สวัสดีค่ะ แนะนำตัวก่อนเลยคะ ทัศญา (ทัด-สะ-ยา) เรียกสั้นๆว่า ทัดยา พาเพลิน .. จบคะตามนี้

เนื่องด้วยอารมณ์คันไม้คันมือ ช่วงนี้หยุดยาวบ๊อย บ่อย แล้วบังเอิญเวลาเหลือเฟือเลยอยากจะลองเขียนรีวิวกับเขาบ้าง จัดคะจัด ฝันให้ไกลไปให้ถึง ... หุหุหุ
เริ่มเลยดีฟ่าค่ะ นานๆ ได้หยุดติดกันเสาร์อาทิตย์ก็เลยคิดที่เที่ยวแบบใกล้ๆ ผลลัพธ์ คือ เขาค้อ เพชรบูรณ์คะ วางรูทคร่าวๆ ว่าจะหาที่พักเอาดาบหน้าที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์สักคืน และรีบบึ่งรถขึ้นไปเที่ยวบนเขาค้อแต่เช้ามืด และบึ่งรถกลับบางกอก เริ่มออกจากกรุงเทพฯ
ทริปฉุกละหุกครั้งนี้เก็บกระเป๋าไวกว่าความเร็วแสงซะอีก คริคริ
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์คะ (เรื่องเส้นทางขออนุญาตไม่ลงดีเทลนะคะ เพราะขนาดไปแค่บางนาก็ยังหลงอยู่เลย แหะๆ)
แต่กองทัพต้องเดนด้วยท้องคะ ขอแวะเติมพลังที่ ร้านนิว ไก่ย่างบัวตอง แยกวิเชียรบุรี กันก่อนคะ ก็ไม่หิวเท่าไหร่ แต่ดูจากภาพแล้วกันนะคะ คริคริ ......
พอทานเสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนอื่นต้องหาที่พักกันก่อนเลยเปิด google เลยคะกะว่าเอาง่ายๆ ราคากันเองแบบไม่เจ็บตัว คำตอบที่ได้คือ Bestiny Hotel
ตอนที่เราไปพักโชคดีมากเลยได้ห้องพัก 2 ห้องติดกันเลย ลืมบอกว่าเราไปกัน 4 คนคะ (คนที่มาพักที่นี่ มีทั้งมากันแบบครอบครัว เพราะที่นี่เขามีแบบ family room ด้วยคะ ชาวต่างชาติก็มีนะเออ บรรยากาศดี๊ดี ชะนีแบบเราก็ตาเป็นประกายสิคะ) บรรยากาศห้องเรียบหรูดูดี ตกแต่งสวยงามในสไตล์โมเดิร์นคะ อุปกรณ์ครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น มีระเบียงที่มองเห็นวิวหน้าโรงแรม ที่จอดรถก็มีรองรับ เรียกว่าสะดวกสบาย และที่สำคัญราคาน่าคบสุดๆ มีโปรโมชั่นคืนละ 900 บาท ฟินอ่ะ (เราไปช่วงกุมภาพันธ์ค่ะ ดองรีวิวนานทีเดียว) แหะๆๆ
พอเช็คอินเข้าที่พักเสร็จแล้ว ก็นัดแนะกันมา dinner กันที่ห้องอาหารของโรงแรมนี่ละคะ ละก็ไม่พลาด อาหารขึ้นชื่อของเพชรบูรณ์ “ยอดทานตะวัน”
คืนแรกผ่านไปด้วยดี เช้าแล้วคะ ก่อนการเดินทางจะเริ่มต้นขึ้น เราทั้ง 4 คนก็มุ่งหน้าไปที่ตลาดนาเฉลียง เดินไปจากโรงแรมไม่ถึงห้านาที ทำบุญกันหน่อยคะ ชาวบ้านที่นี่เขามีธรรมเนียมการตักบาตรแบบพุทธมหายาน คือเราจะตักบาตรอาหารและกับข้าวให้กับพระสงฆ์รูปแรกของแถวเท่านั้นคะ ส่วนพระสงฆ์รูปที่เหลือเราจะใส่แค่ข้าวเปล่าเท่านั้นคะ เสร็จจากใส่บาตร

แวะเติมพลังด้วยหมูปิ้งเล็กน้อย จากนั้นเรามุ่งหน้าขึ้นเขาค้อเพราะอยากจะเห็นสายหมอกยามเช้า ฟรุ้งฟริ้งดีแท้ อิอิ... และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ตลอดการเดินทางสู่เขาค้อ มีหมอกเป็นเพื่อนร่วมทางตลอดเลยคะ เปิดกระจกขับนี่หน้าชาเลย...
แวะเที่ยวที่แรกที่ไร่สตรอเบอรี่ เสียค่าเข้าชมไร่สตรอเบอรี่ คนละ 10 บาท ถ่ายรูปเดินชิลๆ แต่ห้ามเก็บสตรอเบอรี่นะคะ จะโดนปรับ แต่ถ้าต้องการจะเก็บก็ทำได้คะ แต่เสียเงินเพิ่มจำไม่ได้แล้วว่ากี่บาทคะ
เสร็จจากเดินไล่นที่ไร่สตรอเบอรี่แล้ว แอบเป็นทัวร์ชะโงก ส่องทุ่งทานตะวันตามข้างทางด้วย ชมความงามในรถพอ เพราะแดดเริ่มมาแล้วคะ ที่สำคัญเรากำลังมุ่งหน้าไปสักการะ และชมความงามของพระธาตุช่อแก้วกัน ....
อิ่มแล้วพร้อมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่พระธาตุศรีสองรัก จ.เลย ระหว่างทางพักรถถ่ายภาพกับจุดชมวิวด่านซ้ายกันก่อน เป็นที่ระลึกคะ
ในที่สุดก็ถึงแล้วคะ พระธาตุศรีสองรัก ก่อนจะมาที่นี่มีการทำการบ้านหาข้อมูลเล็กน้อย ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าห้ามใส่ชุดแดงเข้ามาในเขตพระธาตุศรีสองรักแห่งนี้ เพราะเชื่อว่าสีแดงคือสีของเลือด (สำหรับประวัติสามารถอ่านเพิ่มในอากู๋เกิ้ลได้เลยนะคะ)

เราทำเวลาได้ดีมากคะ เสร็จจากสักการะพระธาตุศรีสองรักกันแล้ว คงถึงเวลาที่เราต้องมุ่งหน้ากลับบางกอกกันแล้วคะ บึ่งยาวรวดเดียวถึงกรุงเทพฯ ไม่ถึง 5 ชม.เลย เขาถึงบอกว่าเวลาเราไปเที่ยวขากลับจะไวกว่าขาไปเสมอ เชื่อแล้วคะ จบทริปวันนี้บอกเลยว่า อิ่มบุญ แถมอิ่มพุงมากๆ ขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
ปอลอ ปอลิง จขกท. ต้องขอโทษล่วงหน้าสำหรับบางโพสที่ต้อง capture มาจากในไฟล์ เพราะรูปต้นฉบับของเก๊าหายยย เสียใจ ร้องไห้หนักมาก
ขอบคุณมากนะคะ // tassaya*
[CR] ทริป ถนนสาย 21 (2 พระธาตุ 1 ไร่สตรอเบอรี่) ...
เนื่องด้วยอารมณ์คันไม้คันมือ ช่วงนี้หยุดยาวบ๊อย บ่อย แล้วบังเอิญเวลาเหลือเฟือเลยอยากจะลองเขียนรีวิวกับเขาบ้าง จัดคะจัด ฝันให้ไกลไปให้ถึง ... หุหุหุ
เริ่มเลยดีฟ่าค่ะ นานๆ ได้หยุดติดกันเสาร์อาทิตย์ก็เลยคิดที่เที่ยวแบบใกล้ๆ ผลลัพธ์ คือ เขาค้อ เพชรบูรณ์คะ วางรูทคร่าวๆ ว่าจะหาที่พักเอาดาบหน้าที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์สักคืน และรีบบึ่งรถขึ้นไปเที่ยวบนเขาค้อแต่เช้ามืด และบึ่งรถกลับบางกอก เริ่มออกจากกรุงเทพฯ
ทริปฉุกละหุกครั้งนี้เก็บกระเป๋าไวกว่าความเร็วแสงซะอีก คริคริ
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์คะ (เรื่องเส้นทางขออนุญาตไม่ลงดีเทลนะคะ เพราะขนาดไปแค่บางนาก็ยังหลงอยู่เลย แหะๆ)
แต่กองทัพต้องเดนด้วยท้องคะ ขอแวะเติมพลังที่ ร้านนิว ไก่ย่างบัวตอง แยกวิเชียรบุรี กันก่อนคะ ก็ไม่หิวเท่าไหร่ แต่ดูจากภาพแล้วกันนะคะ คริคริ ......
พอทานเสร็จแล้วก็ออกเดินทางต่อมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนอื่นต้องหาที่พักกันก่อนเลยเปิด google เลยคะกะว่าเอาง่ายๆ ราคากันเองแบบไม่เจ็บตัว คำตอบที่ได้คือ Bestiny Hotel
ตอนที่เราไปพักโชคดีมากเลยได้ห้องพัก 2 ห้องติดกันเลย ลืมบอกว่าเราไปกัน 4 คนคะ (คนที่มาพักที่นี่ มีทั้งมากันแบบครอบครัว เพราะที่นี่เขามีแบบ family room ด้วยคะ ชาวต่างชาติก็มีนะเออ บรรยากาศดี๊ดี ชะนีแบบเราก็ตาเป็นประกายสิคะ) บรรยากาศห้องเรียบหรูดูดี ตกแต่งสวยงามในสไตล์โมเดิร์นคะ อุปกรณ์ครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น มีระเบียงที่มองเห็นวิวหน้าโรงแรม ที่จอดรถก็มีรองรับ เรียกว่าสะดวกสบาย และที่สำคัญราคาน่าคบสุดๆ มีโปรโมชั่นคืนละ 900 บาท ฟินอ่ะ (เราไปช่วงกุมภาพันธ์ค่ะ ดองรีวิวนานทีเดียว) แหะๆๆ
พอเช็คอินเข้าที่พักเสร็จแล้ว ก็นัดแนะกันมา dinner กันที่ห้องอาหารของโรงแรมนี่ละคะ ละก็ไม่พลาด อาหารขึ้นชื่อของเพชรบูรณ์ “ยอดทานตะวัน”
คืนแรกผ่านไปด้วยดี เช้าแล้วคะ ก่อนการเดินทางจะเริ่มต้นขึ้น เราทั้ง 4 คนก็มุ่งหน้าไปที่ตลาดนาเฉลียง เดินไปจากโรงแรมไม่ถึงห้านาที ทำบุญกันหน่อยคะ ชาวบ้านที่นี่เขามีธรรมเนียมการตักบาตรแบบพุทธมหายาน คือเราจะตักบาตรอาหารและกับข้าวให้กับพระสงฆ์รูปแรกของแถวเท่านั้นคะ ส่วนพระสงฆ์รูปที่เหลือเราจะใส่แค่ข้าวเปล่าเท่านั้นคะ เสร็จจากใส่บาตร
แวะเติมพลังด้วยหมูปิ้งเล็กน้อย จากนั้นเรามุ่งหน้าขึ้นเขาค้อเพราะอยากจะเห็นสายหมอกยามเช้า ฟรุ้งฟริ้งดีแท้ อิอิ... และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ตลอดการเดินทางสู่เขาค้อ มีหมอกเป็นเพื่อนร่วมทางตลอดเลยคะ เปิดกระจกขับนี่หน้าชาเลย...
แวะเที่ยวที่แรกที่ไร่สตรอเบอรี่ เสียค่าเข้าชมไร่สตรอเบอรี่ คนละ 10 บาท ถ่ายรูปเดินชิลๆ แต่ห้ามเก็บสตรอเบอรี่นะคะ จะโดนปรับ แต่ถ้าต้องการจะเก็บก็ทำได้คะ แต่เสียเงินเพิ่มจำไม่ได้แล้วว่ากี่บาทคะ
เสร็จจากเดินไล่นที่ไร่สตรอเบอรี่แล้ว แอบเป็นทัวร์ชะโงก ส่องทุ่งทานตะวันตามข้างทางด้วย ชมความงามในรถพอ เพราะแดดเริ่มมาแล้วคะ ที่สำคัญเรากำลังมุ่งหน้าไปสักการะ และชมความงามของพระธาตุช่อแก้วกัน ....
อิ่มแล้วพร้อมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่พระธาตุศรีสองรัก จ.เลย ระหว่างทางพักรถถ่ายภาพกับจุดชมวิวด่านซ้ายกันก่อน เป็นที่ระลึกคะ
ในที่สุดก็ถึงแล้วคะ พระธาตุศรีสองรัก ก่อนจะมาที่นี่มีการทำการบ้านหาข้อมูลเล็กน้อย ชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าห้ามใส่ชุดแดงเข้ามาในเขตพระธาตุศรีสองรักแห่งนี้ เพราะเชื่อว่าสีแดงคือสีของเลือด (สำหรับประวัติสามารถอ่านเพิ่มในอากู๋เกิ้ลได้เลยนะคะ)
เราทำเวลาได้ดีมากคะ เสร็จจากสักการะพระธาตุศรีสองรักกันแล้ว คงถึงเวลาที่เราต้องมุ่งหน้ากลับบางกอกกันแล้วคะ บึ่งยาวรวดเดียวถึงกรุงเทพฯ ไม่ถึง 5 ชม.เลย เขาถึงบอกว่าเวลาเราไปเที่ยวขากลับจะไวกว่าขาไปเสมอ เชื่อแล้วคะ จบทริปวันนี้บอกเลยว่า อิ่มบุญ แถมอิ่มพุงมากๆ ขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ
ปอลอ ปอลิง จขกท. ต้องขอโทษล่วงหน้าสำหรับบางโพสที่ต้อง capture มาจากในไฟล์ เพราะรูปต้นฉบับของเก๊าหายยย เสียใจ ร้องไห้หนักมาก
ขอบคุณมากนะคะ // tassaya*