“ คุณจาม ถึงที่นี่จะเป็นบ้านคุณ แต่คุณก็ไม่มีสิทธิจะมาตบตีผม ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ถ้าคุณคิดจะตบผมแสดงว่าคุณอยากโดนจูบ คงติดใจรสจูบของผมวันนั้นล่ะสิจะได้สนองให้ ”
ตะวันจูบหล่อนอย่างรุนแรงจามจุรีดิ้นไหวๆในวงแขนที่แข็งดังคีบของเขาไม่นานก็อ่อนระทวย ตะวันปล่อยหญิงสาวหัวเราะอย่างสะใจแล้วเดินกลับออกไปที่ประตูด้านหลังที่เขาเข้ามา จามจุรียืนงง ริมฝีปากของเธอร้อนวูบวาบใจสั่นระทึก เขาทำอย่างนี้กับเธออีกแล้ว เร่าร้อนรุนแรง เขาช่างกล้านัก จามจุรีไม่เคยพบคนอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขาเป็นคนแรกที่กล้าทำกับเธออย่างนี้โดยไม่กลัวเกรง
จามจุรีแล่นขึ้นไปหาน้องสาวบนตึก จันทรากำลังพยายามสลักลวดลายลงบนกระต่ายไม้ของเธอที่ตะวันสอนไว้
“ จันทร์ พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย ”
จามจุรีเข้ามานั่งตรงหน้าน้องสาว
“ ค่ะ พี่จามมีอะไรหรือคะ ”
“ จันทร์ไปรู้จักกับนายตะวันเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
“ ก็ สองสามอาทิตย์แล้วค่ะ เขาไปวาดภาพที่มหาวิทยาลัยของจันทร์ ”
“ ไปวาดภาพ ”
“ ค่ะ เขาวาดภาพเก่ง จันทร์เลยได้คุยกับเขา และได้รู้ว่าเขาเป็นพนักงานบริษัทของเรา ”
“ เขาหาเรื่องจะไปรู้จักกับจันทร์หรือเปล่า ”
“ เปล่าคะ ”
“ จันทร์รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่มีเจตนาจะเข้าไปตีสนิทกับจันทร์ ”
“ ก็ ท่าทางเขา ไม่ได้สนใจอะไรเลยนี่คะ เรารู้จักกันโดนบังเอิญ แล้วจันทร์ก็ขอร้องให้เขามาสอนงานศิลปะให้จันทร์ เราะจันทร์เห็นว่าเขาเป็นพนักงานคนหนึ่งของเรา ”
จามจุรีนิ่ง มองน้องสาวอย่างครุ่นคิด จันทราไม่ได้มีท่าทีอะไรผิดปกติ หรือเธอจะหวาดระแวงเขาไปเอง เพราะเธอไม่เคยมองเขาในแง่ดีอยู่แล้ว นี่เธอหวาดระแวงอะไรเขานักหนานะ
“ ไอ้ตุ๊กตานี่น่ะหรือ ที่เขาสอนให้จันทร์ทำ ”
“ ค่ะ ยังมีอีกสองตัว เขาทำเสร็จแล้ว ”
“ เธอก็นะ ยังชอบของเล่นแบบเด็กๆ จะทำให้มันได้อะไรขึ้นมา ไร้สาระจริงๆ ”
“ ก็จันทร์ชอบ เอาเวลาว่างๆมาทำงานพวกนี้ เพลินแล้วยังได้ของที่ระลึกด้วย ดีกว่าไปหาซื้อ มันไม่มีคุณค่าเหมือนที่เราทำเอง ”
“ เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำไป ระวังมีดมันจะบาดมือเอาก็แล้วกัน พี่ไปละ ”
เมื่องานเลิกชาตรีเข้ามาชวนตะวันและเพื่อนๆพนักงานไปที่บ้านของเขา เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของเขา
“ วันนี้วันเกิดของผม ผมขอเชิญทุกๆคนไปกินอะไรเล็กๆน้อยๆที่บ้านของผมกันนะ ”
“ เชิญทั้งแผนกหรือเปล่า ”
วันชาติเพื่อนคนหนึ่งถาม
“ ทั้งแผนกสิครับ เลือกที่รักมักที่ชังได้อย่างไรใครว่างขอเชิญเลย คุณตะวันว่าไง ไปด้วยกันนะ ”
“ ได้เลย จะไปกันเลยหรือเปล่า ”
“ ไปเลยซี่ ”
“ จะไปไหนกัน นัดกันเป็นกลุ่ม ”
จามจุรีเดินเข้ามาถามเพราะเห็นพนักงานยืนออกันเป็นกลุ่มส่งเสียงเฮฮา
“ ไปที่บ้านชาตรีครับท่านผู้จักการ วันนี้เป็นวันเกิดของชาตรี เขาจะเลี้ยงเพื่อนๆ ”
“ จริงหรือ แหมน่าสนุกนะ เอาอย่างนี้ วันนี้ฉันว่างพอดีฉันเป็นเจ้าภาพเลี้ยงให้แทนชาตรีเอาไหม เลี้ยงวันเกิดให้ชาตรี ”
“ เฮ๊ จริงหรือครับท่านผู้จัดการ ”
ทุกคนเฮลั่นไม่คิดว่าจามจุรีจะเลี้ยงให้
“ ก็จริงน่ะสิ แต่ไม่ใช่ที่บ้านชาตรีนะ เอาเป็นที่ห้องอาหารดีกว่า ”
“ เยี่ยมเลยค่ะท่านผู้จัดการ ใช่ไหมชาตรี ”
“ ครับ ผมขอบคุณท่านผู้จัดการมากเลยนะครับที่กรุณา ”
“ เล็กน้อยน่า ถือว่าเลี้ยงลูกน้องในแผนกด้วย กุลธิดา เธอโทรสั่งจองโต๊ะเลยนะ เอาร้านไหนก็ได้ที่พวกเธออยากไป ”
ทุกคนดีใจจามจุรีมองตะวันที่ยืนยิ้มอยู่ในกลุ่มพนักงาน นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำแต่ได้ทำมันลงไป เธอพาพนักงานเกือบยี่สิบคนในแผนกของเธอไปเลี้ยงฉลองจนอิ่ม แล้วพาไปต่อที่เธคอย่างสนุกสนาน ตะวันดื่มกับเพื่อนๆอย่างเต็มที่ จามจุรีเองก็ทำตัวตามสบายไปกับลูกน้องซึ่งไม่เคยมีปรากฏมาก่อนว่าเธอจะลงมาร่วมสนุกกับพวกเขาจนถึงตีสองเธคปิดทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับ
“ ขอบพระคุณมากเลยครับท่านผู้จัดการ พวกผมสนุกกันสุดเหวี่ยงเลย ”
ชาตรีและเพื่อนๆเข้ามาขอบคุณจามจุรี
“ จ่ะ แล้วพรุ่งนี้ใครห้ามขาดงานนะไม่อย่างนั้น โดนดีแน่ ”
จามจุรีขู่ลูกน้องแต่น้ำเสียงไม่ได้จริงจังนักเพราะเธอเองก็เมาเดินตัวเอียง
“ ตะวัน คุณจะกลับกับใครล่ะ ไม่มีใครไปทางเดียวกับที่พักคุณเลย ”
“ ไปกับฉันก็ได้ ”
จามจุรีบอก ชาตรีจึงยกมือไหว้จามจุรีแล้วพากันออกไป
“ เอา จะยืนเซ่ออยู่ทำไม กลับสิ นี่ นายขับรถไหวไหม ถ้าไหว ขับแทนฉันหน่อย ฉันมึนจัง ”
ตะวันรับกุญแจรถที่จามจุรีส่งให้ เขาขับรถกลับที่พัก จามจุรีพอขึ้นรถได้ก็นั่งคอพับเพราะดื่มไปไม่ใช่น้อย
“ จะให้ผมขับไปส่งคุณที่บ้านเลยหรือ ”
“ ไม่ต้องหรอก ขับไปแค่ที่พักของนายก็แล้วกัน แล้วฉันขับต่อไปที่บ้านของฉันเอง ”
ตะวันจึงขับรถมาที่คอนโดที่เขาพัก เมื่อมาถึงจามจุรียังนั่งคอพับ
“ คุณ ผมถึงที่พักของผมแล้ว ”
“ เหรอ เร็วจัง ”
จามจุรีเปิดประตูรถเดินเซๆอ้อมจะมานั่งฝั่งคนขับ
“ คุณขับกลับไหวหรือ ท่าทางคุณน่ะเมาพอได้นะ ขึ้นไปล้างหน้าที่ห้องของผมก่อนไหม จะได้สดชื่นขึ้น ”
“ ก็ดี หนังตาฉันมันหนักจัง ”
ตะวันพาจามจุรีขึ้นมาที่ห้องพักของเขา จามจุรีมองภายในห้องอย่างมึนๆ
“ นั่นห้องน้ำ คุณไปล้างหน้าซะสิ เดี๋ยวผมจะหาผ้าเช็ดหน้าให้ ”
“ มีผ้าเย็นไหม ขอผ้าเย็นฉันสักผืนดีกว่า ”
จามจุรีทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ตะวันจึงเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเย็นไปเทใส่ชามแก้วแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กชุบน้ำเย็นบิดจนหมาดแล้วเอามาส่งให้เธอ
“ เอา ใช้ผ้านี่แทนก็แล้วกัน เย็นเหมือนกันน่ะแหระ ”
“ จามจุรีรับผ้ามาจากเขาเอาเช็ดหน้า เธอรู้สึกสดชื่นขึ้น ”
“ ห้องสะอาดน่าอยู่ดีนี่ ”
“ ครับ ”
“ เสียแต่แคบไปหน่อย ”
“ มันจะเปรียบกับสุรียาบดีที่ใหญ่โตโอ่อ่าได้อย่างไร ที่นี่ค่าเช่าเดือนละไม่กี่พันบาทเท่านั้น ”
“ แล้วนายดิ้นรนมาอยู่กรุงเทพทำไม ขายที่ได้เงินตั้งห้าล้านทำไมไม่ไปทำมาหากินในต่างจังหวัด ”
“ มันเป็นความพอใจของผม ”
“ ฉันรู้สึกว่าความพอใจของนายเนี่ย มันจะไม่ค่อยพ้นพวกของฉันเลยนะ ”
“ นั่นก็เป็นความรู้สึกของคุณ ทำไมผมต้องสนใจ ”
“ นี่ นายอย่าไปยุ่งกับยายจันทร์ น้องสาวของฉันนะ ”
“ ทำไม ผมจะคบกับใครคุณมีสิทธิอะไรมาห้าม ”
“ มีสิ ยายจันทร์เป็นน้องของฉัน แล้วฉันก็ไม่ต้องการให้น้องของฉันมาคบกับนาย มันคนละชั้นกัน ”
“ คนละชั้น คุณเอาอะไรมาวัดชนชั้นของคน หรือเพราะแค่คุณร่ำรวย ผมจะบอกให้นะ ไอ้ความร่ำรวยของคนบางคนไม่แน่ อาจโกงใครเขามาก็ได้ ”
“ นายตะวัน นี่นายหมายถึงใคร ”
“ ผมก็หมายถึงไอ้พวกที่ชอบโกงกิน โกงชาติ โกงญาติ คุณไปเกี่ยวอะไรด้วย หรือคุณไปโกงใครเขามา ”
“ ไอ้บ้า พูดพล่อยๆ คนอย่างพวกฉันจำเป็นด้วยหรือต้องไปโกงใคร สุรียาบดีของฉันน่ะร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว นายรู้เอาไว้ซะด้วย ”
“ งั้นหรอกหรือ ”
“ คนอย่างนายไม่เคยมีชาติมีตระกูลจะไปรู้อะไร มีแค่เศษเงินนิดๆหน่อยๆก็ทำผยองอวดวิเศษ ”
“ ผิดแล้ว ไอ้พวกที่อวดวิเศษน่ะ บางทีมันก็เป็นแค่เหลือบที่เกาะดูดกินทรัพย์มรดกของผู้อื่นก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าพวกคุณสุรียาบดีแท้หรือเหลือบที่เกาะสุรียาบดีอยู่ ”
จามจุรีโมโหจนตัวสั่นลุกขึ้นโดดตบหน้าตะวันสุดแรง
“ นี่แน่ะไอ้ปากพล่อยพูดอะไรไม่รู้จักคิด ”
“ จามจุรี ”
ตะวันตาลุกวาวเขากระชากร่างที่ยืนโมโหนั้นเข้ามาฟัดกอดจูบจามจุรีดิ้นแต่ไม่หลุดจากวงแขนของเขา ความคั่งแค้น ความโกรธเกลียด ทำให้ตะวันไม่คิดจะปรานีผู้หญิงคนนี้ หล่อนเป็นสายเลือดของไอ้ทุติยะที่แย่งชิงสุรียาบดีไปจากเขา ฆ่าพ่อทำร้ายแม่และตามล่าเขาจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนตั้งแต่ยังแดงๆ ตะวันกระหน่ำอารมณ์ใส่หล่อนอย่างไม่ยั้ง จามจุรีตกเป็นเหยื่ออารมณ์แค้น อารมณ์ใคร่ของเขาบนห้องพักในคอนโดนั่นเอง
“ แก แกทำกับฉันอย่างนี้ได้อย่างไร ไอ้บ้า ไอ้สารเลว ”
“ หยุดด่าซะทีเถอะ ผมรู้หรอกว่าคุณก็พอใจสะใจของคุณใช่ไหมล่ะ ”
“ ไอ้ตะวัน ไอ้บ้า ไอ้บ้า ”
จามจุรีเอาหมอนขว้างเขาอุตลุด ตะวันลุกเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างมาสนใจ จามจุรีจึงกรี๊ดลั่นถีบที่นอนจนผ้าห่มกระจุยกระจาย ตะวันออกมาจากห้องน้ำจามจุรียังนั่งซึมกะทืออยู่บนเตียง
“ เอา ใส่เสื้อผ้าแล้วก็กลับไปบ้านซะสิ เดี๋ยวก็สว่างซะก่อน ใจคอคุณจะค้างที่นี่ทั้งคืนหรือไง ”
“ นายจะเอายังไงกับฉัน บอกมานะ ”
ตะวันมองหญิงสาว
“ จะเอายังไง คนอย่างคุณผมไม่กล้าเสนอหน้าไปรับผิดชอบหรอก มันคนละชั้นกันกับผม ”
“ แล้วนายจะนอนกับฉันฟรีๆโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือไง มันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ ”
“ คุณทำเหมือนเป็นสาวบริสุทธิเวอร์จิ้นไม่เคยนอนกับใครอย่างนั้นแหระ ”
“ ไอ้บ้า นายพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ฉันไม่เคยไปมั่วกับใครนะตั้งแต่กลับมาเมืองไทยก็นายนี่แหระที่มาทำกับฉันอย่างนี้ ”
“ ฮึ ผู้หญิงหัวนอก อยู่เมืองนอกคงเพลินละสิ ”
“ นี่นายอย่ามาดูถูกฉันนะ ฉันมีมายเฟรนด์แค่คนเดียวเท่านั้น ”
“ ผมก็ยังเป็นรองฝรั่งว่างั้นเถอะ ”
“ นายตะวัน ”
“ โอเค คุณจะเอายังไงก็ว่ามา ผมก็เป็นลูกผู้ชาย พร้อมที่จะรับผิดชอบเสมอ ”
“ ดี ให้ฉันกลับไปคิดดูก่อน ถ้าฉันคิดได้แล้วจะมาหานาย ”
ตะวันยักไหล่ จามจุรีจึงลุกขึ้นแต่งตัวแล้วกลับออกไป ตะวันล้มตัวลงนอนนัยน์ตาเป็นประกายอย่างสมใจ นี่ก็เป็นอีกขั้นหนึ่งที่เขาจะก้าวเข้าใกล้ทุติยะ จุดหมายที่เขาจะไปให้ถึงตัวมัน
ล้อมเดือนลงมากรุงเทพหญิงสาวมาหาจามจุรีที่บริษัทและแวะคุยกับตะวันด้วย
“ คุณล้มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ”
“ เมื่อวานนี้ค่ะ คุณตะวันสบายดีหรือคะ ”
“ ครับ ก็เรื่อยๆ ”
“ ขอล้อมเข้าไปหาจามก่อนนะคะ เดี๋ยวจะน้อยใจว่าคุยกับคุณตะวันก่อน รายนั้นยิ่งเจ้าแง่อยู่ด้วย ไม่รู้กับคุณตะวันดีขึ้นหรือยัง ”
“ ก็ยังเหมือนเดิม หาเรื่องได้ตลอด ”
“ ขอตัวก่อนนะคะ ”
“ เชิญครับ ”
ล้อมเดือนเข้ามาในห้องทำงานของจามจุรีหญิงสาวดีใจที่เพื่อนมาหา
“ โอ้โฮ สาวเจียงฮาย ลงมากรุงเทพตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ ทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อน ”
“ บอกก่อน เธอก็ไม่ตื่นเต้นสิ ”
“ สาวเหนือ มาคราวนี้จะอยู่กรุงเทพกี่วัน ”
“ จะกี่วัน พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว ลงมารับคณะทัวร์ ”
“ ถ้าไม่มีงานก็ไม่คิดจะขึ้นมาว่างั้นเถอะ ”
“ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ช่วงนี้ไม่ว่าง หน้าทัวร์เข้าต้องช่วยคุณแม่รับรองแขกท่านคนเดียวก็ไม่ทัน ”
“ เทศกาลรับทรัพย์ ไม่ว่ากัน ”
“ เป็นยังไง กับคุณตะวันยังเป็นขมิ้นกับปูนอยู่อีกหรือเปล่า เจ้านายขมิ้น ลูกน้องปูน ”
“ ก็ไม่มีอะไรนี่ คนอย่างเขาใครอยากจะไปตอแยด้วย ปากร้ายจะตาย เราพูดคำเขาเถียงสามคำวิเศษจริงๆ ”
“ ตาย นี่เธอยอมรามือกับเขาแล้วหรือ ไม่น่าเป็นไปได้ ”
“ ทำไม ล้อมเห็นจามเป็นนักโต้วาทีหรือไง ถึงคิดว่าจามต้องตอแยโต้กับเขาตลอด ”
“ เปล่า แต่ล้อมไม่เคยเห็นจามยอมรามือกับใครง่ายๆ หรือเถียงกันซะเบื่อหยุดกันไปเอง ”
“ ก็คงอย่างนั้นมัง ไม่อยากยุ่งด้วย ”
“ คุณตะวันนี่เก่งนะ อย่างนี้เขาเรียกว่าทำให้ยอมแพ้ได้ ”
จามจุรีนิ่ง เธออยากจะบอกเพื่อนว่า เขาไม่เพียงทำให้เธอยอมแพ้ เขายังทำให้เธอยอมอยู่ในอุ้งมือเขาด้วยตั้งแต่เหตุการณ์ในคืนนั้นเธอตกเป็นทาสสวาทเขาอีกในเวลาต่อมา จามจุรียอมรับว่ามีความสุขมีความตื่นเต้นที่สุดเมื่อได้อยู่กับเขา ตะวันร้อนแรงเหมือนไฟเขาสามารถหลอมละลายเธอได้เสมอเมื่อเข้าใกล้ จามจุรีรู้สึกว่าตะวันเข้ามามีอำนาจในใจของเธอเกือบครึ่งแล้ว
สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 12
ตะวันจูบหล่อนอย่างรุนแรงจามจุรีดิ้นไหวๆในวงแขนที่แข็งดังคีบของเขาไม่นานก็อ่อนระทวย ตะวันปล่อยหญิงสาวหัวเราะอย่างสะใจแล้วเดินกลับออกไปที่ประตูด้านหลังที่เขาเข้ามา จามจุรียืนงง ริมฝีปากของเธอร้อนวูบวาบใจสั่นระทึก เขาทำอย่างนี้กับเธออีกแล้ว เร่าร้อนรุนแรง เขาช่างกล้านัก จามจุรีไม่เคยพบคนอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขาเป็นคนแรกที่กล้าทำกับเธออย่างนี้โดยไม่กลัวเกรง
จามจุรีแล่นขึ้นไปหาน้องสาวบนตึก จันทรากำลังพยายามสลักลวดลายลงบนกระต่ายไม้ของเธอที่ตะวันสอนไว้
“ จันทร์ พี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย ”
จามจุรีเข้ามานั่งตรงหน้าน้องสาว
“ ค่ะ พี่จามมีอะไรหรือคะ ”
“ จันทร์ไปรู้จักกับนายตะวันเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
“ ก็ สองสามอาทิตย์แล้วค่ะ เขาไปวาดภาพที่มหาวิทยาลัยของจันทร์ ”
“ ไปวาดภาพ ”
“ ค่ะ เขาวาดภาพเก่ง จันทร์เลยได้คุยกับเขา และได้รู้ว่าเขาเป็นพนักงานบริษัทของเรา ”
“ เขาหาเรื่องจะไปรู้จักกับจันทร์หรือเปล่า ”
“ เปล่าคะ ”
“ จันทร์รู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่มีเจตนาจะเข้าไปตีสนิทกับจันทร์ ”
“ ก็ ท่าทางเขา ไม่ได้สนใจอะไรเลยนี่คะ เรารู้จักกันโดนบังเอิญ แล้วจันทร์ก็ขอร้องให้เขามาสอนงานศิลปะให้จันทร์ เราะจันทร์เห็นว่าเขาเป็นพนักงานคนหนึ่งของเรา ”
จามจุรีนิ่ง มองน้องสาวอย่างครุ่นคิด จันทราไม่ได้มีท่าทีอะไรผิดปกติ หรือเธอจะหวาดระแวงเขาไปเอง เพราะเธอไม่เคยมองเขาในแง่ดีอยู่แล้ว นี่เธอหวาดระแวงอะไรเขานักหนานะ
“ ไอ้ตุ๊กตานี่น่ะหรือ ที่เขาสอนให้จันทร์ทำ ”
“ ค่ะ ยังมีอีกสองตัว เขาทำเสร็จแล้ว ”
“ เธอก็นะ ยังชอบของเล่นแบบเด็กๆ จะทำให้มันได้อะไรขึ้นมา ไร้สาระจริงๆ ”
“ ก็จันทร์ชอบ เอาเวลาว่างๆมาทำงานพวกนี้ เพลินแล้วยังได้ของที่ระลึกด้วย ดีกว่าไปหาซื้อ มันไม่มีคุณค่าเหมือนที่เราทำเอง ”
“ เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำไป ระวังมีดมันจะบาดมือเอาก็แล้วกัน พี่ไปละ ”
เมื่องานเลิกชาตรีเข้ามาชวนตะวันและเพื่อนๆพนักงานไปที่บ้านของเขา เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของเขา
“ วันนี้วันเกิดของผม ผมขอเชิญทุกๆคนไปกินอะไรเล็กๆน้อยๆที่บ้านของผมกันนะ ”
“ เชิญทั้งแผนกหรือเปล่า ”
วันชาติเพื่อนคนหนึ่งถาม
“ ทั้งแผนกสิครับ เลือกที่รักมักที่ชังได้อย่างไรใครว่างขอเชิญเลย คุณตะวันว่าไง ไปด้วยกันนะ ”
“ ได้เลย จะไปกันเลยหรือเปล่า ”
“ ไปเลยซี่ ”
“ จะไปไหนกัน นัดกันเป็นกลุ่ม ”
จามจุรีเดินเข้ามาถามเพราะเห็นพนักงานยืนออกันเป็นกลุ่มส่งเสียงเฮฮา
“ ไปที่บ้านชาตรีครับท่านผู้จักการ วันนี้เป็นวันเกิดของชาตรี เขาจะเลี้ยงเพื่อนๆ ”
“ จริงหรือ แหมน่าสนุกนะ เอาอย่างนี้ วันนี้ฉันว่างพอดีฉันเป็นเจ้าภาพเลี้ยงให้แทนชาตรีเอาไหม เลี้ยงวันเกิดให้ชาตรี ”
“ เฮ๊ จริงหรือครับท่านผู้จัดการ ”
ทุกคนเฮลั่นไม่คิดว่าจามจุรีจะเลี้ยงให้
“ ก็จริงน่ะสิ แต่ไม่ใช่ที่บ้านชาตรีนะ เอาเป็นที่ห้องอาหารดีกว่า ”
“ เยี่ยมเลยค่ะท่านผู้จัดการ ใช่ไหมชาตรี ”
“ ครับ ผมขอบคุณท่านผู้จัดการมากเลยนะครับที่กรุณา ”
“ เล็กน้อยน่า ถือว่าเลี้ยงลูกน้องในแผนกด้วย กุลธิดา เธอโทรสั่งจองโต๊ะเลยนะ เอาร้านไหนก็ได้ที่พวกเธออยากไป ”
ทุกคนดีใจจามจุรีมองตะวันที่ยืนยิ้มอยู่ในกลุ่มพนักงาน นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เธอไม่เคยคิดจะทำแต่ได้ทำมันลงไป เธอพาพนักงานเกือบยี่สิบคนในแผนกของเธอไปเลี้ยงฉลองจนอิ่ม แล้วพาไปต่อที่เธคอย่างสนุกสนาน ตะวันดื่มกับเพื่อนๆอย่างเต็มที่ จามจุรีเองก็ทำตัวตามสบายไปกับลูกน้องซึ่งไม่เคยมีปรากฏมาก่อนว่าเธอจะลงมาร่วมสนุกกับพวกเขาจนถึงตีสองเธคปิดทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับ
“ ขอบพระคุณมากเลยครับท่านผู้จัดการ พวกผมสนุกกันสุดเหวี่ยงเลย ”
ชาตรีและเพื่อนๆเข้ามาขอบคุณจามจุรี
“ จ่ะ แล้วพรุ่งนี้ใครห้ามขาดงานนะไม่อย่างนั้น โดนดีแน่ ”
จามจุรีขู่ลูกน้องแต่น้ำเสียงไม่ได้จริงจังนักเพราะเธอเองก็เมาเดินตัวเอียง
“ ตะวัน คุณจะกลับกับใครล่ะ ไม่มีใครไปทางเดียวกับที่พักคุณเลย ”
“ ไปกับฉันก็ได้ ”
จามจุรีบอก ชาตรีจึงยกมือไหว้จามจุรีแล้วพากันออกไป
“ เอา จะยืนเซ่ออยู่ทำไม กลับสิ นี่ นายขับรถไหวไหม ถ้าไหว ขับแทนฉันหน่อย ฉันมึนจัง ”
ตะวันรับกุญแจรถที่จามจุรีส่งให้ เขาขับรถกลับที่พัก จามจุรีพอขึ้นรถได้ก็นั่งคอพับเพราะดื่มไปไม่ใช่น้อย
“ จะให้ผมขับไปส่งคุณที่บ้านเลยหรือ ”
“ ไม่ต้องหรอก ขับไปแค่ที่พักของนายก็แล้วกัน แล้วฉันขับต่อไปที่บ้านของฉันเอง ”
ตะวันจึงขับรถมาที่คอนโดที่เขาพัก เมื่อมาถึงจามจุรียังนั่งคอพับ
“ คุณ ผมถึงที่พักของผมแล้ว ”
“ เหรอ เร็วจัง ”
จามจุรีเปิดประตูรถเดินเซๆอ้อมจะมานั่งฝั่งคนขับ
“ คุณขับกลับไหวหรือ ท่าทางคุณน่ะเมาพอได้นะ ขึ้นไปล้างหน้าที่ห้องของผมก่อนไหม จะได้สดชื่นขึ้น ”
“ ก็ดี หนังตาฉันมันหนักจัง ”
ตะวันพาจามจุรีขึ้นมาที่ห้องพักของเขา จามจุรีมองภายในห้องอย่างมึนๆ
“ นั่นห้องน้ำ คุณไปล้างหน้าซะสิ เดี๋ยวผมจะหาผ้าเช็ดหน้าให้ ”
“ มีผ้าเย็นไหม ขอผ้าเย็นฉันสักผืนดีกว่า ”
จามจุรีทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ตะวันจึงเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเย็นไปเทใส่ชามแก้วแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กชุบน้ำเย็นบิดจนหมาดแล้วเอามาส่งให้เธอ
“ เอา ใช้ผ้านี่แทนก็แล้วกัน เย็นเหมือนกันน่ะแหระ ”
“ จามจุรีรับผ้ามาจากเขาเอาเช็ดหน้า เธอรู้สึกสดชื่นขึ้น ”
“ ห้องสะอาดน่าอยู่ดีนี่ ”
“ ครับ ”
“ เสียแต่แคบไปหน่อย ”
“ มันจะเปรียบกับสุรียาบดีที่ใหญ่โตโอ่อ่าได้อย่างไร ที่นี่ค่าเช่าเดือนละไม่กี่พันบาทเท่านั้น ”
“ แล้วนายดิ้นรนมาอยู่กรุงเทพทำไม ขายที่ได้เงินตั้งห้าล้านทำไมไม่ไปทำมาหากินในต่างจังหวัด ”
“ มันเป็นความพอใจของผม ”
“ ฉันรู้สึกว่าความพอใจของนายเนี่ย มันจะไม่ค่อยพ้นพวกของฉันเลยนะ ”
“ นั่นก็เป็นความรู้สึกของคุณ ทำไมผมต้องสนใจ ”
“ นี่ นายอย่าไปยุ่งกับยายจันทร์ น้องสาวของฉันนะ ”
“ ทำไม ผมจะคบกับใครคุณมีสิทธิอะไรมาห้าม ”
“ มีสิ ยายจันทร์เป็นน้องของฉัน แล้วฉันก็ไม่ต้องการให้น้องของฉันมาคบกับนาย มันคนละชั้นกัน ”
“ คนละชั้น คุณเอาอะไรมาวัดชนชั้นของคน หรือเพราะแค่คุณร่ำรวย ผมจะบอกให้นะ ไอ้ความร่ำรวยของคนบางคนไม่แน่ อาจโกงใครเขามาก็ได้ ”
“ นายตะวัน นี่นายหมายถึงใคร ”
“ ผมก็หมายถึงไอ้พวกที่ชอบโกงกิน โกงชาติ โกงญาติ คุณไปเกี่ยวอะไรด้วย หรือคุณไปโกงใครเขามา ”
“ ไอ้บ้า พูดพล่อยๆ คนอย่างพวกฉันจำเป็นด้วยหรือต้องไปโกงใคร สุรียาบดีของฉันน่ะร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษแล้ว นายรู้เอาไว้ซะด้วย ”
“ งั้นหรอกหรือ ”
“ คนอย่างนายไม่เคยมีชาติมีตระกูลจะไปรู้อะไร มีแค่เศษเงินนิดๆหน่อยๆก็ทำผยองอวดวิเศษ ”
“ ผิดแล้ว ไอ้พวกที่อวดวิเศษน่ะ บางทีมันก็เป็นแค่เหลือบที่เกาะดูดกินทรัพย์มรดกของผู้อื่นก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าพวกคุณสุรียาบดีแท้หรือเหลือบที่เกาะสุรียาบดีอยู่ ”
จามจุรีโมโหจนตัวสั่นลุกขึ้นโดดตบหน้าตะวันสุดแรง
“ นี่แน่ะไอ้ปากพล่อยพูดอะไรไม่รู้จักคิด ”
“ จามจุรี ”
ตะวันตาลุกวาวเขากระชากร่างที่ยืนโมโหนั้นเข้ามาฟัดกอดจูบจามจุรีดิ้นแต่ไม่หลุดจากวงแขนของเขา ความคั่งแค้น ความโกรธเกลียด ทำให้ตะวันไม่คิดจะปรานีผู้หญิงคนนี้ หล่อนเป็นสายเลือดของไอ้ทุติยะที่แย่งชิงสุรียาบดีไปจากเขา ฆ่าพ่อทำร้ายแม่และตามล่าเขาจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนตั้งแต่ยังแดงๆ ตะวันกระหน่ำอารมณ์ใส่หล่อนอย่างไม่ยั้ง จามจุรีตกเป็นเหยื่ออารมณ์แค้น อารมณ์ใคร่ของเขาบนห้องพักในคอนโดนั่นเอง
“ แก แกทำกับฉันอย่างนี้ได้อย่างไร ไอ้บ้า ไอ้สารเลว ”
“ หยุดด่าซะทีเถอะ ผมรู้หรอกว่าคุณก็พอใจสะใจของคุณใช่ไหมล่ะ ”
“ ไอ้ตะวัน ไอ้บ้า ไอ้บ้า ”
จามจุรีเอาหมอนขว้างเขาอุตลุด ตะวันลุกเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างมาสนใจ จามจุรีจึงกรี๊ดลั่นถีบที่นอนจนผ้าห่มกระจุยกระจาย ตะวันออกมาจากห้องน้ำจามจุรียังนั่งซึมกะทืออยู่บนเตียง
“ เอา ใส่เสื้อผ้าแล้วก็กลับไปบ้านซะสิ เดี๋ยวก็สว่างซะก่อน ใจคอคุณจะค้างที่นี่ทั้งคืนหรือไง ”
“ นายจะเอายังไงกับฉัน บอกมานะ ”
ตะวันมองหญิงสาว
“ จะเอายังไง คนอย่างคุณผมไม่กล้าเสนอหน้าไปรับผิดชอบหรอก มันคนละชั้นกันกับผม ”
“ แล้วนายจะนอนกับฉันฟรีๆโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือไง มันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ ”
“ คุณทำเหมือนเป็นสาวบริสุทธิเวอร์จิ้นไม่เคยนอนกับใครอย่างนั้นแหระ ”
“ ไอ้บ้า นายพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ฉันไม่เคยไปมั่วกับใครนะตั้งแต่กลับมาเมืองไทยก็นายนี่แหระที่มาทำกับฉันอย่างนี้ ”
“ ฮึ ผู้หญิงหัวนอก อยู่เมืองนอกคงเพลินละสิ ”
“ นี่นายอย่ามาดูถูกฉันนะ ฉันมีมายเฟรนด์แค่คนเดียวเท่านั้น ”
“ ผมก็ยังเป็นรองฝรั่งว่างั้นเถอะ ”
“ นายตะวัน ”
“ โอเค คุณจะเอายังไงก็ว่ามา ผมก็เป็นลูกผู้ชาย พร้อมที่จะรับผิดชอบเสมอ ”
“ ดี ให้ฉันกลับไปคิดดูก่อน ถ้าฉันคิดได้แล้วจะมาหานาย ”
ตะวันยักไหล่ จามจุรีจึงลุกขึ้นแต่งตัวแล้วกลับออกไป ตะวันล้มตัวลงนอนนัยน์ตาเป็นประกายอย่างสมใจ นี่ก็เป็นอีกขั้นหนึ่งที่เขาจะก้าวเข้าใกล้ทุติยะ จุดหมายที่เขาจะไปให้ถึงตัวมัน
ล้อมเดือนลงมากรุงเทพหญิงสาวมาหาจามจุรีที่บริษัทและแวะคุยกับตะวันด้วย
“ คุณล้มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ”
“ เมื่อวานนี้ค่ะ คุณตะวันสบายดีหรือคะ ”
“ ครับ ก็เรื่อยๆ ”
“ ขอล้อมเข้าไปหาจามก่อนนะคะ เดี๋ยวจะน้อยใจว่าคุยกับคุณตะวันก่อน รายนั้นยิ่งเจ้าแง่อยู่ด้วย ไม่รู้กับคุณตะวันดีขึ้นหรือยัง ”
“ ก็ยังเหมือนเดิม หาเรื่องได้ตลอด ”
“ ขอตัวก่อนนะคะ ”
“ เชิญครับ ”
ล้อมเดือนเข้ามาในห้องทำงานของจามจุรีหญิงสาวดีใจที่เพื่อนมาหา
“ โอ้โฮ สาวเจียงฮาย ลงมากรุงเทพตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะ ทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อน ”
“ บอกก่อน เธอก็ไม่ตื่นเต้นสิ ”
“ สาวเหนือ มาคราวนี้จะอยู่กรุงเทพกี่วัน ”
“ จะกี่วัน พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว ลงมารับคณะทัวร์ ”
“ ถ้าไม่มีงานก็ไม่คิดจะขึ้นมาว่างั้นเถอะ ”
“ ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ช่วงนี้ไม่ว่าง หน้าทัวร์เข้าต้องช่วยคุณแม่รับรองแขกท่านคนเดียวก็ไม่ทัน ”
“ เทศกาลรับทรัพย์ ไม่ว่ากัน ”
“ เป็นยังไง กับคุณตะวันยังเป็นขมิ้นกับปูนอยู่อีกหรือเปล่า เจ้านายขมิ้น ลูกน้องปูน ”
“ ก็ไม่มีอะไรนี่ คนอย่างเขาใครอยากจะไปตอแยด้วย ปากร้ายจะตาย เราพูดคำเขาเถียงสามคำวิเศษจริงๆ ”
“ ตาย นี่เธอยอมรามือกับเขาแล้วหรือ ไม่น่าเป็นไปได้ ”
“ ทำไม ล้อมเห็นจามเป็นนักโต้วาทีหรือไง ถึงคิดว่าจามต้องตอแยโต้กับเขาตลอด ”
“ เปล่า แต่ล้อมไม่เคยเห็นจามยอมรามือกับใครง่ายๆ หรือเถียงกันซะเบื่อหยุดกันไปเอง ”
“ ก็คงอย่างนั้นมัง ไม่อยากยุ่งด้วย ”
“ คุณตะวันนี่เก่งนะ อย่างนี้เขาเรียกว่าทำให้ยอมแพ้ได้ ”
จามจุรีนิ่ง เธออยากจะบอกเพื่อนว่า เขาไม่เพียงทำให้เธอยอมแพ้ เขายังทำให้เธอยอมอยู่ในอุ้งมือเขาด้วยตั้งแต่เหตุการณ์ในคืนนั้นเธอตกเป็นทาสสวาทเขาอีกในเวลาต่อมา จามจุรียอมรับว่ามีความสุขมีความตื่นเต้นที่สุดเมื่อได้อยู่กับเขา ตะวันร้อนแรงเหมือนไฟเขาสามารถหลอมละลายเธอได้เสมอเมื่อเข้าใกล้ จามจุรีรู้สึกว่าตะวันเข้ามามีอำนาจในใจของเธอเกือบครึ่งแล้ว