สงครามเลือดพันปี เเละ การร่วงหล่นสู่ความเป็นคุโบะอย่างสมบูรณ์

คิดอย่างไรบ้างครับกับภาคสุดท้ายนี้

จริงๆก็ไม่น่าจะถามเลยนะ เพราะปัจจุบันนี้ ตามเว็ปเเสกนก็มีกระเเสตอบรับด้าน"ลบ"มากมายจนเเทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียเเล้ว
ตามด้วยอันดับที่ร่วงเอาๆ จนไม่เหลือลายการ์ตูนมหาเทพ ที่อดีตเคยติดท็อป 3 เเละได้ลงหน้าสีทั้งตอนเลย

เเต่สำหรับผมที่ติดตามเรื่องนี้มานาน ยอมรับว่าเเอบเคืองภาคสุดท้ายนี้เหมือนกัน มันไม่พีคเป็นสเตปเหมือนก่อนอีกเเล้ว
เเต่ก็กลับรู้สึกอะไรใหม่ๆอีกครั้งหลังจากไปขุดเอาภาค สงครามเลือดพันปี มาอ่านจนถึงเล่มล่าสุด

จึงได้พบว่านี่ไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านจากการ์ตูนดังไปสู่จุดตกต่ำ เเต่เป็นการเปลี่ยนจากการ์ตูนไปสู่ "ศิลปะ"มากยิ่งขึ้น

ฟังดูเวอร์ เเต่ถ้ามองตามความหมายของศิลปะเเล้ว จะสังเกตุได้ว่า ศิลปะไม่ได้เป็นงานสำหรับใครๆ มันเป็นผลที่เกิดขึ้นจากคนๆเดียว
เเละเพื่อคนๆเดียว อาจกล่าวได้ว่า ภาคสุดท้ายนี้เป็นการ"ปล่อยของ"ของอาจารย์คุโบะโดยเเท้ หลังจากทำงานตามสูตรสำเร็จของการ์ตูนโชวเนนมานาน..

ด้านภาพ

   อันนี้ไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย สไตล์การเล่าเรื่องด้วยภาพของ bleach เป็นเอกลักษณ์เเตกต่างจากการ์ตูนปกติมาก เเม้จะเทียบกับการ์ตูนเเนวเดียวกัน
เเละยังคงทำให้ผู้คนได้บ่นกันอย่างไม่ขาดปาก(ฮา) เเต่สำหรับภาคล่าสุดนี้เเม้เเต่เเฟนดั่งเดิมของ bleach ยังต้องกรี๊ด! ถ้าเบอร์เซิร์กคือการ์ตูนสุดยอดเเห่งการซอยเส้นเก็บรายละเอียดเเล้วล่ะก็ bleach ในภาคนี้คือสุดยอดเเห่งการถมดำ ปล่อยขาว ระเบิดช่อง หน้าคู่มากกว่า 1 ในตอนเดียว การซูม และสุดยอดการเล่นภาพสโลว์โมชั่นอย่างเเน่นอน (ฮา)  
  บอกตรงๆผมย้อนกลับไปอ่านเล่นเก่าๆ ก็ยังพอจะมีฉากสโลว์บ้าง เฉพาะฉากฟันเท่ๆ ไม่กี่ฉากเเละสโลว์ไม่กี่ช่อง เเต่ภาคนี้หนักเลย สโลว์เยอะมาก เเละไม่ใช่เเค่สโลว์ฟันฉวัะ เลือดกระชูดพุ่งปรี้ดๆอีกต่อไป bleach ไปเปลี่ยนผ่านไปสู่ "ง้าง ฟันฉวัะ เลือดกระเด็น เลือดร่วง เลือดหยดเเหมะ ซูมตา ซูนตาอีกคน ซูมตาอีก ซูมตาเข้าไปอีก ซูมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เเละทุกอย่างนี้ เกิดขึ้นเเบบสโลว์โมชั่น 55555

  พูดอย่างนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพ ให้ลองหยิบภาคเก่าๆมาอ่านสักเล่ม เเล้วตัดฉับเข้าภาคควินซี่เลย โดยเฉพาะคู่หยุดโลกอย่า ป้าอุโนะฮานะ กับป๋าเคม ที่มีการซูมตา ซูมดาบ สโลว์โหมด ได้อย่างโหดสัสมากๆ ขนาดฉากไฟว์กับไอเซนในไฟนอลเเมทยังไม่ขนาดนี้ นับว่าถ้าเป็นงานด้านภาพ นี่คือภาคปล่อยของ ของอาจารย์คุโบะอย่างเเท้จริง คือ ตูไม่สนเเล้วล่ะ ว่าพวกเอ็งจะว่าไง รู้นะว่ามันไม่ตามธรรมเนียมการ์ตูนโชวเนน เเต่นี่คือ bleach มันก็ต้องเล่าเรื่องด้วยภาพสไตล์นี่เเหละ!

เนื้อเรื่อง

  สำหรับภาคคลายปมมันก็ต้องเล่าเหมือนๆกันหมดเเหละครับ เเต่สำหรับ bleach นี่ถือว่าผิดธรรมเนียมมาก อะไรกัน จะจบอยู่รอมร่ออยู่เเล้ว ยังจะสร้างประเด็นใหม่ๆขึ้นมาอีก เเม้เเต่ตัวภาคเองก็ยังเป็นการเฉลยปมที่เเปลกมากๆ จริงๆปมควินซี่น่ะมันไม่ได้เป็นปมหลักของเนื้อเรื่องหรอกนะครับ ถ้าไม่ติดว่ามีประวัติยาวนานเเละเป็นประเด็นกับโซลโซไซจตี้มาก่อน ความจืดจากของควินซี่นี่เทียบได้กับการปรากฏตัวของฟูลปริงค์เเละพวกอิโนะอุเอะเลยทีเดียว
จึงกลายเป็นเหมือนกับขึ้นภาคใหม่เสียมากกว่าภาคคลายปม เเต่ถ้ามองไปให้ลึกๆ ตัวอาจารย์เองอาจจะวางปมนี้ไว้นานมากๆเเล้ว เเต่พึ่งจะได้มีโอกาสเล่าถ้าเป็นงั้นจริงก็ถือเป็นการเล่าเรื่องที่อดทนมากๆ เพราะจนกว่าควินซี่จะมีบทบาทมากกว่า "พลังของเพื่อนพระเอก" ก็กินเวลายาวนานหลายสิบเล่มเเล้ว

  จุดที่เป็นการคลายปมจริงๆนี่คือเรื่องของอิจิโกะเลย คือจะเรียกว่าปม เราก็พูดได้ไม่เต็มปาก จะว่ายังไงดี เหมือนกับการเพิ่มเนื้อเรื่องขึ้นมาเนียนๆ พอเราจะเเย้งว่า "เห้ย! ไม่ใช่ๆ มันไม่ใช่เเบบนี้" คุโบะก็ตีหน้ามึน ตอบกลับมาว่า "ก็ฉันไม่ได้บอกนี่หน่าว่ามันจะเป็นเเบบนั้น" หรือ "จริงๆก็กะจะให้เป็นเเบบนั้นละ เเต่ต้องสร้างประเด็นหลอกขึ้นมาเพื่อจะได้พีคตอนหลังเเบบนี้ไง"

   การดำเนินเรื่องที่เเหกกฏของการ์ตูนโชวเนนเเทบทุกข้อ จะว่าออกทะเลก็ไม่ใช่ จะว่ายืดเรื่องก็ไม่เชิง เเค่กลับไปเป็น"คุโบะ" มากขึ้น จากเล่นเก่าๆที่จะเเอบเเทรกโมเม้นการเดินเรื่องเเบบนี้ไว้บ้าง ประปราย เเต่ภาคนี้คือจัดเต็ม เดินเรื่องตามเเนวทางของตัวเองเต็มสูบ ไม่สนขนบธรรมเนียมอะไรอีกเเล้ว คนที่เคยอ่าน bakuman ก็จะทราบนะครับ ว่าหากอันดับของการ์ตูนตกต่ำเกินรับได้ ทางผู้ดูเเลจะเข้ามาจัดการกับเนื้อเรื่องมากขึ้น หรือถึงขั้นเสนอเเนวทางใหม่ๆให้กับผู้เขียน จึงสังเกตุได้ว่า การ์ตูนโชวเนน มันจะเดินเรื่องเเบบเเผ่นเสียงตกร่อง ฝึก เก่ง ชนะ เจอศัตรูเก่งกว่า ฝึก เก่ง เรื่อยไป ฟังดูออกจะน่าหดหู่นะครับ เเต่นี่นับเป็นวิธีการที่ดี ที่ทำให้การ์ตูนต่อตอนมันไม่น่าเบื่อเกินไป ซึ่งภาคนี้ออกจะเเหกธรรมเนียมนี้ไปหลายจุดทีเดียว เหมือนเอาธรรมเนียมโชวเนนปะหน้า เเต่จริงๆเเล้วกลับไปโฟกัสอีกจุด โดยทั่วๆไปเเล้วกลยุทธต่างๆในการเล่าเรื่องให้ผู้อ่านสนุก คนที่อ่านมากนานๆก็มักจะจับทางได้เเล้ว เเต่นี่ไม่เลย เเม้กระทั้งปมตอนยาวที่ควรจะจบใน 2-5 ตอน กลับลากยาวไปเรื่อยๆสู่ประเด็นอื่นๆ จนไม่เหมือนการสร้างปมตอนยาวเพื่อสร้างคะเเนนนิยม เเต่เป็นการเขียนตามใจตัวเองเสียมากกว่า

  สำหรับผมเองหลังจากหายงอนกับการเล่าเรื่องประหลาดๆของภาคล่าสุดเเล้วกลับเห็นความสดใหม่บางอย่าง การตูนโชวเนนมันเล่าเเบบนี้ได้ด้วยเหรอ? เเล้วตอนต่อไปจะเป็นไงเนี้ย ปมตอนยาวก็ไม่จบในตอนสองตอน เเถมตอนจบก็ไม่พีคอีก เหมือนกับทั้งๆที่ผิดหวังเเต่ก็สนุกเพราะไม่รู้ว่าตอนต่อไปจะเดาถูกมั้ย อะไรประมาณนี้ ถ้าไม่ใช่ bleach คงไม่กล้าเล่นอะไรเเบบนี้เเน่ๆ

ตัวละคร

  ต้องเข้าใจนะครับ ว่าโดยรวมเเล้วตัวละครในเรื่องนี้มีความเป็นมนุษย์(ในเเบบของมันเอง) ค่อนข้างมาก จึงสังเกตุได้ว่าตัวเอกอย่างอิจิโกะไม่ได้ประกาศจุดมุ่งหมายของชีวิตอะไรมากมาย เหมือนการ์ตูนโชวเนนหลายๆเรื่อง อย่าง ลูฟี่/ราชาโจรสลัด นารุโตะ/โฮคาเงะ โทริโกะ/ตามเก็บฟูลคอสเเละเสาะหาของอร่อย เเต่จะเเสดงออกมาจากคำพูดเเปลกๆ สายตา เเละการกระทำมากกว่า ซึ่งบางอย่างมันก็ขัดเเย้งกันเอง จึงทำให้เราพอจะเชื่อได้ว่า โอเค มันก็คนเหมือนกันนี่เเหละ ที่ไม่ได้อยากจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยคนไปทั่ว เเค่ไม่อยากเห็นใครโดนทำร้าย อยากปกป้องผู้คน เเต่ก็เเค่เท่าที่ตนรับรู้ ไม่เคยคิดเสาะหาต้นตอปัญหา เเละกำจัดมันลงให้สิ้นซาก เเละบางครั้งก็เข้าใจได้เเม้กระทั่งศัตรู ทำให้เนื้อเรื่องของ bleach จึงปลายเปิดมากๆ ไม่รู้ชัดว่าอะไรคือจุดมุ่งหมายของตัวละครเอก จึงบอกไม่ได้ว่ามันออกทะเลรึเปล่า ถ้าตัดสินว่ามันออกทะเล มันก็กลับไปหัวข้อเก่าอีก เเล้วจริงๆอิจิโกะต้องการอะไร?

   สังเกตุได้ว่าในหลายๆการต่อสู้ อิจิโกะมันโดนศัตรูถามหาเหตุผลเสมอ "เจ้าสู้ทำไม" "เจ้าไม่มีเหตุผลจะต้องสู้อีกเเล้ว" ถ้าเป็นพระเอกเรื่องอื่นคนตอกกลับไปเท่ๆ เเต่อิจิโกะกลับอึ่ง ยืนนิ่ง ตกใจ  อะไรสาระพัด ซึ่งมันเเสดงให้เห็นถึงความสับสนภายในจิตใจของอิจิโกะอย่างมาก ภายนอกอาจจะต้องต่อสู้เพราะปกป้องคนสำคัญ เเล้วในเมื่อไม่มีเหตุผลนั้นเเล้วล่ะ? ยังจะสู้ต่อไปรึเปล่า? บางครั้งก็ว่าไม่มีพลังน่ะดีเเล้ว จะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ เเต่อิจิโกะต้องการเเบบนั้นจริงเหรอ? เหมือนตอนหนึ่งใน เเบทเเมนภาค 3 ที่อัลเฟรดพูดกับบรูซ ว่า "คุณเฝ้ามองเมือง เเละรอให้มันกลับไปสู่ความหายนะอีกครั้ง" เหมือนว่าจริงๆเเล้วอิจิโกะมีสัญชาติญาณที่ต้องการ การต่อสู้อยู่ลึกๆ เเต่กดดันมันไว้ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ  เมื่อหมดเหตุผลก็เฝ้ารอให้คนรอบข้างเกิดอันตราย เพื่อที่ตัวเองจะได้มีเหตุผลที่ต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของอาจารย์จริงๆก็เป็นการสร้างคาเเเรคเตอร์ที่มีความเป็นคนมากๆ เรารู้สึกได้เลยว่าทำไมอิจิโกะถึงได้ทำเเบบนั้น หรือไม่ทำเเบบนั้น เเม้อาจจะไม่เข้าใจในบางเรื่องเเต่ก็พอยอมรับได้เลยว่า ถ้าเขาเลือกจะตัดสินใจเเบบนั้นก็ไม่เเปลกหรอกนะ...

  ในภาคสุดท้ายนี้ก็ยังวนกลับมาสู่การค้นหาตัวตนของอิจิโกะอีกครั้ง เเม้จะยังไม่เคลียร์จนหมดในตอนนี้เเต่ก็นับว่าทั้งตัวอิจิโกะเเละผู้อ่านเองก็ได้เข้าใจตัวอิจิโกะมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นการนำเสนอที่เเปลกมากสำหรับการ์ตูนโชวเนน ซึ่งส่วนใหญ่เเล้วผู้เเต่งจะชักนำผู้อ่านให้ติดตามการเติบโตสู่ความฝันของตัวละครไปเรื่อยๆ เเต่ bleach กลับวางเรื่องนั้นลง เเละพาผู้อ่านค่อยๆดำดิ่งลงสู่ห้วงจิตอันเเสนสับสนของตัวอิจิโกะเอง เเละค่อยๆทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันกับตัวละคร
    ซึ่งนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เเท้จริงก็ได้ ที่ทำให้ผมยังติด bleach งอมเเงม ทั้งๆที่กระเเสดิ่งลงเหวได้ถึงขนาดนี้


สุดท้ายนี้ ไม่ว่ากระเเสจะว่าอย่างไร เเต่ผมต้องยอมรับว่าชอบเเละประทับใจกับภาคล่าสุดนี้อย่างมาก หลายคนอาจคิดว่าผมเป็นเเฟนพันธ์เเท้เข้ามาอวยก็ได้ เเต่อยากให้ลองในมุมมองของผมดู เเล้วจะรู้ว่าจริงๆมันเเปลกมากนะ ทั้งเเปลกทั้งกล้าที่การ์ตูนต่อยตีสักเรื่องจะเลือกดำเนินเรื่องเเบบนี้ หากเปิดใจสักนิด bleach ตอนนี้ก็ไม่ได้เเย่สักเท่าไหร่ เผลอๆในอนาคตอาจะเป็นเเนวทางใหม่ให้การ์ตูนโชวเนนก็เป็นได้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ใครจะว่าไงก็ช่าง ผมว่าภาพและลายเส้นของ bleach สามารถสื่ออารมณ์และบีบคั้นความมันส์ได้มากที่สุดแล้ว
สายตาตัวละคร เส้นสปีด เส้นผม สะเก็ดดาบเล็กๆที่แตก ชายเสื้ออะไรพวกนี้เป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ  
คือเป็นการ์ตูนเรื่องเดียวที่ใส่ใจกับอะไรแบบนี้และทำให้ภาพสื่อออกมาเท่มากแล้วดูไม่เคยเบื่อเลย
ตรงจุดนนี้ขอชื่นชมจริงๆ  
และการวาดภาพนิ่งให้ดูสโลว์และเชื่องช้าเป็นอะไรที่เจ๋งมากอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นในการ์ตูนเรื่องอื่น
(วิธีการอ่านบลีชที่ถูกต้องคือการจ้องภาพนึงไว้นานๆและเปลี่ยนหน้าช้าๆนะ5555 จะได้ไม่ต้องจบไว)
สังเกตว่าบลีชในอนิเมไม่สนุกเทียบเท่า มังงะเลย

ส่วนเรื่องอันดับและเนื้อเรื่องขอไม่พูดถึง  ถ้าผมเป็นคนแต่งเรื่อง ก็อยากจะแต่งอะไรที่อยากแต่งเพราะนี่ก็คือภาคสุดท้ายแล้ว และผมก็จะไม่เลิกอ่านด้วยเพราะอุตส่าติดตามกันมาตั้งหลายปี  สิ่งที่แฟนควรจะทำก็คืออดทนและสนุกกับมันไปจนจบเรื่อง  ผมแอบคิดว่าสิ่งที่คนแต่งอยากจะแต่งน่าจะทำให้แฟนๆสนุกและไม่ผิดหวังได้อย่างแน่นอน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ความเป็นโชเน็นจัมป์ มันหมดลงพร้อมๆกับภาคอารันคาร์
อิจิโกะร่างแอสซาซินเป็นอะไรที่โคตรพีคที่สุดในสามโลกล้านภาลัยแล้ว

เปิดภาคใหม่ "ฟูลบริงก์" แฟนๆบ่นกันตรึม
ผมเองยังอ่านไม่สนุกเลย
ยิ่งเจอชุดกีกี้ของพระเอกเข้าไป ตกใจ!! เลิกอ่านไปพักนึงเลย
พอตั้งสติก่อนสตาร์ท กลับมาอ่านใหม่ตั้งแต่เริ่มภาค
"เฮ้ย สนุกว่ะ นี่มันการ์ตูนแนวลึกลับชัดๆ"

อ่านแล้วเครียดอ่านแล้วกดดัน พลังมิตรภาพแบบฉบับจัมป์พ่อคุโบะไม่สนแล้ว
พระเอกถูกทิ้งให้บ้า ประสาทแดรกอยู่คนเดียว
คนอ่านก็แทบจะประสาทแดรกตามอิจิโกะไปด้วยเช่นกัน
แทนที่จะอ่านสนุกแบบการ์ตูนต่อสู้พลังมิตรภาพ ดันอ่านไปเครียดไป
เกิดอะไรขึ้นกับอิจิโกะ เกิดอะไรขึ้นกับบลีช ???

สุดท้ายวกมาจบได้อย่างประทับใจก็เถอะ
..... แต่แฟนพันธุ์ไม่แท้ส่วนนึงก็เสียศรัทธาไปแล้ว
คุโบะหาได้แคร์ไม่

เปิดภาคใหม่ จัดเต็มกว่าเดิมอีก อับดับพ่อไม่สน นึกอะไรได้ใส่มาให้หมด
ปมเก่าปมใหม่ขนมา ยัดๆกันให้พรึ่บพรั่บ เฉลยบ้างไม่เฉลยบ้างตามอารมณ์ อยากกั๊กให้คนดิ้นเล่นๆ
ปริศนาเก่าไม่คลาย ปริศนาใหม่ยิบย่อย ยังกะแบคทีเรีย
เอาง่ายๆ "ไอเด็กหงอกตายยัง" ??? ก็ไม่มีใครรู้ชะตากรรม ทั้งๆที่เป็นตัวละครยอดนิยม !!
คุโบะแคร์มั้ย ? ไม่ !! 55555
ไม่ได้ออกทะเลหรอกนะ คุโบะแค่ทำการ์ตูนให้โคนันมันอ่านจ้า อิอิ
โทรลคนอ่านแล้วไปนั่งหัวเราะในมุมมืด คุโบะช๊อบชอบ

ยังไม่นับ คาเฟ่เชิญยิ้ม อีกสกิลนึงที่คุโบะถนัดอีก
ตัวละครเยอะๆ ผลัดกันยิงมุขเนี่ย ตลกนัก
ขยันใส่มาได้ตลอด แม้กระทั่งฉากสู้กัน !!

บ่นขนาดนี้ถามว่ายังอ่านสนุกมั้ย
บอกเลยว่ายังสนุกอยู่
อารมณ์ประมาณว่า "แล้วแต่ท่านเลยครับ"
ยังไงก็ตามอ่านจนอวสานนั่นแหละ

อมยิ้ม15
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่