สวัสดีค่าเพื่อน นี่เป็นกระทู้แรกของเจ้าของกระทู้ พอดีได้อ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย เลยอยากจะมาแชร์เรื่องราวและความรู้สึกดีๆกับเพื่อนๆ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า
ก่อนอื่นเลยนะคะ ต้องบอกก่อนว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนชอบทานค่ะ เลยอยากมาลองเรียนทำอาหารดู ก็เลยไปสมัครเรียนทำอาหารที่โรงเรียนทำอาหารแห่งหนึ่ง แถวสะพานควาย ช่วงแรกๆเจ้าของกระทู้ก็มาเรียนตามปกติค่ะ ก็เริ่มมีเบื่อบ้างอะไรบ้าง พอรู้ว่าตัวเองไม่ได้มาทางสายนี้ มาสายกินอย่างเดียวค่ะ 555
ก็เลยมีแอบโดดบ้างอะไรบ้าง แต่มีอยู่วันนึงเจ้าของกระทู้มาเรียน คือเรียนทำอาหารมันก็ต้องมีเรียนทฤษฎีค่ะ วันนั้นเรียนทฤษฎีที่นั่งอยู่ในห้องเรียนซึ่งเป็นกระจกใส คนนอกสามารถมองเข้าไปเห็นคนเรียนข้างในได้ค่ะ ซึ่งเจ้าของกระทู้มาสายค่ะ เลยเดินผ่านห้องเรียนเพื่อที่จะเข้าห้อง และแล้วก็ได้หันไปเห็นคนๆนึง ซึ่งในสายตาของเจ้าของกระทู้คือ เค้าน่ารักมาก เค้าดูใจดี เค้าดูแบบอบอุ่น น่ารักอ้ะ พูดไม่ถูก555 แต่เค้าเป็นทอมค่ะ และเป็นทอมคนแรกที่ทำให้เจ้าของกระทู้หวั่นไหน (เจ้าของกระทู้เรียนรรหญิงล้วนมา ซึ่งมีทอมผ่านตามากมายแต่ไม่เคยสนใจมาก่อนเลยจนมาเจอคนนี้555) ขอแทนชื่อพี่คนนี้ว่าพี่เรนนะคะ มาวันแรกที่เจอพี่เค้าเนี่ย เราก็เหลือที่นั่งที่เดียวคือ นั่งหน้าพี่เรนค่ะ เราก็เขินมากนะคะ นั่งเรียนไปยิ้มไป คิดเองเออเองอยู่คนเดียวว่าพี่เค้าต้องมองเราอยู่แน่เลย แต่ความจริงป่าวเลย555 เค้านั่งหลังเราเค้าก็ต้องหันหน้ามาทางเราสิ อ่ะไม่เปนไร มาถึงตอนนึง อาจารเรียกให้เราเป็นตัวแทนกลุ่มรายงานเรื่องถ้วยตวง เราก็ต้องออกไปพูดหน้าห้องสิคะ เขินจนหัวฟูเลยคร้าา พูดไปยิ้มไป พี่เค้านั่งยื่นตรงออกมาทางเราพอดีเลย เหมือนพรหมลิขิตเลยโน๊ะ หลังจกนั้นเราก็เริ่มสังเกตุพี่เค้า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ จนมาสะดุดที่รองเท้า คือ เราใส่รองเท้าทรงเดียวกัน สีขาวเหมือนกัน (คือเจ้าของกระทู้เป็นคนซนๆ ไม่หวานเท่าไหร่ เลยใส่รองเท้าผ้าใบอ่ะค่ะ ) พอเราเห็นรองเท้าเหมือนกันเท่านั้นแหละ เรานี่กรี๊ดในใจเลยค่ะ แบบว่าบังเอิญจังเลยเนอะ ต้องเข้าใจอารมคนแอบชอบนะคะ อะไรๆก็จินตนาการได้หมด หลังจากนั้นเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก กลัวเค้ารู้แล้วเสียฟอร์มค่ะ ปกติไม่เคยกล้าแอบชอบใคร กลัวเสียใจค่ะ เลยปล่อยไป ผ่านไปหลายวัน เจ้ของกระทู้ก็ไม่กล้าชวนคุยนะคะ ปกติแล้วเป็นคนพูดมากมากมากค่ะ จนถึงวันที่เจ้าของกระทู้เรียนวันสุดท้ายแล้วค่ะ ก็ได้เจอกันอีก เจ้าของกระทู้ก็ชวนทั้งกลุ่มพี่เค้าไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ว่าวันนั้นเหมือนเพื่อนในกลุ่มพี่เค้ายังทำชิ้นงานไม่เสร็จ เราเลยออกไปทานข้าวก่อน เลยชวนพี่อีกคนนึงไป หาร้านนั่งแต่เผอิญว่าร้านนั้นยุ่งค่ะ เรากะพี่เลยเดินออกจากร้าน มาเจอกับกลุ่มพี่เรนค่ะ พี่ที่เราชวนเค้าบ่นปวดหัวมาซักพักแล้วเลยขอตัว ก่อนไปพี่เค้าดันพูดกับพี่เรนว่า พอดีไม่ค่อยสบาย ฝากเอาน้องไปกินข้าวด้วยนะ เรานี่แบบ เหยยยยย ทำไมพี่ทำกันแบบนี้ ปกติเราจะเป็นคนพูดมาก ไม่ขี้เขิน ซนๆ แต่พอพี่เค้าทิ้งเราไว้กับกลุ่มพี่เรนนี่ เราคิดในใจตายแน่ ไม่เป็นอันกินแน่ๆ แต่ก็เอาค่ะ พยายามนิ่งไว้ ไม่ให้เค้ารู้ว่า เราแอบชอบเค้าอยู่ ระหว่างเดินไปร้านอาหาร พี่เรนก็ชวนเราคุยนู่นคุยนี่ ทิ้งเพื่อนพี่เค้าเดินอยู่คนเดียวเลย เราก็แบบ พยายามพูดให้เป็นปกติที่สุดบ้าง พยายามดึงเพื่อนพี่เค้าเข้ามาบ้างจะได้ไม่เขินเกินไป พี่เค้าก็บอกว่าแพลนจะไปต่างประเทศ เราก็แอบเซงเลยค่ะ ยังไม่ทันได้รู้จักดีเลยก็จะไปแล้วหรอ (เรื่องนี้มีผลจนถึงปัจจุบันค่ะ )จนไปถึงร้านอาหารพี่เค้าก็นั่งหัวโต๊ะ แล้วเราก็นั่งถัดมาอีกข้างๆพี่เค้าอ่ะค่ะ เชื่อมั้ยคะ เรานี่สั่งอาหารไม่ถูกเลย เราเห็นทุกคนสั่งเกาเหลา เราก็สั่งบ้าง แต่เราสั่งแบบไม่ใส่ผัก พี่เค้าก็ตกใจ บอกคนไรกินเกาเหลาไม่ใส่ผัก มันไม่มีเส้นนะ เราก็คิดในใจ รู้แล้ววว แต่คนมันไม่กินผัก เราก็บอกพี่เค้าไปว่า ไม่เป็นไร เอาแบบนี้แหละ พี่เค้าก็เลยสั่งข้าวมากิน ก็ถามเราเอามั้ย อิ่มหรอกินแค่นี้ เราก็แบบ อิ่มสิ (ทั้งๆที่จริงแล้วเป็นคนกินเยอะมากกกกกก แต่ตัวเล็กนะคะ 5555 ) วันนั้นเราอิ่มอกอิ่มใจมากกก พอกินเสร็จ เราก็เดินกลับรรกันค่ะ ระหว่างนั้น พี่เค้าก็ถามว่า แล้วนี่จะไปไหนต่อ เรานี่คิดไปไกลเลย ถามแบบนี้ จะไปด้วยกันหรออออออ เราก็พยายามบอกไปว่าอ่อ เดี๋ยวไปชอปปิ้งต่อ พอดีพ่อแม่ไปต่างประเทศ เลยยังไม่อยากกลับบ้านมันเหงาๆ เลยไปจะไปเดินชอปปิ้ง ที่เซนลาดค่ะ พี่เค้าก็ถามว่า จะไปตอนไหน ไปเลยหรอ กลับกี่โมง เรานี่คิดในใจอย่าถามเยอะได้มั้ยย คิดมากแล้วนะ มารู้ตอนหลังว่า ที่ถามเยอะเพราะนึกว่าเราจะไม่เรียนภาคบ่ายแล้ว เพราะเพื่อนๆกลุ่มเราไม่ค่อยเรียนค่ะ เค้าเลยนึกว่าเราจะเป็นแบบนั้นไปด้วย ซึ่งเคยเป็น แต่พอเจอพี่เค้าเลยไม่เป็น ต้องขอบคุณพี่เค้าที่เป็นกำลังใจให้เราเรียนสำเร็จมาถึงทุกวันนี้555 ต่อค่ะ เราก็นึกว่าพี่เค้าถามเพราะจะไปด้วย แต่ก็ไม่ พี่เค้าบอกว่ามีนัดเพื่อนไว้ เราเลยกร่อยค่ะ เราเลยรีบขึ้นไปทำชิ้นงานให้เสด แล้วจะได้เลิกเร็วจะได้ไปชอปปิ้ง ก่อนกลับเราก็เนียนๆ ไปขอไลน์พี่เค้าไว้ พูดจาแบบ เฮ้ย เอาอะไรมาติดต่อหน่อยดิ๊ (นักเลงมาก ) จนพี่เค้าตกใจ แต่ก็ให้มาค่ะ พอขอมาแล้วเราก็ไปเดินชอปปิ้งปกติ กลับมาบ้าน ก็มาจัดของที่ชอปมา ระหว่างนั้น ก็มีไลน์เข้ามาค่ะ เป็นชื่อพี่เค้าทักมา พอเราเห็นเท่านั้นแหละ วางทุกอย่างเลย หยิบมือถือมาตอบพี่เค้า แบบ ไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่555 ประชด แบบยิ้มไปยิ้มมา ก็คุยๆกัน พี่เค้าก็ถามว่า เป็นไงบ้าง ทำไรอยู่ เราก็บอกว่าจัดของอยู่ ที่ไปชอปมาวันนี้ เดี๋ยวถ่ายรูปให้ดูนะ คือไร ไม่ค่อยอ่อยเลยคร่าา เราก็คุยกัน คืนนั้นคุยถึงตีสองค่า ทั้งๆที่เมื่อก่อนเจ้าของกระทู้ ไม่ค่อยแตะโทรศัพท์คุยกับใครแบบนี้เท่าไหร่ แต่นี้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายมากกก เราคุยกันสนิทกันเร็วมากค่ะ พี่เค้าก็ต้องไปเรียนต่อวันพรุ่งนี้ พี่เค้าเลยขอตัวไปนอนก่อน เราก็นอนไม่หลับยันตี5ค่ะ อ่อ ลืมบอกไปว่า เรากับพี่เค้านัดเจอกันที่ รร วันรุ่งขึ้น คือเราอ่ะเรียนจบแล้ว แต่ยังอยากไปรรอยู่ 555 เรานอนไม่หลับคืนนั้น เราเลยลุกขึ้นมาเลือกชุดต่างๆนานา มีความสุขมากกกก เช้าวันต่อมาเราก็ไปหาพี่เค้าที่รร วันนี้เรียนปฏิบัติ พี่เค้าก็ทำอาหารมา เราก็นั่งรอ ก็มานั่งทานข้าวด้วยกัน อาหารที่พี่เค้าทำ เราไม่รับรู้รสชาติอาหารอะไรแล้ว รู้แต่เรานี่หุบยิ้มไม่ได้เลยอ่ะ คนมันเขินอ่ะ ช่วงนี้เป็นอะไรที่เรากินอะไรไม่ได้เลย กินน้อยมากกกกก พี่เค้าก็เริ่มแสดงให้เราเห็นเรื่อยๆว่าพี่เค้าก็สนใจในตัวเราเหมือนกันนะ เราก็เริ่มชอบพี่เค้ามากขึ้นเรื่อยๆค่ะ มีไปเดินห้างกันบ้างไรบ้าง พี่เค้าจะเป็นคนตลก กวนๆ แล้วก็มีหื่นบ้างไรบ้าง ชอบแกล้ง มุขเยอะค่ะ ทำให้เราตกหลุมเข้าไปเต็มๆเลย วันนึงพี่เค้าขอไปส่งที่บ้าน เราก็แบบจะดีเหรอ คือ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าที่บ้านจะว่ายังไงอ่ะค่ะ จนพี่เค้าแบบออกแนวน้อยใจว่าทำไมไม่ให้เค้าไปส่ง เราก็เลยโอเคค่ะ ไปก็ไป ระหว่างที่พี่เค้าขับรถมาส่ง พี่เค้าก็ชอบแกล้งเราค่ะ จับมือแล้วก็ลูบๆบ้าง ชอบเหล่มองบ้าง เรานี่เขินตัวลอยอ่ะค่ะ ชอบยื่นหน้ามาใกล้ๆ มาซบไหล่บ้างไรบ้าง อ่อยกันชัดๆ เรียกได้ว่ามือปลาหมึกมากค่ะ จนหลังๆเราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวันเลยค่ะ จนวันนึงพี่เค้าก็พาไปทานข้าวแถวคอนโดพี่เค้า แล้วมันก็ค่อนข้างดึกแล้ว คอนโดพี่เค้ากับบ้านเราค่อนข้างไกลกันค่ะ พี่เค้าก็บ่นว่า ปวดหัว ง่วงนอน ทำท่าได้เหมือนมากกกค่ะ จนเราเป็นห่วง เลยบอกว่าไม่ต้องไปส่งก็ได้ เดี๋ยวเรากลับเอง แล้วพี่เค้าก็บอกว่า ไม่เอา เป็นห่วง มันดึกแล้ว เราก็กลัวเค้าขับรถไม่ไหว พี่เค้าก็บอกว่า คอนโดอยู่ข้างหน้า แต่ถ้าไปส่งบ้านต้องกลับรถ เท่านั้นแหละค่ะ เรารู้ทันพี่เค้าหมดเลยว่าพี่เค้าต้องการอะไร ต้องการอยากอยู่ด้วยค่ะ อย่าเพิ่งคิดไปไกล55 เราก็อยากอยู่กับพี่เค้าค่ะ เราเลยบอกว่า นั้นขับกลับไปคอนโดละกัน จะได้ไม่ต้องขับรถไกลอันตราย ขออธิบายนิดนึงนะคะ ที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันง่าย เพราะหนึ่งพี่เค้าเป็นทอม เราเลยไว้ใจเป็นพิเศษ แล้วอีกอย่างพี่เค้าก็จะไปเมืองนอกแล้วเราเลย อยากใช้เวลาในช่วงนั้นให้มีความสุขและคุ้มค่าที่สุดกับพี่เค้า หลายๆคนคงเข้าใจว่าการที่เรารู้สึกชอบใครสักคนแล้วจะต้องจากกัน มันทรมานแค่ไหน เราเลยอยากใช้ช่วงเวลานี้ให้มีค่าที่สุดน่ะค่ะ เราเลยไปคอนโดกัน คืนนั้นเราก็อยู่ด้วยกันทั้งคืนเรามีความสุขมาก ช่วงนั้นพ่อแม่ยังไม่กลับมาจากญี่ปุ่นค่ะ เลยมีเวลาอยู่ด้วยกันสองคน พอถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่กลับมา เราก็ได้มีโอกาสพาพี่เรนไปเจอกับคุณพ่อคุณแม่ ไปทานข้าวด้วยกัน มาส่งบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็เข้าใจเราสองคนนะคะ จนวันนึง พี่เค้าได้มาพักที่บ้านเราเป็นวันแรก วันนั้นพี่เค้าก็พูดคำๆนึงออกมา คือคำที่เราไม่คิดไม่ฝันว่าพี่เค้าจะพูดออกมาอ่ะค่ะ ว่า เป็นแฟนกันนะ เรานี่แบบ ปรี๊ดเลยค่ะ ตกใจมากกกก รอไรคะ ตอบไปเลยว่า ตกลงค่ะ 5555 หลังจากนั้นมา เรากับพี่เค้าก็ตัดสินใจว่าจะไปต่างประเทศด้วยกัน เพราะ เป็นแฟนกันแล้ว เราไม่อยากห่างกัน เราเลยเริ่มขอพ่อแม่อีกครั้ง (เจ้าของกระทู้เคยเรียนเมืองนอกมาสองประเทศค่ะ) ก็ลุ้นว่าคุณพ่อคุณแม่จะให้รึเปล่า เพราะเราเองก็เพิ่งกลับไทยมาได้ไม่นาน สรุปแล้วพ่อแม่ก็ให้ค่ะ ไฟเขียว ทุกวันนี้ เราเลยได้มาอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีทุกข์บ้างสุขบ้าง ต่างคนต่างเหนื่อย มีปากเสียงกันบ้าง แต่ทุกๆครั้งที่เราทะเลาะกัน พอเราดีกันมันทำให้เรารู้ว่า เรารักกันมากแค่ไหน ยิ่งทะเลาะ ยิ่งเข้าใจ เราเริ่มปรับตัวเข้าหากัน เพราะตอนที่คบที่ไทย เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมันเลยดูสวยงาม แต่พอเราได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ต่างคน ต่างครอบครัว ต่างคำสอน ต่างความเชื่อ มีทะเลาะกันบ้าง แต่พี่เค้าน่ารักมากนะคะ ที่คอยพูดดีๆ คอยง้อ น่ารักแบบนี้ รักตายเลย ชอบเอาของกินมาล่อ เล่นมุขให้หายงอน รู้ใจ(หรือรู้ทัน555) ตอนนี้ พี่เค้าประสบอุบัติเหตุเข้ารพ นี่ก็วันที่ 11แล้วที่นอนรพ คิดถึงพี่เค้าจัง ขอให้หายไวไวนะคะ ที่เขียนกระทู้นี้มาก็เพราะว่าคิดถึง คนเคยอยู่ด้วยกัน เคยทะเลาะ เคยมีความสุข คอยเป็นห่วง ตอนนี้เราต้องไปไหนมาไหนคนเดียว รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกเหงา และคิดถึงบี๋มากๆนะ บี๋ทำให้เค้ารู้ว่า การที่เรารักใครสักคน และยอมทำอะไรเพื่อใครสักคน มันมีความสุขขนาดไหน รักมากนะคะ
ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะคะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใด เจ้าของกระทู้ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณค่าา ^^
เคยมั้ย แอบชอบ แต่ได้เป็นแฟนแบบงงๆซะงั้น><
ก่อนอื่นเลยนะคะ ต้องบอกก่อนว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนชอบทานค่ะ เลยอยากมาลองเรียนทำอาหารดู ก็เลยไปสมัครเรียนทำอาหารที่โรงเรียนทำอาหารแห่งหนึ่ง แถวสะพานควาย ช่วงแรกๆเจ้าของกระทู้ก็มาเรียนตามปกติค่ะ ก็เริ่มมีเบื่อบ้างอะไรบ้าง พอรู้ว่าตัวเองไม่ได้มาทางสายนี้ มาสายกินอย่างเดียวค่ะ 555
ก็เลยมีแอบโดดบ้างอะไรบ้าง แต่มีอยู่วันนึงเจ้าของกระทู้มาเรียน คือเรียนทำอาหารมันก็ต้องมีเรียนทฤษฎีค่ะ วันนั้นเรียนทฤษฎีที่นั่งอยู่ในห้องเรียนซึ่งเป็นกระจกใส คนนอกสามารถมองเข้าไปเห็นคนเรียนข้างในได้ค่ะ ซึ่งเจ้าของกระทู้มาสายค่ะ เลยเดินผ่านห้องเรียนเพื่อที่จะเข้าห้อง และแล้วก็ได้หันไปเห็นคนๆนึง ซึ่งในสายตาของเจ้าของกระทู้คือ เค้าน่ารักมาก เค้าดูใจดี เค้าดูแบบอบอุ่น น่ารักอ้ะ พูดไม่ถูก555 แต่เค้าเป็นทอมค่ะ และเป็นทอมคนแรกที่ทำให้เจ้าของกระทู้หวั่นไหน (เจ้าของกระทู้เรียนรรหญิงล้วนมา ซึ่งมีทอมผ่านตามากมายแต่ไม่เคยสนใจมาก่อนเลยจนมาเจอคนนี้555) ขอแทนชื่อพี่คนนี้ว่าพี่เรนนะคะ มาวันแรกที่เจอพี่เค้าเนี่ย เราก็เหลือที่นั่งที่เดียวคือ นั่งหน้าพี่เรนค่ะ เราก็เขินมากนะคะ นั่งเรียนไปยิ้มไป คิดเองเออเองอยู่คนเดียวว่าพี่เค้าต้องมองเราอยู่แน่เลย แต่ความจริงป่าวเลย555 เค้านั่งหลังเราเค้าก็ต้องหันหน้ามาทางเราสิ อ่ะไม่เปนไร มาถึงตอนนึง อาจารเรียกให้เราเป็นตัวแทนกลุ่มรายงานเรื่องถ้วยตวง เราก็ต้องออกไปพูดหน้าห้องสิคะ เขินจนหัวฟูเลยคร้าา พูดไปยิ้มไป พี่เค้านั่งยื่นตรงออกมาทางเราพอดีเลย เหมือนพรหมลิขิตเลยโน๊ะ หลังจกนั้นเราก็เริ่มสังเกตุพี่เค้า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยค่ะ จนมาสะดุดที่รองเท้า คือ เราใส่รองเท้าทรงเดียวกัน สีขาวเหมือนกัน (คือเจ้าของกระทู้เป็นคนซนๆ ไม่หวานเท่าไหร่ เลยใส่รองเท้าผ้าใบอ่ะค่ะ ) พอเราเห็นรองเท้าเหมือนกันเท่านั้นแหละ เรานี่กรี๊ดในใจเลยค่ะ แบบว่าบังเอิญจังเลยเนอะ ต้องเข้าใจอารมคนแอบชอบนะคะ อะไรๆก็จินตนาการได้หมด หลังจากนั้นเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก กลัวเค้ารู้แล้วเสียฟอร์มค่ะ ปกติไม่เคยกล้าแอบชอบใคร กลัวเสียใจค่ะ เลยปล่อยไป ผ่านไปหลายวัน เจ้ของกระทู้ก็ไม่กล้าชวนคุยนะคะ ปกติแล้วเป็นคนพูดมากมากมากค่ะ จนถึงวันที่เจ้าของกระทู้เรียนวันสุดท้ายแล้วค่ะ ก็ได้เจอกันอีก เจ้าของกระทู้ก็ชวนทั้งกลุ่มพี่เค้าไปทานข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่ว่าวันนั้นเหมือนเพื่อนในกลุ่มพี่เค้ายังทำชิ้นงานไม่เสร็จ เราเลยออกไปทานข้าวก่อน เลยชวนพี่อีกคนนึงไป หาร้านนั่งแต่เผอิญว่าร้านนั้นยุ่งค่ะ เรากะพี่เลยเดินออกจากร้าน มาเจอกับกลุ่มพี่เรนค่ะ พี่ที่เราชวนเค้าบ่นปวดหัวมาซักพักแล้วเลยขอตัว ก่อนไปพี่เค้าดันพูดกับพี่เรนว่า พอดีไม่ค่อยสบาย ฝากเอาน้องไปกินข้าวด้วยนะ เรานี่แบบ เหยยยยย ทำไมพี่ทำกันแบบนี้ ปกติเราจะเป็นคนพูดมาก ไม่ขี้เขิน ซนๆ แต่พอพี่เค้าทิ้งเราไว้กับกลุ่มพี่เรนนี่ เราคิดในใจตายแน่ ไม่เป็นอันกินแน่ๆ แต่ก็เอาค่ะ พยายามนิ่งไว้ ไม่ให้เค้ารู้ว่า เราแอบชอบเค้าอยู่ ระหว่างเดินไปร้านอาหาร พี่เรนก็ชวนเราคุยนู่นคุยนี่ ทิ้งเพื่อนพี่เค้าเดินอยู่คนเดียวเลย เราก็แบบ พยายามพูดให้เป็นปกติที่สุดบ้าง พยายามดึงเพื่อนพี่เค้าเข้ามาบ้างจะได้ไม่เขินเกินไป พี่เค้าก็บอกว่าแพลนจะไปต่างประเทศ เราก็แอบเซงเลยค่ะ ยังไม่ทันได้รู้จักดีเลยก็จะไปแล้วหรอ (เรื่องนี้มีผลจนถึงปัจจุบันค่ะ )จนไปถึงร้านอาหารพี่เค้าก็นั่งหัวโต๊ะ แล้วเราก็นั่งถัดมาอีกข้างๆพี่เค้าอ่ะค่ะ เชื่อมั้ยคะ เรานี่สั่งอาหารไม่ถูกเลย เราเห็นทุกคนสั่งเกาเหลา เราก็สั่งบ้าง แต่เราสั่งแบบไม่ใส่ผัก พี่เค้าก็ตกใจ บอกคนไรกินเกาเหลาไม่ใส่ผัก มันไม่มีเส้นนะ เราก็คิดในใจ รู้แล้ววว แต่คนมันไม่กินผัก เราก็บอกพี่เค้าไปว่า ไม่เป็นไร เอาแบบนี้แหละ พี่เค้าก็เลยสั่งข้าวมากิน ก็ถามเราเอามั้ย อิ่มหรอกินแค่นี้ เราก็แบบ อิ่มสิ (ทั้งๆที่จริงแล้วเป็นคนกินเยอะมากกกกกก แต่ตัวเล็กนะคะ 5555 ) วันนั้นเราอิ่มอกอิ่มใจมากกก พอกินเสร็จ เราก็เดินกลับรรกันค่ะ ระหว่างนั้น พี่เค้าก็ถามว่า แล้วนี่จะไปไหนต่อ เรานี่คิดไปไกลเลย ถามแบบนี้ จะไปด้วยกันหรออออออ เราก็พยายามบอกไปว่าอ่อ เดี๋ยวไปชอปปิ้งต่อ พอดีพ่อแม่ไปต่างประเทศ เลยยังไม่อยากกลับบ้านมันเหงาๆ เลยไปจะไปเดินชอปปิ้ง ที่เซนลาดค่ะ พี่เค้าก็ถามว่า จะไปตอนไหน ไปเลยหรอ กลับกี่โมง เรานี่คิดในใจอย่าถามเยอะได้มั้ยย คิดมากแล้วนะ มารู้ตอนหลังว่า ที่ถามเยอะเพราะนึกว่าเราจะไม่เรียนภาคบ่ายแล้ว เพราะเพื่อนๆกลุ่มเราไม่ค่อยเรียนค่ะ เค้าเลยนึกว่าเราจะเป็นแบบนั้นไปด้วย ซึ่งเคยเป็น แต่พอเจอพี่เค้าเลยไม่เป็น ต้องขอบคุณพี่เค้าที่เป็นกำลังใจให้เราเรียนสำเร็จมาถึงทุกวันนี้555 ต่อค่ะ เราก็นึกว่าพี่เค้าถามเพราะจะไปด้วย แต่ก็ไม่ พี่เค้าบอกว่ามีนัดเพื่อนไว้ เราเลยกร่อยค่ะ เราเลยรีบขึ้นไปทำชิ้นงานให้เสด แล้วจะได้เลิกเร็วจะได้ไปชอปปิ้ง ก่อนกลับเราก็เนียนๆ ไปขอไลน์พี่เค้าไว้ พูดจาแบบ เฮ้ย เอาอะไรมาติดต่อหน่อยดิ๊ (นักเลงมาก ) จนพี่เค้าตกใจ แต่ก็ให้มาค่ะ พอขอมาแล้วเราก็ไปเดินชอปปิ้งปกติ กลับมาบ้าน ก็มาจัดของที่ชอปมา ระหว่างนั้น ก็มีไลน์เข้ามาค่ะ เป็นชื่อพี่เค้าทักมา พอเราเห็นเท่านั้นแหละ วางทุกอย่างเลย หยิบมือถือมาตอบพี่เค้า แบบ ไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่555 ประชด แบบยิ้มไปยิ้มมา ก็คุยๆกัน พี่เค้าก็ถามว่า เป็นไงบ้าง ทำไรอยู่ เราก็บอกว่าจัดของอยู่ ที่ไปชอปมาวันนี้ เดี๋ยวถ่ายรูปให้ดูนะ คือไร ไม่ค่อยอ่อยเลยคร่าา เราก็คุยกัน คืนนั้นคุยถึงตีสองค่า ทั้งๆที่เมื่อก่อนเจ้าของกระทู้ ไม่ค่อยแตะโทรศัพท์คุยกับใครแบบนี้เท่าไหร่ แต่นี้นอนไม่หลับกระสับกระส่ายมากกก เราคุยกันสนิทกันเร็วมากค่ะ พี่เค้าก็ต้องไปเรียนต่อวันพรุ่งนี้ พี่เค้าเลยขอตัวไปนอนก่อน เราก็นอนไม่หลับยันตี5ค่ะ อ่อ ลืมบอกไปว่า เรากับพี่เค้านัดเจอกันที่ รร วันรุ่งขึ้น คือเราอ่ะเรียนจบแล้ว แต่ยังอยากไปรรอยู่ 555 เรานอนไม่หลับคืนนั้น เราเลยลุกขึ้นมาเลือกชุดต่างๆนานา มีความสุขมากกกก เช้าวันต่อมาเราก็ไปหาพี่เค้าที่รร วันนี้เรียนปฏิบัติ พี่เค้าก็ทำอาหารมา เราก็นั่งรอ ก็มานั่งทานข้าวด้วยกัน อาหารที่พี่เค้าทำ เราไม่รับรู้รสชาติอาหารอะไรแล้ว รู้แต่เรานี่หุบยิ้มไม่ได้เลยอ่ะ คนมันเขินอ่ะ ช่วงนี้เป็นอะไรที่เรากินอะไรไม่ได้เลย กินน้อยมากกกกก พี่เค้าก็เริ่มแสดงให้เราเห็นเรื่อยๆว่าพี่เค้าก็สนใจในตัวเราเหมือนกันนะ เราก็เริ่มชอบพี่เค้ามากขึ้นเรื่อยๆค่ะ มีไปเดินห้างกันบ้างไรบ้าง พี่เค้าจะเป็นคนตลก กวนๆ แล้วก็มีหื่นบ้างไรบ้าง ชอบแกล้ง มุขเยอะค่ะ ทำให้เราตกหลุมเข้าไปเต็มๆเลย วันนึงพี่เค้าขอไปส่งที่บ้าน เราก็แบบจะดีเหรอ คือ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าที่บ้านจะว่ายังไงอ่ะค่ะ จนพี่เค้าแบบออกแนวน้อยใจว่าทำไมไม่ให้เค้าไปส่ง เราก็เลยโอเคค่ะ ไปก็ไป ระหว่างที่พี่เค้าขับรถมาส่ง พี่เค้าก็ชอบแกล้งเราค่ะ จับมือแล้วก็ลูบๆบ้าง ชอบเหล่มองบ้าง เรานี่เขินตัวลอยอ่ะค่ะ ชอบยื่นหน้ามาใกล้ๆ มาซบไหล่บ้างไรบ้าง อ่อยกันชัดๆ เรียกได้ว่ามือปลาหมึกมากค่ะ จนหลังๆเราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวันเลยค่ะ จนวันนึงพี่เค้าก็พาไปทานข้าวแถวคอนโดพี่เค้า แล้วมันก็ค่อนข้างดึกแล้ว คอนโดพี่เค้ากับบ้านเราค่อนข้างไกลกันค่ะ พี่เค้าก็บ่นว่า ปวดหัว ง่วงนอน ทำท่าได้เหมือนมากกกค่ะ จนเราเป็นห่วง เลยบอกว่าไม่ต้องไปส่งก็ได้ เดี๋ยวเรากลับเอง แล้วพี่เค้าก็บอกว่า ไม่เอา เป็นห่วง มันดึกแล้ว เราก็กลัวเค้าขับรถไม่ไหว พี่เค้าก็บอกว่า คอนโดอยู่ข้างหน้า แต่ถ้าไปส่งบ้านต้องกลับรถ เท่านั้นแหละค่ะ เรารู้ทันพี่เค้าหมดเลยว่าพี่เค้าต้องการอะไร ต้องการอยากอยู่ด้วยค่ะ อย่าเพิ่งคิดไปไกล55 เราก็อยากอยู่กับพี่เค้าค่ะ เราเลยบอกว่า นั้นขับกลับไปคอนโดละกัน จะได้ไม่ต้องขับรถไกลอันตราย ขออธิบายนิดนึงนะคะ ที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันง่าย เพราะหนึ่งพี่เค้าเป็นทอม เราเลยไว้ใจเป็นพิเศษ แล้วอีกอย่างพี่เค้าก็จะไปเมืองนอกแล้วเราเลย อยากใช้เวลาในช่วงนั้นให้มีความสุขและคุ้มค่าที่สุดกับพี่เค้า หลายๆคนคงเข้าใจว่าการที่เรารู้สึกชอบใครสักคนแล้วจะต้องจากกัน มันทรมานแค่ไหน เราเลยอยากใช้ช่วงเวลานี้ให้มีค่าที่สุดน่ะค่ะ เราเลยไปคอนโดกัน คืนนั้นเราก็อยู่ด้วยกันทั้งคืนเรามีความสุขมาก ช่วงนั้นพ่อแม่ยังไม่กลับมาจากญี่ปุ่นค่ะ เลยมีเวลาอยู่ด้วยกันสองคน พอถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่กลับมา เราก็ได้มีโอกาสพาพี่เรนไปเจอกับคุณพ่อคุณแม่ ไปทานข้าวด้วยกัน มาส่งบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็เข้าใจเราสองคนนะคะ จนวันนึง พี่เค้าได้มาพักที่บ้านเราเป็นวันแรก วันนั้นพี่เค้าก็พูดคำๆนึงออกมา คือคำที่เราไม่คิดไม่ฝันว่าพี่เค้าจะพูดออกมาอ่ะค่ะ ว่า เป็นแฟนกันนะ เรานี่แบบ ปรี๊ดเลยค่ะ ตกใจมากกกก รอไรคะ ตอบไปเลยว่า ตกลงค่ะ 5555 หลังจากนั้นมา เรากับพี่เค้าก็ตัดสินใจว่าจะไปต่างประเทศด้วยกัน เพราะ เป็นแฟนกันแล้ว เราไม่อยากห่างกัน เราเลยเริ่มขอพ่อแม่อีกครั้ง (เจ้าของกระทู้เคยเรียนเมืองนอกมาสองประเทศค่ะ) ก็ลุ้นว่าคุณพ่อคุณแม่จะให้รึเปล่า เพราะเราเองก็เพิ่งกลับไทยมาได้ไม่นาน สรุปแล้วพ่อแม่ก็ให้ค่ะ ไฟเขียว ทุกวันนี้ เราเลยได้มาอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีทุกข์บ้างสุขบ้าง ต่างคนต่างเหนื่อย มีปากเสียงกันบ้าง แต่ทุกๆครั้งที่เราทะเลาะกัน พอเราดีกันมันทำให้เรารู้ว่า เรารักกันมากแค่ไหน ยิ่งทะเลาะ ยิ่งเข้าใจ เราเริ่มปรับตัวเข้าหากัน เพราะตอนที่คบที่ไทย เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมันเลยดูสวยงาม แต่พอเราได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว ต่างคน ต่างครอบครัว ต่างคำสอน ต่างความเชื่อ มีทะเลาะกันบ้าง แต่พี่เค้าน่ารักมากนะคะ ที่คอยพูดดีๆ คอยง้อ น่ารักแบบนี้ รักตายเลย ชอบเอาของกินมาล่อ เล่นมุขให้หายงอน รู้ใจ(หรือรู้ทัน555) ตอนนี้ พี่เค้าประสบอุบัติเหตุเข้ารพ นี่ก็วันที่ 11แล้วที่นอนรพ คิดถึงพี่เค้าจัง ขอให้หายไวไวนะคะ ที่เขียนกระทู้นี้มาก็เพราะว่าคิดถึง คนเคยอยู่ด้วยกัน เคยทะเลาะ เคยมีความสุข คอยเป็นห่วง ตอนนี้เราต้องไปไหนมาไหนคนเดียว รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกเหงา และคิดถึงบี๋มากๆนะ บี๋ทำให้เค้ารู้ว่า การที่เรารักใครสักคน และยอมทำอะไรเพื่อใครสักคน มันมีความสุขขนาดไหน รักมากนะคะ
ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะคะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดประการใด เจ้าของกระทู้ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณค่าา ^^