สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้รีวิวแรกอันนี้ของผู้เขียนนะคะ
การเดินทางเป็นสิ่งที่ทุกคนหลงใหล ผู้เขียนก็เช่นกันค่ะ เราชอบเดินทาง เพราะการเดินทางช่วยทำให้เรามองเห็นโลกกว้างกว่าเดิม ได้มิตรภาพ และสิ่งแปลกใหม่เสมอๆ
เราไปสวัสดีโอซาก้าพร้อมๆกันเลยค่ะ
ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากจบค่าย เรื่องทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้น ณ จังหวัดโอซาก้าแห่งนี้ค่ะ
ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเข้าค่ยที่นาบาริเมืองติดๆกับโอโซนก้นหลังจากจบค่ายเรานัดเจอกันที่โอซาก้า ชินไซบาชิ
กูลิโก๊ะ
ผู้เขียนขอย้อนไปช่วงเดินทาง
ณ วินาทีแรกที่มาถึงญี่ปุ่น โอ้วมายก๊อด ภาษาญี่ปุ่น เต็มไปหมด พยายามหาทางเพื่อที่จะไปเจอเพื่อน ณ จุดนัดพบ เส้นทางการเดินเข้าเมืองมีสองทางคือนั่งรถไฟ และสองต่อรสบัส เราเลยไปถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อหาจุดจอดรสบัสเจ้าหน้าที่ชี้ไปขวา เราออกมาหนาวมากแต่ชอบค่ะ 55
เห็นรสบัสจอดเรียงราย ว่าแต่สายไหน 55 มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเรามองไปที่ป้ายก็ไม่มีสถานีปลายทางที่เราจะไป สุดท้ายเราเดินเข้าไปถามคนที่คุมคิวรถ ลืมบอกเราเดินทางมาคนเดียว และเราก็พบว่าที่นี่มีคนสูงอายุเยอะมาก
คนคุมคิวใจดีมาก บอกวิธีการกดบัตร ซึ่งเรากดไม่เป็น มันแปลกใหม่มาก เราพยายามทำด้วยตนเอง ลุงเห็นท่าไม่ดีเลยกดบัตรให้ ขอบคุณมากๆค่ะ
หลังจากนั้นเรายืนรอรถบัสสักพักรถก็มา
ในด่านตรวจคนเข้าเมือง
เรายืนคุยกับเจ้าหน้าที่นานมากตอนแรกคิดว่าคงไม่ผ่าน ติกกะเร็ต คืออะไร เราขอเราเราหยิบตั๋วให้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เราผ่าน สุดท้ายกว่าจะคุยกันออกเล่นเอาเหงื่อตก เขาขอดูตั๋วขากลับ แต่ทำไมไม่ขอเราแบบ ตั๋วรีเทิร์น มาบอกว่าติ๊กกะเร็ต เราจะรู้เรื่องม้ายยยย 555
แต่สุดท้ายก็เข้ามาได้ค่ะ

นี่เป็นภาพตอนที่เราถ่ายในรถบัสเข้าเมืองโอซาก้าเพื่อที่จะไปต่อรถไฟไปยังนาบาริค่ะค่าตั๋วประมาณ 1,500¥ค่ะ
ไว้มาต่อนะคะ
[CR] สวัสดีโอซาก้าเที่ยวญี่ปุ่น คนเดียวครั้งแรก เดินรอบเมืองกว่า 10 กิโลเมตร
การเดินทางเป็นสิ่งที่ทุกคนหลงใหล ผู้เขียนก็เช่นกันค่ะ เราชอบเดินทาง เพราะการเดินทางช่วยทำให้เรามองเห็นโลกกว้างกว่าเดิม ได้มิตรภาพ และสิ่งแปลกใหม่เสมอๆ
เราไปสวัสดีโอซาก้าพร้อมๆกันเลยค่ะ
ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากจบค่าย เรื่องทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้น ณ จังหวัดโอซาก้าแห่งนี้ค่ะ
ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเข้าค่ยที่นาบาริเมืองติดๆกับโอโซนก้นหลังจากจบค่ายเรานัดเจอกันที่โอซาก้า ชินไซบาชิ
กูลิโก๊ะ
ผู้เขียนขอย้อนไปช่วงเดินทาง
ณ วินาทีแรกที่มาถึงญี่ปุ่น โอ้วมายก๊อด ภาษาญี่ปุ่น เต็มไปหมด พยายามหาทางเพื่อที่จะไปเจอเพื่อน ณ จุดนัดพบ เส้นทางการเดินเข้าเมืองมีสองทางคือนั่งรถไฟ และสองต่อรสบัส เราเลยไปถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อหาจุดจอดรสบัสเจ้าหน้าที่ชี้ไปขวา เราออกมาหนาวมากแต่ชอบค่ะ 55
เห็นรสบัสจอดเรียงราย ว่าแต่สายไหน 55 มีแต่ภาษาญี่ปุ่นเรามองไปที่ป้ายก็ไม่มีสถานีปลายทางที่เราจะไป สุดท้ายเราเดินเข้าไปถามคนที่คุมคิวรถ ลืมบอกเราเดินทางมาคนเดียว และเราก็พบว่าที่นี่มีคนสูงอายุเยอะมาก
คนคุมคิวใจดีมาก บอกวิธีการกดบัตร ซึ่งเรากดไม่เป็น มันแปลกใหม่มาก เราพยายามทำด้วยตนเอง ลุงเห็นท่าไม่ดีเลยกดบัตรให้ ขอบคุณมากๆค่ะ
หลังจากนั้นเรายืนรอรถบัสสักพักรถก็มา
ในด่านตรวจคนเข้าเมือง
เรายืนคุยกับเจ้าหน้าที่นานมากตอนแรกคิดว่าคงไม่ผ่าน ติกกะเร็ต คืออะไร เราขอเราเราหยิบตั๋วให้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เราผ่าน สุดท้ายกว่าจะคุยกันออกเล่นเอาเหงื่อตก เขาขอดูตั๋วขากลับ แต่ทำไมไม่ขอเราแบบ ตั๋วรีเทิร์น มาบอกว่าติ๊กกะเร็ต เราจะรู้เรื่องม้ายยยย 555
แต่สุดท้ายก็เข้ามาได้ค่ะ
นี่เป็นภาพตอนที่เราถ่ายในรถบัสเข้าเมืองโอซาก้าเพื่อที่จะไปต่อรถไฟไปยังนาบาริค่ะค่าตั๋วประมาณ 1,500¥ค่ะ
ไว้มาต่อนะคะ