[CR] วังเวียงฮิปสเตอร์โนแพลน : ไปง่าย ใช้เงินน้อย ไม่ต้องแพลน แล้วธรรมชาติสวยแบบขั้นสุดที่วังเวียง สปป.ลาว

มาอีกแล้วนะฮะสำหรับเพจ Bliss Out There พาไปเที่ยวกันอีกแล้ว คราวนี้จะพาไปเที่ยวลาวแบบไม่ต้องมีแผนอะไรทั้งนั้นค่ะ อยากไปก็ไปได้เลย ดังคำที่ว่า ชาติชายต้องบวชให้พ่อแม่สักครั้งในชีวิตฉันใด นักเดินทางก็ต้องออกไปเที่ยวโดยไม่มีแพลนสักครั้งในชีวิตฉันนั้น เราก็ฝันมานานแล้วว่าอยากจะออกเดินทางไปสักที่โดยไม่วางแผน มันคงสนุกน่าดู ทุกอย่างคงตื่นตาตื่นใจ ทำอะไรก็น่าตื่นเต้นไปหมด คงได้หลงทาง ได้ไปสถานที่แปลกๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และได้สัมผัสรสชาติของคำว่าผจญภัยอย่างแท้จริง



สำหรับทริปวังเวียงเรากับเพื่อนก็ตั้งใจจะไปผจญภัยแบบไม่มีแพลน กะไปเดินเขาสโลไลฟ์ ถ่ายรูปสวยๆไปเรื่อยๆ ขอฟีลนักเดินทางแบบหนักๆ …เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆ พอมั้ย? เลิกมั้ย? ไอความฝงความฝันอะไรนี่คิดตอนไหนปิง?  นักผจญภัยสโลไลฟ์นี่คิดตอนไหน? ไอขี้โมมมมมมมมมมม้ แพลนก็ไม่มี ไอเดียที่ร่ายมาตอนแรกก็ไม่ได้อยู่ในหัวเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว ชื่อกระทู้ก็บอกอยู่ว่าโนแพลน จะมีอะไรล่ะเห้ย ใครที่มองหาข้อมูลการท่องเที่ยววังเวียงอย่างละเอียดลึกซึ้งนี่ต้องขออภัยจริงๆ เพราะทริปนี้เราเน้นเรียลค่ะเน้นเรียล อยากไปไหน ไป อยากกินไร กิน อยากทำไร ทำ อ่านให้จบแล้วนายจะรู้ว่าไปเที่ยววังเวียงเนี่ยไม่มีแพลนอะไรเลยก็ไปได้ แล้วสนุกด้วย ธรรมชาตินี่เต็มอิ่มกันไปเลย ขอแค่ใจนายได้ เตรียมเอกสารข้ามประเทศเล็กน้อย เงินอีกประมาณ2,000บาท โป๊ะเชะเหมาะเจาะจัดไป 2วัน2คืน ที่วังเวียง สปป.ลาว ตามมาเล้ยยยยยยยยยยยยยยย





ต้องบอกก่อนว่าทริปวังเวียงเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเดินทางแบบโนแพลน 9 วัน ซึ่งเราไปกับพี่ๆเพื่อนๆน้องๆของเราทั้งหมด 12คน เป็นชาย 6 คน หญิง 6 คน ฮั่นน่ะ รู้นะคิดไรกัน ไม่มีอะไรทั้งนั้นๆๆๆๆ พี่ๆน้องๆกัน ไอบ้า... พวกเราstartที่กรุงเทพ ต่อไปอยุธยา ขึ้นไปเชียงใหม่ ไถลไปแม่ฮ่องสอน แล้วก็นอนที่อำเภอปาย รุ่งขึ้นก็ย้ายกลับไปเชียงใหม่ ยังไม่สระใจเลยไปอุดรธานี แต่ที่พีคที่สุดอยู่ตรงนี้ที่หนองคาย ที่ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เป้าหมายสูงสุดของทริปนี้คือวังเวียง สปป.ลาว ค่ะ

ถามว่าตอนนั้นมีใครรู้ข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับวังเวียงนอกจากสระบลูลากูนมั้ย ตอบเลยว่าไม่ การจองโรงแรมอะไรไม่มีทั้งนั้น ตลอด 9วัน คือไปหาเอาสดๆ บางคืนก็นอนในรถ ส่วนสาเหตุที่ไม่มีใครหาข้อมูลอะไรเลย เนื่องมาจากรุ่นพี่ที่เป็นคนรวมกลุ่มฮิปปี้อินดี้ออนทัวร์นี้ขึ้นมาเค้าได้ตั้งกฎของการเดินทางครั้งนี้ไว้เล็กๆน้อยๆ  1. “ทริปคนเถื่อน” คือชื่อกรุ๊ปไลน์ 2. จะถ่ายหนักถ่ายเบาที่ไหน ขึ้นอยู่กับพี่เค้าเป็นคนอนุญาต 3. ใครขัดขืน ไม่พอใจ หรือนำเรื่องวิชาการมีสาระเข้ามาในกรุ๊ป โดนเด้ง ใครขัดขืน ไม่พอใจ หรือนำเรื่องวิชาการมีสาระเข้ามาขณะเดินทาง พี่เค้าจะหยุดรถแล้วถีบลงจากรถทันที5555555555555555555555 เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าเถื่อนจริง

เหล่าคนเถื่อนร่วมเดินทางกันมาจนถึงวันสิ้นปี (31ธันวา 2557) ตอนนั้นพวกเราอยู่กันที่จังหวัดอุดรธานีค่ะ 11ชีวิตระดมสมองกันว่าจะเอาสถานที่ไหนเป็นที่เคาท์ดาวน์
“กลับเชียงใหม่มั้ยล่ะ”
“โห ไม่เอา เชียงใหม่คนเป็นล้านอ่ะ”
“หรือกลับกรุงเทพอ่ะ”
“เห่ยยยย เอาจริงอ่ะ”
“แต่เป้าหมายเราตอนแรกคือวังเวียงนะเว่ย”
“เอาไงอ่ะ ใครอยากไปต่อยกมือเลยดีกว่า”…
วังเวียงเข้าวินไปแบบกินขาดค่ะวันนั้น ไปก็ไปเว่ย ลุยกันต่อ พวกเรานั่งรถจากอุดรธานีต่อไปหนองคายเพื่อจะข้ามไปฝั่งลาว อันนี้เป็นเรื่องเดียวที่พวกเราเตรียมตัวไปในทริปนี้ค่ะ คือเอกสารที่ต้องใช้ในการจะข้ามไปลาว ได้แก่ Passport สำเนาบัตรประชาชน รูปถ่ายขนาด 1หรือ2 นิ้วก็ได้จำนวน 2 ใบ เท่านี้พวกนายก็จะได้บัตรผ่านแดนชั่วคราว มีอายุ 3วัน 2คืน ข้ามไปเที่ยวเวียงจันทร์ได้แบบสบายสบาย




ลืมบอกไปว่าวังเวียงเป็นเมืองนึงในเวียงจันทร์ ซึ่งระยะทางจากด่านไปวังเวียงรวมแล้วประมาณ 180กิโลเมตรค่ะ ใช้เวลาในการเดินทาง 4-5ชั่วโมง ส่วนยานพาหนะที่ใช้เดินทางก็มีให้เลือกตามใจชอบเลยแถวๆก่อนทางเข้าด่าน ไม่ต้องจองล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น ถ้าอยากนั่งรถบัสก็ต้องไปแต่เช้า เพราะมีแค่วันละเที่ยว ตอน 8โมงครึ่ง ราคา320บาท หรือถ้าไปกันเยอะแบบเราจะเหมารถตู้ก็มีตลอดทั้งวัน ราคา 3,500บาทค่ะ ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ไม่ถึง3,000บาท ขาไปอย่าลืมตกลงกับพี่รถตู้ด้วยว่าให้เค้ามารับวันไหน กี่โมง แลกเบอร์กันให้เรียบร้อย เพราะถ้าไม่คุยไว้เลยเดี๋ยวขากลับจะลำบากเอาค่ะ ส่วนเงินจะแลกหรือไม่แลกก็ได้เพราะที่นู่นเค้ารับเงินบาทเหมือนกัน แต่รับเฉพาะธนบัตรนะ ก่อนข้ามไปจะมีจุดให้แลกเงินอยู่ คนนึงก็แลกสัก2,000-3,000บาทก็อยู่แล้ว คิดเป็นกีบก็มีเงินคนละ 5แสนถึง7แสนห้าเลยทีเดียว รวยแล้วๆๆๆๆๆ จะทำอะไรก็ได้ๆๆๆๆ



6 โมงเย็นนิดๆเป็นเวลาที่เท้าของ11ชีวิตสัมผัสพื้นดินกลางตัวเมืองวังเวียง ถึงจะไม่สว่างมากแต่ก็พอมองเห็นภูเขาหลายๆลูกที่ล้อมเมืองนี้อยู่ ปกคลุมด้วยหมอกจางๆ บอกเลยว่าสุดดี ในใจนี่คาดหวังแล้วว่าพรุ่งนี้ตอนสว่างมันต้องสวยมากแน่ๆ ต้องถ่ายรูปกันมันส์แน่ๆ เล่นนู่นเล่นนี่กันสนุกสุดๆไปเลยแน่ๆ แต่เดี๋ยวนะ เราลืมอะไรไปรึเปล่า...คืนนี้ยังไม่มีที่นอนเล้ยยยยยยยยยย จะนอนไหนนนนนนนนนนนนนน55555555555

พวกเราเริ่มหาที่นอนด้วยการเดินเลยค่ะ เดินถามเอา แบ่งกันไปคนละซอกคนละซอย ผลปรากฏว่าเต็มทุกที่! แหงอยู่แล้วนี่มันวันที่31ธันวานะเว่ยไอบ้า หาเรื่องชัดๆเลย สนุกมั้ยล่ะทีนี้ มือถือก็ใช้เน็ตไม่ได้ เหลือบไปเห็นร้านข้าวร้านนึงที่มีป้ายติดหน้าร้านว่า Free-Wifi  ฮิปสเตอร์11คนจึงพุ่งตัวเข้าไปอย่างไม่รอช้า  สั่งข้าวกันเสร็จ ก็เข้าwifiหาที่นอนกันไป มือซ้ายตักข้าวเข้าปาก มือขวากดโทรศัพท์หาที่พัก ปากเคี้ยวสลับกับขอพร ขอเห๊อะ นอนไหนก็ได้ โรงแรมจิ้งหรีดก็ได้ ขอเห๊อะ หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฟ้าก็มืดแล้วประมาณทุ่มกว่าๆ จ่ายค่าข้าวเรียบร้อยก็ออกมาเดินหาที่นอนกันต่อค่ะ ให้ข้อมูลนิดนึงสำหรับคนที่จะไปเที่ยววังเวียง พวกนายต้องทำใจเล็กน้อย ร้านอาหารที่นี่ wifiช้าระดับหอยทากทุกร้านค่ะ เมืองเค้าคงต้องการคงคอนเสปสโลไลฟ์แหละต้องเข้าใจๆๆๆ




เดินไปเรื่อยๆจนเจอโรงแรมนึง ซึ่งเต็ม…แต่ช้าก่อน ชีวิตเราไม่ได้ดาร์กขนาดนั้น  คนที่โรงแรมนี้บอกชื่อและตำแหน่งโรงแรมนึงกับพวกเรา ถึงมันจะเดินเลยจากใจกลางของวังเวียงไปหน่อย (สัก300เมตร) แต่เขาบอกว่ามันน่าจะว่างอยู่ ให้พวกเรารีบไป เมื่อฟ้าลิขิตเส้นทางมา พวกเราก็ก้มหน้าก้มตาfollowค่ะ  เดินไปตามทางที่เค้าบอก จนเจอตึกแถวตึกนึง

ถึงตอนนี้อยากให้ทุกคนนึกภาพตึกในหนังเรื่องหอแต๋วแตก หรือถ้าใครไม่เคยดูให้จินตนาการตึกเก่าๆ มืดๆ ดูทะมึนไปหมดถึงผนังจะทาสีขาวก็ตาม Wifi นี่ไม่ต้องพูดถึง แอร์เอออย่าหวังว่าจะมี ทีวีอย่าหวังจะได้ดู แค่ประตูล๊อกได้ก็ถือว่าบุญแล้ว ช่างเป็นที่นอนที่เหมาะกับไอพวกไม่วางแผนล่วงหน้าจริงๆ!  

เมื่อก้าวเข้าไปในตึก พี่ใหญ่ของพวกเราก็ได้ทำการดีลราคากับพนักงานทั้งสองคน ซึ่งเป็นคุณลุงและคุณป้า
ผอมแห้งมากทั้งคู่…
หน้าขาวซีดทั้งคู่…
พูดเสียงเบาๆทั้งคู่…
แล้วเท้าก็ไม่ติดพื้นทั้งคู่…จะบ้าหรอ รีวิวท่องเที่ยวไม่ใช่ประสบการณ์ขนหัวลุก กลับมาๆๆๆๆๆ เพี้ยนใหญ่ละ จ่ายเงินๆๆๆๆ


พวกเรา11คน เอา3ห้องนอนค่ะ หารแล้วตกคนละ250 หรือ270บาท ไม่แน่ใจ ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจจะรีวิว แต่อยากเล่าประสบการณ์สนุกๆเนอะ ทุกวันนี้ยังไม่รู้ชื่อโรงแรมค่ะ พยายามเสิจหาทุกเว็บแล้ว ไม่มีโรงแรมหน้าตาแบบนี้อยู่ในสารระบบ แต่ดูจากการรับเงิน ทอนเงิน จดบันทึกคนเข้าพัก ซึ่งเป็นระบบแมนน่วลมากๆแล้ว เค้าก็ไม่น่าจะใช้เทคโนโลยีใดๆในการทำการตลาดแหละ5555555555555 ขณะเดินตามคุณลุงขึ้นไปห้องพักยังคิดอยู่เลยว่าเราเดินตามคนอยู่ใช่มั้ยวะ แต่พอถึงห้องแล้วก็สบายใจกันทุกคน ส่งเสียงกันใหญ่  ถอนหายใจบ้างแหละ รอดแล้วโว้ยบ้างแหละ กระโดดลงเตียงบ้างแหละ แต่สิ่งที่ทุกคนพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันคือ “อีกไม่ถึง 4ชั่วโมง วันปีใหม่แล้วนะเว่ย!!!”



อาบน้ำแต่งตัวสวยหล่อกันทุกคน เปิดประสบการณ์แรกในวังเวียงด้วยการไปเคาท์ดาวน์ที่บาร์ที่เค้าว่าฮอตฮิตที่สุดในเมืองนี้ “Sakura bar” (เอ้า ญี่ปุ่นมาไงเนี่ยเห้ย) พวกเราไปถึงประมาณ4ทุ่มนิดๆค่ะ คนนี่แน่นร้านเลย ร้านก็ไม่ได้ใหญ่ เป็นบาร์ไม้ เก้าอี้โต๊ะข้างในก็เป็นไม้ มีหลังคาเป็นทรงเหมือนบังกะโล ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติใช้ได้ สั่งเครื่องดื่มข้างหน้าเสร็จพวกเราก็เข้าไปลุยข้างในเลย เชื่อว่าวินาทีนี้แหละที่ผู้หญิงไทยหลายๆคนตาโต ปากค้าง ลืมหายใจ ตามมาด้วยการสะกิดเพื่อนชะนีที่ไปด้วยกัน เนื่องจากผู้ดีงามมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เกาหลีมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวเกาหลีนี่เกิน50%ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในวังเวียง แต่ก็ว่ากันไม่ได้ฮะของอย่างงี้ แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน

ร้านนี้เปิดเพลงสนุก ใช่ สนุก อืม ก็สนุกแหละเมื่อห้าหกปีที่แล้ว55555555555555 คือเพลงมิกซ์แล้วดีนะ แต่ไม่มีเพลงใหม่กว่านี้แล้วหรอไอหนุ่ม ไอหนุ่มดีเจๆๆๆ ขอเพลงใหม่ๆมั่งไอหนุ่ม เอาเป็นว่านี่วันสิ้นปีว่ะ เพลงจะดีไม่ดี ดริ้งค์จะหวานไม่หวาน จะมีคู่หรือไม่มี ก็ต้องเต้นแล้วอ่ะ … ที่ซากูระบาพวกนายจะได้เจอคนมากหน้าหลายตา ได้เพื่อนใหม่ๆเยอะ อย่างเราคืนนั้นก็รู้จักพี่น้องชาวเยอรมัน คู่รักจากเม็กซิโก บอยแบนด์เอแบค คนเกาหลีใส่แว่น ทั้งหมดที่พูดมานี่ไม่ได้ขอคอนแทคไว้เลย แต่มีรูปด้วยกันหลายรูป งงตัวเอง555555555555 แต่มีคนไทยกลุ่มนึงที่เราขอคอนแทคไว้ เป็นแก๊งรุ่นพี่ม.เกษตร ทุกวันนี้ยังคุยกัน ติดตามชีวิตกัน เคยได้ยินมั้ยที่เค้าบอกว่า “ถ้านายเดินทางไปไหน แล้วไม่ได้เพื่อนใหม่เพิ่ม นั่นแปลว่านายไปไม่ถึงที่นั่น” เพราะฉะนั้น ได้เจอกันแล้ว ได้รู้จักกันแล้ว คีพคอนแทคไว้ค่ะ



5…
4…
3…
2…
1…HAPPY NEWYEAR…แฮปปี้นิวเยียร์…สุขสันต์วันปีใหม่…ซัมบายดีปีใหม่… ยกแก้ว ชนแก้ว กระดกดริ้งค์ กอดคอ คนเป็นร้อยมาจากที่ไหนกันมั่งก็ไม่รู้ แต่ทุกคนดูมีความสุขมากพอมาอยู่รวมกัน นี่สินะรสชาติของชีวิต คนที่มาจากคนละซีกโลกสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ทุกคนสร้างความทรงจำให้คนอื่นได้แม้ไม่ได้ตั้งใจ ช่างเป็นภาพที่ประทับใจจริงๆ…หันไปเห็นคนเมา อ้วกแตกอยู่ข้างร้าน…โลกนี้นี่ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากความเมามาย สกปรกจริงๆเลยมนุษย์เนี่ย อะไรเยอะแยะไม่รู้สร้างแต่ปัญหา555555555 ขอแทรกข้อมูลนิดนึง ผับบาร์ที่นี่เที่ยงคืนก็ไม่มีเพลงแล้วนะคะ เป็นนโยบายของเค้า แต่ถ้าอยากจะนั่งต่อก็ได้เลยไม่มีปัญหา



ชื่อสินค้า:   วังเวียง, ลาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่