คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1.อยากทราบสูตรเคมีของแต่ละอย่าง
ตอบ link ข้างบนมีแล้ว
2.แต่ละอย่างต่างกันอย่างไรบ้าง
ตอบ มี โดโลไมท์ และ ยิบซั่ม ที่ต่างจากพวก
ส่วนที่ต่างคือ โดโลไมท์ มี Mg อยู่ด้วย
ยิบซั่มมี SO4 อยู่ด้วย
Mg เป็นส่วนประกอบสำคัญ ของ คลอโรฟิลล์
SO4 มี กำมะถันอยู่ด้วย
กำมะถัน เป็นองค์ประกอบสำคัญของกรดอะมิโน
โปรตีน และวิตามิน ถ้าขาดธาตุนี้ทั้งใบบนและใบล่างจะมีสีเหลืองซีด
และต้นอ่อนแอ
แต่การมี SO4 อยู่ในดินมาก อาจทำให้ดินมี pH ลดลงกว่าเดิม
การเติม ยิบซั่มลงในดิน แทบไม่ช่วย ปรับ pH ให้เพิ่มขึ้นเลย
ช่วยได้ ในส่วนของ Ca++ เท่านั้น (กรณีพืชขาดแคลน)
ตัวยิบซัม เป็นสารราคาถูก และให้ Ca++ ง่ายกว่าหินปูน
3.อะไรให้ผลดีกว่ากันคะ
ตอบ หากต้องการ ใช้ลด pH อย่างเร็ว และไม่มีพืชอยู่ในดิน
การใช้ CaO จะได้ผลดีกว่าและเร็วกว่า เพียง 7 -14 วัน จะเห็นชัด
อันที่จริง เขาดูที่ 28 วัน
กรณี มีพืชอยู่ในดิน และเป็นพืชฤดูเดียว อ่อนแอ ต่อการเปลี่ยนแปลง pH อย่างฉับพลัน
ควรใช้ ปูนมาล ดีที่สุด (นอกจากนี้ ปูนมาลยังราคาถูก และหาง่าย ในเขตภาคกลาง)
ตันละไม่เกิน สองพันบาท
กรณี ดินขาดแคลนธาตุอาหารมาก ควรใช้ Dolomite จะดีที่สุด
เนื่องจากมี ทั้ง Ca และ Mg แต่ต้องใส่ก่อน การปลูกพืช 15 วัน
หากจำเป็นอาจใส่(ขณะมีพืช) อาจทำได้โดยการหว่าน แล้วกลบรอบลำต้นได้
ใช้ได้ทั้ง พืชล้มลุกและไม้ยืนต้น
ปัญหาสำคัญคือ โดโลไมท์ ที่ขายกัน (ปกติตันละไม่เกิน 2,000 บาทที่ 100 mesh)
นำมาหลอกขายกัน ตันละ 4 - 6 พันบาท
และ มี Mg อยู่ไม่ถึง 1 % ผมเองโดนมาแล้ว
(ผมส่ง lab สองแห่ง เพื่อวิเคราะห์ ผลออกมาทำนองเดียวกันคือ
มี Mg ไม่ถึง 1 % มีแค่ 0.38 % โดยน้ำหนักเท่านั้น)
ไม่มีหน่วยงานใดๆ มาคุ้มครองเรื่องนี้เลย เกษตรกรรับไปเต็มๆ
เสียเปรียบเหมือนหมูเดินให้เขาเข้าไปเชือด สุดท้ายผม ต้องสั่ง MgSO4.7H2O มาใส่เพิ่ม
ไม่งั้น ต้นไม้ผมไม่งาม ต้องเสียเงินสองต่อ
การซื้อ โดโลไมท์ มาใช้ จำต้องซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
หรือหากใช้จำนวนน้อยๆ เช่น 100 - 200 กิโลกรับ
สามารถขอได้ฟรีที่ กรมพัฒนาที่ดิน หรือสำนักงานพัฒนาทีดินใกล้บ้าน
(ควรโทรไปก่อน บางครั้งของหมด)
ตอบ link ข้างบนมีแล้ว
2.แต่ละอย่างต่างกันอย่างไรบ้าง
ตอบ มี โดโลไมท์ และ ยิบซั่ม ที่ต่างจากพวก
ส่วนที่ต่างคือ โดโลไมท์ มี Mg อยู่ด้วย
ยิบซั่มมี SO4 อยู่ด้วย
Mg เป็นส่วนประกอบสำคัญ ของ คลอโรฟิลล์
SO4 มี กำมะถันอยู่ด้วย
กำมะถัน เป็นองค์ประกอบสำคัญของกรดอะมิโน
โปรตีน และวิตามิน ถ้าขาดธาตุนี้ทั้งใบบนและใบล่างจะมีสีเหลืองซีด
และต้นอ่อนแอ
แต่การมี SO4 อยู่ในดินมาก อาจทำให้ดินมี pH ลดลงกว่าเดิม
การเติม ยิบซั่มลงในดิน แทบไม่ช่วย ปรับ pH ให้เพิ่มขึ้นเลย
ช่วยได้ ในส่วนของ Ca++ เท่านั้น (กรณีพืชขาดแคลน)
ตัวยิบซัม เป็นสารราคาถูก และให้ Ca++ ง่ายกว่าหินปูน
3.อะไรให้ผลดีกว่ากันคะ
ตอบ หากต้องการ ใช้ลด pH อย่างเร็ว และไม่มีพืชอยู่ในดิน
การใช้ CaO จะได้ผลดีกว่าและเร็วกว่า เพียง 7 -14 วัน จะเห็นชัด
อันที่จริง เขาดูที่ 28 วัน
กรณี มีพืชอยู่ในดิน และเป็นพืชฤดูเดียว อ่อนแอ ต่อการเปลี่ยนแปลง pH อย่างฉับพลัน
ควรใช้ ปูนมาล ดีที่สุด (นอกจากนี้ ปูนมาลยังราคาถูก และหาง่าย ในเขตภาคกลาง)
ตันละไม่เกิน สองพันบาท
กรณี ดินขาดแคลนธาตุอาหารมาก ควรใช้ Dolomite จะดีที่สุด
เนื่องจากมี ทั้ง Ca และ Mg แต่ต้องใส่ก่อน การปลูกพืช 15 วัน
หากจำเป็นอาจใส่(ขณะมีพืช) อาจทำได้โดยการหว่าน แล้วกลบรอบลำต้นได้
ใช้ได้ทั้ง พืชล้มลุกและไม้ยืนต้น
ปัญหาสำคัญคือ โดโลไมท์ ที่ขายกัน (ปกติตันละไม่เกิน 2,000 บาทที่ 100 mesh)
นำมาหลอกขายกัน ตันละ 4 - 6 พันบาท
และ มี Mg อยู่ไม่ถึง 1 % ผมเองโดนมาแล้ว
(ผมส่ง lab สองแห่ง เพื่อวิเคราะห์ ผลออกมาทำนองเดียวกันคือ
มี Mg ไม่ถึง 1 % มีแค่ 0.38 % โดยน้ำหนักเท่านั้น)
ไม่มีหน่วยงานใดๆ มาคุ้มครองเรื่องนี้เลย เกษตรกรรับไปเต็มๆ
เสียเปรียบเหมือนหมูเดินให้เขาเข้าไปเชือด สุดท้ายผม ต้องสั่ง MgSO4.7H2O มาใส่เพิ่ม
ไม่งั้น ต้นไม้ผมไม่งาม ต้องเสียเงินสองต่อ
การซื้อ โดโลไมท์ มาใช้ จำต้องซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
หรือหากใช้จำนวนน้อยๆ เช่น 100 - 200 กิโลกรับ
สามารถขอได้ฟรีที่ กรมพัฒนาที่ดิน หรือสำนักงานพัฒนาทีดินใกล้บ้าน
(ควรโทรไปก่อน บางครั้งของหมด)
แสดงความคิดเห็น
ปูนขาว ปูนมาร์ล โดโลไมต์ ยิปซัมธรรมชาติ ต่างกันอย่างไรบ้างคะ
อยากทราบสูตรเคมีของแต่ละอย่าง
แต่ละอย่างต่างกันอย่างไรบ้าง
อะไรให้ผลดีกว่ากันคะ
ขอบคุณค่ะ