Drug (ชื่อยา): Music
Content (ส่วนประกอบ): Classic, Pop, Rock, Dance, Country, Blues, Jazz, Progressive, Indy, Contemporary & etc. ปัจจุบันมีคนคิดค้นสูตรใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเกิดจากนำ ส่วนผสมที่มีอยู่เดิมไปผสมกันเองในสัดส่วนที่พอเหมาะ หรือ นำไปผสมกับดนตรีท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมแล้วค่อยออกมาเป็นสูตรใหม่ๆก็พบได้บ้าง
Indications (ข้อบ่งใช้): ใช้เพื่อตรวจหาความรู้สึกของตนเอง ทั้งในด้านบวก และ ด้านลบ อีกทั้งส่งเสริมความรู้สึกทางบวกให้ดียิ่งขึ้น และ บรรเทาความรู้สึกทางลบให้เบาบางลง แต่ โรคที่รักษาได้ดีที่สุดคือ Heartache (ปวดใจ อกหัก รักคุด หยุดรักไม่ได้) แต่โรคนี้กรุณาอยู่ภายใต้ขนาดการใช้ให้เหมาะสม มิฉะนั้น ผู้ใช้อาจซึมเศร้ามากเกินไป ในบางบุคคลอาจใช้เพื่อแก้เบื่อ เซ็ง เป็นบางครั้งคราวก็พบได้ หรือในอาชีพทางศิลปะบางอย่างก็ใช้ดนตรีเป็นตัวกระตุ้นการสร้างงาน
Side effect (ผลข้างเคียง): อาจทำให้ง่วงนอน น้ำตาไหล หรือ คุ้มคลั่ง ขยับแขนขยับขา โยกหัวโดยไม่รู้ตัวขาดสติชั่วขณะหนึ่ง และใช้หากนาน อาจเสพติดได้ ต้องได้รับ Music ใหม่ๆเรื่อยๆไป พบการเหยียดดนตรีข้าม Content ตามติ่งศิลปินนั้นๆได้บ้างบน Social Network ปัจจุบัน แต่ก็พบไม่รุนแรงนัก
Dosage (ขนาดการรักษา): ขึ้นกับการตอบสนองต่อของผู้ใช้ เช่น เพศ อายุ รสนิยม วัฒนธรรม ความทุกข์-สุขในชีวิต ประสบการณ์ อารมณ์ ณ ขณะนั้น
Dosage Form (รูปแบบยา): แผ่น Vinyl, Tape Cassette, Compact Disc, Files MP3 etc. ปัจจุบันมีการลักลอบผลิตดนตรีกันอย่างแพร่หลายไปในตลาดมืดประกอบกับอุปกรณ์การเสพก็เปลี่ยนไป ทำให้ Tape Cassette ถึงขั้นหายไปจากท้องตลาด และ CD ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะว่าแพง แต่ทางตรงกันข้ามแผ่น Vinyl ก็พบว่ากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งและยังพบมีการขายเครื่องเล่นแผ่น Vinyl ซึ่งเป็นอุปกรณ์การเสพเพิ่มขึ้น Special Dosage Form: Concert สำหรับการบำบัดเป็นกลุ่ม ก็มีทำออกมาในบางศิลปิน
Music Interactions (อันตรกิริยา): อาจเพิ่มฤทธิ์ให้คุณมีความสุขหรือความทุกข์เพิ่มขึ้นถ้าเสพพร้อมกับ สุรา บุหรี่ กิจกรรมที่คุณชอบ เช่น วิ่ง โยคะ ทำสมาธิ เดินทางท่องเที่ยว
Special Precaution (ข้อควรระวัง): อาจรบกวนการทำงาน และ ขับขี่ยานพาหนะเพราะทำให้ง่วงหรือสมาธิน้อยลง
Music Resistance (ภาวะดื้อยา): จากการทำการศึกษาทดลอง เมื่อผ่านจุดที่ดนตรีให้ผลเต็มที่แล้วในช่วงวัยรุ่น ดนตรีจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้น ต้องการดนตรีแบบเก่าๆเพื่อเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ตัวเองคุ้นเคยในช่วงวัยรุ่น จะรับดนตรีใหม่ก็จะยากขึ้นตามลำดับหากต้องการให้ผลการรักษาเท่าเดิม (Fin เท่าเดิม)
•ผมว่าหนังนั้นเรียบง่ายมากและดูใกล้เคียงความจริงมาก มีหลายอารมณ์ทั้งซึ้ง เศร้า อบอุ่น สนุกสนาน
•นางเอก Keira Knightley ก็แสดงดีครับ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากคนหนึ่ง
•ก่อนจะได้ดูหนังก็ชอบเพลง Lost Stars อยู่แล้ว ดูหนังแล้วความเพราะของเพลงเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า
•ผมสัมผัสว่าตัวหนังเองมี “ความเหงา” แฝงอยู่เยอะครับ มันสะท้อนมาในฉาก เพลง มุมกล้อง อะไรอีกต่างๆนาๆ แม้ว่า นางเอกจะไม่ได้แสดงคนเดียวก็ตาม 555 ชักสงสัยว่าคน New York ขี้เหงาเคล้าอกหักหรือเปล่านะ
“เริ่มใหม่เริ่มรักหลังรวดร้าว เริ่มรักเร้าเริ่มรุกเร้าลุกไล่
รักรวดร้าวไร้รางเลือนร่ำร้องไป รักฤาไร้รักเราไร้ลืมเลือน
พบเพื่อพรากพรากเพื่อพบจบจึงจาก รักที่มากมากที่รักล้วนหลงใหล
ไร้รักแล้วรักแรกแหลกลาญใจ เพลงเพื่อใครน้ำนัยน์ตาว่า”รักเธอ” ....
กระบี่เดียวดาย
กรกฎา’58
[CR] Movie & Soundtrack
Content (ส่วนประกอบ): Classic, Pop, Rock, Dance, Country, Blues, Jazz, Progressive, Indy, Contemporary & etc. ปัจจุบันมีคนคิดค้นสูตรใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเกิดจากนำ ส่วนผสมที่มีอยู่เดิมไปผสมกันเองในสัดส่วนที่พอเหมาะ หรือ นำไปผสมกับดนตรีท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากเหง้าทางวัฒนธรรมแล้วค่อยออกมาเป็นสูตรใหม่ๆก็พบได้บ้าง
Indications (ข้อบ่งใช้): ใช้เพื่อตรวจหาความรู้สึกของตนเอง ทั้งในด้านบวก และ ด้านลบ อีกทั้งส่งเสริมความรู้สึกทางบวกให้ดียิ่งขึ้น และ บรรเทาความรู้สึกทางลบให้เบาบางลง แต่ โรคที่รักษาได้ดีที่สุดคือ Heartache (ปวดใจ อกหัก รักคุด หยุดรักไม่ได้) แต่โรคนี้กรุณาอยู่ภายใต้ขนาดการใช้ให้เหมาะสม มิฉะนั้น ผู้ใช้อาจซึมเศร้ามากเกินไป ในบางบุคคลอาจใช้เพื่อแก้เบื่อ เซ็ง เป็นบางครั้งคราวก็พบได้ หรือในอาชีพทางศิลปะบางอย่างก็ใช้ดนตรีเป็นตัวกระตุ้นการสร้างงาน
Side effect (ผลข้างเคียง): อาจทำให้ง่วงนอน น้ำตาไหล หรือ คุ้มคลั่ง ขยับแขนขยับขา โยกหัวโดยไม่รู้ตัวขาดสติชั่วขณะหนึ่ง และใช้หากนาน อาจเสพติดได้ ต้องได้รับ Music ใหม่ๆเรื่อยๆไป พบการเหยียดดนตรีข้าม Content ตามติ่งศิลปินนั้นๆได้บ้างบน Social Network ปัจจุบัน แต่ก็พบไม่รุนแรงนัก
Dosage (ขนาดการรักษา): ขึ้นกับการตอบสนองต่อของผู้ใช้ เช่น เพศ อายุ รสนิยม วัฒนธรรม ความทุกข์-สุขในชีวิต ประสบการณ์ อารมณ์ ณ ขณะนั้น
Dosage Form (รูปแบบยา): แผ่น Vinyl, Tape Cassette, Compact Disc, Files MP3 etc. ปัจจุบันมีการลักลอบผลิตดนตรีกันอย่างแพร่หลายไปในตลาดมืดประกอบกับอุปกรณ์การเสพก็เปลี่ยนไป ทำให้ Tape Cassette ถึงขั้นหายไปจากท้องตลาด และ CD ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะว่าแพง แต่ทางตรงกันข้ามแผ่น Vinyl ก็พบว่ากลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งและยังพบมีการขายเครื่องเล่นแผ่น Vinyl ซึ่งเป็นอุปกรณ์การเสพเพิ่มขึ้น Special Dosage Form: Concert สำหรับการบำบัดเป็นกลุ่ม ก็มีทำออกมาในบางศิลปิน
Music Interactions (อันตรกิริยา): อาจเพิ่มฤทธิ์ให้คุณมีความสุขหรือความทุกข์เพิ่มขึ้นถ้าเสพพร้อมกับ สุรา บุหรี่ กิจกรรมที่คุณชอบ เช่น วิ่ง โยคะ ทำสมาธิ เดินทางท่องเที่ยว
Special Precaution (ข้อควรระวัง): อาจรบกวนการทำงาน และ ขับขี่ยานพาหนะเพราะทำให้ง่วงหรือสมาธิน้อยลง
Music Resistance (ภาวะดื้อยา): จากการทำการศึกษาทดลอง เมื่อผ่านจุดที่ดนตรีให้ผลเต็มที่แล้วในช่วงวัยรุ่น ดนตรีจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้น ต้องการดนตรีแบบเก่าๆเพื่อเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ตัวเองคุ้นเคยในช่วงวัยรุ่น จะรับดนตรีใหม่ก็จะยากขึ้นตามลำดับหากต้องการให้ผลการรักษาเท่าเดิม (Fin เท่าเดิม)
•ผมว่าหนังนั้นเรียบง่ายมากและดูใกล้เคียงความจริงมาก มีหลายอารมณ์ทั้งซึ้ง เศร้า อบอุ่น สนุกสนาน
•นางเอก Keira Knightley ก็แสดงดีครับ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากคนหนึ่ง
•ก่อนจะได้ดูหนังก็ชอบเพลง Lost Stars อยู่แล้ว ดูหนังแล้วความเพราะของเพลงเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า
•ผมสัมผัสว่าตัวหนังเองมี “ความเหงา” แฝงอยู่เยอะครับ มันสะท้อนมาในฉาก เพลง มุมกล้อง อะไรอีกต่างๆนาๆ แม้ว่า นางเอกจะไม่ได้แสดงคนเดียวก็ตาม 555 ชักสงสัยว่าคน New York ขี้เหงาเคล้าอกหักหรือเปล่านะ
“เริ่มใหม่เริ่มรักหลังรวดร้าว เริ่มรักเร้าเริ่มรุกเร้าลุกไล่
รักรวดร้าวไร้รางเลือนร่ำร้องไป รักฤาไร้รักเราไร้ลืมเลือน
พบเพื่อพรากพรากเพื่อพบจบจึงจาก รักที่มากมากที่รักล้วนหลงใหล
ไร้รักแล้วรักแรกแหลกลาญใจ เพลงเพื่อใครน้ำนัยน์ตาว่า”รักเธอ” ....
กระบี่เดียวดาย
กรกฎา’58