เข้าเรื่องเลยละกัน
เราเคยไปทำงาน part time ที่ ร้านๆหนึ่งในห้าง ไม่ขอบอกแล้วกันว่าร้านชื่ออะไรและตั้งอยู่ที่ไหน
เรื่องมันมีอยู่ว่ามีพี่ที่ทำงานเป็นพนักงานประจำอายุการทำงานก็ 6-7 ปีได้แล้วแหละ
พี่คนนี้เราแทนว่าพี่ "แมว" ละกัน พี่แมวเป็นผู้หญิงตัวเล็กผอม
ถึงพี่แกจะตัวเล็ก แต่ไม่มีปัญหาใรการทำงานเลยนะ แกก็ทำทุกอย่าง เสียอย่างเดียวปากเสียไปหน่อย
เราก็ได้แต่ฟังแก แล้วก็ เออ ออ ไปทุกๆวันเนี่ยแกก็จะมีเรื่องเม้าส์ตลอด
ส่วนมากแกจะบ่นเรื่องบริษัทเนี่ยแหละว่าเรื่องมากอย่างนู้นอย่างนี้
เปรยๆไว้ตั้งแต่เราเข้าแรกๆแล้วแหละ ว่าจะออกอยู่หลายรอบมาก
เหตุผลก็คือแกไม่ได้ปรับเป็นผู้ช่วยร้านสักทีอายุการทำงานก็เยอะพอสมควรแล้ว
เราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังไม่ได้ปรับอาจจะยอดขายไม่ได้หรืออะไรก็ช่าง
ในส่วนนี้เราก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็คอยเป็นคนรับฟังกับแกตลอด
จนกระทั่งก่อนเราจะออก 1 เดือน มีเหตุการณ์นึงคือน้องที่เป็น part time เหมือนเรา
มันเป็นช่วงที่น้องเขาจะต้อง ไปมหาลัยอยู่บ่อยๆเนื่องจากกำลังขึ้นปี1 เค้าก็จะหยุดเยอะ
และนั้นก็เป็นโอกาสทองของ "คนโกง"
ปกติเวลาเข้างานในที่ทำงานเรา ต้องสแกนลายนิ้วมือ แต่เนื่องจากน้องอีกคนหยุดไง พี่แมวแกเลยจัดเลยจ้า
ลงเวลาแก้ไขในคอมให้ ทั้งๆที่น้องไม่ได้มาทำงาน
พอสิ้นเดือนแกก็ขอแบ่งเงินจากน้องคนนั้นเรียบร้อย
เวลาในการทำงานที่ แมว เอาลงนั้น แกเอามาจาก OT ของแกจ้า
ที่มาของ OT คือ แกเข้าเช้า แล้วลากไปจนถึงปิดร้านเลยจ้าาาา (เวลาทำงาน 08.30-21.00)
ที่ทำงานเราจะแบ่งเป็น 2 กะ แต่แกควบเลยไง
เหตุผลก็คือ แกไม่กล้าขับรถมาที่ทำงานต้องอาศัยแฟนหรือเพื่อนบ้าน
แกเลยเข้าเช้าให้แฟนมาส่ง เกือบทุกวัน ยกเว้น วันที่แฟนแกหยุด วันนั้นแกก็จะมาเข้าตามปกติ
ต้องบอกก่อนเลยว่าร้านเราไม่มี ผจก. มันเลยง่ายต่อการทำอะไรหลายๆอย่าง
แล้ว เวลาที่เป็น OT ที่ร้านเราจะไม่จ่ายให้ แต่ให้เป็นวันหยุดได้ คือคิดง่ายๆ บริษัทจะไม่จ่าย OT เพิ่มให้ในเงินเดือน
แต่สามารถใช้ OT เป็นวันหยุดได้ อันนี้เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เวลาพี่แมว จะหยุดยาวๆ แกก็ใช้ OT นี่แหละหยุด
แล้วแกคงจะเห็นว่ามันไม่ได้อะไรเลยน้องจากเงินเดือนเท่าเดิม แต่เราคิดว่าเห้ยยย
สบายนะเว้ยหยุดหลายวันก็ได้ตัง
แต่แกคงจะไม่คิดอย่างนั้นคงจะโลภ เลยอยากได้เงินเพิ่ม แต่มันผิดกฎหมายนะเว้ยยยย
เราก็พูดอะไรไม่ได้ไง อายุห่างกันก็เกือบจะรอบนึง ได้แต่เออ เอาเถอะอย่ามาทำให้กูเดือดร้อนก็พอ
แต่แกก็เป็นคนบอกเราเองนะว่า ที่พี่ทำนะมันผิดนะ เราเลยคิดในใจ เอ้าพี่!! ที่พี่พูดกับหนูกับที่พี่ทำ
ขัดแย้งกัน
คราวนี้มาถึงคราวของเราแล้ว บันเทิงแล้วไงละ = ='
แกไปแก้ไขในตารางการทำงาน ว่าเรามาทำงาน ในวันที่เรา ขอหยุดยาวจ้า
ตอนแรกเราคิดว่าสงสัยแกลืมแก้มั้ง เพราะเราไม่เห็นในคอมไง ตารางงานมันเป็นกระดาษติดหลังร้าน
แต่พอเรามาทำงานเหมือนเดิมไอ้เราก็ลืมถาม ว่าทำไมในตารางมันยังเขียนว่าเรามาทำ
แต่เราคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกเพราะยังไงเค้าก็ต้อง เอาเวลาที่เราสแกนลายนิ้วมือ ลงเวลาอยู่แล้วแหละ (โลกสวยมากอิดอก)
ก็เลยแล้วๆไปไม่ได้ถาม เราก็ทำงานปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือพี่แกจ้า
พี่แมวแกบอกว่า เนี่ย งบจ้างพนง มันสูงนะ พี่ต้องลดชั่วโมงเธอนะจากปกติเราทำ 8 เป็น 4 ก็เออไม่เป็นไร
เราก็ทำๆไปดีกว่าไม่ได้ทำ เพราะกว่าจะเปิดเทอม เราก็โอเคแล้วที่มีที่ทำงาน
แต่ ผู้ปกครองเห็นว่ามันไม่คุ้มค่าน้ำมันค่ากิน ก็เลยสั่งให้ออกก่อนเวลากำหนด
เราก็เลยต้องไปบอกพี่แมว
เรา: พี่แมว หนูขอออกนะพี่
พี่แมว : อ่อ เออพี่เข้าใจแกนะ มันคงไม่คุ้มจริงๆแหละ แต่พี่ไม่รู้จะช่วยแกยังไงวะเบื้องบน เค้าสั่งให้ลดชั่วโมง Part Time หน่อย
เพราะยอดขายน้อยรายจ่ายเยอะมันไม่สมดุล
เรา : เห้ยพี่หนูเข้าใจไม่ซีเรียส เดี๋ยววันหยุดหน้าหนูออกเลยนะ
พี่แมว : โอเคๆๆ
เหมือนมันจะจบไปได้ด้วยดีใช่มั้ย แต่ เน้นคะเน้น แต่!!!!!!!!
พี่แมวทักเฟซเรามาเว้ย แกบอกว่าพี่ใส่ ชั่วโมงพี่ลงในของพลอยนะ
เอ้าาาาาา ความ
กำลังมาเยือนกูแล้ววว มาบอกตอนวันที่ส่งเงินเดือนแล้ว ปรึกษาหนูบ้างมั้ยยย
หนูไม่อยากฉ้อโกงพี่ แต่ด้วยความเกรงใจไง เลยตอบไป อ่อคะพี่ กี่วันคะ พี่ส่งตารางงานมาให้หนูดูได้มั้ยคะ ??
พอส่งมาปุ๊บ นั้นไง มันใช่ใช่มะ ตารางงานที่เราหยุดไปต้นเดือนแกลงเวลาให้ แล้วหลังจากเราออกแก ก็ยังลงเวลาให้
ช่างเป็นคนที่มีน้ำใจแกเพื่อนมนุษย์จริงๆ แต่ฉันไม่อยากรับ T^T
หลังจากนั้นหลายวันเราก็กลุ้มใจมากจะบอกแม่ว่ายังไงดีวะ เพราะแม่ต้องด่าเราแน่ๆเลยว่ายอมให้เค้าใช้บัญชีเราได้ไง
เราก็รวบรวมความกล้าบอกแม่ในวันที่เงินเดือนออก เพราะสมุดบัญชีเราอยู่กับแม่
ถ้าเราถอนตังหรือทำอะไรแม่จะถามทุกครั้ง เราจะโกหกไม่ได้เด็ดขาดเราก็เลยต้องบอกแม่
เรา : แม่คืองี้นะ เงินเดือนที่เข้ามาอะมันเกินมานะ แต่แม่แต่ คือมันไม่ใช่ของหนูนะแม่หนูต้องเอาไปให้พี่เค้า XXXX บาท
แม่ : เอ้าทำไมหละลูก
เรา : พี่เค้าลงเวลาเกินให้หนูตอนที่หนูหยุด
เราก็อธิบายแม่ไป แต่แม่เราไม่ยอมไง
แม่ : ได้ยังไงนี่ถ้าเค้าตรวจกันขึ้นมาหนูก็ต้องโดนไปด้วยนะ
เรา : ไม่โดนหรอกแม่เราไม่ได้เอาตังมาเลยนะเราก็โอนคืนไปให้เค้า อีกอย่าง พี่เค้าก็เคยทำกับน้องที่ทำงานเดือนที่แล้วด้วย
ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย
แม่ : นี่มัน ฉ้อโกง บริษัทเลยนะ เรายังมีอนาคตอีกไกล เรื่องนี้เดี๋ยวแม่จัดการเอง
เสร็จการสนทนาแม่ก็โทรไปบัญชีบริษัทเลยจ้า บอกรายละเอียดต่างๆและให้เราคุย
เราก็พูดความจริงทุกอย่าง ด้วยความที่กลัวเราจะมีความผิดไปด้วย แต่เราไม่ได้ทำนะเว้ย เรามีหลักฐานทุกอย่าง
เราก็ส่งให้เค้า แล้วเราก็ไม่รู้เค้าจะจัดการยังไงแต่เราบอกยังไงเราจะโอนให้พี่ แมว ก่อนนะ
ซึ่งฝ่ายบัญชีบอก หนูโอนไปเลยตามที่เค้าต้องการนั้นแหละ เราก็จัดการโอนเรียบร้อย
ในขณะนั้น ไก่ตื่นจ้าาาาาา พี่แมวทักเรามา
ว่าแกต้องช่วยพี่นะไม่งั้นพี่ต้องโดนออกจากงานแน่อะไรแบบนี้ แกก็ถามว่าทางบริษัทพูดยังไงกับเราบ้าง
เราก็เลยบอกว่า เราตอบความจริงทุกอย่าง ในตอนแรกพี่แกก็พรรณนาบอกว่าเออเข้าใจเรา
แต่ผลสุดท้ายผ่านมาสองวัน แกก็ทักมา ต่อว่าเรา เหมือนว่าหักหลังแกอะไรแบบนี้
เอ้ากูผิดใช่มั้ยเนี่ย เรื่องทั้งหมดนี่ทำคนเดียวเลยนะ กูก็อยากเป็นคนดีไง แต่คงเป็นคนเลวสำหรับพี่แก
เรื่องทั้งหมดที่เล่ามาเราแค่อยากมาระบาย เราไม่สบายใจเลยที่อาจจะทำให้พี่เค้าตกงาน
อันนี้เราไม่รู้ว่ายังไงแต่เห็นจากที่พี่เค้าทักมาว่าแล้วก็คงจะเป็นแบบนั้น
แต่คนผิดมันก็ต้องผิดไม่ใช่หรอ หรือว่ายังไง ทุกคนที่ทำงานต่างก็ว่าเราไม่สงสารพี่เค้าหรอ
เราก็สงสารนะเว้ย แต่เราทำในสิ่งที่คิดว่าถูกแล้ว ถ้าเราไม่ทำเราอาจจะมานั่งเสียใจในอนาคตก็ได้
แล้วทุกคนเคยมีประสบการณ์ที่ทำงานแบบนี้หรือเปล่า ??
ถูกหรือผิดที่ทำให้คนอื่นตกงาน ประสบการณ์ที่ทำงาน
เราเคยไปทำงาน part time ที่ ร้านๆหนึ่งในห้าง ไม่ขอบอกแล้วกันว่าร้านชื่ออะไรและตั้งอยู่ที่ไหน
เรื่องมันมีอยู่ว่ามีพี่ที่ทำงานเป็นพนักงานประจำอายุการทำงานก็ 6-7 ปีได้แล้วแหละ
พี่คนนี้เราแทนว่าพี่ "แมว" ละกัน พี่แมวเป็นผู้หญิงตัวเล็กผอม
ถึงพี่แกจะตัวเล็ก แต่ไม่มีปัญหาใรการทำงานเลยนะ แกก็ทำทุกอย่าง เสียอย่างเดียวปากเสียไปหน่อย
เราก็ได้แต่ฟังแก แล้วก็ เออ ออ ไปทุกๆวันเนี่ยแกก็จะมีเรื่องเม้าส์ตลอด
ส่วนมากแกจะบ่นเรื่องบริษัทเนี่ยแหละว่าเรื่องมากอย่างนู้นอย่างนี้
เปรยๆไว้ตั้งแต่เราเข้าแรกๆแล้วแหละ ว่าจะออกอยู่หลายรอบมาก
เหตุผลก็คือแกไม่ได้ปรับเป็นผู้ช่วยร้านสักทีอายุการทำงานก็เยอะพอสมควรแล้ว
เราก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังไม่ได้ปรับอาจจะยอดขายไม่ได้หรืออะไรก็ช่าง
ในส่วนนี้เราก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็คอยเป็นคนรับฟังกับแกตลอด
จนกระทั่งก่อนเราจะออก 1 เดือน มีเหตุการณ์นึงคือน้องที่เป็น part time เหมือนเรา
มันเป็นช่วงที่น้องเขาจะต้อง ไปมหาลัยอยู่บ่อยๆเนื่องจากกำลังขึ้นปี1 เค้าก็จะหยุดเยอะ
และนั้นก็เป็นโอกาสทองของ "คนโกง"
ปกติเวลาเข้างานในที่ทำงานเรา ต้องสแกนลายนิ้วมือ แต่เนื่องจากน้องอีกคนหยุดไง พี่แมวแกเลยจัดเลยจ้า
ลงเวลาแก้ไขในคอมให้ ทั้งๆที่น้องไม่ได้มาทำงาน
พอสิ้นเดือนแกก็ขอแบ่งเงินจากน้องคนนั้นเรียบร้อย
เวลาในการทำงานที่ แมว เอาลงนั้น แกเอามาจาก OT ของแกจ้า
ที่มาของ OT คือ แกเข้าเช้า แล้วลากไปจนถึงปิดร้านเลยจ้าาาา (เวลาทำงาน 08.30-21.00)
ที่ทำงานเราจะแบ่งเป็น 2 กะ แต่แกควบเลยไง
เหตุผลก็คือ แกไม่กล้าขับรถมาที่ทำงานต้องอาศัยแฟนหรือเพื่อนบ้าน
แกเลยเข้าเช้าให้แฟนมาส่ง เกือบทุกวัน ยกเว้น วันที่แฟนแกหยุด วันนั้นแกก็จะมาเข้าตามปกติ
ต้องบอกก่อนเลยว่าร้านเราไม่มี ผจก. มันเลยง่ายต่อการทำอะไรหลายๆอย่าง
แล้ว เวลาที่เป็น OT ที่ร้านเราจะไม่จ่ายให้ แต่ให้เป็นวันหยุดได้ คือคิดง่ายๆ บริษัทจะไม่จ่าย OT เพิ่มให้ในเงินเดือน
แต่สามารถใช้ OT เป็นวันหยุดได้ อันนี้เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เวลาพี่แมว จะหยุดยาวๆ แกก็ใช้ OT นี่แหละหยุด
แล้วแกคงจะเห็นว่ามันไม่ได้อะไรเลยน้องจากเงินเดือนเท่าเดิม แต่เราคิดว่าเห้ยยย
แต่แกคงจะไม่คิดอย่างนั้นคงจะโลภ เลยอยากได้เงินเพิ่ม แต่มันผิดกฎหมายนะเว้ยยยย
เราก็พูดอะไรไม่ได้ไง อายุห่างกันก็เกือบจะรอบนึง ได้แต่เออ เอาเถอะอย่ามาทำให้กูเดือดร้อนก็พอ
แต่แกก็เป็นคนบอกเราเองนะว่า ที่พี่ทำนะมันผิดนะ เราเลยคิดในใจ เอ้าพี่!! ที่พี่พูดกับหนูกับที่พี่ทำ
คราวนี้มาถึงคราวของเราแล้ว บันเทิงแล้วไงละ = ='
แกไปแก้ไขในตารางการทำงาน ว่าเรามาทำงาน ในวันที่เรา ขอหยุดยาวจ้า
ตอนแรกเราคิดว่าสงสัยแกลืมแก้มั้ง เพราะเราไม่เห็นในคอมไง ตารางงานมันเป็นกระดาษติดหลังร้าน
แต่พอเรามาทำงานเหมือนเดิมไอ้เราก็ลืมถาม ว่าทำไมในตารางมันยังเขียนว่าเรามาทำ
แต่เราคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกเพราะยังไงเค้าก็ต้อง เอาเวลาที่เราสแกนลายนิ้วมือ ลงเวลาอยู่แล้วแหละ (โลกสวยมากอิดอก)
ก็เลยแล้วๆไปไม่ได้ถาม เราก็ทำงานปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือพี่แกจ้า
พี่แมวแกบอกว่า เนี่ย งบจ้างพนง มันสูงนะ พี่ต้องลดชั่วโมงเธอนะจากปกติเราทำ 8 เป็น 4 ก็เออไม่เป็นไร
เราก็ทำๆไปดีกว่าไม่ได้ทำ เพราะกว่าจะเปิดเทอม เราก็โอเคแล้วที่มีที่ทำงาน
แต่ ผู้ปกครองเห็นว่ามันไม่คุ้มค่าน้ำมันค่ากิน ก็เลยสั่งให้ออกก่อนเวลากำหนด
เราก็เลยต้องไปบอกพี่แมว
เรา: พี่แมว หนูขอออกนะพี่
พี่แมว : อ่อ เออพี่เข้าใจแกนะ มันคงไม่คุ้มจริงๆแหละ แต่พี่ไม่รู้จะช่วยแกยังไงวะเบื้องบน เค้าสั่งให้ลดชั่วโมง Part Time หน่อย
เพราะยอดขายน้อยรายจ่ายเยอะมันไม่สมดุล
เรา : เห้ยพี่หนูเข้าใจไม่ซีเรียส เดี๋ยววันหยุดหน้าหนูออกเลยนะ
พี่แมว : โอเคๆๆ
เหมือนมันจะจบไปได้ด้วยดีใช่มั้ย แต่ เน้นคะเน้น แต่!!!!!!!!
พี่แมวทักเฟซเรามาเว้ย แกบอกว่าพี่ใส่ ชั่วโมงพี่ลงในของพลอยนะ
เอ้าาาาาา ความ
หนูไม่อยากฉ้อโกงพี่ แต่ด้วยความเกรงใจไง เลยตอบไป อ่อคะพี่ กี่วันคะ พี่ส่งตารางงานมาให้หนูดูได้มั้ยคะ ??
พอส่งมาปุ๊บ นั้นไง มันใช่ใช่มะ ตารางงานที่เราหยุดไปต้นเดือนแกลงเวลาให้ แล้วหลังจากเราออกแก ก็ยังลงเวลาให้
ช่างเป็นคนที่มีน้ำใจแกเพื่อนมนุษย์จริงๆ แต่ฉันไม่อยากรับ T^T
หลังจากนั้นหลายวันเราก็กลุ้มใจมากจะบอกแม่ว่ายังไงดีวะ เพราะแม่ต้องด่าเราแน่ๆเลยว่ายอมให้เค้าใช้บัญชีเราได้ไง
เราก็รวบรวมความกล้าบอกแม่ในวันที่เงินเดือนออก เพราะสมุดบัญชีเราอยู่กับแม่
ถ้าเราถอนตังหรือทำอะไรแม่จะถามทุกครั้ง เราจะโกหกไม่ได้เด็ดขาดเราก็เลยต้องบอกแม่
เรา : แม่คืองี้นะ เงินเดือนที่เข้ามาอะมันเกินมานะ แต่แม่แต่ คือมันไม่ใช่ของหนูนะแม่หนูต้องเอาไปให้พี่เค้า XXXX บาท
แม่ : เอ้าทำไมหละลูก
เรา : พี่เค้าลงเวลาเกินให้หนูตอนที่หนูหยุด
เราก็อธิบายแม่ไป แต่แม่เราไม่ยอมไง
แม่ : ได้ยังไงนี่ถ้าเค้าตรวจกันขึ้นมาหนูก็ต้องโดนไปด้วยนะ
เรา : ไม่โดนหรอกแม่เราไม่ได้เอาตังมาเลยนะเราก็โอนคืนไปให้เค้า อีกอย่าง พี่เค้าก็เคยทำกับน้องที่ทำงานเดือนที่แล้วด้วย
ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย
แม่ : นี่มัน ฉ้อโกง บริษัทเลยนะ เรายังมีอนาคตอีกไกล เรื่องนี้เดี๋ยวแม่จัดการเอง
เสร็จการสนทนาแม่ก็โทรไปบัญชีบริษัทเลยจ้า บอกรายละเอียดต่างๆและให้เราคุย
เราก็พูดความจริงทุกอย่าง ด้วยความที่กลัวเราจะมีความผิดไปด้วย แต่เราไม่ได้ทำนะเว้ย เรามีหลักฐานทุกอย่าง
เราก็ส่งให้เค้า แล้วเราก็ไม่รู้เค้าจะจัดการยังไงแต่เราบอกยังไงเราจะโอนให้พี่ แมว ก่อนนะ
ซึ่งฝ่ายบัญชีบอก หนูโอนไปเลยตามที่เค้าต้องการนั้นแหละ เราก็จัดการโอนเรียบร้อย
ในขณะนั้น ไก่ตื่นจ้าาาาาา พี่แมวทักเรามา
ว่าแกต้องช่วยพี่นะไม่งั้นพี่ต้องโดนออกจากงานแน่อะไรแบบนี้ แกก็ถามว่าทางบริษัทพูดยังไงกับเราบ้าง
เราก็เลยบอกว่า เราตอบความจริงทุกอย่าง ในตอนแรกพี่แกก็พรรณนาบอกว่าเออเข้าใจเรา
แต่ผลสุดท้ายผ่านมาสองวัน แกก็ทักมา ต่อว่าเรา เหมือนว่าหักหลังแกอะไรแบบนี้
เอ้ากูผิดใช่มั้ยเนี่ย เรื่องทั้งหมดนี่ทำคนเดียวเลยนะ กูก็อยากเป็นคนดีไง แต่คงเป็นคนเลวสำหรับพี่แก
เรื่องทั้งหมดที่เล่ามาเราแค่อยากมาระบาย เราไม่สบายใจเลยที่อาจจะทำให้พี่เค้าตกงาน
อันนี้เราไม่รู้ว่ายังไงแต่เห็นจากที่พี่เค้าทักมาว่าแล้วก็คงจะเป็นแบบนั้น
แต่คนผิดมันก็ต้องผิดไม่ใช่หรอ หรือว่ายังไง ทุกคนที่ทำงานต่างก็ว่าเราไม่สงสารพี่เค้าหรอ
เราก็สงสารนะเว้ย แต่เราทำในสิ่งที่คิดว่าถูกแล้ว ถ้าเราไม่ทำเราอาจจะมานั่งเสียใจในอนาคตก็ได้
แล้วทุกคนเคยมีประสบการณ์ที่ทำงานแบบนี้หรือเปล่า ??