การเลิกกัน เป็นเรื่องของคนสองคนยากจะเข้าใจจริงๆนะ
จากเรื่องของเราเอง เริ่มจากเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียน เปลี่ยนสถานะมาเป็นคนรักในวัยทำงาน ...หลายปีที่คบเรารักกันมา รักกันเพิ่มทุกวัน บอกรักกันทุกวัน ไปรับไปส่งทุกวัน โทรหากันเช้า, กลางวัน, เย็น, ก่อนนอน
ถึงที่ทำงานยังต้อง miss call หรือ ข้อความ ไม่เคยทะเลาะกันเลยตลอดเลาที่คบมา แต่พอวันนึงที่เค้าพบน้องคนนั้นในที่ทำงาน คนที่สวยกว่า น่ารักกว่า เอาใจเก่งกว่า ขี้อ้อนมากกว่า ทุกอย่างดีกว่าเราหมด เธอเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งมาทำงานในออฟฟิส เป็นมนุษย์น้อยเจ้าปัญหาที่คอยมาให้คนของเราแก้ปัญหาให้ เค้าแชร์ทุกเรื่องของน้องคนนี้เวลาที่เธอปัญหามาปรึกษาเค้าให้เราฟัง เราก็ให้คำแนะนำตามสมควร จนกระทั่งน้องมีเรื่องผิดใจกะแฟน คนของเราเลยคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ ปลอบใจเป็นเพื่อน กลายเป็นน้ำซึมลึก นานเข้าเราเห็นผิดสังเกต เพราะเริ่มมีคำเปรียบเทียบเกิดขึ้นระหว่างเรากับน้องคนนั้นมากขึ้น บ่อยขึ้น เห็นแอบคุยมือถือกันถี่ขึ้น จนเราเริ่มรู้สึกใจเค้าก็ไปจากเราแล้ว
เราโทรหาเพื่อนที่ทำงานของเค้าว่าเห็นอะไรผิดปกติบ้างหรือไม่ บอกเราได้มั้ย ...คำตอบที่ได้มาคือ เค้าสองคนสนิทกันเริ่มห่างจากพวกกลุ่มเพื่อนแต่ไม่รู้ว่าใช่อย่างทีเราคิดหรือไม่...
ไม่นานต่อมาเราขอจับเข่าคุยกะเค้าสักหน่อย ถามเรื่องน้องคนนั้น จนเค้าเริ่มเห็นว่าเราถามมากเกินปกติ เราเลยโดนว่ากลับมาว่าฟุ้งซ่าน คิดมากเกินเหตุ
แต่ในตอนนั้นความอดทนเราหมดแล้ว เลยบอกถามตรงๆ และพูดกับเราตรงๆ ได้หรือไม่ คำถามที่นานมากกว่าจะหลุดจากปากเราคือ "เลิกรักเราแล้วใช่มั้ย อยากเลิกกับเรามั้ย"
คำตอบที่ได้นั้นคือคำตกลง ที่ดูเต็มไปด้วยความโล่งใจ เหตุผลที่ยกมาอ้างให้เราฟังคือ น้องเค้าอ่อนแอและไม่มีใครแล้วตอนนี้ น้องต้องการคนดูแล เราถามกลับว่าแล้วเราล่ะ
เค้าบอกว่า เราเข้มแข็งไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ เจ็บเนอะทั้งที่เป็นคนขอเลิกเอง
ความรัก คำสัญญาเปลี่ยนง่ายจริง คนเก่าคบหลายปีกะคนใหม่แค่รู้จักกันไม่กี่เดือน...แค่พบคนที่ตรงใจมากกว่า คนที่ใช่มากกว่า
เราเดินจากมาเงียบๆ เลิกกันเงียบๆ คนรอบข้างแปลกใจ เกิดอะไรขึ้นเราแยกตัวเองออกจากกลุ่มเพื่อนที่คุ้นเคย ย้ายที่ทำงาน เจ็บมากที่เราต้องขอเลิกกับเค้าทั้งที่ยังรัก ...
แค่อยากเตือนว่า บางครั้งการที่ไว้ใจใครหรือเชื่อใจกันเกินไป คำว่าเกินไปย้อนกลับมาทำร้ายเราเอง... ไม่รู้เหมือนกันว่าเราผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นกับการเสียน้ำตาไปนานแค่ไหน
ปัจจุบันเราเข้มแข็งและโสดอย่างเป็นสุข...
รักและเชื่อใจเกินไป ทำให้เราสูญเสียคนรักโดยไม่รู้ตัว
จากเรื่องของเราเอง เริ่มจากเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียน เปลี่ยนสถานะมาเป็นคนรักในวัยทำงาน ...หลายปีที่คบเรารักกันมา รักกันเพิ่มทุกวัน บอกรักกันทุกวัน ไปรับไปส่งทุกวัน โทรหากันเช้า, กลางวัน, เย็น, ก่อนนอน
ถึงที่ทำงานยังต้อง miss call หรือ ข้อความ ไม่เคยทะเลาะกันเลยตลอดเลาที่คบมา แต่พอวันนึงที่เค้าพบน้องคนนั้นในที่ทำงาน คนที่สวยกว่า น่ารักกว่า เอาใจเก่งกว่า ขี้อ้อนมากกว่า ทุกอย่างดีกว่าเราหมด เธอเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งมาทำงานในออฟฟิส เป็นมนุษย์น้อยเจ้าปัญหาที่คอยมาให้คนของเราแก้ปัญหาให้ เค้าแชร์ทุกเรื่องของน้องคนนี้เวลาที่เธอปัญหามาปรึกษาเค้าให้เราฟัง เราก็ให้คำแนะนำตามสมควร จนกระทั่งน้องมีเรื่องผิดใจกะแฟน คนของเราเลยคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือ ปลอบใจเป็นเพื่อน กลายเป็นน้ำซึมลึก นานเข้าเราเห็นผิดสังเกต เพราะเริ่มมีคำเปรียบเทียบเกิดขึ้นระหว่างเรากับน้องคนนั้นมากขึ้น บ่อยขึ้น เห็นแอบคุยมือถือกันถี่ขึ้น จนเราเริ่มรู้สึกใจเค้าก็ไปจากเราแล้ว
เราโทรหาเพื่อนที่ทำงานของเค้าว่าเห็นอะไรผิดปกติบ้างหรือไม่ บอกเราได้มั้ย ...คำตอบที่ได้มาคือ เค้าสองคนสนิทกันเริ่มห่างจากพวกกลุ่มเพื่อนแต่ไม่รู้ว่าใช่อย่างทีเราคิดหรือไม่...
ไม่นานต่อมาเราขอจับเข่าคุยกะเค้าสักหน่อย ถามเรื่องน้องคนนั้น จนเค้าเริ่มเห็นว่าเราถามมากเกินปกติ เราเลยโดนว่ากลับมาว่าฟุ้งซ่าน คิดมากเกินเหตุ
แต่ในตอนนั้นความอดทนเราหมดแล้ว เลยบอกถามตรงๆ และพูดกับเราตรงๆ ได้หรือไม่ คำถามที่นานมากกว่าจะหลุดจากปากเราคือ "เลิกรักเราแล้วใช่มั้ย อยากเลิกกับเรามั้ย"
คำตอบที่ได้นั้นคือคำตกลง ที่ดูเต็มไปด้วยความโล่งใจ เหตุผลที่ยกมาอ้างให้เราฟังคือ น้องเค้าอ่อนแอและไม่มีใครแล้วตอนนี้ น้องต้องการคนดูแล เราถามกลับว่าแล้วเราล่ะ
เค้าบอกว่า เราเข้มแข็งไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ เจ็บเนอะทั้งที่เป็นคนขอเลิกเอง
ความรัก คำสัญญาเปลี่ยนง่ายจริง คนเก่าคบหลายปีกะคนใหม่แค่รู้จักกันไม่กี่เดือน...แค่พบคนที่ตรงใจมากกว่า คนที่ใช่มากกว่า
เราเดินจากมาเงียบๆ เลิกกันเงียบๆ คนรอบข้างแปลกใจ เกิดอะไรขึ้นเราแยกตัวเองออกจากกลุ่มเพื่อนที่คุ้นเคย ย้ายที่ทำงาน เจ็บมากที่เราต้องขอเลิกกับเค้าทั้งที่ยังรัก ...
แค่อยากเตือนว่า บางครั้งการที่ไว้ใจใครหรือเชื่อใจกันเกินไป คำว่าเกินไปย้อนกลับมาทำร้ายเราเอง... ไม่รู้เหมือนกันว่าเราผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นกับการเสียน้ำตาไปนานแค่ไหน
ปัจจุบันเราเข้มแข็งและโสดอย่างเป็นสุข...