ค้นมุมมองการใช้ชีวิตวิธีคิดในแบบฉบับ“แอนดริว เกร้กสัน” : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล
ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกฝีมือฉกาจที่หาตัวจับยาก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ชีวิตส่วนตัวของ แอนดริว เกร้กสัน กลับชอบความสงบเงียบ เรียบง่าย หลายครั้งสภาพแวดล้อมผลักดันให้เขาขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุด แต่เขากลับเลือกที่จะดึงตัวเองออกมาจากจุดนั้น เพื่อรักษาตัวตนเอาไว้ วันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” จะพามาค้นหาทัศนคติบางอย่างในการใช้ชีวิตอย่าง “ลึกซึ้ง” จากผู้ชายคนนี้ แบบเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ
@ช่วงชีวิตที่เงียบหายไป
000 แอนดริว หายหน้าไป 4 ปี
ถ้าไม่เห็นจากการเล่นละคร ก็ประมาณนั้น 3 ปี แต่ก่อนที่จะรับละครของพี่แดง (ธัญญา โสภณ) เรื่อง เลือดมังกร ตอน แรด ที่ติดต่อมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว (ปี2557) แต่เริ่มถ่ายของ อนันดา (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ก่อน แต่ปีก่อนหน้าที่ผมจะรับละคร ผมทำรายการตอนเช้าวันอาทิตย์ เป็นรายการเด็ก ชื่อ “เด็กหลงผู้ใหญ่ลืม” ถ้าจะบอกว่า ผมหายหน้าไปเลย ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ถ้าคนที่เขาไม่ได้ตื่นเช้ามาดูรายการวันอาทิตย์ เขาจะรู้สึกว่า ไม่ได้เห็นหน้าผมเลย
000 ช่วงที่หายไปคือทำรายการอยู่
ใช่ ทำอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ว่าบ้านเมืองเรา ตอนนั้นมีการประท้วงพอดี และทางช่อง3 มีการปรับผังรายการด้วย ทางเจ้านายอย่างคุณอัมพร (อัมพร มาลีนนท์) บอกว่า ลำบากนะ ให้พักไปก่อนดีกว่า เพราะช่วงนั้นแม้แต่สถานียังลำบาก ผมเลยได้กลับมารับละครของพี่แดง แต่ละครพี่แดง ยังไม่ได้เริ่มถ่าย ทำให้ผมรับละครเรื่อง “พลับพลึงสีชมพู” ของพี่ดาว (พอฤทัย ณรงค์เดช) มาด้วย ถือว่ารับเป็นเรื่องที่สอง แต่เริ่มถ่ายเรื่องแรก ถ่ายไปสักพัก มีพี่ที่สนิทกันบอกว่าให้ช่วยหน่อย เพราะเกิดสถานการณ์ติดขัดบางอย่าง ผมเลยรับเรื่อง “วิมานเมขลา” ก็เริ่มถ่ายไป ตอนนั้นเหมือนผมต้องทำงานถ่ายละครทีเดียว 3 เรื่อง ซึ่งเวลามีเท่าเดิม คือทำงาน 6 วัน พอถ่ายละครของพี่แดงเสร็จ พี่ยุ้ย (อรอุมา มาลีนนท์) ลูกนายประวิทย์ โทรมาว่า มีละครเรื่อง “สายลับรักป่วน” ช่วยดูให้หน่อย ผมก็รับไปอีก 1 เรื่อง ทั้งหมดนี้คือลำดับเวลาที่ผมทำงาน ส่วนละครกับโพลีพลัสที่รับปากไว้ เล่นกับ เจนี่ (เจนี่ เทียนโพะิ์สุวรรณ์) ผมให้ทางเจนี่เรื่องบท และรายละเอียดให้
000 คนเซอร์ไพรส์ว่า แอนดริว กลับมา และรับละครต่อเนื่องมาก
ความจริงผมรับทีละเรื่องนะ แต่เหมือนละครถ่ายต่อกันมาเรื่อยๆ เมื่อก่อนเวลาผมจะรับงาน ต้องดูบท ดูนั่น ดูนี่ เพราะผมไม่เก่ง แต่ครั้งนี้พอรู้ว่าเป็นละครของ พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) พี่แดง พอเขาโทรมาบอก ผมรับเลย ไม่ได้ดูอะไรมาก ของคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน สมัยก่อนผมทำงานทีละเรื่อง ผมก็เครียดอยู่แล้ว เมื่อก่อนถ่ายละคร 3 วัน แต่ 4 วันที่เหลือ ผมยังต้องอยู่กับมัน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน เหลือถ่ายอีก 2 เรื่อง คือ สายลับรักป่วน กับ วิมานเมขลา เครียดเหมือนกันนะ ผมต้องหามุมผ่อนคลายให้เจอ เพราะเวลาทำงานเยอะๆ อารมณ์จะเปราะบางมาก
000 ตอนนี้กระแสตอบรับเรื่อง “แรด” คนกรี๊ด “เฮียคิ้ม” เยอะมาก
ผมเพิ่งรู้ เพราะมีคนติดต่อขอสัมภาษณ์มาเยอะมาก แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ดูละครตัวเองเลย เพราะตั้งแต่สมัยก่อน ผมก็ไม่ดูละครที่ตัวเองเล่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เวลาทำงานผมพยายามทำเต็มที่มากที่สุด ผมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือนักแสดงนำ ผมมีหน้าที่ดูแลตัวละคร ถ้าผมไม่โกหกตัวเองจะรู้ว่าเวลาทำงาน เราจริงจัง และจริงใจกับมันแค่ไหน เราจะรู้ว่าเราทำเต็มที่มากที่สุดของเราแล้ว แต่ถ้าเราทำแบบส่งๆ ผลสุดท้ายเราก็รู้ตัว แต่อีกส่วนคือเรื่องที่ทำแล้วคนดูชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งเป็นคนละส่วน ถ้าคนดูชอบเราก็ดีใจ (ยิ้ม) แต่ถ้าเขาเฉยๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้
000 ทำงานกับนางเอกแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง
ตั้งแต่ถ่ายละครมา นางเอก น่ารัก ทุกคนเลย ทั้ง ไอซ์ (อามีนา กูล) เบลล่า (ราณี แคมเปน) แต้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) พลอย (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) กับพลอยนี่เคยร่วมงานกันมานานมากแล้ว เล่นหนังด้วยกันเรื่อง Goodbye summer นางเอกแต่ละคนของผมสวยทุกคน ผมโชคดีจังเลย (ยิ้ม)
000 เบลล่า เคยบอกว่าก่อนร่วมงานกับ แอนดริว เกร็งมาก แต่พอได้มาทำงานจริงๆ น่ารัก
โห!! แอบชมเราด้วย เมื่อก่อนผมคงมีชื่อเสียงในด้านโหดร้าย (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ ผมก็เป็น ถามว่าทุกวันนี้ ผมยังเหมือนเมื่อก่อนมั้ยในเรื่องการทำงาน (นิ่งคิดนาน) ข้างในผมเหมือนเดิมนะ แต่ภายนอกอาจแตกต่างออกไป เขาอาจจะดูว่า ภายนอกเราเล่นมากขึ้น มันอยู่ที่ตัวละครด้วย อะไรที่ส่งผลกับตัวละคร เราไปทำหน้างานได้ เหมือนเป็นการบริหารตัวละครอีกแบบหนึ่ง เพื่อทำให้ตัวละครแข็งแรงขึ้น
@ทำงานไม่อิงกระแส
000 กระแสในโลกโซเชียล แอนดริว เหมือนเป็นพระเอกของทุกคน
ผมพยายามปิดกั้นข้อมูลตรงนั้น ผมเล่นโซเชียล เล่นไอจีนะ แต่เหมือนผมจะไม่กล้าเข้าไปรับรู้ว่า เขารู้สึกยังไง ผมคงกลัวมั้ง ไม่กล้าอ่านคอมเม้นต์ บางทีมันประคับประคองลำบาก เพราะสิ่งเหล่านี้ มีผลกระทบต่อความรู้สึกในการทำงาน ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ถ้าคนชอบมากๆ คำชมเยอะ บางทีผมคิดว่าคำชมก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่า ไม่รับเลย คำติผมก็รับ คำชมผมก็รับ แต่บางทีผมเป็นคนอ่อนไหว ถ้าชมมาเยอะมากๆ ผมจะยิ้มหน้าบานเกินไป
ค้นมุมมองการใช้ชีวิตวิธีคิดในแบบฉบับ“แอนดริว เกร้กสัน” : บันเทิงวันเสาร์ คมชัดลึก"
ค้นมุมมองการใช้ชีวิตวิธีคิดในแบบฉบับ“แอนดริว เกร้กสัน” : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล
ขึ้นชื่อว่าเป็นพระเอกฝีมือฉกาจที่หาตัวจับยาก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ชีวิตส่วนตัวของ แอนดริว เกร้กสัน กลับชอบความสงบเงียบ เรียบง่าย หลายครั้งสภาพแวดล้อมผลักดันให้เขาขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุด แต่เขากลับเลือกที่จะดึงตัวเองออกมาจากจุดนั้น เพื่อรักษาตัวตนเอาไว้ วันนี้ “บันเทิง คมชัดลึก” จะพามาค้นหาทัศนคติบางอย่างในการใช้ชีวิตอย่าง “ลึกซึ้ง” จากผู้ชายคนนี้ แบบเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ
@ช่วงชีวิตที่เงียบหายไป
000 แอนดริว หายหน้าไป 4 ปี
ถ้าไม่เห็นจากการเล่นละคร ก็ประมาณนั้น 3 ปี แต่ก่อนที่จะรับละครของพี่แดง (ธัญญา โสภณ) เรื่อง เลือดมังกร ตอน แรด ที่ติดต่อมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว (ปี2557) แต่เริ่มถ่ายของ อนันดา (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ก่อน แต่ปีก่อนหน้าที่ผมจะรับละคร ผมทำรายการตอนเช้าวันอาทิตย์ เป็นรายการเด็ก ชื่อ “เด็กหลงผู้ใหญ่ลืม” ถ้าจะบอกว่า ผมหายหน้าไปเลย ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ถ้าคนที่เขาไม่ได้ตื่นเช้ามาดูรายการวันอาทิตย์ เขาจะรู้สึกว่า ไม่ได้เห็นหน้าผมเลย
000 ช่วงที่หายไปคือทำรายการอยู่
ใช่ ทำอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ว่าบ้านเมืองเรา ตอนนั้นมีการประท้วงพอดี และทางช่อง3 มีการปรับผังรายการด้วย ทางเจ้านายอย่างคุณอัมพร (อัมพร มาลีนนท์) บอกว่า ลำบากนะ ให้พักไปก่อนดีกว่า เพราะช่วงนั้นแม้แต่สถานียังลำบาก ผมเลยได้กลับมารับละครของพี่แดง แต่ละครพี่แดง ยังไม่ได้เริ่มถ่าย ทำให้ผมรับละครเรื่อง “พลับพลึงสีชมพู” ของพี่ดาว (พอฤทัย ณรงค์เดช) มาด้วย ถือว่ารับเป็นเรื่องที่สอง แต่เริ่มถ่ายเรื่องแรก ถ่ายไปสักพัก มีพี่ที่สนิทกันบอกว่าให้ช่วยหน่อย เพราะเกิดสถานการณ์ติดขัดบางอย่าง ผมเลยรับเรื่อง “วิมานเมขลา” ก็เริ่มถ่ายไป ตอนนั้นเหมือนผมต้องทำงานถ่ายละครทีเดียว 3 เรื่อง ซึ่งเวลามีเท่าเดิม คือทำงาน 6 วัน พอถ่ายละครของพี่แดงเสร็จ พี่ยุ้ย (อรอุมา มาลีนนท์) ลูกนายประวิทย์ โทรมาว่า มีละครเรื่อง “สายลับรักป่วน” ช่วยดูให้หน่อย ผมก็รับไปอีก 1 เรื่อง ทั้งหมดนี้คือลำดับเวลาที่ผมทำงาน ส่วนละครกับโพลีพลัสที่รับปากไว้ เล่นกับ เจนี่ (เจนี่ เทียนโพะิ์สุวรรณ์) ผมให้ทางเจนี่เรื่องบท และรายละเอียดให้
000 คนเซอร์ไพรส์ว่า แอนดริว กลับมา และรับละครต่อเนื่องมาก
ความจริงผมรับทีละเรื่องนะ แต่เหมือนละครถ่ายต่อกันมาเรื่อยๆ เมื่อก่อนเวลาผมจะรับงาน ต้องดูบท ดูนั่น ดูนี่ เพราะผมไม่เก่ง แต่ครั้งนี้พอรู้ว่าเป็นละครของ พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) พี่แดง พอเขาโทรมาบอก ผมรับเลย ไม่ได้ดูอะไรมาก ของคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน สมัยก่อนผมทำงานทีละเรื่อง ผมก็เครียดอยู่แล้ว เมื่อก่อนถ่ายละคร 3 วัน แต่ 4 วันที่เหลือ ผมยังต้องอยู่กับมัน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน เหลือถ่ายอีก 2 เรื่อง คือ สายลับรักป่วน กับ วิมานเมขลา เครียดเหมือนกันนะ ผมต้องหามุมผ่อนคลายให้เจอ เพราะเวลาทำงานเยอะๆ อารมณ์จะเปราะบางมาก
000 ตอนนี้กระแสตอบรับเรื่อง “แรด” คนกรี๊ด “เฮียคิ้ม” เยอะมาก
ผมเพิ่งรู้ เพราะมีคนติดต่อขอสัมภาษณ์มาเยอะมาก แต่ส่วนตัวผมไม่ได้ดูละครตัวเองเลย เพราะตั้งแต่สมัยก่อน ผมก็ไม่ดูละครที่ตัวเองเล่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เวลาทำงานผมพยายามทำเต็มที่มากที่สุด ผมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือนักแสดงนำ ผมมีหน้าที่ดูแลตัวละคร ถ้าผมไม่โกหกตัวเองจะรู้ว่าเวลาทำงาน เราจริงจัง และจริงใจกับมันแค่ไหน เราจะรู้ว่าเราทำเต็มที่มากที่สุดของเราแล้ว แต่ถ้าเราทำแบบส่งๆ ผลสุดท้ายเราก็รู้ตัว แต่อีกส่วนคือเรื่องที่ทำแล้วคนดูชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งเป็นคนละส่วน ถ้าคนดูชอบเราก็ดีใจ (ยิ้ม) แต่ถ้าเขาเฉยๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้
000 ทำงานกับนางเอกแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง
ตั้งแต่ถ่ายละครมา นางเอก น่ารัก ทุกคนเลย ทั้ง ไอซ์ (อามีนา กูล) เบลล่า (ราณี แคมเปน) แต้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) พลอย (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) กับพลอยนี่เคยร่วมงานกันมานานมากแล้ว เล่นหนังด้วยกันเรื่อง Goodbye summer นางเอกแต่ละคนของผมสวยทุกคน ผมโชคดีจังเลย (ยิ้ม)
000 เบลล่า เคยบอกว่าก่อนร่วมงานกับ แอนดริว เกร็งมาก แต่พอได้มาทำงานจริงๆ น่ารัก
โห!! แอบชมเราด้วย เมื่อก่อนผมคงมีชื่อเสียงในด้านโหดร้าย (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ ผมก็เป็น ถามว่าทุกวันนี้ ผมยังเหมือนเมื่อก่อนมั้ยในเรื่องการทำงาน (นิ่งคิดนาน) ข้างในผมเหมือนเดิมนะ แต่ภายนอกอาจแตกต่างออกไป เขาอาจจะดูว่า ภายนอกเราเล่นมากขึ้น มันอยู่ที่ตัวละครด้วย อะไรที่ส่งผลกับตัวละคร เราไปทำหน้างานได้ เหมือนเป็นการบริหารตัวละครอีกแบบหนึ่ง เพื่อทำให้ตัวละครแข็งแรงขึ้น
@ทำงานไม่อิงกระแส
000 กระแสในโลกโซเชียล แอนดริว เหมือนเป็นพระเอกของทุกคน
ผมพยายามปิดกั้นข้อมูลตรงนั้น ผมเล่นโซเชียล เล่นไอจีนะ แต่เหมือนผมจะไม่กล้าเข้าไปรับรู้ว่า เขารู้สึกยังไง ผมคงกลัวมั้ง ไม่กล้าอ่านคอมเม้นต์ บางทีมันประคับประคองลำบาก เพราะสิ่งเหล่านี้ มีผลกระทบต่อความรู้สึกในการทำงาน ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ถ้าคนชอบมากๆ คำชมเยอะ บางทีผมคิดว่าคำชมก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่า ไม่รับเลย คำติผมก็รับ คำชมผมก็รับ แต่บางทีผมเป็นคนอ่อนไหว ถ้าชมมาเยอะมากๆ ผมจะยิ้มหน้าบานเกินไป