จาก Part แรก กระทู้นี้นะครับ --->>>
http://pantip.com/topic/33889950
เราก็จะมาเดินทางต่อกันครับ เริ่มกันเลย
[วันที่ 4 ก.ค.58] วันนี้ผมจะไปตะลุยย่าน chinatown ครับ
แผนที่ ย่าน chinatown ครับ
ซึ่งย่านนี้มันก็ไม่ไกล เดินไปเอาก็ได้ครับจากที่พักผม แต่ถ้าออกมาจากสถานี China town ก็จะเจอถนนนี้ครับ
Beary Hostel โฮสเทลน้องหมีสุดฮิตของใครหลายคน หุหุ ตึกแถวนั้นก็จะทาสีสวยสดใสดีครับ
เดินเลย โฮสเทลน้องหมีไปนิดหน่อยเลี้ยวขวาเดินไป pagoda street ก็จะเจอนี้ครับ ต้องถอด ถุงเท้า รองเท้าก่อนเข้าไปดูด้วยครับ
เดินไปอีกก็เจอนี้เลยครับ
แล้วก็เดินตรงไปอีกใกล้กันมากครับ ก็เจอทีเด็ดนี้เลยครับ ซึ่งวัดพระเขี้ยวแก้วนี้ผมแนะนำให้ไล่ดูจากชั้น บนสุดเลยครับขึ้นทางลิฟต์ และลงทางบันไดหนีไฟไล่ดูมาเรื่อยๆเลยครับ จะเห็นรูปปั้นพิพิธภัณฑ์ต่างๆสวยงามมาก ซึ่งผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปเช่นกันครับ เพราะอยู่ข้างบนเงียบมากครับ ไม่ค่อยมีใครขึ้นไปเท่าไหร่ แต่ตามจริงสวยมากครับ ถ่ายรูปได้บางที่ บางที่ก็ถ่ายไม่ได้ บางที่ก็ถ่ายได้แต่ห้ามใช้ Flash ครับ
ระหว่างทางเดินไปตามถนนข้างวัดพระเขี้ยวแก้วเรื่อยๆก็จะเจอ 2 ร้านนี้ครับ ขายของฝากกับขายยา นักท่องเที่ยวมุงกันเต็มเลยครับ
เดินทะลุออกไปก็เจอ
มีอากงมานั่งสนทนาพาที เล่นหมากรุกเพียบครับ ประเทศนี้คนแก่เค้าแข็งแรงมากๆครับ เพราะฉะนั้นอย่า!!!แปลกใจที่จะเห็นคนแก่เค้าขยันขันแข็ง ทำมาหากินครับ
เดินออกขวาไปเล็กน้อยก็จะเจอทางออกอันแสนโด่งดังนี้ครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปต่อที่วัดเจ้าแม่กวนอิมครับ พอไปวัดนี้ผมแปลกใจมาก คนเยอะมากกกกกก เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวสิงคโปร์มากครับ มีคนมาขอขมาไหว้พระกันเพียบ บางคนก็หันหน้าไปประตูทางเข้า มองไปตึกฝั่งตรงข้าม ผมก็สงสัยหันไปไหว้อะไรมองไปก็ไม่มีอะไร และไม่ได้มองไปที่เจ้าแม่กวนอิมนะครับ แต่มาคิดอีกทีก็คงเป็นการขอขมาฟ้าดินแหละครับ การปักธูปที่วัดนี้ก็งงครับ เห็นอาซ้อคนนึงเค้าถือธูปไป 12 ดอก ผมก็ทำตามครับ แต่ดันเห็นกระถางธูปอยู่อันเดียว หาไม่เจอก็ปักมันไปทั้ง 12 ดอกนั่นแหละครับ เหอๆ ซึ่งวัดนี้เค้าห้าม !!! ถ่ายรูปข้างในนะครับ ให้ถ่ายได้แต่ข้างนอกครับ ผมก็ถ่ายมาได้เท่านี้ครับ
แผนที่ย่านริมฝั่งแม่น้ำ Marina ครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินทางมา suntec city ครับ วิธีการเดินทางก็ ถ้าจาก MRT Esplanade เดินเข้าไปในตัวตึก Suntec City และเดินตามป้ายบอกทางมายัง Fountain of Wealth หรือ ถ้าจาก MRT City Hall เดินเลี้ยวขวามาทาง City Link Mall ที่เป็นห้างใต้ดินเชื่อมต่อไปยัง MRT Esplanade แล้วเดินตามป้ายไปยัง Suntec City พอถึง Suntec City ให้เดินตามป้ายบอกทางไปยัง Fountain of Wealth และตรงป้าย suntec city นี้เองที่ผมเกือบมาดูไม่ทัน Laser Show จากการวิ่งมาจากสถานี Bayfront ที่ Marina Bay Sands ครับ ไกลมากๆๆๆ เกือบไม่ทัน เดี๋ยวจะเล่าในลำดับถัดไปครับ
พอไปผมแทบช็อค!!!ครับ เพราะเค้ายังไม่เปิดให้เข้าไปขอพรครับ ก็เดินเล่นห้างในนั้นหน่อยนึง ก็เดินทางไป merlion ครับ
ซึ่งวิธีการมา merlion ก็ให้ลงสถานี Raffles Place ทางออก H ผ่านโรงแรม Fullerton เดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆจนเจอะสะพาน ข้ามถนนไปเจอโรงแรม One Fullerton ก็เจอ Merlion Park เลยครับ ก็ถ่ายรูปมาเรื่อยๆครับ
ถ่าย merlion (ฝากบอกสำหรับคนที่จะเดินทางช่วงนี้ด้วยครับ ว่าหายห่วง!!!แล้ว merlion ไม่ป่วยแล้วนะครับ สบายใจได้ อิอิ ) แล้วก็ถ่ายรูปริมฝั่ง Marina Bay Sands จุใจแล้ว ก็เดินตามทางเดินออกซ้ายมาครับ
ก็จะเจอนี้ครับ
พอข้ามสะพาน helix ออกมาทางซ้ายมือ ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอ Garden By The Bay เลยครับ ผมก็ไล่ถ่ายไปจาก โซน Sliver Garden ไป Flower Dome ไป Cloud Forest แล้วก็ Super Tree Grove ครับ โดยตอนเข้าไปใน Flower Dome กับ Cloud Forest ก็ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่เลยครับ เข้าไปแอร์เย็นมากครับ หลายคนว่ามันไม่ค่อยมีอะไร แต่สำหรับผมก็ ok นะครับ เหมาะกับการพาครอบครัว ลูกๆหลานๆมาเที่ยวครับ โดยเฉพาะตอนเข้าไป Cloud Forest น้ำตกเย็นมากๆครับ
แผนที่ Garden By The Bay ครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปที่เขื่อน Marina Barrage ครับ
องค์ประกอบภายใน Marina Barrage ครับ
พูดถึงเขื่อนนี้นิดนึงก็จะเป็นเขื่อนที่ชาวสิงคโปร์มานั่งพักผ่อนครับ มีปั่นจักรยานโดยรอบ เล่นว่าว พาลูกๆหลานๆมานั่งเล่นคุยกัน เปิดเต็นท์แลกเปลี่ยนความรู้กัน มีที่จัดให้ชมว่าเขื่อนทำงานยังไงด้วยครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้ไปดูครับ แต่ที่พอทราบคือเขื่อนที่สิงคโปร์นี้จะไม่ได้เอาไว้เก็บกักน้ำแบบบ้านเราครับ แต่ไว้ใช้ระบายน้ำเค็มในบ้านเค้าแทนครับ
ซึ่งตอนแรกพอไปแบตมือถือหมดพอดี เคยอ่านเจอว่าที่นี้ชาร์จแบตได้เห็นว่าเป็นเขื่อนด้วยตอนแรกเลยไม่กังวลแต่พอไปจริงถามพี่ยามกลับบอกไม่มีให้ชาร์จ ผมนี้งงเลย ฮ่าๆ เลยไปนั่งดูข้างบนแปปนึง ก็เลยลงมาถามที่ information ว่ากลับยังไง เพราะ หลงแล้วเดินมั่วไปกว่าจะถึงกด Google Maps เอาตอนมา พอถามพี่พนักงานบอกให้นั่งรถเมลล์ไปเอา และซึ่งนี้ก็เป็นที่ๆผมลองนั่งรถเมลล์สิงคโปร์ครั้งแรกแหละครับ เพราะสังขารของขาไม่ไหวแล้ว ไปนั่งสาย 400 ที่ทางออกด้านขวาลงต่อ MRT ไปที่สถานี Marina Bay ครับ
วิธีการดูป้ายรถเมลล์ก็ตามนี้เลยครับ เข้าใจไม่ยาก
โดยต้องแปะบัตร Ezylink ตอนขาขึ้นไปโดยขึ้นทาง
ด้านหน้าเท่านั้น แล้วก็เวลาลงต้องลงประตู
ทางด้านหลังเท่านั้นครับ แปะบัตร Ezylink เช่นเดิมไม่ยากครับ รีวิวเพียบครับ
เพิ่มเติม สำหรับหลายคนอาจงงตรงชื่อบอกตามป้ายรถเมลล์ว่าไปทางไหน สถานที่บอกในป้ายไปไม่ตรงกับชื่อสถานที่เที่ยว วิธีการของผมคือสังเกตที่ คำว่า stn. หรือ Rd. ต่อท้ายครับ อย่างผมพักย่าน Clarke Quay ก็ดู ที่ Clarke Quay Stn. เลยครับ แล้วก็ขึ้นรถเมลล์เปิด Google Maps แบบ Real Time ดูรถวิ่งว่าไปตรงจุดกับที่เราจะเดินทางไปไหม พุ่งไปจุดนั้นรึเปล่าพอใกล้ถึงก็ลงเดินครับ เพราะถึงแม้คุณหลงก็จะมี MRT รอคุณอยู่ทั่วเมืองสิงคโปร์อยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วงครับ แนะนำให้หัดนั่งรถเมลล์ครับ เพราะ MRT ที่ สิงคโปร์หลอกตามากๆๆๆๆๆบางทีสับไปแค่ 1 สถานีเพื่อไปต่อสายสีอื่นไปอีก 1 สถานี ไปสายสีอื่นอีก เสียเวลามากๆครับ พอเดินทางโดยรถเมลล์กลับพบว่าอยู่ใกล้มากครับ นโยบายเที่ยวชมเมืองของประเทศนี้เค้าสุดยอดจริงๆครับ ฮ่าๆ
[CR] [CR]ตะลุยเดี่ยว Backpack เที่ยว สิงคโปร์ 5 วัน 4 คืน ประเทศที่มีอะไรน่าค้นหาอยู่เสมอ ^^ [Part 2]
เราก็จะมาเดินทางต่อกันครับ เริ่มกันเลย
[วันที่ 4 ก.ค.58] วันนี้ผมจะไปตะลุยย่าน chinatown ครับ
ซึ่งย่านนี้มันก็ไม่ไกล เดินไปเอาก็ได้ครับจากที่พักผม แต่ถ้าออกมาจากสถานี China town ก็จะเจอถนนนี้ครับ
Beary Hostel โฮสเทลน้องหมีสุดฮิตของใครหลายคน หุหุ ตึกแถวนั้นก็จะทาสีสวยสดใสดีครับ
เดินเลย โฮสเทลน้องหมีไปนิดหน่อยเลี้ยวขวาเดินไป pagoda street ก็จะเจอนี้ครับ ต้องถอด ถุงเท้า รองเท้าก่อนเข้าไปดูด้วยครับ
เดินไปอีกก็เจอนี้เลยครับ
แล้วก็เดินตรงไปอีกใกล้กันมากครับ ก็เจอทีเด็ดนี้เลยครับ ซึ่งวัดพระเขี้ยวแก้วนี้ผมแนะนำให้ไล่ดูจากชั้น บนสุดเลยครับขึ้นทางลิฟต์ และลงทางบันไดหนีไฟไล่ดูมาเรื่อยๆเลยครับ จะเห็นรูปปั้นพิพิธภัณฑ์ต่างๆสวยงามมาก ซึ่งผมก็ไม่ได้ถ่ายรูปเช่นกันครับ เพราะอยู่ข้างบนเงียบมากครับ ไม่ค่อยมีใครขึ้นไปเท่าไหร่ แต่ตามจริงสวยมากครับ ถ่ายรูปได้บางที่ บางที่ก็ถ่ายไม่ได้ บางที่ก็ถ่ายได้แต่ห้ามใช้ Flash ครับ
ระหว่างทางเดินไปตามถนนข้างวัดพระเขี้ยวแก้วเรื่อยๆก็จะเจอ 2 ร้านนี้ครับ ขายของฝากกับขายยา นักท่องเที่ยวมุงกันเต็มเลยครับ
เดินทะลุออกไปก็เจอ
มีอากงมานั่งสนทนาพาที เล่นหมากรุกเพียบครับ ประเทศนี้คนแก่เค้าแข็งแรงมากๆครับ เพราะฉะนั้นอย่า!!!แปลกใจที่จะเห็นคนแก่เค้าขยันขันแข็ง ทำมาหากินครับ
เดินออกขวาไปเล็กน้อยก็จะเจอทางออกอันแสนโด่งดังนี้ครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปต่อที่วัดเจ้าแม่กวนอิมครับ พอไปวัดนี้ผมแปลกใจมาก คนเยอะมากกกกกก เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวสิงคโปร์มากครับ มีคนมาขอขมาไหว้พระกันเพียบ บางคนก็หันหน้าไปประตูทางเข้า มองไปตึกฝั่งตรงข้าม ผมก็สงสัยหันไปไหว้อะไรมองไปก็ไม่มีอะไร และไม่ได้มองไปที่เจ้าแม่กวนอิมนะครับ แต่มาคิดอีกทีก็คงเป็นการขอขมาฟ้าดินแหละครับ การปักธูปที่วัดนี้ก็งงครับ เห็นอาซ้อคนนึงเค้าถือธูปไป 12 ดอก ผมก็ทำตามครับ แต่ดันเห็นกระถางธูปอยู่อันเดียว หาไม่เจอก็ปักมันไปทั้ง 12 ดอกนั่นแหละครับ เหอๆ ซึ่งวัดนี้เค้าห้าม !!! ถ่ายรูปข้างในนะครับ ให้ถ่ายได้แต่ข้างนอกครับ ผมก็ถ่ายมาได้เท่านี้ครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินทางมา suntec city ครับ วิธีการเดินทางก็ ถ้าจาก MRT Esplanade เดินเข้าไปในตัวตึก Suntec City และเดินตามป้ายบอกทางมายัง Fountain of Wealth หรือ ถ้าจาก MRT City Hall เดินเลี้ยวขวามาทาง City Link Mall ที่เป็นห้างใต้ดินเชื่อมต่อไปยัง MRT Esplanade แล้วเดินตามป้ายไปยัง Suntec City พอถึง Suntec City ให้เดินตามป้ายบอกทางไปยัง Fountain of Wealth และตรงป้าย suntec city นี้เองที่ผมเกือบมาดูไม่ทัน Laser Show จากการวิ่งมาจากสถานี Bayfront ที่ Marina Bay Sands ครับ ไกลมากๆๆๆ เกือบไม่ทัน เดี๋ยวจะเล่าในลำดับถัดไปครับ
พอไปผมแทบช็อค!!!ครับ เพราะเค้ายังไม่เปิดให้เข้าไปขอพรครับ ก็เดินเล่นห้างในนั้นหน่อยนึง ก็เดินทางไป merlion ครับ
ซึ่งวิธีการมา merlion ก็ให้ลงสถานี Raffles Place ทางออก H ผ่านโรงแรม Fullerton เดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆจนเจอะสะพาน ข้ามถนนไปเจอโรงแรม One Fullerton ก็เจอ Merlion Park เลยครับ ก็ถ่ายรูปมาเรื่อยๆครับ
ถ่าย merlion (ฝากบอกสำหรับคนที่จะเดินทางช่วงนี้ด้วยครับ ว่าหายห่วง!!!แล้ว merlion ไม่ป่วยแล้วนะครับ สบายใจได้ อิอิ ) แล้วก็ถ่ายรูปริมฝั่ง Marina Bay Sands จุใจแล้ว ก็เดินตามทางเดินออกซ้ายมาครับ
ก็จะเจอนี้ครับ
พอข้ามสะพาน helix ออกมาทางซ้ายมือ ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอ Garden By The Bay เลยครับ ผมก็ไล่ถ่ายไปจาก โซน Sliver Garden ไป Flower Dome ไป Cloud Forest แล้วก็ Super Tree Grove ครับ โดยตอนเข้าไปใน Flower Dome กับ Cloud Forest ก็ยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่เลยครับ เข้าไปแอร์เย็นมากครับ หลายคนว่ามันไม่ค่อยมีอะไร แต่สำหรับผมก็ ok นะครับ เหมาะกับการพาครอบครัว ลูกๆหลานๆมาเที่ยวครับ โดยเฉพาะตอนเข้าไป Cloud Forest น้ำตกเย็นมากๆครับ
หลังจากนั้นผมก็ไปที่เขื่อน Marina Barrage ครับ
พูดถึงเขื่อนนี้นิดนึงก็จะเป็นเขื่อนที่ชาวสิงคโปร์มานั่งพักผ่อนครับ มีปั่นจักรยานโดยรอบ เล่นว่าว พาลูกๆหลานๆมานั่งเล่นคุยกัน เปิดเต็นท์แลกเปลี่ยนความรู้กัน มีที่จัดให้ชมว่าเขื่อนทำงานยังไงด้วยครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้ไปดูครับ แต่ที่พอทราบคือเขื่อนที่สิงคโปร์นี้จะไม่ได้เอาไว้เก็บกักน้ำแบบบ้านเราครับ แต่ไว้ใช้ระบายน้ำเค็มในบ้านเค้าแทนครับ
ซึ่งตอนแรกพอไปแบตมือถือหมดพอดี เคยอ่านเจอว่าที่นี้ชาร์จแบตได้เห็นว่าเป็นเขื่อนด้วยตอนแรกเลยไม่กังวลแต่พอไปจริงถามพี่ยามกลับบอกไม่มีให้ชาร์จ ผมนี้งงเลย ฮ่าๆ เลยไปนั่งดูข้างบนแปปนึง ก็เลยลงมาถามที่ information ว่ากลับยังไง เพราะ หลงแล้วเดินมั่วไปกว่าจะถึงกด Google Maps เอาตอนมา พอถามพี่พนักงานบอกให้นั่งรถเมลล์ไปเอา และซึ่งนี้ก็เป็นที่ๆผมลองนั่งรถเมลล์สิงคโปร์ครั้งแรกแหละครับ เพราะสังขารของขาไม่ไหวแล้ว ไปนั่งสาย 400 ที่ทางออกด้านขวาลงต่อ MRT ไปที่สถานี Marina Bay ครับ
โดยต้องแปะบัตร Ezylink ตอนขาขึ้นไปโดยขึ้นทางด้านหน้าเท่านั้น แล้วก็เวลาลงต้องลงประตูทางด้านหลังเท่านั้นครับ แปะบัตร Ezylink เช่นเดิมไม่ยากครับ รีวิวเพียบครับ
เพิ่มเติม สำหรับหลายคนอาจงงตรงชื่อบอกตามป้ายรถเมลล์ว่าไปทางไหน สถานที่บอกในป้ายไปไม่ตรงกับชื่อสถานที่เที่ยว วิธีการของผมคือสังเกตที่ คำว่า stn. หรือ Rd. ต่อท้ายครับ อย่างผมพักย่าน Clarke Quay ก็ดู ที่ Clarke Quay Stn. เลยครับ แล้วก็ขึ้นรถเมลล์เปิด Google Maps แบบ Real Time ดูรถวิ่งว่าไปตรงจุดกับที่เราจะเดินทางไปไหม พุ่งไปจุดนั้นรึเปล่าพอใกล้ถึงก็ลงเดินครับ เพราะถึงแม้คุณหลงก็จะมี MRT รอคุณอยู่ทั่วเมืองสิงคโปร์อยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วงครับ แนะนำให้หัดนั่งรถเมลล์ครับ เพราะ MRT ที่ สิงคโปร์หลอกตามากๆๆๆๆๆบางทีสับไปแค่ 1 สถานีเพื่อไปต่อสายสีอื่นไปอีก 1 สถานี ไปสายสีอื่นอีก เสียเวลามากๆครับ พอเดินทางโดยรถเมลล์กลับพบว่าอยู่ใกล้มากครับ นโยบายเที่ยวชมเมืองของประเทศนี้เค้าสุดยอดจริงๆครับ ฮ่าๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น