สังคมประนาม "เมียน้อย" เลว ต่ำ สกปรก น่ารังเกียจ...รู้มั้ย?ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่อยากเปน!!

คุนให้นิยามคำว่า "เมียน้อย" ว่ายังไง?
เคยเข้าใจอีกด้าน ของคนที่ถูกตราหน้า ว่าเปน "เมียน้อย" กันบ้างรึป่าว?

"เมียน้อย" อาจมีหลายแบบ เพราะคนที่เปนเมียน้อย ต่างจิตต่างใจ ต่างสามัญสำนึก ต่างเหตุ.....แต่ไม่ต่างผล
ถ้า"เมียน้อย" คือคนที่แย่งสามีชาวบ้าน..บอกเรยว่าไม่ได้แย่ง!
ถ้า "เมียน้อย" คือ คนที่คอยตามราวีเมียหลวง..บอกอีกว่าไม่ได้ตาม!
ถ้า"เมียน้อย" คือ คนที่สามีชาวบ้านมายุ่งด้วย...อันนี้ใช่
ถ้า "เมียน้อย" คือ คนที่สามีชาวบ้านมาลักลอบคบ หลบๆซ่อนๆ..ก็น่าจะใช่อีก

.......แต่คนส่วนมากมองว่า ผญ ที่คบกับ ผช ที่มีเมียแร้ว..นั่นแหละ ชู้ เมียน้อยชัดๆ...ไม่ว่าเค้าจะคบด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ช่างมัน ยังไงก็ชู้อยู่ดี ถ้าคนมีสามัญสำนึก มันคงไม่ทำแบบนี้หรอก ใช่มั้ยคะ???

.......อยากให้เห็นอีกมุมนึงของคนที่อยู่ในสภาพนี้...
ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมีประวัติยุ่งกับสามีชาวบ้าน หรือแย่งแฟนใคร หรือยุ่งกับใคร หรือเจตนาจะทำลายครอบครัวใคร
🌻...ได้รู้จักกับ ผช คนนึง ที่บอกว่าแยกทางกับแฟน อยู่คนเดียว ไม่มีใคร...ความจริงใจของเค้า ทำให้เราเชื่อใจ รัก รักมาก จนตกลงคบกัน วางแผนอนาคตร่วมกัน โดยไม่รู้เรยว่า ผช คนนี้ กำลังหยิบยื่น สถานภาพ ชู้ ให้!
🍂 ความจริง คือ เค้ามีเมีย มีลูก 2 คน อยู่ด้วยกันที่บ้าน กับแม่ กับญาติๆ เปนครอบครัว
😭 ความรู้สึกของเค้าเวลารู้ว่าเรา รู้ความจริง..เค้าเสียใจ แระรู้สึกผิด ส่วนความรู้สึกเราน่ะหรอ..เหมือนหัวใจหล่นไปอยู่พื้น อึ้ง!! จนทำอะไรไม่ถูก ทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ แต่ในใจไม่เคยโกรธ ผช คนนี้เรย เพราะเชื่อ ว่าเค้ารักเรา แระเราก็รักเค้ามาก

แน่นอน ธรรมดาของ ผช พอเจอเหตุการณ์แบบนี้มักจะชอบขอร้อง ขอให้เรารอเค้า
ความคิดในตอนนั้นนะ..มีทางเลือกให้ตัวเอง 2 ทาง
1. ไปจากชีวิตเค้า อย่าไปทำให้ครอบครัวเค้าพัง อย่าไปทำร้ายครอบครัวเค้า
2. อยู่ในชีวิตเค้าต่อไป เพราะว่า รักเค้ามาก ยังไม่พร้อมถ้าจะต้องเสียเค้าไป

แระแน่นอนอีกว่า ไม่มี ผช มากมายนักหรอก ที่อยากให้เราเลือก ข้อ 1

ใช่..เค้าขอให้เราอยู่ในชีวิตเค้า ...เค้าขอเวลา 1 ปี เพื่อเตรียมทุกอย่างไว้ให้ที่บ้าน สร้างหลักปักฐานไว้ให้ลูก เมียเค้าเอง ก็อยากดูแลแค่ลูก พอถึงเวลา เค้าจะมาอยู่กับเราที่บ้าน
เค้าบอกว่า เค้าอยู่ที่บ้านแร้ว "ไม่มีความสุข" ต้องเครียดต้องกดดันหลายอย่าง เค้าเหนื่อย..อยู่กับเราเค้าสบายใจ เค้าบอกว่า เราไม่ได้แย่งสามีใคร ไม่ใช่ชู้ เพราะเค้ากับเมียที่บ้าน ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน

เค้าพยายามทุกอย่าง จนเรา ยอม อยู่ในชีวิตเค้าต่อไป
😭😭 รู้มั้ย? ในใจไม่เคยคิดที่จะวุ่นวายกับเมียเค้าเรย เพราะไม่อยากให้เมียเค้าเสียใจแระผิดหวังในตัวเค้า
แร้วรู้มั้ย? ชีวิตตั้งแต่วันนั้นมา ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ร้องไห้ ภาพลูกเมียเค้า คอยมาย้ำใจเราตลอดเวลา
จะให้โวยวาย ตัดขาด ก็ยังทำไม่ได้ จะให้ยิ้ม เริงร่า ว่าได้สามาเค้ามานอนกกนอนกอด ก็ไม่ใช่!

เศร้าตลอดเวลาที่ต้องอยู่ในสภาพนี้ สงสารลูกเมียเค้าก็สงสาร สมเพชตัวเองก็สุดๆ แต่ไม่เคยคิดจะทำร้ายเรยจริงๆ

เคยคิดว่าถ้าเกิดท้องขึ้นมา จะหนีหายไปจากชีวิตเค้า..แต่ก็คงทำไม่ได้ เพราะห่วงเค้า
ทุกวันนี้อยู่ได้เพราะกำลังใจจากเค้า มีความสุขที่ได้ดูแลเค้า แต่เจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงครอบครัวเค้า

ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะ ที่เต็มใจเปนเมียน้อย .ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง แระทุกอย่างก็มีเวลาของมัน..อนาคตข้างหน้า ตั้งใจแร้วว่าถ้าเค้าพร้อมที่จะไป ไปอยู่กับครอบครัวเค้า เราก็จะถอยออกมาได้อย่างเข้มแข็งเหมือนกัน
เรื่องบางอย่าง ต้องใช้เวลา  การจะเลิกคบก็เช่นกัน ถ้าสามีคุนขอเวลา...คุนภรรยาทั้งหลาย ก็น่าจะลองให้เวลาเค้าบ้าง เค้าอาจกำลังพยายามอยู่ก็ได้

ที่เล่ามา เพราะอยากให้เห็นอีกมุมนึง ไม่ได้สนับสนุนให้เปนเมียน้อย แต่อยากให้ซื่อสัตย์กับความรุสึกตัวเอง ถ้าจะเปนชู้เค้าก็ควรเปนเพราะความรัก ไม่ใช่เพราะต้องการแย่งชิง เมื่อรู้ว่าเปนแร้วทุกข์ ก็ควรหาทางถอยออกมา ไม่ใช่ดึงดันจะครอบครอง ทุกอย่างต้องใช้เวลา

แต่แม้ว่าจะอยู่เพราะความรัก..อย่างที่บอกไป เมื่อเข้ามาอยู่ในสภาพนี้แร้ว...ไม่เคยอยู่แบบสบายใจเรย เหมือนกำลังซ้อมๆลงนรกไว้ยังไงอย่างงั้น "เมียน้อย"ไม่ใช่สิ่งที่ควรเปนเรย!!!!!

ขอบคุนค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณเลือกข้อ 2. เพราะคุณเห็นแก่ตัว .... ฉนั้นไม่ต้องมาสาธยายเหตุผลร้อยแปดอะไรหรอกค่ะ
แปลกดีที่คุณรอให้ผู้ชายเป็นผู้เลือก ....ถ้าคุณจะไปจากเขาจริง ๆ ก็ไปซะตั้งแต่ตอนนี้สิ
จะอยู่เป็นหอกข้างแคร่ของครอบครัวคนอื่นทำไม  
แต่ที่คุณไม่ไป เพราะแอบหวังว่าเขาจะเลือกคุณสินะ  อยู่เพื่อรอเวลามากกว่ามั้งคะ
แต่ระวังนะคะ.... จะเสียเวลาเปล่า  ดูจากรูปการณ์แล้วก็เบสิคของพวกผู้ชาย
ที่แค่อยากมีเมียน้อยทำกันมาช้านานหลายชั่วอายุคนนั่นแหละ

**ไม่เคยตกที่นั่งเมียหลวงหรอกนะคะ  แต่เกลียดพวกที่หาความชอบธรรมให้ตัวเองแบบผิด ๆ
เพียงอ้างเรื่องความรัก  คุณรักคนอื่นเป็นคนเดียวหรือ  ภรรยาหลวงที่คุณไปแย่งชิงความรักมา
ผู้หญิงพวกนั้นไม่มีความรู้สึกอะไรเลยใช่มั้ย  ไร้หัวใจ ไร้ความรักอย่างนั้นหรือ
ความคิดเห็นที่ 35
ลองๆอ่านเรื่องราวของเราดูบ้างนะคะ

นานมาเเล้ว...เราได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง ตอนนั้นเค้าอายุ 23 ในสายตาเราเค้าเป็นผู้ชายที่น่ารักเเละอบอุ่นมาก นอกจากจะหน้าตาหล่อเหลาเเล้ว เค้ายังดูดีมีสกุล เนื้อตัวสะอาด ฉลาดหลักเเหลม หน้าที่การงานมันทำให้เค้าดูเท่ เค้าพูดได้หลายภาษา เดินทางไปดูงานต่างประเทศบ่อยๆ (ช่วยพ่อบริหารงานที่โรงงาน) หน้าตาเหมือนพระเอกหนังจีนที่เราหลงไหล ความอ่อนโยนของเค้ามันทำให้เราหลงรักเค้าอย่างไม่มีข้อเเม้

คบหากันอยู่เก้าเดือน ตลอดเวลาเค้าอ่อนหวานเเละดูจริงใจกับเรามาก เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เเต่เราไปมาหาสู่กัน เค้ารู้จักบ้านเรา เเละเราก็รู้จักบ้านเค้าทั้งสามหลัง ทั้งน้องชายเเละน้องสาวเค้า เรารู้จักหมด เวลาที่เราทะเลาะกัน เค้าจะขับรถมาจอดหน้าบ้าน รอจนกว่าเราจะออกไปหา นานเท่าไหร่เค้าก็รอ ดึกดื่นเเค่ไหนเค้าก็ไม่ท้อ เวลาเรานัดกันไปกินข้าวนอกบ้าน เค้าจะเป็นฝ่ายไปรอเราก่อนเสมอ หลายครั้งเราขอจ่ายค่าอาหาร เค้ามักจะบอกว่า ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเค้าจ่ายเอง บ้านเค้ารวย เเล้วเค้าก็หัวเราะอารมณ์ดี

ทุกครั้งที่เค้าต้องเดินทางออกต่างประเทศ เค้าจะเอารถมาจอดที่บ้านเรา เเล้วให้เราไปส่งที่สนามบิน ถ้าพ่อเค้าบอกให้ขับรถไปดูงานทางใต้ เค้าจะใช้เวลาที่จะใช้เดินทางอยู่กับเรา เเละย่นระยะการเดินทางด้วยเครื่องบินเเทน (หลอกพ่อว่าขับรถไป)

เค้าขับรถพาเราไปทำธุระต่างจังหวัดด้วยความเต็มใจ ไม่เคยบ่นเลยสักครั้ง เวลาที่เราออกเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน เค้าจะให้เรานอนหนุนตักเวลาที่เค้าขับรถ (ระยะทางไกลเราจะเหนื่อยเเละง่วงนอนมาก) มือนึงเค้าจับพวงมาลัย ส่วนอีกมือเค้าลูบผมเรา เราไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เค้ายืนกอดเอวเราฟังเสียงคลื่นซัดหาดทราย โรเเมนติกฝังจิตฝังใจเลยนิ

เราเชื่อเสมอว่าเค้ารักเรา เเละเราก็รักเค้าไม่ต่างกัน เค้าเป็นผู้ชายคนเเรกเเละคนเดียวที่เราคิดเรื่องครอบครัวด้วย

จนกระทั่ง.......คืนนั้นกลุ่มเรา (เพื่อนสนิทเราเเละเพื่อนสนิทเค้า) ไปร่วมฉลองงานวันเกิดกันจนดึกดื่น หลังจากที่วนส่งเพื่อนทุกคนกลับถึงบ้านเเล้ว เราเป็นคนสุดท้ายที่เค้าส่งกลับบ้าน  จู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซร์ผ่าไฟเเดงมาประสานงากับรถเเฟนเราอย่างจัง ทันทีที่เค้าได้สติ เค้ารีบลงไปอุ้มคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เสื้อสีขาวเค้าเต็มไปด้วยเลือด น้ำใจของเค้าที่เเสดงออกมันทำให้เรารักผู้ชายคนนี้มากยิ่งๆขึ้นไป

เเละเเล้ว.......
หลังจากที่ให้ปากคำตำรวจเสร็จเรียบร้อยเเล้ว เค้ากำลังจะพาเรากลับไปส่งที่บ้าน เสียงโทรศัพย์เค้าก็ดังขึ้น ความเงียบในรถทำให้เราได้ยินบทสนทนาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน มีผู้หญิงอีกคนเป็นห่วงเป็นใยเค้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้หญิงคนนั้นรู้ข่าว เพราะตำรวจติดต่อไปที่บ้าน

เราเดินลงจากรถทันทีที่รถติดไฟเเดง เค้ารีบปิดมือถือเเละดึงมือเราเอาไว้ เค้าบอกว่า ขึ้นรถมาก่อนนะ เดี๋ยวเค้าจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง

เรายอมให้เค้าขับรถพาไปส่งจนถึงบ้าน เเละเช้าของอีกวัน เราก็ตัดสินใจเดินทางไปบ้านหลังที่สี่  เรารู้ว่าอยู่ที่ไหน เเต่ไม่เคยเดินเข้าไป เพราะเค้าบอกว่าเป็นที่ทำงาน (อาคารพานิชย์ที่ชั้นบนสุดเป็นห้องนอน) ทุกครั้งที่เค้าเเวะไปเราจะรออยู่ในรถ

เเละเเล้วเราก็ได้เจอเธอ....เค้าตกใจมากที่ได้เจอเราไปที่นั่น เราขอคุยกับผู้หญิงของเค้าสองต่อสอง ผู้หญิงคนนั้นเริ่มร้องไห้ เค้าบอกว่าเค้าได้เสียกับเเฟนเราเพราะความไกล้ชิด ไม่ได้เกิดจากความรัก ด้วยความที่เเฟนเราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ทั้งคู่จึงไปจดทะเบียนสมรสกัน เเต่ไม่เคยมีงานเเต่ง ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเค้ารู้ว่าเเฟนเรารักเรามาก เค้ารู้มาตลอดว่าสามีเค้ามีเรา เเต่เค้าพูดอะไรไม่ได้ เพราะผู้ชายไม่ได้รักเค้าเเล้วตั้งเเต่เเรก มีเเต่เค้า ที่รักสามีเค้าเหลือเกิน รักเเละยอมได้ทุกอย่าง ถึงเเม้ว่าสามีเค้าจะมองว่าเค้าไม่มีค่าอะไรเลยก็ตาม

เราบอกกับเเฟนเราให้ช่วยไปส่งที่บ้านหน่อยนะ มีเรื่องจะคุยด้วย เเฟนเราออกมาส่งเราโดยที่เมียเค้าไม่กล้าว่าอะไรเลย

ตลอดทางเราเงียบ.......เค้าก็เงียบ จนมาถึงบ้านเรา

เค้านั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น เค้าบอกว่าเค้ารักเรา เเละถามว่าเรายังรักเค้าเหมือนเดิมใช่ไหม.......

เราตบหน้าเค้าไปฉาดใหญ่ พร้อมกับบอกเค้าไปว่า ต่อไปไม่ต้องมาเจอกันอีก (เค้าเป็นลูกคนจีน หน้าขาวๆเเดงเป็นรอยห้านิ้วเต็มๆ)

กลับไปซะ ..........นี่เป็นคำพูดสุดท้ายที่เราได้พูดกับเค้า

หลังจากนั้นหน่ะเหรอ ...ก็เหมือนนางเอกมิวสิคดีๆนี่เเหละ สะพายเป้เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว มืดไหนนอนนั่น ซมซานไปนานโข

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 24 ปีผ่านมาเเล้วค่ะ เราไม่เคยได้เจอกับเค้าอีกเลย

วันนี้เราเเต่งงานเเล้วเเละมีครอบครัวที่อบอุ่น (ลูกๆโตกันหมดเเล้ว) สามีเราอาจจะไม่หวานเหมือนเเฟนเก่า เเต่เค้าก็รักเราด้วยความจริงใจ ไม่ได้ปิดบังความผิดของตนเหมือนอย่างที่เเฟนเก่าทำ

เเละเเน่นอนค่ะ สเปคเรายังคงเป็นอาตี๋เหมือนเดิม.........

ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นคิดอะไร เรารู้เเค่เพียงว่า เราจะไม่มีวันทำให้ผู้หญิงอีกคนต้องเจ็บเพราะเเย่งผู้ชายคนเดียวกัน เรามาทีหลัง เดินออกมาเองก็ถูกต้องเเล้ว เเละถ้าเค้ารักเราจริง เอาไว้เลิกกับเมียเมื่อไหร่เเล้วอาจจะได้เจอกันอีกก็ยังไม่สาย

ืทุกวันนี้เราก็ยังคุยกับเค้าทางโทรศัพย์ทุกสามถึงห้าปีครั้งค่ะ เค้าเลิกกับเมียเค้าเเล้ว เเละมีเเฟนระเกะระกะไปทั่ว ชีวิตดูเหมือนจะไม่อบอุ่นสักเท่าไหร่ อายุตอนนี้ก็น้องๆห้าสิบเเล้ว จริงๆเเล้วเราก็ยังอยากจะเจอกับเค้าอีกสักครั้งนะ ก่อนตายไม่รู้ว่าจะได้เจอกันไหม เรามั่นใจว่าเรายังเป็นเพื่อนกับเค้าได้ อายุปูนนี้กันเเล้ว ถ่านไปเก่ามอดเป็นขึ้เถ้าไปหมดเเล้ว ที่ยังเหลือก็คงจะเป็นเรื่องราวดีๆที่เคยทำร่วมกันมาก

ตัดไฟอยู่ที่ใจ ซมซานไปก่อนเเล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นอีก เชื่อเราเถอะ เราผ่านจุดนั้นมาเเล้ว ทุกวันนี้หน่ะเหรอ....ขอบคุณสวรรค์ ที่ดลจิตดลใจให้เลิกกันมันซะได้ 55+

จบเเล้ว......................  ^__^
ความคิดเห็นที่ 6
อ่านภาษาที่ใช้
ก็รู้แล้วว่า ไม่ได้สำนึกอะไร
แถมอยากให้คนยอมรับการกระทำของตัวเองอีก
รู้ทั้งรู้นั่นแหละ แต่หลับหูหลับตา

ก็ ต้องยอมรับสภาพไปโดยปริยาย
ความคิดเห็นที่ 19
สังคมทุกวันนี้  คนมักจะเอาเรื่องที่ผิดศีลธรรม มาพูดให้เห็นใจ
เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง
ในเชิงว่า มันทุกข์ยากมากที่จะทำใจ  แล้วก็พยายามตีแผ่  เปลือยชีวิต ให้น่าสงสาร ให้น่าเห็นใจ
ทั้งๆที่ตัวเอง รู้ว่าผิด ก็ไม่หยุดการกระทำนั้น  
แล้วบอกสังคม ว่า ฉันเลิกทำบาปไม่ได้เพราะถลำลึกไปแล้ว ถอนตัวไม่ได้  ถ้าเลิกฉันทรมานมาก

อาการแบบนี้ก็เหมือนคนติดยา ที่อยากเลิกแต่เลิกไม่ได้ เพราะมันลงแดง
ก็เลยติดยาต่อไป  ฉันจะได้ไม่ทรมาน จะผิดถูกอย่างไร ก็ขอให้ตัวฉัน  สบาย  ไม่ทุกข์ก็พอ

ใครจะเดือนร้อน ใครจะบ้านแตก ใครจะทะเลาะกัน ใครจะเป็นอย่างไร ก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับฉัน
ขอให้ฉันมีความสุขก็พอ
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่รู้ซินะครับ ผมยอมเจ็บไปจนวันตาย ดีกว่าจะลดศักดิ์ศรีตัวเองไปอยู่สถานะชู้ ผมว่าคุณค่าของคนคือการไม่โลภเอาของคนอื่นมาเป็นของตนเอง ที่พุดอย่างนี้ไม่ใช่ไม่เคยทำนะครับ ผมผ่านเรื่องราวอย่างนี้มาและเลือกที่จะเดินออกมาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่