สวัสดีปิดเทอม ><"
ช่วงเดือนมิถุนาเป็นช่วงหน้าฝนนะ แต่ว่าปีนี้ฝนไม่ยักกะตกเท่าไหร่ อยู่เชียงใหม่ไม่เปียกฝนเลย
อีกอย่างช่วงนี้ห้องพักราคาถูก แถมผู้คนก็ไม่แย่งกันกิน ไม่แย่งกันเที่ยวด้วย
ซึ่งเหมาะมากๆกับการกิน เที่ยว และพักผ่อนแบบสงบสุขและประหยัดในระดับหนึ่ง
ออกตัวก่อนเลยนะ ทริปนี้กิจกรรมไม่เยอะ เที่ยวไม่เยอะ ส่วนมากจะอยู่ในที่พัก เน้นมาพักผ่อนจริงจร๊ง
ยังไง ยังไง ก็ติดตามรับชมกันนะคะ
ทริป 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นจากสนามบินเชียงใหม่ เช่ารถ vios เจ้าเดิม ช่วงนี้ได้วันละ 800 บาท (ประหยัดไปอีกจ้า)
Day 1: ออกจากสนามบินเชียงใหม่ > กินเที่ยง "หลงป่า" > กินว่าง "พราวภูฟ้า" > กินเย็นและนอนพักผ่อน "ปานวิมาน"
Day 2: ตื่นเช้าออกกำลังกายและกินอาหารเช้า > ไร่องุ่น "เอเดน" > "ม่อนแจ่ม" > กินเที่ยง "สวนผักโอ้กะจู๋"
> กินเย็นและนอนพักผ่อน "The Giant"
Day 3: ตื่นสายและกินอาหารเช้า > กลับสนามบินเชียงใหม่
สำหรับการเดินทางตามแผนที่ข้างล่างเลยจ้า
อุปกรณ์: iPhone 5S, กล้อง sony a5100 + lens 16-50
และ Yi camera เพิ่งถอยมาใหม่เอามาถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ ถ้ารูปตัวเองเยอะหน่อยไม่ว่ากันน้าาาาา
เริ่มที่ “หลงป่า” สั่งอาหารคนละจานและเครื่องดื่มคนละแก้ว ไม่ได้สั่งของหวานแต่อย่างใด
อาหารรสชาติธรรมดา เมนูก็ไม่หลากหลายสงสัยเป็นช่วง low season ด้วยล่ะ
ส่วนบรรยากาศร้านก็ป่าๆสมชื่อนะ ต้มไม้เยอะดูร่มรื่น แต่วันนั้นอากาศค่อนข้างร้อนเลยไม่ได้เดินไปโซน outdoor
จากนั้นขับรถมาต่อกันที่ "พราวภูฟ้า" เอาจริงๆก็ไม่ได้กะจะมากิน แต่จะมาดูบรรยากาศ
เพราะตอนแรกตัดสินใจอยู่ว่าจะพักที่ไหน? ระหว่างพราวภูฟ้ากับปานวิมาน แต่ปานวิมานห้องพักราคาถูกกว่า
พอมาถึงเจอเลยจร้า สัมผัสแรกบรรยากาศดีมาก ร่มรื่น เย็นสบาย ต้องเดินข้ามสะพานด้วยนะ
สนามหญ้าหน้าฝนดูเขียวสดใสมากกกก
จัดไปไอติมโฮมเมด ลิ้นจี่ (ซ้าย) มะม่วงหาวมะนาวโห่ (ขวา) หวานไปนิดๆ
ยำสมุนไพรใบชะพลู อันนี้อร่อย
และเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร จะดีกว่านี้ถ้าลดหวานลงไปอีกนิดหน่อย
ติดๆร้านอาหารเลย แอบเดินมาส่องบรรยากาศของที่พักซะโหน่ยยย
มุมสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำนี่ค่อนข้างเล็กนะ
และแล้วก็มาถึงสถานีสุดท้ายของวัน นั่นคือ "ปานวิมาน" ใกล้ๆกันเลยกับพราวภูฟ้า
ที่นี่มีรถรับ-ส่งตั้งแต่หน้ารีสอร์ท ไปล๊อบบี ห้องพัก หรือถ้าต้องการจะไปไหนโทรเรียกได้ตลอดเลย
มุมมหาชนจ้า
ส่องไปทางสระว่ายน้ำซะหน่อย
เราจองห้องพักแบบวิลล่าพร้อมอาหารเช้า และเตียงเสริม ผ่านอโกด้าได้ราคา 5,848 บาท
ส่วนวิวตรงข้ามคือป่าเขียวขจีมีต้นไม้สูงใหญ่
ส่วนเรื่องยุงนั้นมีแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วงเลยในห้องพักมีทั้งเทียนหอมไล่ยุงและโลชันกันไว้บริการ
ห้องพักเราอยู่ชั้นล่างจะมีห้องอบซาวน่า ส่วนห้องพักข้างบนมีอ่างจากุซซีด้วย คือดูดีกว่าในราคาที่แพงกว่าเช่นกัน
เข้ามาดูในห้องกันบ้าง แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือห้องนอน มีทีวี เครื่องเล่น CD รวมไปถึงเครื่องชั่งน้ำหนัก
และห้องครัวที่มีเคาเตอร์ชงชากาแฟ welcome fruits ห้องน้ำและ facilities ต่างๆ
มาเช็คอินตั้งแต่บ่าย 3 ไม่ต้องห่วงรีสอร์ทบริเวณกว้างใหญ่มีอะไรให้ทำมากมาย อาทิเช่น
มีสนามเด็กเล่น ชิงช้าแบบเมืองๆ
ลานพัตต์กอล์ฟวิวสวยๆ
ส่องนกยูงในรีสอร์ทยังได้
หรือจะออกกำลังกาย สระว่ายน้ำไม่มีใครสักคน ส่วนตั๊วส่วนตัว
นั่งปฏิบัติธรรมก็ได้นะ มีการเปิดดนตรีคลอเบาๆ เราว่าค่อนข้างหลอนๆนะหรือเราเองที่ไม่สงบ
เดินแบบขึ้น-ลงเขาสลับกันไป และแล้วรองเท้าคีบของทางรีสอร์ทนั้น หูหลุดจร้า
พยายามจะยัดเข้าแบบพี่เสือแล้วนะ แต่ทำไม่ได้จริง
เดินอยู่โซนสปาพอดี พนักงานจัดแจงเอารองเท้าสปามาเปลี่ยนให้แทน บริการดี๊ดีประทับใจ
เปลี่ยนรองเท้าแล้วก็มากระโดดกันโหน่ยยยย
ได้เวลาอาหารค่ำ เดินย่ำมาห้องอาหารตรงล๊อบบี ที่นี่ห้องอาหารเค้าวิวพาโนรามาด้วยนะ
ถ้าได้นั่งข้างนอกเสพบรรยากาศจะดีมาก แต่ทว่าเดินเท้ามาไกลประหนึ่งว่าออกกำลังอย่างหนักหน่วง
ขอนั่งห้องแอร์เถอะ เก็บวิวผ่านกระจกแทนละกัน
เดินมาไกลไม่เท่าไหร่แต่เหมือนเดินขึ้นเขาตลอดนี่สิ เหนื่อยล้า เหงื่อไหลพลักๆ พนักงานห้องอาหารเสิร์ฟผ้าเย็นก่อนเลยจร้าดี๊ดีอีกแล้ว
แล้วแนะนำเครื่องเดิมในช่วงเทศการลิ้นจี่ จัดไปเลยคนละแก้ว
"Lychee laminate"
"Lychee smoothie"
"Lychee with beer"
ตามด้วยอาหารที่เค้าบอกว่าเป็นเมนูแนะนำของที่นี่
"ข้าวผัดสับปะรด" อันนี้อร่อยถูกปากเรานะ
"เป็ดราดซอสมะขาม"
"ฉู่ฉี่ปลาห่อกุ้ง"
นอกจากนั้นแล้ว ทางห้องอาหารแถมสลัดให้ด้วย
รวมๆแล้วอาหารและเครื่องดื่มที่นี่ตกแต่งสวย ถ่ายรูปแล้วขึ้นกล้องมาก
สำหรับรสชาติดี มีเอกลักษณ์อาจเพราะเราไม่ได้สั่งเมนูแบบนี้กินบ่อยๆนัก (ปกติกินก๋วยเตี๋ยวน่ะนะ)
ขากลับเดินผ่านห้องเก็บไวน์ และตกแต่งหน้าห้องด้วยที่เปิดไวน์ เก๋ๆ
เดินกลับมายังห้องพัก เอ๊ะ!!!ใครกันนะ เอาขนมมาวางไว้หน้าห้องด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขนมนั้นสวยแต่รูป จูบไม่หอมนะแจ๊ะ
อ่ออออออออออ ที่นี่สัญญาณ Dtac ไม่ดีนัก
แต่ช้าแต่มี Free Wifi จ้าาาา รวดเร็วดีนะ เราดูพี่เสือได้ไม่สะดุดเลย แฮ่ะๆ ฟิน จิกหมอน นอนฝันดีเลยทีเดียว
[CR] กิน เที่ยว เชียงใหม่ ช่วง Low season กลางมิถุนายน 2558
ช่วงเดือนมิถุนาเป็นช่วงหน้าฝนนะ แต่ว่าปีนี้ฝนไม่ยักกะตกเท่าไหร่ อยู่เชียงใหม่ไม่เปียกฝนเลย
อีกอย่างช่วงนี้ห้องพักราคาถูก แถมผู้คนก็ไม่แย่งกันกิน ไม่แย่งกันเที่ยวด้วย
ซึ่งเหมาะมากๆกับการกิน เที่ยว และพักผ่อนแบบสงบสุขและประหยัดในระดับหนึ่ง
ออกตัวก่อนเลยนะ ทริปนี้กิจกรรมไม่เยอะ เที่ยวไม่เยอะ ส่วนมากจะอยู่ในที่พัก เน้นมาพักผ่อนจริงจร๊ง
ยังไง ยังไง ก็ติดตามรับชมกันนะคะ
ทริป 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นจากสนามบินเชียงใหม่ เช่ารถ vios เจ้าเดิม ช่วงนี้ได้วันละ 800 บาท (ประหยัดไปอีกจ้า)
Day 1: ออกจากสนามบินเชียงใหม่ > กินเที่ยง "หลงป่า" > กินว่าง "พราวภูฟ้า" > กินเย็นและนอนพักผ่อน "ปานวิมาน"
Day 2: ตื่นเช้าออกกำลังกายและกินอาหารเช้า > ไร่องุ่น "เอเดน" > "ม่อนแจ่ม" > กินเที่ยง "สวนผักโอ้กะจู๋"
> กินเย็นและนอนพักผ่อน "The Giant"
Day 3: ตื่นสายและกินอาหารเช้า > กลับสนามบินเชียงใหม่
สำหรับการเดินทางตามแผนที่ข้างล่างเลยจ้า
อุปกรณ์: iPhone 5S, กล้อง sony a5100 + lens 16-50
และ Yi camera เพิ่งถอยมาใหม่เอามาถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะ ถ้ารูปตัวเองเยอะหน่อยไม่ว่ากันน้าาาาา
เริ่มที่ “หลงป่า” สั่งอาหารคนละจานและเครื่องดื่มคนละแก้ว ไม่ได้สั่งของหวานแต่อย่างใด
อาหารรสชาติธรรมดา เมนูก็ไม่หลากหลายสงสัยเป็นช่วง low season ด้วยล่ะ
ส่วนบรรยากาศร้านก็ป่าๆสมชื่อนะ ต้มไม้เยอะดูร่มรื่น แต่วันนั้นอากาศค่อนข้างร้อนเลยไม่ได้เดินไปโซน outdoor
จากนั้นขับรถมาต่อกันที่ "พราวภูฟ้า" เอาจริงๆก็ไม่ได้กะจะมากิน แต่จะมาดูบรรยากาศ
เพราะตอนแรกตัดสินใจอยู่ว่าจะพักที่ไหน? ระหว่างพราวภูฟ้ากับปานวิมาน แต่ปานวิมานห้องพักราคาถูกกว่า
พอมาถึงเจอเลยจร้า สัมผัสแรกบรรยากาศดีมาก ร่มรื่น เย็นสบาย ต้องเดินข้ามสะพานด้วยนะ
สนามหญ้าหน้าฝนดูเขียวสดใสมากกกก
จัดไปไอติมโฮมเมด ลิ้นจี่ (ซ้าย) มะม่วงหาวมะนาวโห่ (ขวา) หวานไปนิดๆ
ยำสมุนไพรใบชะพลู อันนี้อร่อย
และเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร จะดีกว่านี้ถ้าลดหวานลงไปอีกนิดหน่อย
ติดๆร้านอาหารเลย แอบเดินมาส่องบรรยากาศของที่พักซะโหน่ยยย
มุมสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำนี่ค่อนข้างเล็กนะ
และแล้วก็มาถึงสถานีสุดท้ายของวัน นั่นคือ "ปานวิมาน" ใกล้ๆกันเลยกับพราวภูฟ้า
ที่นี่มีรถรับ-ส่งตั้งแต่หน้ารีสอร์ท ไปล๊อบบี ห้องพัก หรือถ้าต้องการจะไปไหนโทรเรียกได้ตลอดเลย
มุมมหาชนจ้า
ส่องไปทางสระว่ายน้ำซะหน่อย
เราจองห้องพักแบบวิลล่าพร้อมอาหารเช้า และเตียงเสริม ผ่านอโกด้าได้ราคา 5,848 บาท
ส่วนวิวตรงข้ามคือป่าเขียวขจีมีต้นไม้สูงใหญ่
ส่วนเรื่องยุงนั้นมีแน่นอน แต่ไม่ต้องห่วงเลยในห้องพักมีทั้งเทียนหอมไล่ยุงและโลชันกันไว้บริการ
ห้องพักเราอยู่ชั้นล่างจะมีห้องอบซาวน่า ส่วนห้องพักข้างบนมีอ่างจากุซซีด้วย คือดูดีกว่าในราคาที่แพงกว่าเช่นกัน
เข้ามาดูในห้องกันบ้าง แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือห้องนอน มีทีวี เครื่องเล่น CD รวมไปถึงเครื่องชั่งน้ำหนัก
และห้องครัวที่มีเคาเตอร์ชงชากาแฟ welcome fruits ห้องน้ำและ facilities ต่างๆ
มาเช็คอินตั้งแต่บ่าย 3 ไม่ต้องห่วงรีสอร์ทบริเวณกว้างใหญ่มีอะไรให้ทำมากมาย อาทิเช่น
มีสนามเด็กเล่น ชิงช้าแบบเมืองๆ
ลานพัตต์กอล์ฟวิวสวยๆ
ส่องนกยูงในรีสอร์ทยังได้
หรือจะออกกำลังกาย สระว่ายน้ำไม่มีใครสักคน ส่วนตั๊วส่วนตัว
นั่งปฏิบัติธรรมก็ได้นะ มีการเปิดดนตรีคลอเบาๆ เราว่าค่อนข้างหลอนๆนะหรือเราเองที่ไม่สงบ
เดินแบบขึ้น-ลงเขาสลับกันไป และแล้วรองเท้าคีบของทางรีสอร์ทนั้น หูหลุดจร้า
พยายามจะยัดเข้าแบบพี่เสือแล้วนะ แต่ทำไม่ได้จริง
เดินอยู่โซนสปาพอดี พนักงานจัดแจงเอารองเท้าสปามาเปลี่ยนให้แทน บริการดี๊ดีประทับใจ
เปลี่ยนรองเท้าแล้วก็มากระโดดกันโหน่ยยยย
ได้เวลาอาหารค่ำ เดินย่ำมาห้องอาหารตรงล๊อบบี ที่นี่ห้องอาหารเค้าวิวพาโนรามาด้วยนะ
ถ้าได้นั่งข้างนอกเสพบรรยากาศจะดีมาก แต่ทว่าเดินเท้ามาไกลประหนึ่งว่าออกกำลังอย่างหนักหน่วง
ขอนั่งห้องแอร์เถอะ เก็บวิวผ่านกระจกแทนละกัน
เดินมาไกลไม่เท่าไหร่แต่เหมือนเดินขึ้นเขาตลอดนี่สิ เหนื่อยล้า เหงื่อไหลพลักๆ พนักงานห้องอาหารเสิร์ฟผ้าเย็นก่อนเลยจร้าดี๊ดีอีกแล้ว
แล้วแนะนำเครื่องเดิมในช่วงเทศการลิ้นจี่ จัดไปเลยคนละแก้ว
"Lychee laminate"
"Lychee smoothie"
"Lychee with beer"
ตามด้วยอาหารที่เค้าบอกว่าเป็นเมนูแนะนำของที่นี่
"ข้าวผัดสับปะรด" อันนี้อร่อยถูกปากเรานะ
"เป็ดราดซอสมะขาม"
"ฉู่ฉี่ปลาห่อกุ้ง"
นอกจากนั้นแล้ว ทางห้องอาหารแถมสลัดให้ด้วย
รวมๆแล้วอาหารและเครื่องดื่มที่นี่ตกแต่งสวย ถ่ายรูปแล้วขึ้นกล้องมาก
สำหรับรสชาติดี มีเอกลักษณ์อาจเพราะเราไม่ได้สั่งเมนูแบบนี้กินบ่อยๆนัก (ปกติกินก๋วยเตี๋ยวน่ะนะ)
ขากลับเดินผ่านห้องเก็บไวน์ และตกแต่งหน้าห้องด้วยที่เปิดไวน์ เก๋ๆ
เดินกลับมายังห้องพัก เอ๊ะ!!!ใครกันนะ เอาขนมมาวางไว้หน้าห้องด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ่ออออออออออ ที่นี่สัญญาณ Dtac ไม่ดีนัก
แต่ช้าแต่มี Free Wifi จ้าาาา รวดเร็วดีนะ เราดูพี่เสือได้ไม่สะดุดเลย แฮ่ะๆ ฟิน จิกหมอน นอนฝันดีเลยทีเดียว