“ ไม่เอา เราไปหาซื้อของขวัญให้คุณพ่อกันก่อน นาย กลับไปทำงานของนายได้แล้ว ฉันจะคุยกับเพื่อนฉัน ”
จามจุรีไล่ตะวัน
“ แล้วพบกันนะครับคุณล้อม ”
“ คุณตะวันพักอยู่แถวไหนคะ ”
“ ไมไกลจากบริษัทนี่เท่าไหร่หรอกครับ นั่งรถเมล์ไม่กี่ป้ายก็ถึง ”
“ คุณตะวันนั่งรถเมล์มาทำงานหรือคะ ทำไมไม่ซื้อรถล่ะคะจะได้สะดวก ”
“ รถน่ะมีครับ แต่มันไม่ไกลนั่งรถเมล์สบายกว่า ”
“ ขับรถแล้วกลัวหลงทางน่ะสิ บ้านนอก ”
จามจุรียังอดว่าเขาไม่ได้ ล้อมเดือนได้แต่ทำหน้าเซ็ง แต่ตะวันกลับยิ้มแล้วเดินออกไป
“ ดูสิล้อม ”
“จะเข้าจะออก ไม่มีสัมมาคารวะเอาซะเลย ทุเรศที่สุด ทำไมจามต้องมามีลูกน้องอย่างนายนี่ด้วยนะ ”
ตะวันยืนรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์หน้าบริษัท จามจุรีขับรถเบนซ์คันใหญ่พาล้อมเดือนออกไป เขายืนมองตามรถคันนั้นไปจนรถคันงามหายปะปนไปกับรถที่วิ่งกันคลาคล่ำบนท้องถนน
แล้วก็ถึงวันงานวันเกิดของนายทุติยะ สุรียาบดีที่กว้างใหญ่โอ่อ่า งดงามไปด้วยแสงไฟที่ประดับประดาพรึบพรั่บไปทั่วบริเวณบ้าน เวทีใหญ่ตั้งอยู่กลางสนามโดดเด่น โต๊ะกินเลี้ยงตั้งจนเต็มทั้งสนาม และยังตามซุ้มอีกมากมาย อาหารอย่างดีที่สั่งมาจากโรงแรมทยอยเอาออกมาตั้งจนเต็มโต๊ะ ตะวันมาพร้อมกับชาตรีหลังจากที่งานเริ่มได้ไม่นาน เขาตะลึงกับตึกหลังใหญ่ที่งามสง่าท่ามกลางแมกไม้ที่ปลูกประดับเอาไว้อย่างสวยงาม สุรียาบดีใหญ่โตโอ่อ่าจนตะวันคิดไม่ถึง
“ ไง ตะลึงเลยหรือคุณตะวัน ผมเห็นครั้งแรกก็ตะลึงแบบคุณนี่แหระ ไม่รู้ว่าบ้านหรือวัง ทั้งใหญ่ทั้งสวย ”
“ คุณมาที่นี่บ่อยไหม ”
“ ก็ สองสามครั้งเอง มาอวยพรท่านประธานตอนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี และก็งานวันเกิดท่านผู้จัดการกับคุณหญิงทาทอง ”
“ ที่นี่คงจัดงานเลี้ยงบ่อยนะ ”
“ คงบ่อย บ้านใหญ่ๆอย่างนี้ ก็น่าจัดหรอกไม่ต้องกลัวคับแคบ ด้านหลังเป็นสระน้ำ สวยเป็นบ้า ”
“ เราไปนั่งโต๊ะที่ซุ้มโน่นดีกว่า หลบๆดี ”
“ ดีครับ ผมก็อยากหามุมอยู่เหมือนกัน ”
ตะวันนั่งมองแขกเหรื่อที่ทยอยเข้ามากันจนเต็มบริเวณงาน ไม่เพียงแต่พนักงานในบริษัทเท่านั้น แขกคนใหญ่คนโตก็มากันมากมายเพราะเจ้าของวันเกิดเป็นถึงรัฐมนตรี ใครๆก็อยากมาอวยพร จามจุรีงดงามเฉิดฉายยืนต้อนรับแขกอยู่ใกล้กับพ่อและแม่ของเธอ คอยรอรับการอวยพรของแขก ทาทองยืนเป็นสง่าอยู่ด้านขวามือของน้องชาย ตะวันมองพวกเขาอย่างชิงชัง พวกมันเสวยสุขกับสิ่งที่เป็นของพ่อเขา ครอบครองทุกอย่างที่เป็นของพ่อ แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมชั้นสูง อย่างมีความสุขมีเกียรติ
“ ดื่มอะไรไหมคุณตะวัน เดี๋ยวผมจะเอามาเผื่อ เยอะแยะเลยอยู่ใกล้ๆนี่เอง ”
“ ไม่ต้องหรอก ผมช่วยตัวเองดีกว่า ”
ตะวันลุกออกไปเอาแก้วรินไวน์และตักอาหารว่างสองอย่างใส่จาน พอหันออกก็ชนกับใครคนหนึ่งที่ถือจานใส่อาหารพอดี
“ อุ๊ย ”
“ ขอโทษครับ ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่หก ”
หญิงสาวผู้นั้นถือจานใส่อาหารเดินกลับไปนั่งที่ซุ้มไม่ไกลจากเขานัก ที่ซุ้มมีเพื่อนผู้หญิงของเธอนั่งคอยอยู่สามคน ตะวันเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของเขาโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก
เวลาผ่านไปนักร้องดังๆหลายคนผลัดกันขึ้นไปร้องเพลงบนเวที และมีการเปิดฟอร์เต้นรำ จามจุรีถูกห้อมล้อมด้วยชายหนุ่มมากมายเธอสวยเด่นสมกับเป็นลูกสาวท่านรัฐมนตรีเจ้าของงาน ตะวันไม่เห็นล้อมเดือนคนเยอะอย่างนี้ไม่รู้เธอนั่งอยู่ตรงไหน เกือบสี่ทุ่ม งานยังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ตะวันรู้สึกเซ็งๆ จึงลุกเดินเรื่อยออกมาทางด้านหลังของงาน ส่วนชาตรีกำลังเพลินกับไวน์หลากหลายชนิดไม่อั้น
ตะวันเดินมองบริเวณที่กว้างขวาง เนื้อที่ของบ้านสุรียาบดีคงไม่ต่ำกว่าสิบไร่ ต้นไม้ขนาดใหญ่สูงร่มทะมึนไปทั่ว ตะวันเดินมาจนถึงสระน้ำด้านหลังอาคาร เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่ด้านหน้า เมื่อเขามายืนอยู่ตรงนี้ เสียงมันจึงเบาลง และรู้สึกสบายหู ตะวันเดินมาหยุดยืนใต้ต้นหูกวางขนาดใหญ่มองน้ำในสระน้ำที่สะท้อนแสงไฟพราวระยับ ตะวันเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเรื่อยไปตามขอบสระน้ำแล้วไปหยุดนั่งที่เก้าอี้นอนเล่นไม่ไกลจากเขานัก เขาจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาหันไปชนเธอเมื่อหัวค่ำตอนไปตักอาหาร เธอจามถี่ๆ เมื่อเขาจะเดินออกไปหาเธอ หญิงสูงวัยนางหนึ่งก็เดินเข้ามาหาหญิงสาว
“ คุณจันทร์ หลบมาอยู่ที่นี่เอง ป้าอองเดินหาจนทั่วงาน ทำไมไม่ไปสนุกกับเขาในงานล่ะคะ ”
“ พอแล้วละ จันทร์หนวกหู เสียงดังจนปวดหัว จันทร์ว่าจะขึ้นข้างบน แต่กลัวคุณพ่อให้หา เลยออกมานั่งพักหูสักหน่อย ”
“ นี่ก็ยังไม่ดึกมาก คงอีกนานกว่างานจะเลิก คุณจันทร์ไม่ออกไปคุยกับเพื่อนๆก่อนหรือคะ ”
“ พวกนั้นน่ะหรือ กำลังสุดเหวี่ยงกันที่ฟอร์ไม่คุยแล้ว ”
“ อากาศตรงนี้เย็น เดี๋ยวป้าอองไปเอาผ้าคลุมไหล่มาให้นะคะ เสื้อคุณจันทร์บางเดี๋ยวจะไม่สบาย ”
หญิงชราผู้นั้นออกไปแล้ว ตะวันเพิ่งรู้ว่าหญิงสาวคนนี้คือลูกสาวของทุติยะอีกคน แต่ทำไมเธอผู้นี้ดูเงียบๆไม่หวือหวาจี๊ดจ๊าดเหมือนจามจุรี ไอ้ทุติยะมีลูกกี่คน ที่รู้ก็สองคนแล้ว เขายืนมองสาวน้อยคนนั้นอย่างครุ่นคิด ชายหนุ่มเดินกลับมาที่โต๊ะ ชาตรีเมาจนหน้าแดงกร่ำ
“ จะกลับกันหรือยังคุณชาตรี ”
“ อะไร ยังไม่ดึกเท่าไหร่ งานก็ยังไม่เลิก คุณจะกลับแล้วหรือ ”
“ เปล่า,เห็นคุณหน้าแดงๆแล้ว ”
“ ผมกับแอลกอฮอล์เจอกันละเป็นเลือดสูบฉีด แต่ไม่เมานะครับ แน่ะ ท่านประธานขึ้นไปร้องเพลงคู่กับท่านผู้จัดการแล้ว ”
“ ท่านประธานมีลูกกี่คน ผมเห็นแต่ผู้จัดการคนเดียว ”
“ สองคน ท่านผู้จัดการนี่น่ะคนโต ส่วนคุณคนเล็ก เอทำไมวันนี้ถึงไม่เห็น สวยนะ สวยทั้งสองคนเลย คุณคนเล็กน่ะชื่อจันทรา ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แต่พวกเราไม่ค่อยได้เจอเธอหรอก เธอไม่ค่อยยุ่งกับใคร เรียนอย่างเดียว อยู่ไหนนะ ผมจะชี้ให้ดู ”
ชาตรีชะเง้อมองหา
“ ไม่ต้องชะเง้อหาหรอก คนเยอะอย่างนี้จะไปเห็นได้อย่างไร บางทีเขาอาจจะขึ้นไปบนบ้านเขาแล้วก็ได้ ”
“ เออจริง คุณยังไม่เคยเห็นใช่ไหมล่ะ เอาไว้ก็ได้เห็นเองน่ะแหละ ”
ตะวันมองเพื่อนร่วมงานแล้วยิ้ม เขาหันกลับไปมองที่ด้านหลังอีก จันทราอยู่ที่นั่น เธอชื่อจันทรา
ก่อนที่ล้อมเดือนจะกลับเชียงราย หญิงสาวแวะมาหาตะวันอีกครั้ง
“ รู้ว่าคุณล้อมจะกลับเชียงราย ผมอดรู้สึกใจหายไม่ได้ ”
“ ทำไมคะ ”
“ ผมเติบโตอยู่ที่นั่น เรียนและมีความสุขที่นั่น ความรู้สึกมันจึงผูกพันกับเชียงรายมาก ”
“ แล้วทำไมคุณตะวันถึงได้ยอมขายที่สวนลำไยซะล่ะคะ ทั้งๆที่ใจยังอยู่ที่เชียงราย ”
“ ผมมีเหตุผลของผม ”
“ ค่ะ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองเสมอ แต่ไม่เป็นไรนี่คะ ถ้าคุณตะวันว่างและอยากกลับไปพักผ่อน ชมเดือนรีสอร์ทยินดีต้อนรับคุณเสมอค่ะ ”
“ ครับ ถ้าผมว่าง ผมจะกลับไป กลับไปสู่อ้อมอกแม่สายที่ผมไม่เคยลืม ”
“ คุณตะวันกับจามทำงานอยู่ด้วยกันแบบนี้ คงอึดอัดใจแย่ ”
“ ไม่หรอกครับ ผมเตรียมใจมาพร้อมอยู่แล้ว ”
“ คุณคิดยังไงคะ ถึงได้ยอมมาทำงานเป็นผู้ใต้บังคับของจาม ความสามารถอย่างคุณ จะหางานที่ไหนทำก็ได้ไม่ยาก ”
“ มันก็เป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งของผม ”
“ โอเคค่ะ ล้อมจะไม่ถามอีก ก็อย่างที่คุณพูด ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ล้อมกลับก่อนนะคะ หวังว่าชมเดือนรีสอร์ทคงมีโอกาสต้อนรับคุณตะวัน ”
“ ครับ โชคดีนะครับคุณล้อม ไม่แน่ สักวันหนึ่งผมอาจจะกลับไปที่นั่น แล้วคุณล้อมไม่อยากต้อนรับผมก็ได้ ”
“ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ บ๊ายบาย ”
ตะวันถูกจามจุรีเรียกตัวเข้าไปพบอีก นี่หล่อนจะจองเวรเขาทุกวันหรือไรกันนะ
“ มีอะไรจะใช้ผมหรือครับ ท่านผู้จัดการ ”
“ สนิทกับยายล้อมมากเลยนะ ขนาดเขาจะกลับยังอุตส่าห์แวะมาลา ”
“ ทำไมล่ะ ท่านผู้จัดการไม่พอใจอะไรหรือ ที่คุณล้อมเดือนมาคบกับผม ”
“ คนอย่างนายหวังผลตอบแทนเสมอ ขนาดจะเข้ามาทำงานที่นี่ ยังยกเอาการขายที่ดินมาต่อรอง ”
“ ผมก็แค่เสนอคุณหญิงท่าน จะปฏิเสธผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ที่ท่านรับผมเข้าทำงาน น่าจะที่ความรู้ของผมมากกว่า ”
“ นายต้องการอะไรบอกฉันมาตามตรงดีกว่า ที่ขอเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายอยากเข้ามาทำงานที่นี่จริงๆ ”
“ ไปใหญ่แล้วท่านผู้จัดการ ผมจะต้องการอะไร หรือท่านผู้จัดการระแวงผมว่า ติดใจท่านจนต้องตามมาทำงานด้วย ”
“ นี่นายอย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ คนอย่างนายนะหรือที่ฉันต้องระแวง ฉันไม่ชอบขี้หน้านาย นายก็รู้สะเออะเข้ามาทำงานที่นี่ นายต้องมีแผนการไม่ซื่อแน่ ”
“ คุณคงขี้โกงคนอื่นเขาซะชินสินะ เลยคิดว่าคนอื่นเขาต้องมีแผนชั่วไปหมดใช่ไหม ”
“ นี่แก ไอ้บ้า กล้าดียังไงมาว่าฉันขี้โกง ”
“ พูดจี้ใจดำหรือไง ถึงต้องเต้น ”
“ ไอ้บ้า นี่มันบริษัทของฉันนะ แกกล้าดียังไงมาว่าฉันถึงที่นี่ ขอสั่งสอนสักทีเถอะ ”
จามจุรีตบฉาดเข้าที่ใบหน้าของตะวันเต็มแรง ชายหนุ่มเอามือลูบแก้มที่ถูกตบ จ้องจามจุรีอย่างโกรธจัด
“ มากไปแล้วนะ สมัยนี้หมดสมัยรังแกผู้ใต้บังคับบัญชากันแล้ว ”
“ ทำไม แกจะทำอะไรฉัน ”
จามจุรีเชิดหน้าอย่างอวดดี ตะวันปรี่เข้าหาหล่อน รวบร่างบางกอดไว้แน่นแล้วจูบเอาอย่างรุนแรง จามจุรีตกใจดิ้นขลุกขลัก เขาจูบเธอจนสาแก่ใจจึงปล่อย จามจุรีตบเขาอีกครั้งอย่างแสนแค้นและอับอาย
“ ไอ้บ้า อวดดียังไงมาทำกับฉันอย่างนี้ ไอ้เลว ”
“ ผมไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนมาตบหน้าผมฟรีๆ เราเจ๊ากัน คุณตบผม ผมจูบคุณ แต่ถ้าวันไหนอยาดโดนจูบอีก จะเรียกผมมาตบอีกก็ได้นะ ”
“ ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป๊ ”
จามจุรีชี้นิ้วไล่ตัวสั่น ตะวันหันหลังเดินกลับออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน จามจุรีความหาบุหรี่มาจุดสูบอย่างระงับอารมณ์สุดขีด
“ ทำไมผู้จัดการเรียกตัวคุณไปพบบ่อยจัง คุณตะวัน ”
ชาตรีถามเมื่อตะวันกลับมาที่โต๊ะทำงานของเขา
“ ก็คงจะหาคนไประบายอารมณ์มั้ง ”
“ ท่านผู้จัดการเรียกคุณไปด่าหรือ ”
“ ก็ทำนองนั้น ผมมันพนักงานใหม่ คงจ้องหาเรื่องจะไล่ผมออก ”
“ ไม่นา ปกติท่านผู้จัดการไม่เคยจู้จี้กับใครนะ และไม่เคยด่าใครด้วย ”
“ ผมคงเป็นกรณีพิเศษ หาเรื่องได้ทุกวัน ”
“ แล้วหน้าคุณไปโดนอะไรมา แดงเป็นผื่น ”
“ โดนตบ ”
“ พูดเป็นเล่นอยู่เรื่อย เดี๋ยวใครเขาก็เชื่อหรอก ใช่ไหมคุณกุลธิดา ”
ชาตรีหันไปพูดกับโต๊ะข้างๆ ตะวันหยิบแฟ้มออกมาเปิดทำงานต่ออย่างไม่สนใจใครอีก
ทัตมาหาจามจุรีที่บริษัท เขาเห็นตะวันนั่งทำงานอยู่ที่แผนกบัญชี ก็จำได้และตรงเข้าไปแขวะหาเรื่อง
“ เฮ้ย ไอ้นักเลงบ้านนอกนี่หว่า ทำไม

มานั่งทำงานอยู่ที่นี่วะ ”
ตะวันเงยหน้ามอง คนที่ยืนเต๊ะวางก้ามตรงหน้า
“ ทำไม ผมมาทำงานที่นี่แล้วทำไม ”
ตะวันย้อน พวกพนักงานที่ทำงานกันอยู่หันมามองกันเป็นตาเดียว
“ ตลกน่ะสิวะ ใครเป็นคนรับแกเข้ามาทำงานที่นี่หา ไม่รู้หรือไงว่าแกน่ะเป็นบุคคลที่ไม่ปรารถนา ”
“ เหรอ แล้วใครเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลล่ะ ลองไปถามเขาดูสิ ว่าทำไมถึงรับผมเข้าทำงาน ”
ทัตหันมองรอบๆเห็นพนักงานกำลังมองอยู่จึงเดินไปที่ห้องของจามจุรี เขาเปิดเข้าไป เห็นจามจุรีกำลังนั่งตรวจงานอยู่ จึงถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ คุณจาม คุณรับไอ้บ้านั่นเข้ามาทำงานหรือ คุณคิดยังไง ”
“ นี่คุณทัต จามไม่ได้เป็นคนรับเขามาทำนะ คุณป้าโน่น เป็นคนรับเขาเข้ามา ทัตเจอเขาแล้วใช่ไหม ”
“ ใช่ ท่าทางมันก็ยังยโสโอหังเหมือนเดิม นี่ขนาดอยู่ในถิ่นเรานะนี่ ”
จามจุรีถอนใจ
“ ทัต จามว่าเราอย่าไปยุ่งกับเขาเลย จามไม่อยากมีเรื่องขัดใจกับคุณป้า ”
“ แล้วทำไมคุณป้าถึงได้รับมันเข้ามาทำงาน ไปเจอกับมันได้ยังไง มันอยู่จนเชียงราย ”
“ ทัตพอเถอะค่ะ จามกำลังตรวจบัญชีเห็นไหม ทัตมีธุระอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีจามจะทำงาน ”
“ ผมขอโทษ เห็นไอ้นั่นแล้วอารมณ์เสีย คุณจามทำงานไปเถอะผมจะรอ เดี๋ยวเลิกงานแล้วเราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันนะครับ ”
“ ได้เลยค่ะ ตามสบายเลยนะคะ จามขอตรวจบัญชีอีกหน่อยใกล้เสร็จแล้ว ”
ทุติยะนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานบ้านสุรียาบดีสวาทเข้าไปหา สีหน้ายุ่งยากใจ
...พิมพ์พิลาสฒ์...
สิ้นแสงสุริยา ตอนที่ 7
จามจุรีไล่ตะวัน
“ แล้วพบกันนะครับคุณล้อม ”
“ คุณตะวันพักอยู่แถวไหนคะ ”
“ ไมไกลจากบริษัทนี่เท่าไหร่หรอกครับ นั่งรถเมล์ไม่กี่ป้ายก็ถึง ”
“ คุณตะวันนั่งรถเมล์มาทำงานหรือคะ ทำไมไม่ซื้อรถล่ะคะจะได้สะดวก ”
“ รถน่ะมีครับ แต่มันไม่ไกลนั่งรถเมล์สบายกว่า ”
“ ขับรถแล้วกลัวหลงทางน่ะสิ บ้านนอก ”
จามจุรียังอดว่าเขาไม่ได้ ล้อมเดือนได้แต่ทำหน้าเซ็ง แต่ตะวันกลับยิ้มแล้วเดินออกไป
“ ดูสิล้อม ”
“จะเข้าจะออก ไม่มีสัมมาคารวะเอาซะเลย ทุเรศที่สุด ทำไมจามต้องมามีลูกน้องอย่างนายนี่ด้วยนะ ”
ตะวันยืนรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์หน้าบริษัท จามจุรีขับรถเบนซ์คันใหญ่พาล้อมเดือนออกไป เขายืนมองตามรถคันนั้นไปจนรถคันงามหายปะปนไปกับรถที่วิ่งกันคลาคล่ำบนท้องถนน
แล้วก็ถึงวันงานวันเกิดของนายทุติยะ สุรียาบดีที่กว้างใหญ่โอ่อ่า งดงามไปด้วยแสงไฟที่ประดับประดาพรึบพรั่บไปทั่วบริเวณบ้าน เวทีใหญ่ตั้งอยู่กลางสนามโดดเด่น โต๊ะกินเลี้ยงตั้งจนเต็มทั้งสนาม และยังตามซุ้มอีกมากมาย อาหารอย่างดีที่สั่งมาจากโรงแรมทยอยเอาออกมาตั้งจนเต็มโต๊ะ ตะวันมาพร้อมกับชาตรีหลังจากที่งานเริ่มได้ไม่นาน เขาตะลึงกับตึกหลังใหญ่ที่งามสง่าท่ามกลางแมกไม้ที่ปลูกประดับเอาไว้อย่างสวยงาม สุรียาบดีใหญ่โตโอ่อ่าจนตะวันคิดไม่ถึง
“ ไง ตะลึงเลยหรือคุณตะวัน ผมเห็นครั้งแรกก็ตะลึงแบบคุณนี่แหระ ไม่รู้ว่าบ้านหรือวัง ทั้งใหญ่ทั้งสวย ”
“ คุณมาที่นี่บ่อยไหม ”
“ ก็ สองสามครั้งเอง มาอวยพรท่านประธานตอนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี และก็งานวันเกิดท่านผู้จัดการกับคุณหญิงทาทอง ”
“ ที่นี่คงจัดงานเลี้ยงบ่อยนะ ”
“ คงบ่อย บ้านใหญ่ๆอย่างนี้ ก็น่าจัดหรอกไม่ต้องกลัวคับแคบ ด้านหลังเป็นสระน้ำ สวยเป็นบ้า ”
“ เราไปนั่งโต๊ะที่ซุ้มโน่นดีกว่า หลบๆดี ”
“ ดีครับ ผมก็อยากหามุมอยู่เหมือนกัน ”
ตะวันนั่งมองแขกเหรื่อที่ทยอยเข้ามากันจนเต็มบริเวณงาน ไม่เพียงแต่พนักงานในบริษัทเท่านั้น แขกคนใหญ่คนโตก็มากันมากมายเพราะเจ้าของวันเกิดเป็นถึงรัฐมนตรี ใครๆก็อยากมาอวยพร จามจุรีงดงามเฉิดฉายยืนต้อนรับแขกอยู่ใกล้กับพ่อและแม่ของเธอ คอยรอรับการอวยพรของแขก ทาทองยืนเป็นสง่าอยู่ด้านขวามือของน้องชาย ตะวันมองพวกเขาอย่างชิงชัง พวกมันเสวยสุขกับสิ่งที่เป็นของพ่อเขา ครอบครองทุกอย่างที่เป็นของพ่อ แล้วลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมชั้นสูง อย่างมีความสุขมีเกียรติ
“ ดื่มอะไรไหมคุณตะวัน เดี๋ยวผมจะเอามาเผื่อ เยอะแยะเลยอยู่ใกล้ๆนี่เอง ”
“ ไม่ต้องหรอก ผมช่วยตัวเองดีกว่า ”
ตะวันลุกออกไปเอาแก้วรินไวน์และตักอาหารว่างสองอย่างใส่จาน พอหันออกก็ชนกับใครคนหนึ่งที่ถือจานใส่อาหารพอดี
“ อุ๊ย ”
“ ขอโทษครับ ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่หก ”
หญิงสาวผู้นั้นถือจานใส่อาหารเดินกลับไปนั่งที่ซุ้มไม่ไกลจากเขานัก ที่ซุ้มมีเพื่อนผู้หญิงของเธอนั่งคอยอยู่สามคน ตะวันเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของเขาโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก
เวลาผ่านไปนักร้องดังๆหลายคนผลัดกันขึ้นไปร้องเพลงบนเวที และมีการเปิดฟอร์เต้นรำ จามจุรีถูกห้อมล้อมด้วยชายหนุ่มมากมายเธอสวยเด่นสมกับเป็นลูกสาวท่านรัฐมนตรีเจ้าของงาน ตะวันไม่เห็นล้อมเดือนคนเยอะอย่างนี้ไม่รู้เธอนั่งอยู่ตรงไหน เกือบสี่ทุ่ม งานยังดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ตะวันรู้สึกเซ็งๆ จึงลุกเดินเรื่อยออกมาทางด้านหลังของงาน ส่วนชาตรีกำลังเพลินกับไวน์หลากหลายชนิดไม่อั้น
ตะวันเดินมองบริเวณที่กว้างขวาง เนื้อที่ของบ้านสุรียาบดีคงไม่ต่ำกว่าสิบไร่ ต้นไม้ขนาดใหญ่สูงร่มทะมึนไปทั่ว ตะวันเดินมาจนถึงสระน้ำด้านหลังอาคาร เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่ด้านหน้า เมื่อเขามายืนอยู่ตรงนี้ เสียงมันจึงเบาลง และรู้สึกสบายหู ตะวันเดินมาหยุดยืนใต้ต้นหูกวางขนาดใหญ่มองน้ำในสระน้ำที่สะท้อนแสงไฟพราวระยับ ตะวันเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเรื่อยไปตามขอบสระน้ำแล้วไปหยุดนั่งที่เก้าอี้นอนเล่นไม่ไกลจากเขานัก เขาจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาหันไปชนเธอเมื่อหัวค่ำตอนไปตักอาหาร เธอจามถี่ๆ เมื่อเขาจะเดินออกไปหาเธอ หญิงสูงวัยนางหนึ่งก็เดินเข้ามาหาหญิงสาว
“ คุณจันทร์ หลบมาอยู่ที่นี่เอง ป้าอองเดินหาจนทั่วงาน ทำไมไม่ไปสนุกกับเขาในงานล่ะคะ ”
“ พอแล้วละ จันทร์หนวกหู เสียงดังจนปวดหัว จันทร์ว่าจะขึ้นข้างบน แต่กลัวคุณพ่อให้หา เลยออกมานั่งพักหูสักหน่อย ”
“ นี่ก็ยังไม่ดึกมาก คงอีกนานกว่างานจะเลิก คุณจันทร์ไม่ออกไปคุยกับเพื่อนๆก่อนหรือคะ ”
“ พวกนั้นน่ะหรือ กำลังสุดเหวี่ยงกันที่ฟอร์ไม่คุยแล้ว ”
“ อากาศตรงนี้เย็น เดี๋ยวป้าอองไปเอาผ้าคลุมไหล่มาให้นะคะ เสื้อคุณจันทร์บางเดี๋ยวจะไม่สบาย ”
หญิงชราผู้นั้นออกไปแล้ว ตะวันเพิ่งรู้ว่าหญิงสาวคนนี้คือลูกสาวของทุติยะอีกคน แต่ทำไมเธอผู้นี้ดูเงียบๆไม่หวือหวาจี๊ดจ๊าดเหมือนจามจุรี ไอ้ทุติยะมีลูกกี่คน ที่รู้ก็สองคนแล้ว เขายืนมองสาวน้อยคนนั้นอย่างครุ่นคิด ชายหนุ่มเดินกลับมาที่โต๊ะ ชาตรีเมาจนหน้าแดงกร่ำ
“ จะกลับกันหรือยังคุณชาตรี ”
“ อะไร ยังไม่ดึกเท่าไหร่ งานก็ยังไม่เลิก คุณจะกลับแล้วหรือ ”
“ เปล่า,เห็นคุณหน้าแดงๆแล้ว ”
“ ผมกับแอลกอฮอล์เจอกันละเป็นเลือดสูบฉีด แต่ไม่เมานะครับ แน่ะ ท่านประธานขึ้นไปร้องเพลงคู่กับท่านผู้จัดการแล้ว ”
“ ท่านประธานมีลูกกี่คน ผมเห็นแต่ผู้จัดการคนเดียว ”
“ สองคน ท่านผู้จัดการนี่น่ะคนโต ส่วนคุณคนเล็ก เอทำไมวันนี้ถึงไม่เห็น สวยนะ สวยทั้งสองคนเลย คุณคนเล็กน่ะชื่อจันทรา ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แต่พวกเราไม่ค่อยได้เจอเธอหรอก เธอไม่ค่อยยุ่งกับใคร เรียนอย่างเดียว อยู่ไหนนะ ผมจะชี้ให้ดู ”
ชาตรีชะเง้อมองหา
“ ไม่ต้องชะเง้อหาหรอก คนเยอะอย่างนี้จะไปเห็นได้อย่างไร บางทีเขาอาจจะขึ้นไปบนบ้านเขาแล้วก็ได้ ”
“ เออจริง คุณยังไม่เคยเห็นใช่ไหมล่ะ เอาไว้ก็ได้เห็นเองน่ะแหละ ”
ตะวันมองเพื่อนร่วมงานแล้วยิ้ม เขาหันกลับไปมองที่ด้านหลังอีก จันทราอยู่ที่นั่น เธอชื่อจันทรา
ก่อนที่ล้อมเดือนจะกลับเชียงราย หญิงสาวแวะมาหาตะวันอีกครั้ง
“ รู้ว่าคุณล้อมจะกลับเชียงราย ผมอดรู้สึกใจหายไม่ได้ ”
“ ทำไมคะ ”
“ ผมเติบโตอยู่ที่นั่น เรียนและมีความสุขที่นั่น ความรู้สึกมันจึงผูกพันกับเชียงรายมาก ”
“ แล้วทำไมคุณตะวันถึงได้ยอมขายที่สวนลำไยซะล่ะคะ ทั้งๆที่ใจยังอยู่ที่เชียงราย ”
“ ผมมีเหตุผลของผม ”
“ ค่ะ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองเสมอ แต่ไม่เป็นไรนี่คะ ถ้าคุณตะวันว่างและอยากกลับไปพักผ่อน ชมเดือนรีสอร์ทยินดีต้อนรับคุณเสมอค่ะ ”
“ ครับ ถ้าผมว่าง ผมจะกลับไป กลับไปสู่อ้อมอกแม่สายที่ผมไม่เคยลืม ”
“ คุณตะวันกับจามทำงานอยู่ด้วยกันแบบนี้ คงอึดอัดใจแย่ ”
“ ไม่หรอกครับ ผมเตรียมใจมาพร้อมอยู่แล้ว ”
“ คุณคิดยังไงคะ ถึงได้ยอมมาทำงานเป็นผู้ใต้บังคับของจาม ความสามารถอย่างคุณ จะหางานที่ไหนทำก็ได้ไม่ยาก ”
“ มันก็เป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งของผม ”
“ โอเคค่ะ ล้อมจะไม่ถามอีก ก็อย่างที่คุณพูด ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ล้อมกลับก่อนนะคะ หวังว่าชมเดือนรีสอร์ทคงมีโอกาสต้อนรับคุณตะวัน ”
“ ครับ โชคดีนะครับคุณล้อม ไม่แน่ สักวันหนึ่งผมอาจจะกลับไปที่นั่น แล้วคุณล้อมไม่อยากต้อนรับผมก็ได้ ”
“ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ บ๊ายบาย ”
ตะวันถูกจามจุรีเรียกตัวเข้าไปพบอีก นี่หล่อนจะจองเวรเขาทุกวันหรือไรกันนะ
“ มีอะไรจะใช้ผมหรือครับ ท่านผู้จัดการ ”
“ สนิทกับยายล้อมมากเลยนะ ขนาดเขาจะกลับยังอุตส่าห์แวะมาลา ”
“ ทำไมล่ะ ท่านผู้จัดการไม่พอใจอะไรหรือ ที่คุณล้อมเดือนมาคบกับผม ”
“ คนอย่างนายหวังผลตอบแทนเสมอ ขนาดจะเข้ามาทำงานที่นี่ ยังยกเอาการขายที่ดินมาต่อรอง ”
“ ผมก็แค่เสนอคุณหญิงท่าน จะปฏิเสธผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ที่ท่านรับผมเข้าทำงาน น่าจะที่ความรู้ของผมมากกว่า ”
“ นายต้องการอะไรบอกฉันมาตามตรงดีกว่า ที่ขอเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายอยากเข้ามาทำงานที่นี่จริงๆ ”
“ ไปใหญ่แล้วท่านผู้จัดการ ผมจะต้องการอะไร หรือท่านผู้จัดการระแวงผมว่า ติดใจท่านจนต้องตามมาทำงานด้วย ”
“ นี่นายอย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ คนอย่างนายนะหรือที่ฉันต้องระแวง ฉันไม่ชอบขี้หน้านาย นายก็รู้สะเออะเข้ามาทำงานที่นี่ นายต้องมีแผนการไม่ซื่อแน่ ”
“ คุณคงขี้โกงคนอื่นเขาซะชินสินะ เลยคิดว่าคนอื่นเขาต้องมีแผนชั่วไปหมดใช่ไหม ”
“ นี่แก ไอ้บ้า กล้าดียังไงมาว่าฉันขี้โกง ”
“ พูดจี้ใจดำหรือไง ถึงต้องเต้น ”
“ ไอ้บ้า นี่มันบริษัทของฉันนะ แกกล้าดียังไงมาว่าฉันถึงที่นี่ ขอสั่งสอนสักทีเถอะ ”
จามจุรีตบฉาดเข้าที่ใบหน้าของตะวันเต็มแรง ชายหนุ่มเอามือลูบแก้มที่ถูกตบ จ้องจามจุรีอย่างโกรธจัด
“ มากไปแล้วนะ สมัยนี้หมดสมัยรังแกผู้ใต้บังคับบัญชากันแล้ว ”
“ ทำไม แกจะทำอะไรฉัน ”
จามจุรีเชิดหน้าอย่างอวดดี ตะวันปรี่เข้าหาหล่อน รวบร่างบางกอดไว้แน่นแล้วจูบเอาอย่างรุนแรง จามจุรีตกใจดิ้นขลุกขลัก เขาจูบเธอจนสาแก่ใจจึงปล่อย จามจุรีตบเขาอีกครั้งอย่างแสนแค้นและอับอาย
“ ไอ้บ้า อวดดียังไงมาทำกับฉันอย่างนี้ ไอ้เลว ”
“ ผมไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนมาตบหน้าผมฟรีๆ เราเจ๊ากัน คุณตบผม ผมจูบคุณ แต่ถ้าวันไหนอยาดโดนจูบอีก จะเรียกผมมาตบอีกก็ได้นะ ”
“ ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป๊ ”
จามจุรีชี้นิ้วไล่ตัวสั่น ตะวันหันหลังเดินกลับออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน จามจุรีความหาบุหรี่มาจุดสูบอย่างระงับอารมณ์สุดขีด
“ ทำไมผู้จัดการเรียกตัวคุณไปพบบ่อยจัง คุณตะวัน ”
ชาตรีถามเมื่อตะวันกลับมาที่โต๊ะทำงานของเขา
“ ก็คงจะหาคนไประบายอารมณ์มั้ง ”
“ ท่านผู้จัดการเรียกคุณไปด่าหรือ ”
“ ก็ทำนองนั้น ผมมันพนักงานใหม่ คงจ้องหาเรื่องจะไล่ผมออก ”
“ ไม่นา ปกติท่านผู้จัดการไม่เคยจู้จี้กับใครนะ และไม่เคยด่าใครด้วย ”
“ ผมคงเป็นกรณีพิเศษ หาเรื่องได้ทุกวัน ”
“ แล้วหน้าคุณไปโดนอะไรมา แดงเป็นผื่น ”
“ โดนตบ ”
“ พูดเป็นเล่นอยู่เรื่อย เดี๋ยวใครเขาก็เชื่อหรอก ใช่ไหมคุณกุลธิดา ”
ชาตรีหันไปพูดกับโต๊ะข้างๆ ตะวันหยิบแฟ้มออกมาเปิดทำงานต่ออย่างไม่สนใจใครอีก
ทัตมาหาจามจุรีที่บริษัท เขาเห็นตะวันนั่งทำงานอยู่ที่แผนกบัญชี ก็จำได้และตรงเข้าไปแขวะหาเรื่อง
“ เฮ้ย ไอ้นักเลงบ้านนอกนี่หว่า ทำไม
ตะวันเงยหน้ามอง คนที่ยืนเต๊ะวางก้ามตรงหน้า
“ ทำไม ผมมาทำงานที่นี่แล้วทำไม ”
ตะวันย้อน พวกพนักงานที่ทำงานกันอยู่หันมามองกันเป็นตาเดียว
“ ตลกน่ะสิวะ ใครเป็นคนรับแกเข้ามาทำงานที่นี่หา ไม่รู้หรือไงว่าแกน่ะเป็นบุคคลที่ไม่ปรารถนา ”
“ เหรอ แล้วใครเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลล่ะ ลองไปถามเขาดูสิ ว่าทำไมถึงรับผมเข้าทำงาน ”
ทัตหันมองรอบๆเห็นพนักงานกำลังมองอยู่จึงเดินไปที่ห้องของจามจุรี เขาเปิดเข้าไป เห็นจามจุรีกำลังนั่งตรวจงานอยู่ จึงถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ คุณจาม คุณรับไอ้บ้านั่นเข้ามาทำงานหรือ คุณคิดยังไง ”
“ นี่คุณทัต จามไม่ได้เป็นคนรับเขามาทำนะ คุณป้าโน่น เป็นคนรับเขาเข้ามา ทัตเจอเขาแล้วใช่ไหม ”
“ ใช่ ท่าทางมันก็ยังยโสโอหังเหมือนเดิม นี่ขนาดอยู่ในถิ่นเรานะนี่ ”
จามจุรีถอนใจ
“ ทัต จามว่าเราอย่าไปยุ่งกับเขาเลย จามไม่อยากมีเรื่องขัดใจกับคุณป้า ”
“ แล้วทำไมคุณป้าถึงได้รับมันเข้ามาทำงาน ไปเจอกับมันได้ยังไง มันอยู่จนเชียงราย ”
“ ทัตพอเถอะค่ะ จามกำลังตรวจบัญชีเห็นไหม ทัตมีธุระอะไรหรือเปล่า ถ้าไม่มีจามจะทำงาน ”
“ ผมขอโทษ เห็นไอ้นั่นแล้วอารมณ์เสีย คุณจามทำงานไปเถอะผมจะรอ เดี๋ยวเลิกงานแล้วเราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันนะครับ ”
“ ได้เลยค่ะ ตามสบายเลยนะคะ จามขอตรวจบัญชีอีกหน่อยใกล้เสร็จแล้ว ”
ทุติยะนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานบ้านสุรียาบดีสวาทเข้าไปหา สีหน้ายุ่งยากใจ