[SR] รีวิวเสริมจมูก หมอศิริพงษ์ ลักขณาวงศ์ รพ.ยันฮี

กระทู้รีวิว
รีวิวเสริมจมูกกับคุณหมอศิริพงษ์ ลักขณาวงศ์ รพ.ยันฮีอมยิ้ม16
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะมารีวิวเรื่องเสริมจมูก กับคุณหมอศิริพงษ์ รพ. ยันฮีค่ะ  (เผื่อเพื่อนๆคนไหนอยากไปทำบ้าง)
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะว่า เราไม่เคยรีวิวเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เราอยากแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่กำลังจะตัดสินใจไปเสริมจมูกแต่ยังลังเลกับคลีนิคหรือรพ. เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยค่ะ  ก่อนที่เราจะตัดสินใจไปทำจมูกที่ รพ.ยันฮี เราก็ได้เห็นเพื่อนๆไปทำที่ รพ.นี้กันเยอะมากค่ะ และตัวเราเองก็ศึกษาจากเว็บพอสมควร เราเป็นคนกลัวเจ็บมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด (...จิงแล้วเราก็ไม่ใช่คนไม่มีดั้งเลยนะค่ะ เพียงแต่ตรงสันมันไม่ค่อยโด่งแต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้หน้าเกียจอะไร อยากทำให้หน้าเวลาถ่ายรูปแล้วดูมีมิติขึ้นมาหน่อย ...แฮ่ๆๆๆ อยากจ๊วยอะนะ)  เพื่อนที่ไปทำก่อนหน้าก็เล่าเหตุการณ์ ขั้นตอนการทำให้เราฟังว่าไม่น่ากลัวอย่างที่เราคิด ....ใจเราก็คิดว่าอยากสวยก็อยาก กลัวเจ็บก็กลัว จะเอายังไงกับชีวิตดีนะเรา ลังเลและคิดอยู่เป็นเดือนๆกว่าจะตัดสินใจไปทำจมูก ....ที่เราเลือก รพ.ยันฮี เพราะขึ้นชื่อว่า รพ.เสริมความงาม และมีชื่อเสียงด้านศัลยกรรมอันดับต้นๆของเมืองไทย ทำให้เรามั่นใจกับชื่อเสียงของ รพ.ยันฮี แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำจมูกกับคุณหมอศิริพงษ์ (รีวิวคุณหมอศิริพงษ์มีน้อยมากค่ะ) แต่เราเคยเห็นพี่ๆที่รู้จักไปทำจมูก+ตาสองชั้นมากับคุณหมอท่านนี้ ทำออกมาแล้วสวยดูเป็นธรรมชาติมาก มองดูแล้วไม่มากไม่น้อยเกินไป ภาพรวมออกมาแล้วสวยค่ะ...แต่ใจก็คิดว่าเราทำแล้วจะออกมาสวยเหมือนพี่เค้าหรือป่าววะ???????????  ก่อนที่เราจะตัดสินใจเสริมจมูก บอกที่บ้านก็โดนห้ามตลอด และแฟนก็ไม่อนุมัติ แต่เราก็ยังดึงดันอยากจะเสริมนะ (ก็เราอยากสวยเป๊ะ เหมือนชาวบ้านบ้างง๊ะ คิคิ) งอแงอยู่นานจนแฟนใจอ่อนยอมให้ทำ จนวันที่ 13 พฤษภาคม 2558 ตัดสินใจไปทำจมูก โดยการเลือกทำกับคุณหมอศิริพงษ์ ลักขณาวงศ์ รพ.ยันฮี (บอกก่อนเลยค่ะว่าคุณหมอศิริพงษ์เน้นความเป็นธรรมชาติมากกกกกก)
               **ไม่รู้ว่าเราเล่ามาเพื่อนๆจะงง หรือป่าว เราเพิ่งเคยรีวิวเป็นครั้งแรกค่ะ...
มาถึงขึ้นตอนวันที่ 13 พ.ค.58 วันที่ไปทำจมูกเลยค่ะ ...เราอยู่จังหวัดพิษณุโลกค่ะ เดินทางไปถึง รพ.ยันฮี ตอน 7 โมงเช้า (มากับเพื่อน 1 คน ซึ่งอาสาพาเรามาทำ เพื่อนคนนี้ก็เคยทำจมูก+ตา กับ รพ.นี้มาแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว)  คือว่าเราได้โทรนัดคิวกับเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ไปถึงแต่เช้าๆนะค่ะ เพื่อจะได้ทำคิวแรก  พอประมาณ 7 โมงเช้าถึงเราก็ไปกรอกประวัติให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อรอเรียกขึ้นไปชั้นที่ทำศัลยกรรม ตั้งแต่ก้าวเข้า รพ.ก็เริ่มใจไม่ดีละ เพราะกลัวมากๆค่ะ ช่วงเวลาที่นั่งรอให้เจ้าหน้าที่เรียกเราก็หาอะไรทานรองท้องก่อนแล้วก็กินยาลดความดัน (ลืมบอกไปค่ะว่าเราเป็นความดันสูงอยู่แล้ว) เราก็กินยาตามปกติ  สักประมาณครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปรอที่ชั้น 4 ช่วงระหว่างรอเจ้าหน้าที่ก็สอบถามประวัติ ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ...เอาละสิทีนี้  ตอนวัดความดันนี่ละคือปัญหา พอเจ้าหน้าที่วัดความดัน เอ้า!!!!!!!! ความดันสูง (ใจก็เริ่มไม่ดีเพราะเรามาไกลนิค่ะ กลัวเสียเที่ยวที่ดั้นด้นมาทำถึง กทม. เจ้าหน้าที่บอกว่าคงตื่นต้นมากให้นั่งพักก่อนนะค่ะแล้วค่อยมาวัดใหม่ นั่งรอไปอีกครึ่งชั่วโมงเจ้าหน้าที่ก็เรียกให้ไปวัดซ้ำอีก อ่าวความดันก็ยังสูงอยู่อีก ทั้งๆที่ปกติแล้วฉันทานยาทุกวันก็คุมได้ปกติ (ซึ่งปกติแล้วไม่เคยมีปัญหาเลย) ใจก็คิดไปว่าสงสัยคงไม่ได้ทำแล้วสิเรา.... สักพักเจ้าหน้าที่ก็เรียกไปวัดซ้ำอีกครั้งที่ 3 ก็ยังสูง แต่ก็ลดลงมานิดนึง จนพยายาลบอกว่าเดี๊ยวให้คุณหมอวินิจฉัยอีกทีว่าจะทำให้หรือไม่ทำ....นั่งรอคุณหมอจนประมาณ 10 โมง เพราะวันนี้คุณหมอเข้าเวรเวลา 10 โมงเช้า ก็ได้เข้าตรวจคิวแรกของคุณหมอเลย

......เข้าห้องตรวจ คุณหมอก็ถามว่าจะทำอะไรครับ (คุณหมอพูดเพราะมาก ดูเป็นคนใจดีใจเย็นมากเลยค่ะ)  เราก็บอกว่าจะทำจมูกค่ะ คุณหมอก็ตรวจดูจมูกเราวิเคราะห์หน้าเรา พอหมอจับดูบอกว่าด้านข้างจมูกของเราไม่เท่ากัน แถมสันจมูกมีฮัมตรงสันจมูกอีก ...คุณหมอบอกว่าปัญหาเยอะเหมือนกันนะเนี๊ยะ !!!!!!!! แง่วววววววววว (รู้สึกเหมือนเราพิการยังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ) เราก็ถามหมอว่าแล้วจะทำได้ไหมค่ะหมอ คุณหมอบอกว่าทำได้แต่ต้องขัดกระดูกด้านข้างให้เท่ากันแล้วก็ต้องขูดเอาฮัมตรงสันจมูกออกก่อนถึงจะว่างแท่งซิลิโคนได้ เราก็ถามหมอว่าถ้าทำแล้วจะออกมาดูดีไหมค่ะคุณหมอ (คุณหมอบอกว่าโดยปกติแล้วก็ทำออกมาแล้วก็ต้องดูดี หน้าจะคมขึ้น... ปกติเราก็มีดั้งอยู่แล้วแต่ไม่มาก ตรงสันไม่ค่อยสูงเลยอยากเติมให้หน้าดูดีขึ้น เราก็บอกว่าทำยังไงก็ได้ค่ะหมอให้ออกมาดูดีค่ะ.. หมอบอกว่าต้องมีค่าขูดกระดูกเพิ่มอีก 5000 บาท  จะทำไหมครับ ..ดั้งเราคุณหมอเน้นเป็นธรรมชาติค่ะ ไม่ใส่ซิลิโคนปลายจมูก (เราก็เอ่อๆๆๆๆๆ มาแล้วค่ะคุณหมอ ก็ต้องทำค่ะ) แล้วจะเอาสิลิโคนเกาหลี 9,900 บาท หรือ US 15,000 บาท เราก็ถามคุณหมออีกว่าต่างกันตรงไหนนอกจากราคา คุณหมอก็บอกว่าต่างแน่นอนเรื่องคุณภาพ ความเนียนนิ่มและความเป็นธรรมชาติ จับได้ บีบได้ บิดได้ เราเลยตัดสินใจใช้ซิลิโคน US + ขัดกระดูก 5,000 บาท รวมเป็น 20,000 บาท มีค่าทำบัตรอีก 170 บาท รวมทั้งหมด 20,170 บาท พอคุณหมออธิบายเสร็จก็ถ่ายรูปหน้าเราไว้เป็นประวัติ เสร็จแล้วก็ให้เราไปนั่อรอและเตรียมที่จะเข้าห้องผ่าตัดช่วง บ่ายโมง

ขั้นตอนการทำ
          มาถึงนาทีวิกฤตละคราวนี้ พยาบาลก็ให้เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และให้ล้างหน้าให้สะอาด สวมหมวกเก็บผมให้เรียบร้อย ใจก็ยิ่งเต้นแรงเพราะความกลัวเหมือนเดิม ....ฮือๆๆๆ จะถอยก็ไม่ได้แล้วสิเรา จ่ายตังค์ไปหมดแล้วนิ คิดว่าต้องสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียว ล้างหน้าทำความสะอาดเสร็จแล้วผู้ช่วยหมอก็ออกมารับเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำความสะอาดจมูกเตรียมรอคุณหมอ ใจก็ยิ่งเต้นแรงอีก เดินผ่านห้องผ่าตัดเข้ามาหลายห้อง เห็นนอนรอคุณหมอกันเต็มไปหมด บรรยากาศตอนนั้นรู้สึกกลัวมากๆๆ ค่ะ ความดันก็ขึ้นไม่ยอมลงสักที นอนรอคุณหมอจนเกือบเผลอหลับแนะค่ะ  สักพักคุณหมอก็เข้ามา ทำการมาคจุดด้วยเมจิก แล้วก็เอาซิลิโคนวัดที่จมูกและเหลาซิลิโคนให้เข้ากับรูปจมูกเราค่ะ คุณหมอใช้ซิลิโคนแบบแผ่นแล้วเหลาขึ้นรูปเองค่ะ ไม่ได้ใช้แบบซิลิโคนที่มีขา ....ใจก็ยังเต้นอยู่ค่ะ เครื่องวัดความดันก็วัดตลอดเวลาไว้ที่ปลายนิ้ว เราถามคุณหมอว่าจะเจ็บไหมค่ะ คุณหมอบอกเดี๊ยวฉีดยาให้หลับเนอะจะได้ไม่ต้องกลัว ..(ใจเริ่มดีขึ้นมาหน่อย เพราะตอนแรกคิดว่าจะฉีดยาชาที่จมูกอย่างเดียว เพื่อนที่พามาเค้าบอกว่าฉีดยาที่จมูกเลยไม่ได้ฉีดให้หลับ เลยรู้สึกกลัวมาแต่แรก) พอผู้ช่วยหมอฉีดยาเข้าที่ข้อมือให้เสร็จ ได้ยินเสียงคุณหมอพูดเป็นคำสุดท้ายว่า...ถ้าง่วงก็หลับไปเลยนะครับ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 นาที ไม่รู้เราหลับไปตอนไหนไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็ฉีดยาชาให้เราตอนเราหลับ แล้วตอนผ่าตัดเราก็มีความรู้สึกว่าเหมือนเราอยู่ในความฝัน ฝันว่าอยู่ในห้วงอวกาศ เห็นภาพเป็นสีๆ แต่ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย เวลาผ่านไปสัก 50 นาที น่าจะได้นะค่ะ ผู้ช่วยหมอก็ปลุกให้ตื่นแล้วพยุงให้ลุกขึ้น ความรู้สึกมันมืน หนักๆหัว ปากกับจมูกชาๆ หนักๆไปหมด หลังจากนั้นพยาบาลก็พามาห้องพักฟื้นเพื่อประคบเจลเย็นให้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ก็เรียกญาติให้รับกลับบ้านได้ หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ก็เริ่มรู้สึกเจ็บๆตึงที่จมูกนิดๆ กินยาตามที่คุณหมอสั่ง แก้ปวดกินทุก 4 ชั่วโมง ยาแก้อักเสบเช้าเย็น ยาลดบวมเช้า กลางวัน เย็น

เรามีรูปให้ดูค่ะ ก่อนทำค่ะ (รูปเยอะไปหน่อยนะค่ะ)  




ภาพทำตั้งแต่วันแรก (แอบนอยว่าคุณหมอลืมใส่ซิลิโคนให้เราป่าวเนี๊ยะ ดูแบนๆจัง ธรรมชาติไปไหมค่ะคุณหมอ) อิอิ




วันที่ 5 แกะพลาสเตอร์ออก

วันที่ 10 เริ่มอยากแต่งหน้าละค่ะ

วันที่ 15  (ถึงวันที่คุณหมอนัดไปตัดไหม) ใจก็กลัวอีกค่ะว่าจะเจ็บอีกเพราะดูแล้วแผลที่จมูกเรายังไม่แห้ง เพื่อนคนเดิมอีกตามเคยพาไปเหมือนเดิม เพื่อนคนนี้เคยทำแล้วนิค่ะ บอกกับเราอีกว่าตัดไหมเจ็บมาก ...แต่บังเอิญว่าพอไปถึงหมอบอกว่าไม่ต้องตัดเพราะเป็นไหมละลาย (โอ้ยใจชื้นขึ้นหน่อย)

วันที่ 20



1 เดือนครึ่ง




ปล.วันหน้าจะมารีวิวให้ดูต่อนะค่ะว่าหลังจาก 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปีจะเป็นยังไง
ชื่อสินค้า:   เสริมจมูก รพ.ยันฮี
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่