ก็เคยดูๆ ข่าวสองคนนี้ ที่ผ่านมาไม่ได้อะไรมาก ดูเป็นเรื่องของเค้า จนกระทั่งมีเหตุการณ์เรื่องกินยา และหลายคนมีความเห็นโน่นนี่ ส่วนใหญ่ค่อนไปทางด่าแตงโม แต่งานนี้ แม้ว่าผมเป็นผู้ชาย แต่ผมว่า โตโน่ผิด เพราะ
1. โตโน่ควรจะรู้อยู่แล้วว่า แตงโมมีนิสัยอย่างไร คาดว่า ก็คงไม่ได้เปลี่ยนมากหลังแต่งงาน (หรือหมั้น) แต่โตโน่ก็จะจีบ ก็จะแต่ง ก็แสดงว่าก็ต้องยอมรับได้ และยังเป็นฝ่ายเข้าหาเค้าเอง
"ไปดูหนังกับแตงโม ผมเป็นคนชวนแตงโมครับ ก็ไปดูกันสองคน" "ยอมรับว่าจีบครับ ผมว่าเขาเป็นคนน่ารักดี เห็นในทีวีเขาเป็นคนตรงๆ น่ารักดี" และ “(เมื่อถูกถามเรื่องแตงโมแรง) ผมไม่ได้สนใจในสิ่งที่คนอื่นมอง หรือว่าที่มาของใครอะไรยังไง ผมไม่สนใจเลย เพราะผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่"
ยังไม่พอ ระหว่างจีบกัน โตโน่ก็ย้ำอีกว่า "ไม่ว่าพี่จะดีหรือไม่ดี โมจะดีหรือไม่ดี พี่ไม่สนว่าบุญหรือบาป ใครจะยกย่องชมเชยใคร หัวใจเรา เรากำหนดมันเอง แล้วพี่กับโม กำหนดแล้วว่าจะรัก จะดูแลกันไปจนตาย ต่อให้ใครหน้าไหน ก็ไม่มีทางแยกเราจากกัน"
2. ตอนแต่งงาน ก็มีสัญญิงสัญญา ย้ำมาอีก
"สิ่งเหล่านั้นไม่มีค่าเลยถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่โม ภาคินจะรักภัทรธิดาที่สุดในชีวิต ภาคินจะรักภัทรธิดาคนเดียว ภาคินจะรักภัทรธิดาตลอดไป"
"เราก็พูดกันมาเสมอว่า รักที่สุด รักคนเดียว และก็รักตลอดไป ตายไปด้วยกัน ประโยคเหล่านี้ ไม่ใช่คำพูดที่พูดแค่ให้รู้สึกดี... ไม่ใช่พูดเพื่อให้หนูรู้สึกสบายใจไปวัน ๆ แต่มันเป็นคำมั่นสัญญา ที่พี่มีให้หนู แล้วก็จะติดตัวพี่ไปจนวันตาย "
สรุป แม้ว่า มันก็เป็นคำหวานของคนที่รักกันพูดทั่วไปเกือบทุกคู่รัก (แต่กรณีนี้ผมว่า ผช. พูดเว่อร์ไปหน่อย) สำหรับผม โตโน่ผิด เพราะ
1.ไปเริ่มจีบก่อน
2. ก่อนจีบ และตอนจีบ "รู้" ชัดเจนว่าแตงโมเป็นอย่างไร
3. ให้สัญญากับแตงโมไว้แล้ว (ทั้งๆ ที่รู้เช่นกัน)
4. แตงโม ไม่ได้เปลี่ยนแปลง คือถ้าแตงโมโกหก ปิดบังเรื่องนิสัยตัวเอง หรือแอ๊บทำเป็นสาวหวาน เรียบร้อย แล้วตอนหลังแต่งงานแล้ว เปลี่ยนนิสัยก็ว่าไปอย่าง แต่นี่แตงโมเค้าก็ทำตัวเหมือนๆ เดิม (ไม่ได้บอกว่าดี) เพียงแต่คนที่เปลี่ยนไปคือ "โตโน่" ซึ่งควรคำนึงถึงคำสัญญาที่ให้กับแตงโม และที่ให้กับพ่อแตงโม
ผมเองแม้จะมีทะเลาะกับแฟนบ้าง แต่ทุกครั้ง ก็นึกถึงสัญญาที่ให้กับเค้าและครอบครัวเค้า ก็ต้องพยายามแก้ไขปัญญาไป แน่นอนการเลิกรามันก็เป็นไปได้ ถ้าพยายามถึงที่สุด และให้เวลากับมันแล้ว แต่นี่มันแค่ !!!ไม่ถึง 2 ปี!!! ถ้าต้องทน มันทนแค่นี้เองหรือ จากกราฟคำหวานระดับ 190 ตกมาเหลือ -100 (ตอนประกาศว่าผมโสดกลางคอนเสริ์ต-คิดได้ไงฟะ) มันก็คงส่งผลให้ฝ่ายหญิงต้องเสียใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว และถ้าไม่ถึงขั้นแต่งงานก็อาจไม่ขนาดนี้ แต่ย้ำนะครับ ผมขอค้านเรื่องฆ่าตัวตายอยู่ดี
ทั้งโตโน่ (และแตงโม) ควรนึกถึงคำพ่อให้มากๆ อย่าทำให้เค้าเสียใจ
"พ่อไม่แน่ใจว่ามันเร็วไปหรือเปล่า พ่อรู้สึกว่าทั้งคู่พร้อมแล้วเหรอ พ่อไม่แน่ใจว่าลูกที่พ่อกอดอยู่ทุกวันจะไปมีคู่หมั้นแล้ว เป็นคนที่ชื่อโตโน่.... แต่พ่อเห็นว่าลูกพ่อโตแล้ว เหมาะสมคู่ควรที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ลูกรัก ดังนั้น ขอแสดงความยินดีด้วยกับลูกสาวในครั้งนี้"
คุณคิดอย่างผมบ้างไหม?
งานนี้ผมว่าโตโน่ ผิด!
1. โตโน่ควรจะรู้อยู่แล้วว่า แตงโมมีนิสัยอย่างไร คาดว่า ก็คงไม่ได้เปลี่ยนมากหลังแต่งงาน (หรือหมั้น) แต่โตโน่ก็จะจีบ ก็จะแต่ง ก็แสดงว่าก็ต้องยอมรับได้ และยังเป็นฝ่ายเข้าหาเค้าเอง
"ไปดูหนังกับแตงโม ผมเป็นคนชวนแตงโมครับ ก็ไปดูกันสองคน" "ยอมรับว่าจีบครับ ผมว่าเขาเป็นคนน่ารักดี เห็นในทีวีเขาเป็นคนตรงๆ น่ารักดี" และ “(เมื่อถูกถามเรื่องแตงโมแรง) ผมไม่ได้สนใจในสิ่งที่คนอื่นมอง หรือว่าที่มาของใครอะไรยังไง ผมไม่สนใจเลย เพราะผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่"
ยังไม่พอ ระหว่างจีบกัน โตโน่ก็ย้ำอีกว่า "ไม่ว่าพี่จะดีหรือไม่ดี โมจะดีหรือไม่ดี พี่ไม่สนว่าบุญหรือบาป ใครจะยกย่องชมเชยใคร หัวใจเรา เรากำหนดมันเอง แล้วพี่กับโม กำหนดแล้วว่าจะรัก จะดูแลกันไปจนตาย ต่อให้ใครหน้าไหน ก็ไม่มีทางแยกเราจากกัน"
2. ตอนแต่งงาน ก็มีสัญญิงสัญญา ย้ำมาอีก
"สิ่งเหล่านั้นไม่มีค่าเลยถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่โม ภาคินจะรักภัทรธิดาที่สุดในชีวิต ภาคินจะรักภัทรธิดาคนเดียว ภาคินจะรักภัทรธิดาตลอดไป"
"เราก็พูดกันมาเสมอว่า รักที่สุด รักคนเดียว และก็รักตลอดไป ตายไปด้วยกัน ประโยคเหล่านี้ ไม่ใช่คำพูดที่พูดแค่ให้รู้สึกดี... ไม่ใช่พูดเพื่อให้หนูรู้สึกสบายใจไปวัน ๆ แต่มันเป็นคำมั่นสัญญา ที่พี่มีให้หนู แล้วก็จะติดตัวพี่ไปจนวันตาย "
สรุป แม้ว่า มันก็เป็นคำหวานของคนที่รักกันพูดทั่วไปเกือบทุกคู่รัก (แต่กรณีนี้ผมว่า ผช. พูดเว่อร์ไปหน่อย) สำหรับผม โตโน่ผิด เพราะ
1.ไปเริ่มจีบก่อน
2. ก่อนจีบ และตอนจีบ "รู้" ชัดเจนว่าแตงโมเป็นอย่างไร
3. ให้สัญญากับแตงโมไว้แล้ว (ทั้งๆ ที่รู้เช่นกัน)
4. แตงโม ไม่ได้เปลี่ยนแปลง คือถ้าแตงโมโกหก ปิดบังเรื่องนิสัยตัวเอง หรือแอ๊บทำเป็นสาวหวาน เรียบร้อย แล้วตอนหลังแต่งงานแล้ว เปลี่ยนนิสัยก็ว่าไปอย่าง แต่นี่แตงโมเค้าก็ทำตัวเหมือนๆ เดิม (ไม่ได้บอกว่าดี) เพียงแต่คนที่เปลี่ยนไปคือ "โตโน่" ซึ่งควรคำนึงถึงคำสัญญาที่ให้กับแตงโม และที่ให้กับพ่อแตงโม
ผมเองแม้จะมีทะเลาะกับแฟนบ้าง แต่ทุกครั้ง ก็นึกถึงสัญญาที่ให้กับเค้าและครอบครัวเค้า ก็ต้องพยายามแก้ไขปัญญาไป แน่นอนการเลิกรามันก็เป็นไปได้ ถ้าพยายามถึงที่สุด และให้เวลากับมันแล้ว แต่นี่มันแค่ !!!ไม่ถึง 2 ปี!!! ถ้าต้องทน มันทนแค่นี้เองหรือ จากกราฟคำหวานระดับ 190 ตกมาเหลือ -100 (ตอนประกาศว่าผมโสดกลางคอนเสริ์ต-คิดได้ไงฟะ) มันก็คงส่งผลให้ฝ่ายหญิงต้องเสียใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว และถ้าไม่ถึงขั้นแต่งงานก็อาจไม่ขนาดนี้ แต่ย้ำนะครับ ผมขอค้านเรื่องฆ่าตัวตายอยู่ดี
ทั้งโตโน่ (และแตงโม) ควรนึกถึงคำพ่อให้มากๆ อย่าทำให้เค้าเสียใจ
"พ่อไม่แน่ใจว่ามันเร็วไปหรือเปล่า พ่อรู้สึกว่าทั้งคู่พร้อมแล้วเหรอ พ่อไม่แน่ใจว่าลูกที่พ่อกอดอยู่ทุกวันจะไปมีคู่หมั้นแล้ว เป็นคนที่ชื่อโตโน่.... แต่พ่อเห็นว่าลูกพ่อโตแล้ว เหมาะสมคู่ควรที่จะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ลูกรัก ดังนั้น ขอแสดงความยินดีด้วยกับลูกสาวในครั้งนี้"
คุณคิดอย่างผมบ้างไหม?