สวัสดีครับ
ผมได้รับทุนเรียนทางวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ม.ปลาย ผมตั้งใจเรียนเรื่อยมา ยอมรับครับว่ามันยากมากสำหรับคนไม่เก่งอย่างผม ในระดับปริญญาตรีผมเลือกเรียนต่อสาขาเคมีครับ ณ ม.สีเขียว เพราะว่าอยากทำแล็บแบบในหนัง (ฮ่าๆ) ผมเริ่มทำแล็บตั้งแต่ปิดเทอมปีหนึ่งจนปีสี่ได้เรียนรู้เทคนิค เครื่องมือ และโปรแกรมต่างๆจากอาจารย์ที่ปรึกษามากมาย (ขอบคุณจากใจมากๆครับ) รู้สึกเหนื่อยแต่ก็สนุกดีครับ พอมาลงวิชาเลือกช่วงปีสี่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าควรไปเรียนต่อสายไบโอสักนิดจะได้มีความรู้ทางนั้นบ้าง
ตอนนั้นผมจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ครับและก็พลาดจากรอบสัมภาษณ์ทุนต่างประเทศพอดี เลยคิดว่าเฮ้ยงั้นก็ไปต่อไบโอเคมม.สีชมพูสิ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองเปลี่ยนสถานที่เปลี่ยนสายเรียน การอยู่ในโลกของวิทยาศาสตร์และโลกของเพื่อนๆที่เรียนวิทย์ด้วยกันมันสนุกดีครับ ช่วงเทอมหนึ่งจำได้ว่าพอเรียนเสร็จประมาณ 4 หรือ 5 โมงเย็นก็จะรีบไปหาอะไรกินกันแล้วก็กลับมาอ่านหนังสือ ติวเตรียมสอบเพราะว่าสอบบ่อยมาก เหนื่อยแต่สนุกและท้าทายมากครับ ผมรู้สึกว่าผมได้พัฒนาตัวเองได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆได้อ่านหนังสือใหม่ๆ พอเทอมสองทุกคนเข้าแล็บทำงานวิจัยตัวเอง มันก็สนุกตรงได้ถามเพื่อนว่า เฮ้ยวิจัยอะไร รู้เรื่องนี้มั้ย คือเราได้เอาความรู้ที่เราถนัดมาแชร์กัน ช่วยเหลือกัน ติวกัน มันสนุกครับ แต่พอตัดมาโลกข้างนอกโลกแห่งความเป็นจริงโลกในครอบครัวมันแทบไม่มีที่ยืนเลยครับ ผมมีพี่สาวอยู่คนนึง พี่จบวิศวะ ม.สีชมพูเกรดไม่ขอพูดถึงนะครับรู้อยู่แล้วว่าคณะนี้เค้าตัดเกรดโหด(แม่ผมบอกมา)แล้วพี่สาวผมก็มาต่อโทไฟแนนซ์ของคณะบัญชีครับ คือเปลี่ยนสายงานนั่นเอง แม่ผมจะชมพี่สาวผมตลอดบอกว่าพี่โทรมาเล่าให้ฟังแบบว่าเพราะพี่เค้าจึงทำให้บริษัทสามารถทำกำไรหุ้นตัวนี้ได้ พี่เค้าเกรดไม่สูงแต่เพราะเก่งที่ไหนก็แย่งตัวรับ แต่คนในบริษัทไม่ชอบพี่เค้าหรอกเพราะพี่เค้าเก่งเกินไป จับไต๋ได้ว่าคนไหนมีกลโกงอย่างไร นี่คือสิ่งที่แม่พูดคือแม่จะชมพี่ตลอดเวลา ไปไหนก็จะคุยแต่เรื่องพี่แล้วก็จะบอกว่าใครๆก็อยากเจอพี่ผม จนผมนี่รู้สึกด้อยค่าไปเลย ในขณะที่ผมเวลาถูกพาไปเจอใคร บอกว่าเรียนชีวเคมีอยู่ครับ ศึกษาเรื่องการจับของเอนไซม์กับซับเสตรตโดยการสร้างแบบจำลอง ทุกคนก็จะงง การสนทนาผมก็จะจบลงไปทันที ในขณะที่พี่ผมทุกคนจะชมว่าเก่ง หัวดี เรียนไฟแนนซ์ พร้อมด้วยคำถามราคาทองเป็นไง หุ้นตัวนั้นจะดีมั้ย เวลาผมขับรถพาแม่ไปไหนต่อไหนแม่ก็จะพูดชมพี่ผมตลอด จนผมชักเริ่มสงสัยว่าหรือว่าการเรียนคณะวิทยาศาสตร์ มันทำให้แม่ไม่ภาคภูมิใจเท่าเรียนคณะวิศวะแล้วต่อไฟแนนซ์หรือปล่าว ประโยคที่แม่จะเอ่ยกับผมเสมอคือ "ดูอย่างพี่สิ" (ในใจ: ผมก็ตั้งใจเรียนและตั้งใจทำวิจัยนะ แต่มันคงยังไม่สามารถทำให้แม่ภูมิใจได้เท่ากับเรียนวิศวะ หรือเรียนไฟแนนซ์) ผมเปลี่ยนคณะไม่ทันครับ และผมว่าผมก็เจอสิ่งที่มีความสุขสำหรับผมละ
เคยรู้สึกว่าเป็นลูกที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจไม่ได้มั้ยครับเพราะเราเลือกเรียนวิทยาศาสตร์
ผมได้รับทุนเรียนทางวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ม.ปลาย ผมตั้งใจเรียนเรื่อยมา ยอมรับครับว่ามันยากมากสำหรับคนไม่เก่งอย่างผม ในระดับปริญญาตรีผมเลือกเรียนต่อสาขาเคมีครับ ณ ม.สีเขียว เพราะว่าอยากทำแล็บแบบในหนัง (ฮ่าๆ) ผมเริ่มทำแล็บตั้งแต่ปิดเทอมปีหนึ่งจนปีสี่ได้เรียนรู้เทคนิค เครื่องมือ และโปรแกรมต่างๆจากอาจารย์ที่ปรึกษามากมาย (ขอบคุณจากใจมากๆครับ) รู้สึกเหนื่อยแต่ก็สนุกดีครับ พอมาลงวิชาเลือกช่วงปีสี่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าควรไปเรียนต่อสายไบโอสักนิดจะได้มีความรู้ทางนั้นบ้าง
ตอนนั้นผมจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ครับและก็พลาดจากรอบสัมภาษณ์ทุนต่างประเทศพอดี เลยคิดว่าเฮ้ยงั้นก็ไปต่อไบโอเคมม.สีชมพูสิ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองเปลี่ยนสถานที่เปลี่ยนสายเรียน การอยู่ในโลกของวิทยาศาสตร์และโลกของเพื่อนๆที่เรียนวิทย์ด้วยกันมันสนุกดีครับ ช่วงเทอมหนึ่งจำได้ว่าพอเรียนเสร็จประมาณ 4 หรือ 5 โมงเย็นก็จะรีบไปหาอะไรกินกันแล้วก็กลับมาอ่านหนังสือ ติวเตรียมสอบเพราะว่าสอบบ่อยมาก เหนื่อยแต่สนุกและท้าทายมากครับ ผมรู้สึกว่าผมได้พัฒนาตัวเองได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆได้อ่านหนังสือใหม่ๆ พอเทอมสองทุกคนเข้าแล็บทำงานวิจัยตัวเอง มันก็สนุกตรงได้ถามเพื่อนว่า เฮ้ยวิจัยอะไร รู้เรื่องนี้มั้ย คือเราได้เอาความรู้ที่เราถนัดมาแชร์กัน ช่วยเหลือกัน ติวกัน มันสนุกครับ แต่พอตัดมาโลกข้างนอกโลกแห่งความเป็นจริงโลกในครอบครัวมันแทบไม่มีที่ยืนเลยครับ ผมมีพี่สาวอยู่คนนึง พี่จบวิศวะ ม.สีชมพูเกรดไม่ขอพูดถึงนะครับรู้อยู่แล้วว่าคณะนี้เค้าตัดเกรดโหด(แม่ผมบอกมา)แล้วพี่สาวผมก็มาต่อโทไฟแนนซ์ของคณะบัญชีครับ คือเปลี่ยนสายงานนั่นเอง แม่ผมจะชมพี่สาวผมตลอดบอกว่าพี่โทรมาเล่าให้ฟังแบบว่าเพราะพี่เค้าจึงทำให้บริษัทสามารถทำกำไรหุ้นตัวนี้ได้ พี่เค้าเกรดไม่สูงแต่เพราะเก่งที่ไหนก็แย่งตัวรับ แต่คนในบริษัทไม่ชอบพี่เค้าหรอกเพราะพี่เค้าเก่งเกินไป จับไต๋ได้ว่าคนไหนมีกลโกงอย่างไร นี่คือสิ่งที่แม่พูดคือแม่จะชมพี่ตลอดเวลา ไปไหนก็จะคุยแต่เรื่องพี่แล้วก็จะบอกว่าใครๆก็อยากเจอพี่ผม จนผมนี่รู้สึกด้อยค่าไปเลย ในขณะที่ผมเวลาถูกพาไปเจอใคร บอกว่าเรียนชีวเคมีอยู่ครับ ศึกษาเรื่องการจับของเอนไซม์กับซับเสตรตโดยการสร้างแบบจำลอง ทุกคนก็จะงง การสนทนาผมก็จะจบลงไปทันที ในขณะที่พี่ผมทุกคนจะชมว่าเก่ง หัวดี เรียนไฟแนนซ์ พร้อมด้วยคำถามราคาทองเป็นไง หุ้นตัวนั้นจะดีมั้ย เวลาผมขับรถพาแม่ไปไหนต่อไหนแม่ก็จะพูดชมพี่ผมตลอด จนผมชักเริ่มสงสัยว่าหรือว่าการเรียนคณะวิทยาศาสตร์ มันทำให้แม่ไม่ภาคภูมิใจเท่าเรียนคณะวิศวะแล้วต่อไฟแนนซ์หรือปล่าว ประโยคที่แม่จะเอ่ยกับผมเสมอคือ "ดูอย่างพี่สิ" (ในใจ: ผมก็ตั้งใจเรียนและตั้งใจทำวิจัยนะ แต่มันคงยังไม่สามารถทำให้แม่ภูมิใจได้เท่ากับเรียนวิศวะ หรือเรียนไฟแนนซ์) ผมเปลี่ยนคณะไม่ทันครับ และผมว่าผมก็เจอสิ่งที่มีความสุขสำหรับผมละ