สวัสดีค่ะทุกๆคน วันนี้มิ้งค์ก็อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์สุดสยอง(โดยส่วนตัว คนอื่นอาจจะไม่หยองนะคะ ลองอ่านดูค่ะ)
คือมิ้งค์เพิ่งกลับมาจากทริปไปฉลองวันเกิดที่พัทยามาค่ะ ต้องเกริ่นสักนิดก่อนนะคะ ว่ามิ้งค์มีลูกสาวเป็นหมา5555 แล้วก็เป็นคนที่ชอบไปเที่ยวทะเลมาก ซึ่งวันสำคัญทั้งที มิ้งค์ก็อยากให้ลูกสาวไปเที่ยวด้วยค่ะ
และเพราะมีสุนัขไปด้วย เวลาไปเที่ยว ไปพักที่ไหนๆ ก็เลยจะมีข้อจำกัด ซึ่งทำให้ ทุกๆครั้งเวลาพาลูกสาวไปเที่ยว มิ้งค์ก็จะเลือกไปพัทยา เพราะมีที่พักประจำใกล้ทะเล(สะดวกเวลาเล่นน้ำ และเวลาจะไปอาบน้ำ ทั้งคนทั้งสุนัข) มีทะเลให้เล่นน้ำ อาหารการกินหาง่าย เดินทางไม่ไกล
และแล้วทริปแห่งความสุขที่วาดฝันไว้ ก็กลับกลายเป็นสุดยอดทริปสยองขวัญตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ
มิ้งค์ไปถึงพัทยาแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่เขาพระตำหนัก ตอนเช้าก็นั่งเล่นริมๆหาดจอมเทียน เดินเล่นน้ำแถวๆชายหาด แต่ลงเล่นทั้งตัวไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เช็คอินที่โรงแรม กลัวจะไม่สะดวกในการอาบน้ำ ก็อดทนรอ จนถึงเวลาเช็คอินก็ไปเช็คอิน และพักผ่อนที่โรงแรมรอช่วงเวลาที่จะได้เล่นน้ำ
ที่ไม่เล่นน้ำเลยนั้น เพราะเป็นที่รู้ดี ว่าแดดเมืองไทย นั่งตากแดดสัก 5 นาที ได้ผิวสีแทนไปยันตับกันเลยทีเดียว เพราฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่คนหน้าตาดีเป็นคู่แฝดอั้มพัชราภาอย่างมิ้งค์ จะมิยินยอม ให้สีผิวขาวนวลดั่งเปลือกกล้วยเหี่ยว จิได้คล้ำหมองลงไป จึงต้องอดทนรอค่ะ ก็ไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไรนะ แค่แต่งตัวเล่นน้ำรอตั้งแต่ตี 1 เพื่อมาลงเล่นในในเวลา 4 โมงเย็น
ภาพที่วาด คือ เราว่ายน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน น้ำใสสะอาด สาดน้ำกันไปมา มี บ๊กซิลล์ วิ่งเล่นหยอกล้อกัน ล้มกลิ้งบนหาดทรายขาวละเอียด สายลมพัดพลิ้วไหวปะทะใบหน้าเบาๆ ผมพันกันและมีชายหนุ่มมาคอยปัดผมให้ ก่อนที่จะพักกายจากการเล่นน้ำ แล้วนั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน สร้างปราสาทเจ้าหญิงของตัวเอง มีกล้อง 5 ดี มาร์คทู สัก 50 ตัว คอยถ่ายรูปเรา ในช่วงเวลาที่มีความสุขทุกมุม เก็บภาพความประทับใจ ใส่ในเมมโมรี่แห่งความทรงจำ ประหนึ่งเราคือนางเอกสาวสดใส น่ารัก ฟรุ้งฟริ้ง
ภาพความจริง อีป้าแบกหมาไปเล่นน้ำ ซึ่งน้ำสกปรกมาก โสโครกตั้งแต่ชายหาด บรรดาขวดพลาสติกเกลื่อน เหมือนดั่งเปลือกหอยยักษ์ และเต็มไปด้วยสาหร่ายพลาสติกหลากสีสัน ถ้าได้มาจากเซเว่น สาหร่ายก็จะสีขาว ถ้าได้จากบิ๊กซี สาหร่ายก็จะสีเขียว เดินทีถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ดี แต่ก็ต้องตะแคงทีนเดิน เปลือกหอยทิ่มเท้า เจ็บไปหมด แค่เดินยังลำบาก วิ่งนี่ตัดไปได้เลย เพราะฉะนั้นภาพวิ่งเล่นล้มกลิ้งหมดสิทธิ์จ๊ะ
จริงๆตอนเช้ามีความคิดนึงแว๊บบบบบเข้ามาในหัว(คืออ่านมาเยอะ) แต่เราก็คิดว่า ไม่น่าาาาา เราสวย เราน่ารัก สิ่งที่เราคิดมันไม่เกิดขึ้นหรอก และด้วยความที่อยากเล่นน้ำมาก จนอะไรก็หยุดไม่อยู่ ถึงจะสกปรก ก็คิดว่ามันเป็นธรรมชาติอันสวยงามละกัน ก็เดินหาจุดที่จะหย่อนร่างลง จุดที่เราอยู่คือ ต้นๆหาดพัทยาเหนือค่ะ ไม่ค่อยมีใคร พอได้ช่องที่ไม่ค่อยมีหอย ไม่ค่อยมีขวดและถุง ก็ลุยค่ะ
คุณเชื่อไหม ความสวยของมิ้งค์ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ลงน้ำ(สกปรก)แบบแขยงได้ไม่ถึงนาที คือเปียกไปครึ่งนึงแล้ว ลูกสาวเปียกทั้งตัว สายตาก็ไปปะทะกับสิ่งหนึ่ง มันคือ ขรี้!!!!! ความยาวประมาณนิ้งกลาง ไม่สิ ยาวกว่านิ้วกลางนิดหน่อย คิดว่า 3-4 นิ้วน่าจะได้ ขนาดประมาณใหญ่กว่านิ้วโป้งนิดนึง สีเหลืองสดใส ทอแสงเปร่งประกายแข่งกับแสงตะวันยามเย็น โค้งงอสวยงาม ประหนึ่งเป็นปลาน้อยว่ายมาบนผิวน้ำให้เราได้เชยชม
ด้วยความตกใจ ไม่นะ!! จึงอุทานเห้ย!!! พร้อมคว้าลูกสาวขึ้นจากน้ำทันใด คว้าแรงไปหน่อย น้ำกระเซ็นเป็นเม็ดกระจาย ปากที่กำลังอุทานก็อ้ากว้างอยู่ น้ำที่กระเซ็นนั้นจึงเข้ามาในปาก คุณพระ!!!!
นี่มันคืออะไร เดินขึ้นมาบนหาด มองแล้วมองอีก ว่าเห้ย "ตาฝาดป่าววะ" เห้ย "มันใช่ป่าววะ" พยายามมโนไปเป็นอย่างอื่น มโนไม่ออกจริงๆ ว่ามันจะเป็นอะไรไปได้ ตอนนั้นพูดเลย สับสนคะ นี่เราเฝ้ารอเวลา แต่งตัวตั้งแต่ตี 1 เพื่อมาลงเล่นน้ำที่มีอึลอย 1 นาที
แล้วเราจะตะโกนบอกคนอื่นดีไหม แต่เฮ้ย เค้ากำลังมีความสุขอยู่นะ เราจะทำให้คนทั้งทะเลตกใจหนีขึ้นน้ำมาหมด เราจะกลายเป็นคนปลุกกะแสไหม ทะเลจะต้องร้าง แล้วเศรษฐกิจจะพังทลายด้วยน้ำมือเรา ประเทศจะล่มจม เอ๊ะ! แต่ถ้าเราไม่บอก มันจะสงสารเค้านะ แต่ไม่สิ ถ้าเค้าไม่รู้ ไม่เห็น ผ่านๆไป มันก็จะเป็นความทรงจำที่ดี ไม่ต้องเจ็บปวดแบบเราเนอะ คือสมองตีกันหมดจริงๆ ด้วยความที่เป็นคนรักโลก รักธรรมชาติ รักน้ำ รักป่า รักทุกๆคน จึงเดินหนีมาแบบเงียบๆ
ก็ต้องขอโทษทุกคนที่อยู่ในทะเล ที่ไม่ได้บอกนะคะ แค่ไม่อยากให้ช็อคจริงๆ ไม่อยากให้เจ็บปวดอะ และก็ขอโทษทางบ้านนะคะ จริงๆอยากถ่ายรูปมาเป็นหลักฐาน แต่โทรศัพท์ก็ทิ้งไว้บนห้องหมดเลย ก็ได้แต่เก็บภาพเมมโมรี่ไว้ในหัว มาเล่าให้ทุกคนฟัง จะให้มิ้งค์เก็บกลับมาเป็นหลักฐาน มิ้งค์ยอมรับเลยค่ะ มิกล้าอาจเอื้อมจริงๆ
เชื่อไหม มิ้งค์เดินเป็นหมาเลยคะ อ้าปากแลบลิ้น รีบกลับโรงแรมไปล้าง เอาน้ำอุ่นล้างฆ่าเชื้อ คือถ้าตัดลิ้นไปต้มได้ นี่ทำไปแล้ว วันนั้นไม่กลืนน้ำลายเลย คือหยองจริงๆนะ ไม่อยากให้ใครมาเจอแบบนี้เลย
พอล้างเสร็จ ได้สติก็กลับมานั่งให้กำลังใจตัวเอง เฮ้ย!!! นี่เรามาถึงจุดนี่ได้ยังไง จุดที่น้ำอี้กระเด็นใส่ปากเรา!!! นี่หรือเมืองพุทธ
แล้วพูดปลอบกับตัวเองว่า ทะเลช่างแสนกว้างใหญ่ อึก้อนแค่นั้น มันก็คงละลายเจือจางไปในน้ำ จนน้อยนิด ก็ยังดีที่มันเกาะเป็นกลุ่ม ดีที่ไม่แตกกระจายไปในน้ำ ไม่เป็นไรเนาะ
เอาวะ!!! อย่างน้อยๆ เราก็ได้ทำเพื่อประเทศชาติของเรา และเราก็ได้เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ ที่จะทำหน้าที่รับความเจ็บปวดครั้งนี้ไว้ แล้วก็มาบอกต่อทุกๆคน จะได้ระมัดระวัง และพิจารณากันเอง ว่าคุณอยากสวยแบบมีประสบการณ์แบบมิ้งค์หรือไม่ มิ้งค์ก็คงทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ ขอโทษที่ทำให้แฟนๆผิดหวังนะคะ ไทยแลนด์สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนใครที่สงสัย อึหมา หรือคน คือมิ้งค์ไม่รู้จริงๆค่ะ ก็พยายามพินิจพิจารณาแล้ว จะให้หยิบกลับมาวิจัย มันก็มิไหวอะตัว เราก็ทำได้แค่รับรู้ว่ามันคืออึ ไม่รู้ว่าของจริงของปลอม และไม่รู้ว่าใครคือเจ้าของด้วย แต่ตัวรู้ไหม เรา...(สะอึก) คือแบบเรา...(สะอึก) เราช็อคอะ หยองอะ แต่ถ้าถามว่าเราจะไปพัทยาอีกไหม คือเราก็ต้องไปอะ เรามีสุนัข ไปไหนเลยลำบาก เราไม่มีที่ไปอะ แต่คงไม่เล่นน้ำที่นี่อีก ไปนั่งให้ลมมันโกรกหน้าเฉยๆพอ
คือคุณจะไม่เชื่อมิ้งค์ก็ได้นะคะ แต่มิ้งค์กล้าสาบานให้ขี้เหล่ได้เลย จากไม่สวยเอาให้สภาพยับไปเลยเอ้า!! มิ้งค์ไม่กล้าเอาความสวยมาล้อเล่นหรอกค่ะ จริงๆนะT^T
ปล.เราไม่ได้สวย อย่ามาดราม่าด่าเราทีหลังนะ เราแค่คิดเองคนเดียวว่าเราสวยเฉยๆ5555 แล้วก็อยากจะขอร้อง อย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังนะ เราอาย#--#
me#กลับมานั่งล้างลิ้นต่อT^T
ขออนุญาตแก้ไขชื่อนะคะ พอดีตื่นเต้นจะได้เขียนกระทู้นี้ บวกกับช่วงนี้หาที่เที่ยวเอาใจอาม่า เลยพิมพ์ผิดค่ะ
***มิ้งค์ไปถึงพัทยาแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่แหลมพรหมเทพ ตอนเช้าก็นั่งเล่นริมๆหาดจอมเทียน***
เป็น
***มิ้งค์ไปถึงพัทยาแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่เขาพระตำหนัก ตอนเช้าก็นั่งเล่นริมๆหาดจอมเทียน***
ขอบคุณพี่ๆด้านล่างที่ช่วยบอกด้วยนะคะ^^
สุดตะลึง!!!! แล้วคุณจะต้อง อึ้ง ทึ้ง สยอง เมื่อได้รู้ในสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้เจอที่พัทยา
คือมิ้งค์เพิ่งกลับมาจากทริปไปฉลองวันเกิดที่พัทยามาค่ะ ต้องเกริ่นสักนิดก่อนนะคะ ว่ามิ้งค์มีลูกสาวเป็นหมา5555 แล้วก็เป็นคนที่ชอบไปเที่ยวทะเลมาก ซึ่งวันสำคัญทั้งที มิ้งค์ก็อยากให้ลูกสาวไปเที่ยวด้วยค่ะ
และเพราะมีสุนัขไปด้วย เวลาไปเที่ยว ไปพักที่ไหนๆ ก็เลยจะมีข้อจำกัด ซึ่งทำให้ ทุกๆครั้งเวลาพาลูกสาวไปเที่ยว มิ้งค์ก็จะเลือกไปพัทยา เพราะมีที่พักประจำใกล้ทะเล(สะดวกเวลาเล่นน้ำ และเวลาจะไปอาบน้ำ ทั้งคนทั้งสุนัข) มีทะเลให้เล่นน้ำ อาหารการกินหาง่าย เดินทางไม่ไกล
และแล้วทริปแห่งความสุขที่วาดฝันไว้ ก็กลับกลายเป็นสุดยอดทริปสยองขวัญตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ
มิ้งค์ไปถึงพัทยาแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่เขาพระตำหนัก ตอนเช้าก็นั่งเล่นริมๆหาดจอมเทียน เดินเล่นน้ำแถวๆชายหาด แต่ลงเล่นทั้งตัวไม่ได้ เพราะยังไม่ได้เช็คอินที่โรงแรม กลัวจะไม่สะดวกในการอาบน้ำ ก็อดทนรอ จนถึงเวลาเช็คอินก็ไปเช็คอิน และพักผ่อนที่โรงแรมรอช่วงเวลาที่จะได้เล่นน้ำ
ที่ไม่เล่นน้ำเลยนั้น เพราะเป็นที่รู้ดี ว่าแดดเมืองไทย นั่งตากแดดสัก 5 นาที ได้ผิวสีแทนไปยันตับกันเลยทีเดียว เพราฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่คนหน้าตาดีเป็นคู่แฝดอั้มพัชราภาอย่างมิ้งค์ จะมิยินยอม ให้สีผิวขาวนวลดั่งเปลือกกล้วยเหี่ยว จิได้คล้ำหมองลงไป จึงต้องอดทนรอค่ะ ก็ไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไรนะ แค่แต่งตัวเล่นน้ำรอตั้งแต่ตี 1 เพื่อมาลงเล่นในในเวลา 4 โมงเย็น
ภาพที่วาด คือ เราว่ายน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน น้ำใสสะอาด สาดน้ำกันไปมา มี บ๊กซิลล์ วิ่งเล่นหยอกล้อกัน ล้มกลิ้งบนหาดทรายขาวละเอียด สายลมพัดพลิ้วไหวปะทะใบหน้าเบาๆ ผมพันกันและมีชายหนุ่มมาคอยปัดผมให้ ก่อนที่จะพักกายจากการเล่นน้ำ แล้วนั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน สร้างปราสาทเจ้าหญิงของตัวเอง มีกล้อง 5 ดี มาร์คทู สัก 50 ตัว คอยถ่ายรูปเรา ในช่วงเวลาที่มีความสุขทุกมุม เก็บภาพความประทับใจ ใส่ในเมมโมรี่แห่งความทรงจำ ประหนึ่งเราคือนางเอกสาวสดใส น่ารัก ฟรุ้งฟริ้ง
ภาพความจริง อีป้าแบกหมาไปเล่นน้ำ ซึ่งน้ำสกปรกมาก โสโครกตั้งแต่ชายหาด บรรดาขวดพลาสติกเกลื่อน เหมือนดั่งเปลือกหอยยักษ์ และเต็มไปด้วยสาหร่ายพลาสติกหลากสีสัน ถ้าได้มาจากเซเว่น สาหร่ายก็จะสีขาว ถ้าได้จากบิ๊กซี สาหร่ายก็จะสีเขียว เดินทีถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ดี แต่ก็ต้องตะแคงทีนเดิน เปลือกหอยทิ่มเท้า เจ็บไปหมด แค่เดินยังลำบาก วิ่งนี่ตัดไปได้เลย เพราะฉะนั้นภาพวิ่งเล่นล้มกลิ้งหมดสิทธิ์จ๊ะ
จริงๆตอนเช้ามีความคิดนึงแว๊บบบบบเข้ามาในหัว(คืออ่านมาเยอะ) แต่เราก็คิดว่า ไม่น่าาาาา เราสวย เราน่ารัก สิ่งที่เราคิดมันไม่เกิดขึ้นหรอก และด้วยความที่อยากเล่นน้ำมาก จนอะไรก็หยุดไม่อยู่ ถึงจะสกปรก ก็คิดว่ามันเป็นธรรมชาติอันสวยงามละกัน ก็เดินหาจุดที่จะหย่อนร่างลง จุดที่เราอยู่คือ ต้นๆหาดพัทยาเหนือค่ะ ไม่ค่อยมีใคร พอได้ช่องที่ไม่ค่อยมีหอย ไม่ค่อยมีขวดและถุง ก็ลุยค่ะ
คุณเชื่อไหม ความสวยของมิ้งค์ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ลงน้ำ(สกปรก)แบบแขยงได้ไม่ถึงนาที คือเปียกไปครึ่งนึงแล้ว ลูกสาวเปียกทั้งตัว สายตาก็ไปปะทะกับสิ่งหนึ่ง มันคือ ขรี้!!!!! ความยาวประมาณนิ้งกลาง ไม่สิ ยาวกว่านิ้วกลางนิดหน่อย คิดว่า 3-4 นิ้วน่าจะได้ ขนาดประมาณใหญ่กว่านิ้วโป้งนิดนึง สีเหลืองสดใส ทอแสงเปร่งประกายแข่งกับแสงตะวันยามเย็น โค้งงอสวยงาม ประหนึ่งเป็นปลาน้อยว่ายมาบนผิวน้ำให้เราได้เชยชม
ด้วยความตกใจ ไม่นะ!! จึงอุทานเห้ย!!! พร้อมคว้าลูกสาวขึ้นจากน้ำทันใด คว้าแรงไปหน่อย น้ำกระเซ็นเป็นเม็ดกระจาย ปากที่กำลังอุทานก็อ้ากว้างอยู่ น้ำที่กระเซ็นนั้นจึงเข้ามาในปาก คุณพระ!!!!
นี่มันคืออะไร เดินขึ้นมาบนหาด มองแล้วมองอีก ว่าเห้ย "ตาฝาดป่าววะ" เห้ย "มันใช่ป่าววะ" พยายามมโนไปเป็นอย่างอื่น มโนไม่ออกจริงๆ ว่ามันจะเป็นอะไรไปได้ ตอนนั้นพูดเลย สับสนคะ นี่เราเฝ้ารอเวลา แต่งตัวตั้งแต่ตี 1 เพื่อมาลงเล่นน้ำที่มีอึลอย 1 นาที
แล้วเราจะตะโกนบอกคนอื่นดีไหม แต่เฮ้ย เค้ากำลังมีความสุขอยู่นะ เราจะทำให้คนทั้งทะเลตกใจหนีขึ้นน้ำมาหมด เราจะกลายเป็นคนปลุกกะแสไหม ทะเลจะต้องร้าง แล้วเศรษฐกิจจะพังทลายด้วยน้ำมือเรา ประเทศจะล่มจม เอ๊ะ! แต่ถ้าเราไม่บอก มันจะสงสารเค้านะ แต่ไม่สิ ถ้าเค้าไม่รู้ ไม่เห็น ผ่านๆไป มันก็จะเป็นความทรงจำที่ดี ไม่ต้องเจ็บปวดแบบเราเนอะ คือสมองตีกันหมดจริงๆ ด้วยความที่เป็นคนรักโลก รักธรรมชาติ รักน้ำ รักป่า รักทุกๆคน จึงเดินหนีมาแบบเงียบๆ
ก็ต้องขอโทษทุกคนที่อยู่ในทะเล ที่ไม่ได้บอกนะคะ แค่ไม่อยากให้ช็อคจริงๆ ไม่อยากให้เจ็บปวดอะ และก็ขอโทษทางบ้านนะคะ จริงๆอยากถ่ายรูปมาเป็นหลักฐาน แต่โทรศัพท์ก็ทิ้งไว้บนห้องหมดเลย ก็ได้แต่เก็บภาพเมมโมรี่ไว้ในหัว มาเล่าให้ทุกคนฟัง จะให้มิ้งค์เก็บกลับมาเป็นหลักฐาน มิ้งค์ยอมรับเลยค่ะ มิกล้าอาจเอื้อมจริงๆ
เชื่อไหม มิ้งค์เดินเป็นหมาเลยคะ อ้าปากแลบลิ้น รีบกลับโรงแรมไปล้าง เอาน้ำอุ่นล้างฆ่าเชื้อ คือถ้าตัดลิ้นไปต้มได้ นี่ทำไปแล้ว วันนั้นไม่กลืนน้ำลายเลย คือหยองจริงๆนะ ไม่อยากให้ใครมาเจอแบบนี้เลย
พอล้างเสร็จ ได้สติก็กลับมานั่งให้กำลังใจตัวเอง เฮ้ย!!! นี่เรามาถึงจุดนี่ได้ยังไง จุดที่น้ำอี้กระเด็นใส่ปากเรา!!! นี่หรือเมืองพุทธ
แล้วพูดปลอบกับตัวเองว่า ทะเลช่างแสนกว้างใหญ่ อึก้อนแค่นั้น มันก็คงละลายเจือจางไปในน้ำ จนน้อยนิด ก็ยังดีที่มันเกาะเป็นกลุ่ม ดีที่ไม่แตกกระจายไปในน้ำ ไม่เป็นไรเนาะ
เอาวะ!!! อย่างน้อยๆ เราก็ได้ทำเพื่อประเทศชาติของเรา และเราก็ได้เป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ ที่จะทำหน้าที่รับความเจ็บปวดครั้งนี้ไว้ แล้วก็มาบอกต่อทุกๆคน จะได้ระมัดระวัง และพิจารณากันเอง ว่าคุณอยากสวยแบบมีประสบการณ์แบบมิ้งค์หรือไม่ มิ้งค์ก็คงทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ ขอโทษที่ทำให้แฟนๆผิดหวังนะคะ ไทยแลนด์สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนใครที่สงสัย อึหมา หรือคน คือมิ้งค์ไม่รู้จริงๆค่ะ ก็พยายามพินิจพิจารณาแล้ว จะให้หยิบกลับมาวิจัย มันก็มิไหวอะตัว เราก็ทำได้แค่รับรู้ว่ามันคืออึ ไม่รู้ว่าของจริงของปลอม และไม่รู้ว่าใครคือเจ้าของด้วย แต่ตัวรู้ไหม เรา...(สะอึก) คือแบบเรา...(สะอึก) เราช็อคอะ หยองอะ แต่ถ้าถามว่าเราจะไปพัทยาอีกไหม คือเราก็ต้องไปอะ เรามีสุนัข ไปไหนเลยลำบาก เราไม่มีที่ไปอะ แต่คงไม่เล่นน้ำที่นี่อีก ไปนั่งให้ลมมันโกรกหน้าเฉยๆพอ
คือคุณจะไม่เชื่อมิ้งค์ก็ได้นะคะ แต่มิ้งค์กล้าสาบานให้ขี้เหล่ได้เลย จากไม่สวยเอาให้สภาพยับไปเลยเอ้า!! มิ้งค์ไม่กล้าเอาความสวยมาล้อเล่นหรอกค่ะ จริงๆนะT^T
ปล.เราไม่ได้สวย อย่ามาดราม่าด่าเราทีหลังนะ เราแค่คิดเองคนเดียวว่าเราสวยเฉยๆ5555 แล้วก็อยากจะขอร้อง อย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังนะ เราอาย#--#
me#กลับมานั่งล้างลิ้นต่อT^T
ขออนุญาตแก้ไขชื่อนะคะ พอดีตื่นเต้นจะได้เขียนกระทู้นี้ บวกกับช่วงนี้หาที่เที่ยวเอาใจอาม่า เลยพิมพ์ผิดค่ะ
***มิ้งค์ไปถึงพัทยาแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่แหลมพรหมเทพ ตอนเช้าก็นั่งเล่นริมๆหาดจอมเทียน***
เป็น
***มิ้งค์ไปถึงพัทยาแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่เขาพระตำหนัก ตอนเช้าก็นั่งเล่นริมๆหาดจอมเทียน***
ขอบคุณพี่ๆด้านล่างที่ช่วยบอกด้วยนะคะ^^