สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นลูกค้าบริษัททิพยประกันภัยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยแต่เดิมเป็นลูกค้าของวิริยะประกันภัย พอช่วงประกันเก้าจะหมด ทิพยประกันภัยได้ติดต่อดิฉันมาเป็นรายแรกเสนอการต่อประกันใหม่ ด้วยความที่ดิฉันไม่รู้เรื่องประกันมากนัก จึงตอบตกลงต่อประกันกับบริษัทใหม่ทันทีเพื่อความไม่ยุ่งยาก และดิฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาประกันใหม่เอง ดิฉันตกลงต่อประกันชั้นหนึ่งไปและจ่ายค่าประกันภัยเรียบร้อยและตรงเวลา ช่วงบ่ายของวันที่ 4 เดือน 7 พศ 2558 มีพนักงานจากทิพยโทรมาหาดิฉันตอนประมาณบ่ายสามโมง
พนง. : สวัสดีคะ ดิฉันขออนุญาติแจ้งสิทธิ์คืนกำไรให้ลูกค้าทราบคะ
ดิฉัน : ได้คะ
พนง. : แจ้งสิทธิ์ประมาณว่าดิฉันจะได้รับบัตรvipเพื่อเป็นบัตรแทนเงินสดเวลาเข้ารักษาพยาบาล และสิทธิ์ต่างๆบลาๆๆ คล้ายๆกับการซื้อประกันอุบัติเหตุนั่นแหละคะ
ดิฉันก็นั่งฟังจนกระทั่งพนักงานทวนที่อยู่พร้อมนัดรับบัตรและให้จ่ายค่างวดเดือนแรกเป็นเงิน 2300 บาท ดิฉันจึงถามกลับไปว่า
ดิฉัน : อ่อ นี่คือต้องจ่ายเพิ่มหรอคะ
พนง. : ใช่คะ (แล้วก็อธิบายรายละเอียดสั้นๆอีกรอบ)
ดิฉัน : ถ้ายังไม่รับนี่ก็ได้ใช่มั้ยคะ
พนง. : เอ้า (สบถแบบไม่พอใจ)
ดิฉัน : ........
พนง. : ขอทราบเหตุผลได้มั้ยว่าทำไมไม่รับ เพราะที่โทรแจ้งมาวันนี้ยังไม่ม่ลูกค้าคนไหนปฏิเสธเลย
ดิฉัน : ....(เอ้าก็ตรูยังไม่สนใจนี่)
ดิฉันก็เลยหงายเงิบเลยค่ะ สรุปคือลูกค้าปฏิเสธไม่ได้หรอคะ ก็เรายังไม่สนใจจะทำประกันนี่หน่า แล้วคุณมาขอให้ดิฉันนั่งฟังดิฉันก้ฟังแล้ว ตอนแรกที่โทรมาไม่ได้แจ้งนี่คะว่าจะโทรมาขายประกันอุบัติเหตุดิฉันจะได้ปฏิเสธไม่ฟัง จะได้ไม่เสียเวลาทั้งคุณและดิฉัน คุณจะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียแล้วเหวี่ยงดิฉันอบบนี้
พนง.: ถามซ้ำดิฉันอีกรอบด้วยประโยคเดิมคือ ขอเหตุผลที่ไม่ทำด้วยเพราะวันนี้ไม่มีลูกค้ารายไหนปฏิเสธเลย
ดิฉัน : ก็ยังไม่สนใจเลยคะ ไว้ดิฉันสนใจจะติดต่อไปนะคะ
พนง. : อ๋อ มันไม่ได้มีขายทั่วไปคะ โทรแจ้งเฉพาะลูกค้าที่ซื้อประกันรถกับเรา
ดิฉัน : คะ ยังไม่สนใจคะ
พนง. :โอเคคะ มีปัญหาทางการเงินนะคะ
ดิฉัน.: .....ยังไม่สนใจคะ
พนง. : คะ ตู้ด ตู้ดๆๆ
คือพนักตัดสายทันทีคะ ดิฉันยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ และว่าจะถามชื่อพนักงานก็ไม่มีโอกาสแล้ว
แล้วเหตุผลที่ดิฉันแจ้งคือ ไม่สนใจคะ แต่ดันทวนสวนกลีบมาว่ามีปัญหาด้านการเงิน คือดิฉันนี่ยืนขึ้นเลยคะ 555
สรุปคือดิฉันต้องห้ามปฏิเสธใช่มั้ยคะ ถ้าเช่นนั้นควรแจ้งแต่ต้นนะว่าต้องซื้อประกันอุบัติเหตุของเราพ่วงจากประกันรถยนต์ด้วย แต่นี่คือโทรมาเสนอขายไม่ใช่หรือ แล้วดิฉันซวยหรือที่เป็นคนแรกทีทปฏิเสธพนักงานคนนี้
เป็นคุณจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ข้างต้นดีคะ
โดนพนักงานขายประกันของทิ...ประกันภัยเหวี่ยงเพราะไม่ซื้อประกันกับเขา
พนง. : สวัสดีคะ ดิฉันขออนุญาติแจ้งสิทธิ์คืนกำไรให้ลูกค้าทราบคะ
ดิฉัน : ได้คะ
พนง. : แจ้งสิทธิ์ประมาณว่าดิฉันจะได้รับบัตรvipเพื่อเป็นบัตรแทนเงินสดเวลาเข้ารักษาพยาบาล และสิทธิ์ต่างๆบลาๆๆ คล้ายๆกับการซื้อประกันอุบัติเหตุนั่นแหละคะ
ดิฉันก็นั่งฟังจนกระทั่งพนักงานทวนที่อยู่พร้อมนัดรับบัตรและให้จ่ายค่างวดเดือนแรกเป็นเงิน 2300 บาท ดิฉันจึงถามกลับไปว่า
ดิฉัน : อ่อ นี่คือต้องจ่ายเพิ่มหรอคะ
พนง. : ใช่คะ (แล้วก็อธิบายรายละเอียดสั้นๆอีกรอบ)
ดิฉัน : ถ้ายังไม่รับนี่ก็ได้ใช่มั้ยคะ
พนง. : เอ้า (สบถแบบไม่พอใจ)
ดิฉัน : ........
พนง. : ขอทราบเหตุผลได้มั้ยว่าทำไมไม่รับ เพราะที่โทรแจ้งมาวันนี้ยังไม่ม่ลูกค้าคนไหนปฏิเสธเลย
ดิฉัน : ....(เอ้าก็ตรูยังไม่สนใจนี่)
ดิฉันก็เลยหงายเงิบเลยค่ะ สรุปคือลูกค้าปฏิเสธไม่ได้หรอคะ ก็เรายังไม่สนใจจะทำประกันนี่หน่า แล้วคุณมาขอให้ดิฉันนั่งฟังดิฉันก้ฟังแล้ว ตอนแรกที่โทรมาไม่ได้แจ้งนี่คะว่าจะโทรมาขายประกันอุบัติเหตุดิฉันจะได้ปฏิเสธไม่ฟัง จะได้ไม่เสียเวลาทั้งคุณและดิฉัน คุณจะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียแล้วเหวี่ยงดิฉันอบบนี้
พนง.: ถามซ้ำดิฉันอีกรอบด้วยประโยคเดิมคือ ขอเหตุผลที่ไม่ทำด้วยเพราะวันนี้ไม่มีลูกค้ารายไหนปฏิเสธเลย
ดิฉัน : ก็ยังไม่สนใจเลยคะ ไว้ดิฉันสนใจจะติดต่อไปนะคะ
พนง. : อ๋อ มันไม่ได้มีขายทั่วไปคะ โทรแจ้งเฉพาะลูกค้าที่ซื้อประกันรถกับเรา
ดิฉัน : คะ ยังไม่สนใจคะ
พนง. :โอเคคะ มีปัญหาทางการเงินนะคะ
ดิฉัน.: .....ยังไม่สนใจคะ
พนง. : คะ ตู้ด ตู้ดๆๆ
คือพนักตัดสายทันทีคะ ดิฉันยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ และว่าจะถามชื่อพนักงานก็ไม่มีโอกาสแล้ว
แล้วเหตุผลที่ดิฉันแจ้งคือ ไม่สนใจคะ แต่ดันทวนสวนกลีบมาว่ามีปัญหาด้านการเงิน คือดิฉันนี่ยืนขึ้นเลยคะ 555
สรุปคือดิฉันต้องห้ามปฏิเสธใช่มั้ยคะ ถ้าเช่นนั้นควรแจ้งแต่ต้นนะว่าต้องซื้อประกันอุบัติเหตุของเราพ่วงจากประกันรถยนต์ด้วย แต่นี่คือโทรมาเสนอขายไม่ใช่หรือ แล้วดิฉันซวยหรือที่เป็นคนแรกทีทปฏิเสธพนักงานคนนี้
เป็นคุณจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ข้างต้นดีคะ