สวัสดีจ้าววววววว

ช่วงชีวิตหนึ่งกินเวลากว่า 20 ปี ทุกๆความทรงจำเกิดและเติบโตที่
“ เมืองน่าน ”

เมืองน่านเป็นเมืองปิดที่หลายคนเข้าใจตรงกันคือ
“ หากคิดจะมาเมืองนี้ต้องตั้งใจมา ”
ใครคิดจะมาก็ต้องทำใจกับเส้นทางคดเคี้ยวแบบ basic ต่อกันยาวๆ ใครเมารถก็ลำบากหน่อย มีอีกทางเลือกที่สะดวกกว่า ใช้บริการนกหางแดงกับนกหางเหลืองได้นะ คอยรับส่งระหว่างน่าน-กทม. ทุกๆวัน

โค้ง

ต้นไม้ข้างทาง

บ้านบนดอย
นี่เป็นภาพส่วนน้อยนิดที่เราถ่ายมา เราว่าการขับรถมามันคุ้มกว่านะ เรายังขับจากกทมมาเลย ถึกมากกกกกกแต่ชอบอ่ะ ยิ่งปลายฝนต้นหนาว ต้นไม้เขียวตลอดทาง เมฆหมอกจัดเต็มนี่หืมมมมมมมมมมม รถจะคว่ำเอาเพราะมัวแต่มองข้างทาง 55555

เวลากลับบ้านสิ่งแรกที่ติดตรึงในสมองและสองตาคือ
“ รถเมล์ในตำนาน สีส้ม สนิมเขลอะ เบาะขาด ”
คือตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้ พี่แกยังคงวิ่งอยู่ในเส้นทางเดิม ช่วงเวลาเดิม รถก็อาจจะเป็นคันเดิมที่เคยนั่งตอน 2 ขวบก็เป็นได้
" หญ้าก่อน " อีกสิ่งหนึ่งในความทรงจำ เพราะตอนเด็กๆเกรียดมัน เวลาใส่ชุดพละไปโรงเรียน คือติดขากางเกงติดถุงเท้าคร้าาาาา
และต้องดึงออกทุกๆเช้า จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
หลายคนชอบตั้งคำถามกับเราเสมอ “ น่านมีอะไรน่าเที่ยว ”
โอ๊ยยยยยย เยอะค่ะ บอกไม่ถูก ที่เที่ยวแต่ละที่นี่ห่างกันอย่างกะข้ามจังหวัด ใครอยากเที่ยวน่านให้หมดแนะนำให้เอาเวลามาด้วยอย่างน้อย 1 เดือนค่ะ รับรองว่าเก็บหมดทุกที่แน่นอน เวลาเพื่อนๆมาเที่ยวน่าน หน้าที่เจ้าถิ่นอย่างเราก็พาเข้าวัด เข้าป่า ดูหมอก โดดน้ำ ไปได้หมด ถามว่าพาไปไหนบ้างหรอ ตามมาๆ แล้วจะบอก
สถานที่ยอดนิยมตามเสียงเรียกร้องของแขกผู้มาเยือน " ดอยเสมอดาว "
แนะนำให้เลี่ยงช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวนะคะ เพราะคนเยอะมากกกกกก อุทยานก็จำกัดนักท่องเที่ยวค่ะ เราก็เคยเฟลมาแล้วหลายรอบ
ไปช่วงตุลา พฤศจิกา ปลายฝนต้นหนาว ช่วงนี้หมอกจัดเต็ม ไม่หนาวมากด้วย สวยสุดสุด
ดอยเสมอดาว เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ที่ อ.นาน้อย ไกลจากตัวเมืองไม่มาก ประมาณ 60 กิโลเมตร
เส้นทางก็เดินทางสะดวกค่ะ จิ้ม GPS แล้วตามไปได้เลย หรือดูป้าย แผนที่ ใครหลงก็จอกถามได้เลยค่ะ คนน่านใจดีกันทั้งนั้น
โค้งโหดๆก็เจอแค่ระยะสั้นไม่ถึง 20 กิโลเมตร ถ้าเดินทางจากตัวเมืองไปก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆค่ะ แล้วแต่ความซิ่งของคนขับ
ใครไม่เคยมาอย่าขับไวนะคะ โค้งอันตรายที่นี่คือหักศอก 90 องศาได้
ถ้ามาช่วงวันหยุด แนะนำให้มาถึงก่อนบ่าย 3 นะ ไม่งั้นที่กางเต้นท์เต็ม
พอมาถึงก็กางเต้นท์ให้เรียบร้อย แล้วก็ไปรอดูพระอาทิตย์ตกกัน
เรามาดูภาพยามเย็นก่อนอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันก่อนนะ มองนานๆระวังจะหลงนะจ๊ะ ^---^
น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปดาวล้านดวงบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมาให้ชมกัน
เดี๋ยวปีนี้ไปแก้มือมาใหม่ แต่ดูจากรูปก็ไม่สวยเท่าเห็นกับตาตัวเองนะจ๊ะ
คือที่นี่สามารถนอนดูดาวได้ชัดเจน 360 องศากันเลยทีเดียว แบบชัดเว่อๆ นับกันเพลินๆทั้งคืนก็ไม่หมด
เราไปดูทะเลหมอกยามเช้ากันดีกว่า เป็นรูปของปีที่แล้วช่วงกลางเดือนพฤศจิกาค่ะ แจ่มมากกกกกก ถ้าเป็นช่วงมกราหมอกจะไม่หนาแบบนี้นะ
กว่าจะได้ภาพนี้เราไปยืนรอตั้งแต่6โมงเช้าจนเกือบๆจะ 9 โมง คือประทับใจและคุ้มค่าการรอคอยมากอ่ะ
ใช่ว่าทุกวันจะเจอแบบนี้ นี่ต้องอาศัยความฟลุ๊กและดวงดีสุดๆถึงจะเห็นแบบนี้ได้ พูดแล้วน้ำตาจะไหล
ปิดท้ายด้วยแสงยามเช้ากับทะเลหมอกช่วงตุลาปี 56 จ้าาาาา
จากดอยเสมอดาวแล้วไปไหนต่อดี เดี๋ยวว่างจะมาต่อนะจ๊ะ.......
[CR] ก า ล ค รั้ ง ห นึ่ ง ฉั น เ ค ย ใ ช้ ชี วิ ต ที่ " น่ า น "
ช่วงชีวิตหนึ่งกินเวลากว่า 20 ปี ทุกๆความทรงจำเกิดและเติบโตที่ “ เมืองน่าน ”
เมืองน่านเป็นเมืองปิดที่หลายคนเข้าใจตรงกันคือ “ หากคิดจะมาเมืองนี้ต้องตั้งใจมา ”
ใครคิดจะมาก็ต้องทำใจกับเส้นทางคดเคี้ยวแบบ basic ต่อกันยาวๆ ใครเมารถก็ลำบากหน่อย มีอีกทางเลือกที่สะดวกกว่า ใช้บริการนกหางแดงกับนกหางเหลืองได้นะ คอยรับส่งระหว่างน่าน-กทม. ทุกๆวัน
โค้ง
ต้นไม้ข้างทาง
บ้านบนดอย
นี่เป็นภาพส่วนน้อยนิดที่เราถ่ายมา เราว่าการขับรถมามันคุ้มกว่านะ เรายังขับจากกทมมาเลย ถึกมากกกกกกแต่ชอบอ่ะ ยิ่งปลายฝนต้นหนาว ต้นไม้เขียวตลอดทาง เมฆหมอกจัดเต็มนี่หืมมมมมมมมมมม รถจะคว่ำเอาเพราะมัวแต่มองข้างทาง 55555
เวลากลับบ้านสิ่งแรกที่ติดตรึงในสมองและสองตาคือ “ รถเมล์ในตำนาน สีส้ม สนิมเขลอะ เบาะขาด ”
คือตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้ พี่แกยังคงวิ่งอยู่ในเส้นทางเดิม ช่วงเวลาเดิม รถก็อาจจะเป็นคันเดิมที่เคยนั่งตอน 2 ขวบก็เป็นได้
" หญ้าก่อน " อีกสิ่งหนึ่งในความทรงจำ เพราะตอนเด็กๆเกรียดมัน เวลาใส่ชุดพละไปโรงเรียน คือติดขากางเกงติดถุงเท้าคร้าาาาา
และต้องดึงออกทุกๆเช้า จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
โอ๊ยยยยยย เยอะค่ะ บอกไม่ถูก ที่เที่ยวแต่ละที่นี่ห่างกันอย่างกะข้ามจังหวัด ใครอยากเที่ยวน่านให้หมดแนะนำให้เอาเวลามาด้วยอย่างน้อย 1 เดือนค่ะ รับรองว่าเก็บหมดทุกที่แน่นอน เวลาเพื่อนๆมาเที่ยวน่าน หน้าที่เจ้าถิ่นอย่างเราก็พาเข้าวัด เข้าป่า ดูหมอก โดดน้ำ ไปได้หมด ถามว่าพาไปไหนบ้างหรอ ตามมาๆ แล้วจะบอก
แนะนำให้เลี่ยงช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวนะคะ เพราะคนเยอะมากกกกกก อุทยานก็จำกัดนักท่องเที่ยวค่ะ เราก็เคยเฟลมาแล้วหลายรอบ
ไปช่วงตุลา พฤศจิกา ปลายฝนต้นหนาว ช่วงนี้หมอกจัดเต็ม ไม่หนาวมากด้วย สวยสุดสุด
ดอยเสมอดาว เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตั้งอยู่ที่ อ.นาน้อย ไกลจากตัวเมืองไม่มาก ประมาณ 60 กิโลเมตร
เส้นทางก็เดินทางสะดวกค่ะ จิ้ม GPS แล้วตามไปได้เลย หรือดูป้าย แผนที่ ใครหลงก็จอกถามได้เลยค่ะ คนน่านใจดีกันทั้งนั้น
โค้งโหดๆก็เจอแค่ระยะสั้นไม่ถึง 20 กิโลเมตร ถ้าเดินทางจากตัวเมืองไปก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆค่ะ แล้วแต่ความซิ่งของคนขับ
ใครไม่เคยมาอย่าขับไวนะคะ โค้งอันตรายที่นี่คือหักศอก 90 องศาได้
ถ้ามาช่วงวันหยุด แนะนำให้มาถึงก่อนบ่าย 3 นะ ไม่งั้นที่กางเต้นท์เต็ม
พอมาถึงก็กางเต้นท์ให้เรียบร้อย แล้วก็ไปรอดูพระอาทิตย์ตกกัน
เรามาดูภาพยามเย็นก่อนอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันก่อนนะ มองนานๆระวังจะหลงนะจ๊ะ ^---^
น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปดาวล้านดวงบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมาให้ชมกัน
เดี๋ยวปีนี้ไปแก้มือมาใหม่ แต่ดูจากรูปก็ไม่สวยเท่าเห็นกับตาตัวเองนะจ๊ะ
คือที่นี่สามารถนอนดูดาวได้ชัดเจน 360 องศากันเลยทีเดียว แบบชัดเว่อๆ นับกันเพลินๆทั้งคืนก็ไม่หมด
เราไปดูทะเลหมอกยามเช้ากันดีกว่า เป็นรูปของปีที่แล้วช่วงกลางเดือนพฤศจิกาค่ะ แจ่มมากกกกกก ถ้าเป็นช่วงมกราหมอกจะไม่หนาแบบนี้นะ
กว่าจะได้ภาพนี้เราไปยืนรอตั้งแต่6โมงเช้าจนเกือบๆจะ 9 โมง คือประทับใจและคุ้มค่าการรอคอยมากอ่ะ
ใช่ว่าทุกวันจะเจอแบบนี้ นี่ต้องอาศัยความฟลุ๊กและดวงดีสุดๆถึงจะเห็นแบบนี้ได้ พูดแล้วน้ำตาจะไหล
ปิดท้ายด้วยแสงยามเช้ากับทะเลหมอกช่วงตุลาปี 56 จ้าาาาา
จากดอยเสมอดาวแล้วไปไหนต่อดี เดี๋ยวว่างจะมาต่อนะจ๊ะ.......