สวัสดีเพื่อนครับ พอดีมีเรื่องจะเล่าถึงชีวิตของผมช่วงนี้หน่อย
ผมเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยที่มีชื่อของภาคเหนือแห่งหนึ่ง ที่มีสัญลักษณ์เป็นช้างถือถ้วยไอติม(อันนี้ขำๆนะไม่ได้จะหมิ่น) 555
ชีวิตในมหาลัยของแต่ละคนคงแตกต่างกันไปแล้วแต่สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
นอกจากเรื่องเรียนแล้ว เรื่องความรักถือเป็นอีกเรื่องราวที่เกือบทุกคนได้เจออย่างแน่นอน
คงไม่มีเวลาช่วงไหนของชีวิตที่เราจะได้รับรู้และทำความรู้จักกับความรักไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ต้องขอเกริ่นนิสัยของผมก่อนเผื่อว่าบางคนอาจไม่ชอบ จะได้เลิกอ่านกระทู้นี้
ผมเป็นเด็กในคณะๆหนึ่งที่ถือว่าเป็นที่หมายปองของสาวๆคณะต่างๆ เนื่องด้วยเพราะจำนวนเพศชายที่ล้นหลาม
รอบๆตัวผม ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขมขื่นเอามากๆสำหรับผม
ด้วยเหตุนี้นี่เองทำให้ผม และเพื่อนๆโดยส่วนใหญ่จึงมีลักษณะของความเป็นผู้ชายสูง
นั้นคือความเจ้าชู้ เรียกได้ว่าเป็นที่กล่าวขวัญเป็นอย่างมากสำหรับคณะนี้
รายรอบตัวผม เพื่อนๆต่างมีพฤติกรรมที่ เกินคำพอดีทุกคน เรื่องกิ๊กไม่ต้องถามถึง
เวลาไปเที่ยวดื่มสังสรรค์ยามราตรีกัน มักจะมีสาวจากหลายๆคณะมานั่งด้วยประจำ
บางคนเพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียว ก็...... ซึ่งถ้าฟังดูเป็นเรื่องเป็นเรื่องที่แย่มาก
แต่มันคือเรื่องจริงครับ วัยรุ่นสมัยนี้เป็นกันหมด คนที่รับฟังได้ก็รับนะครับ
เพราะคุณคือคนที่อยู่กับโลกแห่งความจริง ส่วนคนที่ฟังแล้วรู้สึกแย่
ขอบอกนะครับ ขอให้เป็นกรณีศึกษา ไม่ควรเลียนแบบ
เล่าต่อนะครับ ในแวดวงของผมมันกลายเป็นธรรมดาไปแล้ว ที่บางคนจะควงมากกว่าหนึ่ง
ไม่ว่าจะชายหรือหญิง เปลี่ยนแฟนอาทิตย์ละคน คบๆเลิกๆ คบซ้อน เพื่อนกันท้องชนกัน
ลับหลัง มีแฟนคนเดียวแค่คนคุยเป็นสิบ และอีกหลายต่อหลายกรณีที่เคยพบมา
ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ปลายเปิดที่น่ากลัว มากกกกกกกกกก
ผมเป็นหนึ่งคนที่เคยอยู่ในสังคมดังกล่าว แน่นอนว่าเราออกมาจากจุดนั้นได้ครับ
ถ้าเลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกเสพ สิ่งของมึนเมา รักษาศีล5
ยอมรับว่าตอนนี้โสดมากเลยครับ เพราะคิดกลับตัวได้เพราะโดนแฟนบอกเลิกแล้วมีคนใหม่
ที่ผ่านมา"เราคงทำตัวได้

จนทำรักมันพังลงไป"
ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นผู้ชายตัวเล็กไม่ได้สูงมากหน้าตาดูใสใส
ปลอดภัย เฮฮา ติดตลก สกปรกนิดหน่อย เกเรนิดๆ แต่ผมยิ้มเก่งมาก จนบางครั้งดูบ้าๆ
ไม่รู้ด้วยเพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมกลายเป็นคนเจ้าชู้ไปได้
แต่เพราะเจ้าชู้เนี่ยแหละทำให้รู้แล้วว่า ผู้หญิงที่สมัยนี้มันร้ายลึก
บางคนเข้ามาแค่พักใจพักกายแล้วโบยบินต่อ บางรายแค่บินมาดูดเกสร
แต่ในวันนี้เองที่เมื่อเราทำตัวให้ดีขึ้น เราจะพบคนที่ดีพอที่เราพร้อมจะดูแลเขา
เธอคนนั้นเป็นรุ่นน้องครับ เธอเป็นคนน่ารัก ต๊องๆหน่อย บอกก่อนเลยว่า
ไม่ใช่สเป็คเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อก่อนชอบมองคนสวยๆมาตลอด
ด้วยเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมได้มาคุยกับเธอ ทำให้รู้ว่าความรักที่ไม่มี
เรื่องของภายนอกรูปร่างหน้าตาผิวพันธุ์เข้ามาเกี่ยวมันคือแบบนี้เอง
เราก็คุยกันบ้างนานๆครั้ง แต่ครั้งล่าสุดเพิ่งจะเปิดอกคุยกันครั้งแรก
ว่าเนี่ย เราเริ่มชอบกันแล้วล่ะนะ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมบอกตรงๆ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมพอจะรู้อยู่ก่อน ว่าเธอมีแฟนที่คบกันอยู่แล้ว
แต่เพิ่งคบกันตอนที่เจอผมพอดี อารมณ์เหมือนเขาคนนั้นกำลังแค่แซงผม
ช่วงทางโค้งแรกของลู่วิ่ง ผมจึงตัดสินใจ เอาว่ะ! เป็นไงเป็นกัน
ถ้าผมชอบคนนี้มากพอ ผมรอได้แน่ ผมยอมรอได้
คำตอบมันไม่มีค่าหรอก สำหรับคนแบบผม ถ้าผมคิดว่าผญคนนี้คือคนที่อาจจะมานั่งอยู่ข้างๆผม
ในวันข้างหน้า ...เพื่อนๆเพิ่งว่าผมโอเว่อนะครับ สาเหตุที่ทำให้ผมรอ
มันมีหลายเหตุการณ์ อย่างน้อยๆที่บอกได้คือ เธอเข้ามาพยุงผม
ในวันที่ผมเกือบจะกลับไปเหลวแหลกอีกครั้ง และทำให้ผมดีขึ้นมาในวันนี้
ถ้าเปรียบเธอ คงเปรียบได้กับหมอนที่ผมหนุนหัวทุกวัน
ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา เวลาที่สุขใจเธอเหมือนหมอนที่ผมหนุนเวลาฝันดี
เวลาเสียใจร้องไห้ เธอก็ยังเป็นหมอนใบเดิมที่ซับน้ำตาที่ไหลออกมาเวลานอนร้องไห้
ไม่ว่าเธอจะมีใคร ตอนนี้คงไม่จำเป็นหรอก ไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำกับคนที่รอ
แอบรักไม่พอ ยังแอบรอให้เขาเลิกกัน
ผมเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยที่มีชื่อของภาคเหนือแห่งหนึ่ง ที่มีสัญลักษณ์เป็นช้างถือถ้วยไอติม(อันนี้ขำๆนะไม่ได้จะหมิ่น) 555
ชีวิตในมหาลัยของแต่ละคนคงแตกต่างกันไปแล้วแต่สิ่งแวดล้อมรอบๆตัว
นอกจากเรื่องเรียนแล้ว เรื่องความรักถือเป็นอีกเรื่องราวที่เกือบทุกคนได้เจออย่างแน่นอน
คงไม่มีเวลาช่วงไหนของชีวิตที่เราจะได้รับรู้และทำความรู้จักกับความรักไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ต้องขอเกริ่นนิสัยของผมก่อนเผื่อว่าบางคนอาจไม่ชอบ จะได้เลิกอ่านกระทู้นี้
ผมเป็นเด็กในคณะๆหนึ่งที่ถือว่าเป็นที่หมายปองของสาวๆคณะต่างๆ เนื่องด้วยเพราะจำนวนเพศชายที่ล้นหลาม
รอบๆตัวผม ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ผู้ชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขมขื่นเอามากๆสำหรับผม
ด้วยเหตุนี้นี่เองทำให้ผม และเพื่อนๆโดยส่วนใหญ่จึงมีลักษณะของความเป็นผู้ชายสูง
นั้นคือความเจ้าชู้ เรียกได้ว่าเป็นที่กล่าวขวัญเป็นอย่างมากสำหรับคณะนี้
รายรอบตัวผม เพื่อนๆต่างมีพฤติกรรมที่ เกินคำพอดีทุกคน เรื่องกิ๊กไม่ต้องถามถึง
เวลาไปเที่ยวดื่มสังสรรค์ยามราตรีกัน มักจะมีสาวจากหลายๆคณะมานั่งด้วยประจำ
บางคนเพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียว ก็...... ซึ่งถ้าฟังดูเป็นเรื่องเป็นเรื่องที่แย่มาก
แต่มันคือเรื่องจริงครับ วัยรุ่นสมัยนี้เป็นกันหมด คนที่รับฟังได้ก็รับนะครับ
เพราะคุณคือคนที่อยู่กับโลกแห่งความจริง ส่วนคนที่ฟังแล้วรู้สึกแย่
ขอบอกนะครับ ขอให้เป็นกรณีศึกษา ไม่ควรเลียนแบบ
เล่าต่อนะครับ ในแวดวงของผมมันกลายเป็นธรรมดาไปแล้ว ที่บางคนจะควงมากกว่าหนึ่ง
ไม่ว่าจะชายหรือหญิง เปลี่ยนแฟนอาทิตย์ละคน คบๆเลิกๆ คบซ้อน เพื่อนกันท้องชนกัน
ลับหลัง มีแฟนคนเดียวแค่คนคุยเป็นสิบ และอีกหลายต่อหลายกรณีที่เคยพบมา
ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ปลายเปิดที่น่ากลัว มากกกกกกกกกก
ผมเป็นหนึ่งคนที่เคยอยู่ในสังคมดังกล่าว แน่นอนว่าเราออกมาจากจุดนั้นได้ครับ
ถ้าเลิกเที่ยว เลิกดื่ม เลิกเสพ สิ่งของมึนเมา รักษาศีล5
ยอมรับว่าตอนนี้โสดมากเลยครับ เพราะคิดกลับตัวได้เพราะโดนแฟนบอกเลิกแล้วมีคนใหม่
ที่ผ่านมา"เราคงทำตัวได้
ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นผู้ชายตัวเล็กไม่ได้สูงมากหน้าตาดูใสใส
ปลอดภัย เฮฮา ติดตลก สกปรกนิดหน่อย เกเรนิดๆ แต่ผมยิ้มเก่งมาก จนบางครั้งดูบ้าๆ
ไม่รู้ด้วยเพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมกลายเป็นคนเจ้าชู้ไปได้
แต่เพราะเจ้าชู้เนี่ยแหละทำให้รู้แล้วว่า ผู้หญิงที่สมัยนี้มันร้ายลึก
บางคนเข้ามาแค่พักใจพักกายแล้วโบยบินต่อ บางรายแค่บินมาดูดเกสร
แต่ในวันนี้เองที่เมื่อเราทำตัวให้ดีขึ้น เราจะพบคนที่ดีพอที่เราพร้อมจะดูแลเขา
เธอคนนั้นเป็นรุ่นน้องครับ เธอเป็นคนน่ารัก ต๊องๆหน่อย บอกก่อนเลยว่า
ไม่ใช่สเป็คเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อก่อนชอบมองคนสวยๆมาตลอด
ด้วยเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมได้มาคุยกับเธอ ทำให้รู้ว่าความรักที่ไม่มี
เรื่องของภายนอกรูปร่างหน้าตาผิวพันธุ์เข้ามาเกี่ยวมันคือแบบนี้เอง
เราก็คุยกันบ้างนานๆครั้ง แต่ครั้งล่าสุดเพิ่งจะเปิดอกคุยกันครั้งแรก
ว่าเนี่ย เราเริ่มชอบกันแล้วล่ะนะ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมบอกตรงๆ
ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมพอจะรู้อยู่ก่อน ว่าเธอมีแฟนที่คบกันอยู่แล้ว
แต่เพิ่งคบกันตอนที่เจอผมพอดี อารมณ์เหมือนเขาคนนั้นกำลังแค่แซงผม
ช่วงทางโค้งแรกของลู่วิ่ง ผมจึงตัดสินใจ เอาว่ะ! เป็นไงเป็นกัน
ถ้าผมชอบคนนี้มากพอ ผมรอได้แน่ ผมยอมรอได้
คำตอบมันไม่มีค่าหรอก สำหรับคนแบบผม ถ้าผมคิดว่าผญคนนี้คือคนที่อาจจะมานั่งอยู่ข้างๆผม
ในวันข้างหน้า ...เพื่อนๆเพิ่งว่าผมโอเว่อนะครับ สาเหตุที่ทำให้ผมรอ
มันมีหลายเหตุการณ์ อย่างน้อยๆที่บอกได้คือ เธอเข้ามาพยุงผม
ในวันที่ผมเกือบจะกลับไปเหลวแหลกอีกครั้ง และทำให้ผมดีขึ้นมาในวันนี้
ถ้าเปรียบเธอ คงเปรียบได้กับหมอนที่ผมหนุนหัวทุกวัน
ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา เวลาที่สุขใจเธอเหมือนหมอนที่ผมหนุนเวลาฝันดี
เวลาเสียใจร้องไห้ เธอก็ยังเป็นหมอนใบเดิมที่ซับน้ำตาที่ไหลออกมาเวลานอนร้องไห้
ไม่ว่าเธอจะมีใคร ตอนนี้คงไม่จำเป็นหรอก ไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำกับคนที่รอ