเขมร และเขมรไทยรวมกันสักสิบกว่าเล่มได้ อย่างอื่นไม่มีอะไร ผมเลยไปดูร้านที่สองก่อน แล้วแวะมาซื้อพจนานุกรมสองเล่มจากที่นี่ (หมดเงินแล้ว)

(ร้านแรกเดิมตามทางนี้ไปไม่ไกล)
8. ร้านหนังสือที่สอง
- ร้านนี้อยู่ส่วนในของตลาดครับ มีคุณยายคนหนึ่งขายอยู่ (ชื่อร้านก็ไม่ได้อ่าน รูปที่ถ่ายมาก็ไม่ติดชื่อร้าน มุมมันแคบด้วย อยากซื้อให้เสร็จด้วย)
- หนังสือก็มีพอสมควรครับ ผมซื้อพวกตำราไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่เขียนเป็นภาษาเขมร พจนานุกรมหลายเล่ม และมีโปสเตอร์อักษรกับสระเขมรมาด้วยครับ

- จากนั้นก็ไม่เถลไถล เดินทางกลับทันที (ขากลับก็เหมือนขามา คงไม่บรรยายอะไร)
9. ด่านตรวจคนออกเมืองของ ตม.เขมร
- ด่านนี้เขียนว่า Departure อยู่ตรงข้ามกับด่านที่เราไปขอเข้านะครับ
- ยื่นหนังสือเดินทางให้ (ซึ่งใบขาออกของเขมรมันติดอยู่ในนั้นอยู่แล้ว) เจ้าหน้าที่ก็ประทับตราออกให้เป็นอันเสร็จ
10. ด่านตรวจคนออกเมืองของ ตม.ไทย
- เหมือนกันครับ ยื่นหนังเดินทางพร้อมใบขาเข้า ที่ได้มาตอนออก
- การเดินทางกลับสุรินทร์ก็ไม่ขอบรรยาย
เพิ่มเติม
- แลกเงินสองครั้ง ครั้งแรกที่โอร์เสม็ด ติดฝั่งไทย 1500 บาท ต่อ 180000 เรียล (1 บาทต่อ 120 เรียล) ครั้งที่สอง 500 บาท ต่อ 65000 เรียล (1 บาทต่อ 130 เรียล) แสดงว่าแลกข้างในราคาดีกว่า
- ผมสอบถามเรื่องรถเก๋งไปเสียมเรียบ ถ้าเหมาไปขาเดียวคือ 1200 บาท หากไม่เหมาต้องรอคนมาครบ 6 คนถึงจะออก (คือ หน้านั่งสองคน (ไม่รวมคนขับ) หลังนั่งสี่คน) แล้วจ่ายคนละ 250 บาท
- ผมเขียนเรื่อง ตม.ละเอียด เพราะอาจจะเป็นเรื่องที่เรากังวลกันมาก ศึกษาขั้นตอนไว้หน่อยก็ดีนะครับ ขั้นตอนนี้มันก็สากลด้วย ผ่านบ่อยๆ ก็ชินเอง ไม่ต้องกลัวอะไร
- อยากให้ลองไปเล่นที่สำโรงกันบ้างครับ เห็นแต่คนเขมรมาสุรินทร ทำไมคนสุรินทร์ไม่ไปเที่ยวเขมรบ้าง (ไม่นับนครวัด แต่การเที่ยวจังหวัดทั่วๆ ไป)
คำแนะนำสำหรับผู้เรียนภาษาเขมร
- ผมอยากให้ได้ลองเดินทางไปในเขมร "ด้วยตัวเอง" กันบ้างครับ อย่าคอยให้คนอื่นพาไป หากกลัวก็ไปกันหลายๆ คน เริ่มจากสถานที่ใกล้ๆก่อน แล้วค่อยไปไกลขึ้นครับ แล้วภาษาเขมรจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว(กว่าในห้องเรียนหลายเท่า)
ไปซื้อหนังสือที่อุดรมีชัย 11 ก.ค. 58 ទៅទិញសៀវភៅនៅឧត្តរមានជ័យ
จริงๆ ความต้องการของผมคือ ลองไปดูตลาด ตลาดที่ว่าคือตลาดหนังสือเขมร (คงจะเป็นสินค้าเดียวมั้งที่ผมคิดว่าจะขายได้) เพราะร้านหนังสือที่ช่องจอม ที่ผมเคยซื้อไม่ค่อยเอาหนังสือมาขายเลย ทั้งๆ ที่ผมก็พยามไปอุดหนุนเดือนละครั้ง (ไม่รู้ทำไม)
ยังงั้นเราต้องหาคู่ค้าใหม่
ว่าแล้วเราก็ไปอุดรมีชัยดีกว่า ถือโอกาสดูบ้านเมืองเขาด้วยครับ
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับ ครั้งแรกคือเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ทำให้ไปครั้งนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่
เนื่องจากไม่ตื่นเต้นผมมีโอกาสสังเกตขั้นตอนต่างๆ โดยละเอียด เลยบันทึกไว้ให้หลายๆคนที่อยากไปเองทราบแนวทางบ้าง
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางคือ หนังสือเดินทาง หมวกบังแดด จริงๆ แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาว และเสื้อผ้ารัดกุมด้วย เพราะเป็นการนั่งมอเตอร์ไซค์กลางแดด ต้องระวังทั้งแดดและอุบัติเหตุ(เผื่อไว้ก็ดี)
ผมจะเรียงเป็นข้อๆ แล้วกัน
1. นั่งรถตู้สุรินทร์ - ช่องจอม
2. ด่านตรวจคนออกเมืองฝั่งไทย
- การข้ามด่านตรวจคนเข้าเมือง เริ่มจากการที่เราไปหาเจ้าหน้าที่ช่อง พร้อมยื่นหนังสือเดินทาง แจ้งกับเขาว่าเราจะไปไหน
- เจ้าหน้าก็จะตรวจความเรียบร้อยหนังสือเดินทาง (หากวัดหมดอายุน้อยกว่า 6 เดือนอาจจะไม่ให้ออก) แล้วให้แบบฟอร์ม ตม.6
ให้กรอกส่วนอื่นๆ เป็นอังกฤษหมด ยกเว้นตรงที่อยู่ในประเทศให้กรอกเป็นไทย มีตัวอย่างติดป้ายไวนิลให้ดู (แต่ผมก็กรอกอังกฤษหมดนั่นแหล่ะ)
- จากนั้นก็เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ เขาก็จะประทับตราหนังสือเดินทางพร้อมฉีกส่วนหนึ่งของ ตม.6 คืนมาให้เรา เรียกว่า "บัตรขาเข้า" เอาไว้ยื่นตอนเข้าประเทศ
3. ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งเขมร
- ผมเคยฟังการประชุมครั้งหนึ่ง มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมาบรรยาย เขาย้ำบ่อยๆว่า ไม่ว่าตรวจคนเข้าเมืองประเทศไหนจะทำเหมือนกันหมด ดังนั้นเราก็ทำเหมือนฝั่งไทย
- ไปที่ป้อมตรวจคนเข้าเมืองทางขวามือ (ฝั่งคาสิโนรอแยล) มีป้ายว่า Arrival ยื่นหนังสือเดินทางพร้อมบอกเขาว่าเราจะไปไหน
- เจ้าหน้าที่ก็ตรวจความเรียบร้อย แล้วให้ฟอร์มคล้ายกับฝั่งไทยมา
- กรอกให้เรียบร้อยแล้วเอาฟอร์มไปส่งเขา
- ทางเขาก็จะประทับตรา พร้อมฉีกส่วนของแบบฟอร์มออกมาเรียกว่า "บัตรขาออก" (แต่ของเขมรนี่ เขาจะเย็บติดในหนังสือเดินทางไว้เลย)
4. ต่อรองมอเตอร์ไซค์
- ผมเคยได้ยินคนเขมรคุยกันในรถตู้ว่า มอเตอร์ไซค์ขาเดียวไปสำโรงคือ 200 บาท
- ผมเรียกมอร์เตอร์ไซค์คนหนึ่งมาต่อรอง เขาก็ถามผมว่าเคยไปเท่าไหร่ ผมก็เอาราคาที่เคยได้ยินคูณสอง ก็ตกลงกันที่ 400 บาท
5. ผ่านด่านตรวจหน้าตลาดโอเสม็ด
- ตม.เขมรจะมีอีกด่านหนึ่งอยู่หน้าตลาดโอเสม็ด ทำหน้าที่ตรวจเอกสารอีก เราก็แค่ยื่นหนังสือเดินทางให้ตรวจเท่านั้น
6. การเดินทางโอเสม็ด-สำโรง
- ไม่มีอะไรพิเศษครับ ถนนเรียบพอสมควร รถมอเตอร์ไซค์โยนตัวบ้างตรงคอสะพานต้องเกาะให้ดี สำหรับระยะทางมาดูที่ Google ภายหลังคือ 42 กม.
7. ร้านหนังสือแรกที่ตลาดสำโรง
- ตลาดสำโรงก็คล้ายๆ กับตลาดอำเภอเรา ตรงกลางเป็นตลาดสดและแบ่งเป็นห้องๆ ขายสินค้าต่างๆ ส่วนรอบๆเป็นอาคารพาณิชย์ของเอกชน
(รูปทั้งสองเป็นรูปถนนหน้าตลาด)
- ร้านหนังสือร้านแรกนี้อยู่ตรงอาคารพาณิชย์รอบๆ เป็นร้านของของทั่วไปจำพวกเครื่องการเกษตร ปุ๋ย หม้อไห กระทะ และมีมุมหนึ่งขายเครื่องเขียนกับหนังสือเรียนของเด็กๆ ด้วย ร้านนี้มีพจนานุกรมไทยเขมร และเขมรไทยรวมกันสักสิบกว่าเล่มได้ อย่างอื่นไม่มีอะไร ผมเลยไปดูร้านที่สองก่อน แล้วแวะมาซื้อพจนานุกรมสองเล่มจากที่นี่ (หมดเงินแล้ว)
(ร้านแรกเดิมตามทางนี้ไปไม่ไกล)
8. ร้านหนังสือที่สอง
- ร้านนี้อยู่ส่วนในของตลาดครับ มีคุณยายคนหนึ่งขายอยู่ (ชื่อร้านก็ไม่ได้อ่าน รูปที่ถ่ายมาก็ไม่ติดชื่อร้าน มุมมันแคบด้วย อยากซื้อให้เสร็จด้วย)
- หนังสือก็มีพอสมควรครับ ผมซื้อพวกตำราไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่เขียนเป็นภาษาเขมร พจนานุกรมหลายเล่ม และมีโปสเตอร์อักษรกับสระเขมรมาด้วยครับ
- จากนั้นก็ไม่เถลไถล เดินทางกลับทันที (ขากลับก็เหมือนขามา คงไม่บรรยายอะไร)
9. ด่านตรวจคนออกเมืองของ ตม.เขมร
- ด่านนี้เขียนว่า Departure อยู่ตรงข้ามกับด่านที่เราไปขอเข้านะครับ
- ยื่นหนังสือเดินทางให้ (ซึ่งใบขาออกของเขมรมันติดอยู่ในนั้นอยู่แล้ว) เจ้าหน้าที่ก็ประทับตราออกให้เป็นอันเสร็จ
10. ด่านตรวจคนออกเมืองของ ตม.ไทย
- เหมือนกันครับ ยื่นหนังเดินทางพร้อมใบขาเข้า ที่ได้มาตอนออก
- การเดินทางกลับสุรินทร์ก็ไม่ขอบรรยาย
เพิ่มเติม
- แลกเงินสองครั้ง ครั้งแรกที่โอร์เสม็ด ติดฝั่งไทย 1500 บาท ต่อ 180000 เรียล (1 บาทต่อ 120 เรียล) ครั้งที่สอง 500 บาท ต่อ 65000 เรียล (1 บาทต่อ 130 เรียล) แสดงว่าแลกข้างในราคาดีกว่า
- ผมสอบถามเรื่องรถเก๋งไปเสียมเรียบ ถ้าเหมาไปขาเดียวคือ 1200 บาท หากไม่เหมาต้องรอคนมาครบ 6 คนถึงจะออก (คือ หน้านั่งสองคน (ไม่รวมคนขับ) หลังนั่งสี่คน) แล้วจ่ายคนละ 250 บาท
- ผมเขียนเรื่อง ตม.ละเอียด เพราะอาจจะเป็นเรื่องที่เรากังวลกันมาก ศึกษาขั้นตอนไว้หน่อยก็ดีนะครับ ขั้นตอนนี้มันก็สากลด้วย ผ่านบ่อยๆ ก็ชินเอง ไม่ต้องกลัวอะไร
- อยากให้ลองไปเล่นที่สำโรงกันบ้างครับ เห็นแต่คนเขมรมาสุรินทร ทำไมคนสุรินทร์ไม่ไปเที่ยวเขมรบ้าง (ไม่นับนครวัด แต่การเที่ยวจังหวัดทั่วๆ ไป)
คำแนะนำสำหรับผู้เรียนภาษาเขมร
- ผมอยากให้ได้ลองเดินทางไปในเขมร "ด้วยตัวเอง" กันบ้างครับ อย่าคอยให้คนอื่นพาไป หากกลัวก็ไปกันหลายๆ คน เริ่มจากสถานที่ใกล้ๆก่อน แล้วค่อยไปไกลขึ้นครับ แล้วภาษาเขมรจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว(กว่าในห้องเรียนหลายเท่า)