อันนี้เป็นกระทู้แรกของผม ผมไม่เก่งเรื่องการเล่าเรียงความหรืออะไรเท่าไหร่ ผิดพลาดประการใด ขออภัยก่อนเลยนะครับ
ยาวหน่อยนะครับ แต่อดทนอ่านช่วยผมตัดสินใจหน่อยครับ
ผมอายุ27ปี คบกับแฟนมา 7ปี กำลังเข้าปีที่8.เล่าย้อนกลับไปเลยนะครับผมคบกับแฟนตอนผมอายุ19แฟนอายุ16 ม.5 เค้าอยู่ต่างจังหวัดอยู่ต่างภาคเลยแหล่ะ เรารู้จักกันผ่านโปรแกรมแชท QQ ตอนเค้าอายุ15. เค้าอยู่ม 4 ซึ่งตอนนั้นผมก็มีแฟน. เค้าก็มีคนคุยแบบเด็กๆ. ผมขอเบอร์เค้าด้วยความเจ้าชู้ไม่ได้พิศมัยอะไรเลยกะคุยแก้เหงาเรื่อยเปื่อย แต่เค้าเป็นเด็กที่นิสัยน่ารักมาก เวลาผมมีปัญหากับแฟนจะคุยกับเค้าประจำ จนกระทั่งผมเลิกกับแฟนคนก่อนและมาคุยกับเค้า คุยกันแบบต่างคนต่างมีคนคุยคุยไปเรื่อยๆ ประมานเกือบปี ทั้งๆที่ผมก็เปลี่ยนแฟนไปเรื่อย จนกระทั้งเค้ามาหาผมตอน ม. 5 อายุ16 มาต่างจังหวัดคนเดียว นั่งรถทัวร์ข้ามภาคมาในที่ๆไม่เคยมา. คุณคิดดู บ้าขนาดใหน แต่มีบ้ากว่านั้นครับ เพราะเค้าบอกพ่อแม่ของเค้าว่าเค้าจะไปดูหิ่งห้อยที่จังหวัดไรสักอย่างผมก็ไม่แน่ใจ แต่เค้าไม่ไป ตีตั๋วยาวมาหาผมเลย เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 3วันเต็ม พาเที่ยวพากิน คือแหลกครับ คือเค้าเป็นคนน่ารัก. แต่ไม่เคยเจอโลกภายนอกเลย มีหน้าที่แค่เรียนและเรียนอย่างเดียว การนั่งรถมาหาผม 18 ชม นั่นคือประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ของเค้า แต่ในช่วงนั้นผมไม่ค่อยเห็นคุณค่าหรอก ยังคิดไรไม่ได้ ยังเกเร ยังมีเรื่องยาเสพติดยังติดเพื่อนยังเที่ยว. แต่ตั้งแต่เริ่มคบกับเค้า อันดับแรกเลยคือผมเลิกยุ่งกับยาเสพติด. เพราะผมเริ่มรักเธอ ผมไม่อยากให้เธอเสียใจเรื่องที่มันร้ายแรงขนาดนี้ อ่อ ตอนนั้นผมไม่ได้อาศัยกับพ่อแม่ครับ ผมออกมาใช้ชีวิตเกเรอยู่ภายนอกคนเดียวครับ ย้อนกลับไปเล่าต่อนะครับ ตั้งแต่เธอกลับไปเราก็ติดต่อทางโทรศัพท์ตลอด 5-6เดือนเราจะเจอกันที โดยเธอมาหาผมตลอด. จนเธอจะจบม. 6 ผมไปหาเธอที่จังหวัดของเธอ
เป็นครั้งแรกเลยครับที่ ผมรู้สึกรักเธอจนหมดหัวใจเลยครับ เพราะการที่ผมนั่งรถไปในที่ที่ไม่รู้จักผมว่ามันคือความเสี่ยงนะ แต่. เธอนั่งมาหาผม นั่นแหล่ะครับ ผมนี่รักเลย ผมไปหาเค้าโดยที่พักโรงแรมไม่ได้พักบ้านเค้า ตอนนั้นเค้าอาศัยกับป้าในตัวเมืองเพราะเค้าต้องมาเรียนในตัวเมือง ป้าคือผู้ปกครองเค้าครับในช่วงนั้น ผมเลยต้องพักโรงแรมเพราะคนที่บ้านเธอยังไม่รู้ว่าเราคบกัน แค่คืนแรกที่เธอมานอนกับผมที่โรงแรม ป้าเธอก็ตามสุดยอดครับ ป้าเค้าโทรตามแบบถี่มาก ผมเลยตัดสินใจให้เค้าบอกว่าอยู่กับผมที่โรงแรม ป้าเค้ามาหาถึงโรงแรมและสวดเราสองคนกันสุดยอดครับ แต่ท่านก็ชวนผมไปพักที่บ้าน อยู่ในสายตาจะดีกว่าประมานนั้นแหล่ะครับ ป้ากับผมคุยกันหลายเรื่อง ป้าก็คงเห็นด้วยว่าผมคงเกเรมาก มีรอยสัก เรียนไม่จบไม่มีการงานอะไรที่จับต้องได้สักอย่าง แต่ป้าไม่เคยแสดงทีท่ารังเกียจอะไรผมเลยครับ ป้าสอนผมทุกอย่าง ทั้งการคบกันและการใช้ชีวิต ตอนนั้นผมอายุ21 ผมมีวุติแค่ม. 2 คือผมไม่จบ3 ครับ ป้าเค้าเป็นพี่สาวของพ่อแฟนผม เค้ารู้จักพ่อแฟนผมดีว่า ต้องทำยังไงถึงจะรักกับลูกสาวเค้าได้ ป้าเค้าบอกว่า พยายามเรียนให้จบนะ. จบ กศน ม. 6ก็ยังดี สอนหลายเรื่องครับ สอนจนผมรู้สึกเคารพท่านมากตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ผมไปเที่ยวจังหวัดเค้าโดยที่อาศัยบ้านป้าเค้า 3วันผมก็กลับมาบ้านผมครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านกับพ่อแม่แล้วนะครับ ผมช่วยงานท่านทุกอย่าง งานสวนงานที่ร้าน ที่บ้านผมเป็นร้านขายของชำครับ จนกระทั่งแฟนผมเค้าจบ ม. 6 ต้องเลือกที่เรียน เค้ามีโอกาสเลือกคณะและมหาลัยที่ใกล้บ้านเค้าได้มากครับเพราะเค้าเรียนดีจบจากโรงเรียนอันดับ1ของจังหวัด และเกรดเฉลี่ยระดับหัวกะทิ. แต่.... เธอเลือกมาเรือนในมหาลัยภาคที่ผมอยู่ เพียงเพราะเหตุผลเดียวคือเราจะได้เจอกันบ่อยๆเพราะมหาลัยกับบ้านผมเดินทางแค่6ชม เราเจอกันทุกเดือน ผมไปหาเธอมั่งเธอมาหาผมมั่ง ตลอด5ปีที่เธอเรียน ในระหว่างนั้นเราสองคนทำอะไรเพื่อกันเยอะมากครับ เธอก็ตั้งใจเรียนเพื่อถ้าจบเราก็จะได้เริ่มสร้างครอบครัวด้วยกัน ผมก็ตั้งใจทำงานตั้งใจเลิกทุกอย่างที่ไม่ดี ผมหยุดเที่ยว หยุดกินเหล้า ผมเริ่มเรียนต่อต่อขั้นปริญญาตรีภาคพิเศษ เสาร์ อาทิตย์ เพื่อผมจะได้มีเวลาทำงานทำงานวันปกติ ตอนนี้ผมมีร้านของตัวเอง มีงาน มีวุฒิภาวะ มีคนนับน่าถือตาในสังคม มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างอนาคตกับเธอ พอเธอเรียนจบทำงานเปิดคลีนิคของตัวเอง ผมมีงานที่มั่นคง ชีวิตแฮบปี้ ผมต้องการเข้าหาพ่อแม่ของเค้าอย่างถูกต้อง คุณเชื่อมั้ยตลอดที่คบกันที่ผ่านมาผมไม่เคยเจอพ่อแม่เค้าสักครั้งเดียว แต่ท่านรับรู้ว่าเราคบกัน ท่านเคยห้ามแฟนผมว่าอย่าเพิ่งคิดเรื่องรักให้เอาเรื่องเรียนก่อน แต่แฟนผมเค้าดื้อเงียบครับ ตะแบงยันทุกวันนี้ เราแฮบปี้กันครับ และรักกันมาก จนวันนึงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พ่อผมติดเมียน้อย ท่านเดินออกจากบ้านไปพร้อมทรัพย์สินทั้งหมด และทิ้งหนี้ไว้ที่แม่ผม แม่ผมก็รับภาระเต็มๆ โดยที่ผมคอยช่วยตลอด. แต่เมื่อ 4-5เดือนที่ผ่านมา แม่ผมมีโรคประจำตัวคือ ความดันไขมันเบาหวาน แม่ผมมีภาวะเส้นเลือดสมองตีบมีอาการชาครึ่งซีก ง่ายๆก็คืออัมพฤกนั่นแหล่ะครับ ผมดูแลแม่ตลอดพยายามรักษาจนท่านกลับมาเดินได้ปกติ แต่ผมไม่ให้ท่านกลับไปเปิดร้านของท่านอีกเพราะท่านอยู่คนเดียวผมเป็นห่วง ผมเลยให้ท่านมาอยู่บ้านผม เมื่อท่านทำงานไม่ได้ ภาระหนี้สินทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ผม ภาระหนี้สินในงานของผมผมไหวครับ มีเหลือให้ท่านด้วยซ้ำในก่อนหน้านี้ แต่ในเมื่อผมต้องมารับผิดชอบภาระหนี้สินทั้งของแม่ผมและของผม รายรับผมไม่ ผมเลยทำงานเพิ่ม ผมทำงานเพิ่มขึ้นมาก มากจนแฟนของผมต้องเข้ามาช่วยงานผม แต่เธอก็ต้องมีหน้าที่ของเธอครับตอนนี้เธอกำลังจะสอบใบประกอบครับ สอบเสร็จจะกลับบ้านเธอหรือทำงานที่แถวบ้านผมผมก็ยังไม่รู้ เราเริ่มทะเลาะกันได้จะ1เดือนแล้วครับ ทะเลาะกันทุกวัน เหตุผลที่ว่า ผมต้องรับผิดชอบครอบครัวของผมทุกอย่างจนผมไม่ได้ดูแลครอบครัวที่กำลังจะเกิดใหม่ของผมเลยครับ เธออยู่ร่วมกับผมได้ครับแต่เธอค่อนข้างที่จะอยู่ร่วมกับแม่ผมไม่ค่อยได้ เพราะแม่ผมท่านไม่ค่อยยอมรับความคิดเห็นส่วนรวมสักเท่าไหร่ คือผมก็เข้าใจท่านนะครับ ผู้หญิงคนนึงที่โดนผู้ชายคนนึงซึ่งเป็นพ่อของผมหิ้วเงินเก็บทั้งชีวิตไปใช้กับผู้หญิงคนใหม่และทิ้งหนี้สินเก่าและใหม่ให้แม่ผมและมามีปัญหาสุขภาพอีก ผมเข้าใจท่านครับ และผมก็พยายามพูดให้แฟนผมเข้าใจด้วยเช่นกัน แต่ก็มีปัญหาตลอดเวลาที่ผมต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินเพิ่มมาจ่ายหนี้ของแม่ผม และของผมเอง ผมพยายามบอกเธอว่า อดทนอีกหน่อยนะสัก2-3ปี เครียหนี้แม่หมดเดี่ยวเราจะสร้างอนาคตของเรานะ เธอเคยเสนอว่าไปอยู่บ้านเธอมั้ย เธอจะให้ผมรับกิจการขายหมูของแม่เธอต่อและเธอจะทำงานแถวบ้านเธอด้วย และประเด็นหลักเธอจะได้กลับไปดูแลพ่อแม่เธอด้วย ผมเคยตั้งคำถามว่าถ้าไปแล้วแม่ผมหล่ะ น้องผมหล่ะ ผมมีน้องคนนึงเป็นลูกหลงตอนนี้อายุ12 ผมถามเธอว่าจะให้เอาแม่เอาน้องไปรบกวนพ่อแม่ของเธอได้ไง ยิ่งแม่ผมเข้ากับคนได้ยากอยู่ด้วย ผมเกรงใจพ่อแม่เค้า ผมเองยังไม่เคยเจอพ่อแม่ของแฟนเลยอยู่ๆจะให้เอาแม่กับน้องผมไปด้วยมันคงไมีดีเลยใช่มั้ยครับ แต่เธอยืนยันครับว่าเธอเหนื่อย เหนื่อยมากที่ผมต้องทำงานมาจ่ายหนี้ให้แม่แทนที่จะมารับผิดชอบของตัวเองและสร้างอนาคต ตอนนี้ผมเริ่มมีหนี้ค้างเพราะพิษเศรฐกิจทำให้ผมหาเงินไม่ทัน หนี้แต่ละเดือนผมจะต้องจ่ายให้แม่ก่อนที่จะมาจ่ายของผม เดือนที่แล้วผมยังค้างบางส่วนในหนี้ของผม เดือนนี้ผมก้ต้องทำงานเพิ่มขึ้นอีกเพื่อให้พอใช้หนี้ทั้งหมด และเดือนนี้ก็เป็นเดือนที่ผมต้องตัดสินใจครับว่าผมจะไปเริ่มงานใหม่ที่รายรับมั่นคงพอจ่ายหนี้แม่และผมแต่ผมต้องทิ้งให้แม่อยู่กับน้องรอรับเงินจากผมแต่ละเดือนๆเพื่อไปอยู่บ้านแฟนผม ทั้งๆที่พ่อแม่แฟนผมก็ไม่ได้เต็มใจสักเท่าไหร่ หรือผมจะเสียแฟนคนที่ผมรักมากและวางแผนกับเธอคนนี้แล้วยอมให้เธอกลับบ้านเธอไปหลังจากสอบใบประกอบสิ้นเดือนนี้ไปดูแลพ่อแม่ของเธออย่างที่เธอตั้งใจ ส่วนผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับแม่และน้องดูแลคนของครอบครัวผมเหมือนกัน
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทำยังไง??? ช่วยผมคิดหน่อยครับ
ถ้าคุณต้องเลือก ระหว่างแม่กับแฟน?? (ดราม่าหนักมาก)
ยาวหน่อยนะครับ แต่อดทนอ่านช่วยผมตัดสินใจหน่อยครับ
ผมอายุ27ปี คบกับแฟนมา 7ปี กำลังเข้าปีที่8.เล่าย้อนกลับไปเลยนะครับผมคบกับแฟนตอนผมอายุ19แฟนอายุ16 ม.5 เค้าอยู่ต่างจังหวัดอยู่ต่างภาคเลยแหล่ะ เรารู้จักกันผ่านโปรแกรมแชท QQ ตอนเค้าอายุ15. เค้าอยู่ม 4 ซึ่งตอนนั้นผมก็มีแฟน. เค้าก็มีคนคุยแบบเด็กๆ. ผมขอเบอร์เค้าด้วยความเจ้าชู้ไม่ได้พิศมัยอะไรเลยกะคุยแก้เหงาเรื่อยเปื่อย แต่เค้าเป็นเด็กที่นิสัยน่ารักมาก เวลาผมมีปัญหากับแฟนจะคุยกับเค้าประจำ จนกระทั่งผมเลิกกับแฟนคนก่อนและมาคุยกับเค้า คุยกันแบบต่างคนต่างมีคนคุยคุยไปเรื่อยๆ ประมานเกือบปี ทั้งๆที่ผมก็เปลี่ยนแฟนไปเรื่อย จนกระทั้งเค้ามาหาผมตอน ม. 5 อายุ16 มาต่างจังหวัดคนเดียว นั่งรถทัวร์ข้ามภาคมาในที่ๆไม่เคยมา. คุณคิดดู บ้าขนาดใหน แต่มีบ้ากว่านั้นครับ เพราะเค้าบอกพ่อแม่ของเค้าว่าเค้าจะไปดูหิ่งห้อยที่จังหวัดไรสักอย่างผมก็ไม่แน่ใจ แต่เค้าไม่ไป ตีตั๋วยาวมาหาผมเลย เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 3วันเต็ม พาเที่ยวพากิน คือแหลกครับ คือเค้าเป็นคนน่ารัก. แต่ไม่เคยเจอโลกภายนอกเลย มีหน้าที่แค่เรียนและเรียนอย่างเดียว การนั่งรถมาหาผม 18 ชม นั่นคือประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ของเค้า แต่ในช่วงนั้นผมไม่ค่อยเห็นคุณค่าหรอก ยังคิดไรไม่ได้ ยังเกเร ยังมีเรื่องยาเสพติดยังติดเพื่อนยังเที่ยว. แต่ตั้งแต่เริ่มคบกับเค้า อันดับแรกเลยคือผมเลิกยุ่งกับยาเสพติด. เพราะผมเริ่มรักเธอ ผมไม่อยากให้เธอเสียใจเรื่องที่มันร้ายแรงขนาดนี้ อ่อ ตอนนั้นผมไม่ได้อาศัยกับพ่อแม่ครับ ผมออกมาใช้ชีวิตเกเรอยู่ภายนอกคนเดียวครับ ย้อนกลับไปเล่าต่อนะครับ ตั้งแต่เธอกลับไปเราก็ติดต่อทางโทรศัพท์ตลอด 5-6เดือนเราจะเจอกันที โดยเธอมาหาผมตลอด. จนเธอจะจบม. 6 ผมไปหาเธอที่จังหวัดของเธอ
เป็นครั้งแรกเลยครับที่ ผมรู้สึกรักเธอจนหมดหัวใจเลยครับ เพราะการที่ผมนั่งรถไปในที่ที่ไม่รู้จักผมว่ามันคือความเสี่ยงนะ แต่. เธอนั่งมาหาผม นั่นแหล่ะครับ ผมนี่รักเลย ผมไปหาเค้าโดยที่พักโรงแรมไม่ได้พักบ้านเค้า ตอนนั้นเค้าอาศัยกับป้าในตัวเมืองเพราะเค้าต้องมาเรียนในตัวเมือง ป้าคือผู้ปกครองเค้าครับในช่วงนั้น ผมเลยต้องพักโรงแรมเพราะคนที่บ้านเธอยังไม่รู้ว่าเราคบกัน แค่คืนแรกที่เธอมานอนกับผมที่โรงแรม ป้าเธอก็ตามสุดยอดครับ ป้าเค้าโทรตามแบบถี่มาก ผมเลยตัดสินใจให้เค้าบอกว่าอยู่กับผมที่โรงแรม ป้าเค้ามาหาถึงโรงแรมและสวดเราสองคนกันสุดยอดครับ แต่ท่านก็ชวนผมไปพักที่บ้าน อยู่ในสายตาจะดีกว่าประมานนั้นแหล่ะครับ ป้ากับผมคุยกันหลายเรื่อง ป้าก็คงเห็นด้วยว่าผมคงเกเรมาก มีรอยสัก เรียนไม่จบไม่มีการงานอะไรที่จับต้องได้สักอย่าง แต่ป้าไม่เคยแสดงทีท่ารังเกียจอะไรผมเลยครับ ป้าสอนผมทุกอย่าง ทั้งการคบกันและการใช้ชีวิต ตอนนั้นผมอายุ21 ผมมีวุติแค่ม. 2 คือผมไม่จบ3 ครับ ป้าเค้าเป็นพี่สาวของพ่อแฟนผม เค้ารู้จักพ่อแฟนผมดีว่า ต้องทำยังไงถึงจะรักกับลูกสาวเค้าได้ ป้าเค้าบอกว่า พยายามเรียนให้จบนะ. จบ กศน ม. 6ก็ยังดี สอนหลายเรื่องครับ สอนจนผมรู้สึกเคารพท่านมากตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ผมไปเที่ยวจังหวัดเค้าโดยที่อาศัยบ้านป้าเค้า 3วันผมก็กลับมาบ้านผมครับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านกับพ่อแม่แล้วนะครับ ผมช่วยงานท่านทุกอย่าง งานสวนงานที่ร้าน ที่บ้านผมเป็นร้านขายของชำครับ จนกระทั่งแฟนผมเค้าจบ ม. 6 ต้องเลือกที่เรียน เค้ามีโอกาสเลือกคณะและมหาลัยที่ใกล้บ้านเค้าได้มากครับเพราะเค้าเรียนดีจบจากโรงเรียนอันดับ1ของจังหวัด และเกรดเฉลี่ยระดับหัวกะทิ. แต่.... เธอเลือกมาเรือนในมหาลัยภาคที่ผมอยู่ เพียงเพราะเหตุผลเดียวคือเราจะได้เจอกันบ่อยๆเพราะมหาลัยกับบ้านผมเดินทางแค่6ชม เราเจอกันทุกเดือน ผมไปหาเธอมั่งเธอมาหาผมมั่ง ตลอด5ปีที่เธอเรียน ในระหว่างนั้นเราสองคนทำอะไรเพื่อกันเยอะมากครับ เธอก็ตั้งใจเรียนเพื่อถ้าจบเราก็จะได้เริ่มสร้างครอบครัวด้วยกัน ผมก็ตั้งใจทำงานตั้งใจเลิกทุกอย่างที่ไม่ดี ผมหยุดเที่ยว หยุดกินเหล้า ผมเริ่มเรียนต่อต่อขั้นปริญญาตรีภาคพิเศษ เสาร์ อาทิตย์ เพื่อผมจะได้มีเวลาทำงานทำงานวันปกติ ตอนนี้ผมมีร้านของตัวเอง มีงาน มีวุฒิภาวะ มีคนนับน่าถือตาในสังคม มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น ผมพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างอนาคตกับเธอ พอเธอเรียนจบทำงานเปิดคลีนิคของตัวเอง ผมมีงานที่มั่นคง ชีวิตแฮบปี้ ผมต้องการเข้าหาพ่อแม่ของเค้าอย่างถูกต้อง คุณเชื่อมั้ยตลอดที่คบกันที่ผ่านมาผมไม่เคยเจอพ่อแม่เค้าสักครั้งเดียว แต่ท่านรับรู้ว่าเราคบกัน ท่านเคยห้ามแฟนผมว่าอย่าเพิ่งคิดเรื่องรักให้เอาเรื่องเรียนก่อน แต่แฟนผมเค้าดื้อเงียบครับ ตะแบงยันทุกวันนี้ เราแฮบปี้กันครับ และรักกันมาก จนวันนึงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พ่อผมติดเมียน้อย ท่านเดินออกจากบ้านไปพร้อมทรัพย์สินทั้งหมด และทิ้งหนี้ไว้ที่แม่ผม แม่ผมก็รับภาระเต็มๆ โดยที่ผมคอยช่วยตลอด. แต่เมื่อ 4-5เดือนที่ผ่านมา แม่ผมมีโรคประจำตัวคือ ความดันไขมันเบาหวาน แม่ผมมีภาวะเส้นเลือดสมองตีบมีอาการชาครึ่งซีก ง่ายๆก็คืออัมพฤกนั่นแหล่ะครับ ผมดูแลแม่ตลอดพยายามรักษาจนท่านกลับมาเดินได้ปกติ แต่ผมไม่ให้ท่านกลับไปเปิดร้านของท่านอีกเพราะท่านอยู่คนเดียวผมเป็นห่วง ผมเลยให้ท่านมาอยู่บ้านผม เมื่อท่านทำงานไม่ได้ ภาระหนี้สินทั้งหมดจึงตกอยู่ที่ผม ภาระหนี้สินในงานของผมผมไหวครับ มีเหลือให้ท่านด้วยซ้ำในก่อนหน้านี้ แต่ในเมื่อผมต้องมารับผิดชอบภาระหนี้สินทั้งของแม่ผมและของผม รายรับผมไม่ ผมเลยทำงานเพิ่ม ผมทำงานเพิ่มขึ้นมาก มากจนแฟนของผมต้องเข้ามาช่วยงานผม แต่เธอก็ต้องมีหน้าที่ของเธอครับตอนนี้เธอกำลังจะสอบใบประกอบครับ สอบเสร็จจะกลับบ้านเธอหรือทำงานที่แถวบ้านผมผมก็ยังไม่รู้ เราเริ่มทะเลาะกันได้จะ1เดือนแล้วครับ ทะเลาะกันทุกวัน เหตุผลที่ว่า ผมต้องรับผิดชอบครอบครัวของผมทุกอย่างจนผมไม่ได้ดูแลครอบครัวที่กำลังจะเกิดใหม่ของผมเลยครับ เธออยู่ร่วมกับผมได้ครับแต่เธอค่อนข้างที่จะอยู่ร่วมกับแม่ผมไม่ค่อยได้ เพราะแม่ผมท่านไม่ค่อยยอมรับความคิดเห็นส่วนรวมสักเท่าไหร่ คือผมก็เข้าใจท่านนะครับ ผู้หญิงคนนึงที่โดนผู้ชายคนนึงซึ่งเป็นพ่อของผมหิ้วเงินเก็บทั้งชีวิตไปใช้กับผู้หญิงคนใหม่และทิ้งหนี้สินเก่าและใหม่ให้แม่ผมและมามีปัญหาสุขภาพอีก ผมเข้าใจท่านครับ และผมก็พยายามพูดให้แฟนผมเข้าใจด้วยเช่นกัน แต่ก็มีปัญหาตลอดเวลาที่ผมต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินเพิ่มมาจ่ายหนี้ของแม่ผม และของผมเอง ผมพยายามบอกเธอว่า อดทนอีกหน่อยนะสัก2-3ปี เครียหนี้แม่หมดเดี่ยวเราจะสร้างอนาคตของเรานะ เธอเคยเสนอว่าไปอยู่บ้านเธอมั้ย เธอจะให้ผมรับกิจการขายหมูของแม่เธอต่อและเธอจะทำงานแถวบ้านเธอด้วย และประเด็นหลักเธอจะได้กลับไปดูแลพ่อแม่เธอด้วย ผมเคยตั้งคำถามว่าถ้าไปแล้วแม่ผมหล่ะ น้องผมหล่ะ ผมมีน้องคนนึงเป็นลูกหลงตอนนี้อายุ12 ผมถามเธอว่าจะให้เอาแม่เอาน้องไปรบกวนพ่อแม่ของเธอได้ไง ยิ่งแม่ผมเข้ากับคนได้ยากอยู่ด้วย ผมเกรงใจพ่อแม่เค้า ผมเองยังไม่เคยเจอพ่อแม่ของแฟนเลยอยู่ๆจะให้เอาแม่กับน้องผมไปด้วยมันคงไมีดีเลยใช่มั้ยครับ แต่เธอยืนยันครับว่าเธอเหนื่อย เหนื่อยมากที่ผมต้องทำงานมาจ่ายหนี้ให้แม่แทนที่จะมารับผิดชอบของตัวเองและสร้างอนาคต ตอนนี้ผมเริ่มมีหนี้ค้างเพราะพิษเศรฐกิจทำให้ผมหาเงินไม่ทัน หนี้แต่ละเดือนผมจะต้องจ่ายให้แม่ก่อนที่จะมาจ่ายของผม เดือนที่แล้วผมยังค้างบางส่วนในหนี้ของผม เดือนนี้ผมก้ต้องทำงานเพิ่มขึ้นอีกเพื่อให้พอใช้หนี้ทั้งหมด และเดือนนี้ก็เป็นเดือนที่ผมต้องตัดสินใจครับว่าผมจะไปเริ่มงานใหม่ที่รายรับมั่นคงพอจ่ายหนี้แม่และผมแต่ผมต้องทิ้งให้แม่อยู่กับน้องรอรับเงินจากผมแต่ละเดือนๆเพื่อไปอยู่บ้านแฟนผม ทั้งๆที่พ่อแม่แฟนผมก็ไม่ได้เต็มใจสักเท่าไหร่ หรือผมจะเสียแฟนคนที่ผมรักมากและวางแผนกับเธอคนนี้แล้วยอมให้เธอกลับบ้านเธอไปหลังจากสอบใบประกอบสิ้นเดือนนี้ไปดูแลพ่อแม่ของเธออย่างที่เธอตั้งใจ ส่วนผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับแม่และน้องดูแลคนของครอบครัวผมเหมือนกัน
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทำยังไง??? ช่วยผมคิดหน่อยครับ