เราจำเป็นต้องเชื่อฟังพวกอาสากู้ภัยพวกนี้ไหมคะ มันจะให้เราเคลื่อนย้ายรถเข้าไปไม่ให้เกะกะทางจราจรลูกเดียว แค่ไม่ให้รถเราขวางทางคือหน้าที่ของมัน แต่เรายังไม่ได้ถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุอะไรไว้เป็นหลักฐานพยานทั้งนั้น เคลื่อนย้ายรถก็เท่ากับทำลายหลักฐานอะดิ ประกันก็แจ้งเงื่อนไขข้อควรจำไว้แล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต้องรอตำรวจมาหรือไม่ก็รอประกันมาก่อน ห้ามเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุเด็ดขาด
อ้อ...แต่ดิฉันไม่ได้ฟังพวกกู้ภัยมันหรอกนะคะ มันสั่งให้ดิฉันเคลื่อนย้ายรถทันที แต่ดิฉันไม่ยอมเคลื่อนย้าย ดิฉันถ่ายรูปเสร็จก่อนถึงได้ยอมเคลื่อน แถมวี้ดใส่ความบ้าอำนาจของพวกมันอีกต่างหาก มันเสียงดังใส่ดิฉัน ตะคอกใส่ดิฉัน ท่าทางหยาบคาย สถูล ดิฉันก็ตะคอกกลับ ค่อนข้างแรง เถียงๆๆๆ...มัน จนมันต้องคอยดูรถ โบกรถให้ระหว่างที่ดิฉันถ่ายรูป
ครั้งก่อนดิฉันได้เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับกรณีเก๋งถูกมอเตอร์ไซค์ชน
http://pantip.com/topic/33175544
มาวันนี้ดิฉันเจออีกครั้งแล้วค่ะ!!!
สุดยอดของความซวย
ในเวลาผ่านมาไม่ถึง 6 เดือนดี เหตุการณ์แบบนี้ก็รีเทิร์นกลับมาอีกแล้ว
ครั้งนี้ เหตุเกิดตอนต้นเดือนกรกฎาคม
ก็เมื่อวานนี้ล่ะนะ
รถดิฉันถูกมอเตอร์ไซค์ชนท้ายอีกแล้ว แต่ครั้งนี้มันชนแล้วหนีค่ะ!!!
เหตุเกิดบริเวณถนนที่มีทางแยกค่ะ ดิฉันกำลังจะขับรถยูเทิร์นไปใต้สะพานข้ามคลองแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ขับๆ อยู่ ก็มีสองแถวคันหนึ่งพุ่งเข้ามาในเลนที่ดิฉันขับดิฉันก็ชะลอรถ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เบรคหยุดแค่ชะลอรถให้ช้าลง ให้สองแถวไปก่อน จากนั้นก้ได้ยินเสียงปึง ดิฉันคิดตอนนั้นเลย เอาอีกแล้วไง แม่มอีกแล้ว!!!!
หันไปมองข้างหลัง เห็นมีมอเตอร์ไซค์มาชนท้ายรถจริงๆ ด้วยล่ะ
(ในภายหลังจึงได้พบว่าความเสียหายอยู่บริเวณใกล้ๆ ท่อไอเสียรถยนต์ ไม่มากเท่าไหร่แต่ก็เสียหาย ประกันชั้น 1 ถ้าซ่อมเองก็ต้องเสียค่าแอสเซสอีก 1,000 บาทและกลายเป็นฝ่ายผิดไม่ใช่ฝ่ายถูก)
เล่าต่อค่ะ อารมณ์แบบอกจะแตกอะ แม่ม อีกแล้วไง กุโดนอีกแล้ว มอไซอีกแล้ว มันจะจองเวรกุไปถึงไหนฟะ โกรธจิ๊ดดดด เลยนะคะขอบอก
ดิฉันได้ยินเสียงเหมือนรถมอไซค์กระแทกอะ แล้วก็ได้ยินเสียงคนขับมอเตอร์ไซค์ขอโทษ คนขับเป็นผู้หญิง “ขอโทษด้วยนะค้า” แล้วนางก็ลากรถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นก็จูงมาข้างๆ หน้าต่างฝั่งที่ดิฉันนั่งขับรถก็คือด้านขวา แล้วนางก็พูดว่า “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆ รถไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ มีแค่รอยนิ้ดดดด...เดียว ชนแค่นิดเดียวเองค่ะ ขอโทษนะคะ” พูดจบสิ้น จากนั้นนางก็ขี่มอเตอร์ไซค์จากไปอย่างไว ดิฉันอึ้งมากโกรธจนตาปลิ้นตาเหลือก จ้องหน้านางตอนที่ขอโทษแต่ยังไม่ลดกระจกลง ยังไม่ได้มีการพูดจาด้วย เพราะกำลังควบคุมรถอยู่ บริเวณนั้นรถขวักไขว่มาก ตั้งสติอยู่ค่ะ เดี๋ยวจะเกิดเหตุยาวต่อเนื่อง นางเล่นขอโทษไวมาก ยังไม่รอให้ดิฉันตอบว่าอะไร แล้วก็รีบไปทันที ดิฉันนั่งนิ่งไม่ได้ขยับรถ จ้องไปที่หมายเลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ของนาง จ้องและจำในหัว ท่องๆๆๆๆ....จากนั้นก็หากระดาษมาจดๆๆๆ.... ดิฉันได้เลขทะเบียนมันค่ะ!!! อีอนางคนขับมอเตอร์ไซค์ชุ่ยๆ คนนี้ ดิฉันได้เลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ของมัน
มันขับจากไปโดยที่ยังไม่รอเสียงทางฝั่งดิฉันว่าจะยกโทษให้มันหรือเปล่า ดิฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะอภัยให้ จะยอมให้ แต่มันก็ชิ่งไปเลยอะ ขอโทษแล้วหายหัวไปอย่างรวดเร็ว แบบนี้ศัพท์ของตำรวจและของประกันเรียกว่าการหลบหนีค่ะ ชนแล้วหนี!!!
จากนั้นดิฉันก็โทรหาประกัน ประกันบอกให้ไปแจ้งความ ดิฉันบอกว่ายังไปไม่ได้ยังไม่ได้ถ่ายรูป ครั้งก่อนไปแบบไม่มีรูปแล้วมันมีปัญหามากมาย ครั้งก่อนตำรวจหาว่าดิฉันไม่มีหลักฐานอะ ตำรวจบอกว่า ต้องถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุด้วย ถ่ายให้เห็นในมุมกว้างๆ ถนนเส้นไหน อยู่เลนไหนอะไรแบบนี้ ดิฉันจำเรื่องครั้งที่แล้วได้ดี มีบทเรียนแล้ว การไปแจ้งความแบบไม่มีหลักฐานเป็นรูปภาพมันส่งผลอย่างไรบ้าง ครั้งนี้ดิฉันมีกล้องค่ะ แต่ยังลงไปถ่ายไม่ได้ เนื่องจากรถวิ่งน่ากลัวมาก ลงไปอาจกลายเป็นศพ จึงต้องจอดรถเกะกะแบบนั้น และเปิดไฟกะพริบไว้
ประมาณ 5 นาทีต่อมา
ก็มีอาสากู้ภัยมาคนหนึ่งมาเคาะกระจก บอกให้ดิฉันเอารถเข้าข้างทาง มาอีหรอบเดิมเหมือนครั้งที่แล้วเปี๊ยบ
http://pantip.com/topic/33175544
แต่ครั้งนี้ดิฉันไม่ยอม ดิฉันพูดเสียงดังใส่ว่า ครั้งก่อนก็เจอเหตุการณ์ถูกชนท้ายแบบนี้ เอารถเข้าข้างทางตำรวจบอกว่าเป็นการทำลายหลักฐาน ประกันก็บอก แล้วมันก็มีปัญหามากครั้งที่แล้ว ที่เอารถเข้าข้างทางแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ดิฉันต้องกลายเป็นโดนประมาทร่วม ทั้งที่ดิฉันไม่ได้ผิด วันนี้ฉันไม่เอาเข้าข้างทางหรอก ยังไม่ได้ถ่ายรูป แต่มันลงไปถ่ายไม่ได้นี่ คุณดูสิ ลงไปถ่ายได้ไง รถวิ่งขนาดนี้ กู้ภัยคนนี้ก็บอกเดี๋ยวผมดูรถให้ คุณลงไปถ่ายรูป (กู้ภัยคนนี้พุดจาดีพอสมควร)
ระหว่างที่ดิฉันจอดรถเปิดไฟกะพริบเกะกะ ก็มีอีรถเห็นแก่ตัวหลายคันมาบอกให้เอารถเข้าข้างทาง บ่นนั่นนี่ นิสัยสน้นตรีน เห็นแก่ตัว เพราะไม่ได้เกิดกับตัวเอง จะพุดไงก็พูดได้ ดิฉันก็ไม่แคร์ แล้วดิฉันก็กลับเข้าไปในรถ ยังไม่ทันจะตัดสินใจว่าไงต่อ เพราะรูปยังถ่ายได้ไม่ชัดเจน รถวิ่งจะขับมาปาดตายห่ะ คนสมัยนี้มันเห็นแก่ตัวจริงๆ จะเอาแต่ตัวเองไปให้ได้ ใครจะเป็นไงไม่สน
ก็มีไอ่วินมอเตอร์ไซค์คนนึงมา ไม่รู้อยู่กู้ภัยด้วย หรือขาสะเอือก มีเอี่ยวกะตำรวจ เคยเป็นขี้ข้าของราชการมาก่อน หรือว่าอะไร ดิฉันไม่ทราบ ไอ่ห่ะนี่หยาบคาย สะถุนสุดๆ กร่างมากๆ มาถึงก็มาเคาะกระจกรถดิฉันแรงๆ ขอย้ำว่ารุนแรง เรียกให้ดิฉันเอารถเข้าข้างทาง มันมาหยาบคายกะดิฉัน ดิฉันก็วี้ดแตก พูดแบบใส่อารมณ์โกรธเต็มที่ โกรธแบบมาจากโคตๆ มาลงกะมันนี่แหละ เกลียดมากพวกวางอำนาจ ดิฉันก็บอกไปว่ารถที่เอาเข้าข้างทางไม่ได้นี่เพราะมันเคยมีปัญหาอะไรบ้าง เพราะคร้งก่อนเจอเหตุการณืแบบนี้ แล้วเอาเข้าข้างทาง ดิฉันเสียเปรียบมากในครั้งก่อน มันก็บอกว่า ลงมา!!! ถ่ายรถไว้ทั้ง 4 ด้าน ลงมา!!!! ดิฉันจ้องหน้ามันแบบแค้นจัด
เดี๋ยวจะจัดเต็มให้ แม่มๆๆๆๆๆ....
ดิฉันถ่ายทั้ง 4 ทิศ มันก็มาโบกรถให้ ดิฉันถ่ายเสร็จมันก็มาตะคอกดิฉันอีก จะให้ดิฉันเอารถเข้าข้างทาง ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้พวกตำรวจจะมาไม้ไหน จะรอให้พวกมันมา ก็ไม่รู้มันจะมาเมื่อไหร่ มีแต่พวกกู้ภัยนี่แหละที่สาเอ๊อะมาแทน ดิฉันก็วี้ดเสียงใส่มันว่า ถ้ามีปัญหาอีกจะทำยังไง ใครจะรับผิดชอบล่ะ แล้วก็เหวี่ยงๆๆ... มันบอกไม่มีปัญหา ถ่ายรูปแล้วไม่มีปัญหา เอารถเข้าข้างทางได้แล้ว เสียงมันอ่อนลง เพราะเสียงดิฉันวีนแทบจะกรี๊ดอยู่แล้ว โกรธมาก ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้จะได้เรื่องรึเปล่า เดี๋ยวก็มามั่วให้ดิฉันผิดอีก เบื่อจริงๆ ครั้งที่แล้วเหนื่อยแทบบ้า
พอเอารถออกจากที่เกิดเหตุก็ดันหาที่จอดข้างทางไม่ได้เลย
สรุปว่าจึงไปที่สถานีตำรวจในพื้นที่นั้นแทน ก็คือ สน. เดียวกับที่เคยไปเมื่อคราวก่อนนั่นแหละ (อยู่ฝั่งธน) เหตุชอบเกิดใกล้บ้าน ในชีวิตดิฉัน ขับไปสุวรรณภูมิ กับคลองเตย (บ่อยมาก สมัยก่อน เพราะเคยรับราชการอยู่ในกรมที่อยู่แถวนั้น ขับทุกวันเลยด้วย ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีการชน) แล้วก็ขับไปพัทยา สวนผึ้ง ราชบุรี อัมพวา บางปู ฉะเชิงเทรา ดิฉันขับไปไกลๆ ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีการชน แต่ชอบมีปัญหากะรถแถวบ้านไม่รู้เป็นไร หรือว่าคนแถวบ้านขับรถเฮฮงซวยก็ไม่รู้ พวกสมองกลวง ขับรถมอเตอร์ไซค์แต่นึกว่าขี่กระบือหรือเปล่า มันชอบขับงี่เง่ามาชนท้ายรถดิฉันเรื่อย น่าโมโหจริงๆ สมัยก่อนดิฉันออกเวรขับรถกลับจากสุวรรณภูมิสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม ขับเร็วกว่านี้มากมาย ไม่เคยชนสักครั้ง คลองเตยก็ขับทุกวันก็ไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่มาตกม้าตายตรงใกล้บ้านทุกที
กลับมาเข้าเรื่องต่อ...
พอมาถึงสถานีตำรวจก็เจอกับประกันที่นั่น พวกตำรวจเจอหน้าดิฉันก็จำหน้าได้เลย ดิฉันโผล่หน้าเข้าไป ก็ยิ้มให้ตำรวจเจ้าเดิม ไม่ได้อยากจะยิ้มให้หรอกนะ และไม่อยากจะเจอหน้าพวกนี้เลยด้วย เซ็งตั้งกะคราวก่อนไม่หาย (พวกตำรวจพวกนี้ โคตจำหน้าดิฉันได้แม่นยำเว่อร์ๆ รูปร่างหน้าตาดิฉันก็พื้นๆ บ้านๆ ประมาณสาวใหญ่ใจร้อน ทำไมถึงจำได้ก็ไม่รู้ เซ็งโคเด)
ตำรวจเจ้าเดิมคู่ดูโอ้คู่เดิมเลยล่ะ อีตาคนยียวนจอมงุงิคราวก่อนก็ถามแล้วทำหน้ายิ้ม ๆ แบบเยาะๆ มาทำอะไรคับ ดิฉันก็บอกไป รถถูกชนท้ายค่ะ ไรแบบนี้ คู่กรณีล่ะมาด้วยกันป่าวดิฉันก็บอก หนีไปแล้วค่ะ ตานี่ก็หัวเราะใหญ่
http://pantip.com/topic/33175544 (เรื่องราวคราวก่อน)
แล้วคนที่เป็นตำรวจที่ที่ดิฉันเคยชมว่าพูดตรงๆ หน่อยที่ดิฉันยิ้มทักทายตอนแรก ตอนเดินเข้าห้อง ก็เดินเข้ามาทักทาย มองหน้าดิฉัน แล้วก็พูดว่า หน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเจอกันเมื่อไม่นานมานี้เอง (เนียนอีกนะ...จำได้ก็บอกมาเหอะ ครั้งก่อนฉันนี่แหละที่ลุยขึ้นไปถึงห้องทำงานชั้นบน) ดิฉันรำคาญ เซ็งจิต หงุดหงิด ก็บอกไปว่า เราเพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่เดือนก่อนไงคะ รู้สึกจะเดือนมกรา แล้วก็เล่าไปว่าวันนี้เจออะไรยังไง พร้อมเอาภาพในกล้องให้ดูด้วย (พอถ่ายรูปไปล่ะ ไม่ค่อยจะดูหรอก กวนจริงๆ แม่มเอ๊ยยย) แกก็ถามว่าคราวที่แล้วโดนตรงไหนนะ ดิฉันก็บอกไป แล้วก็เล่าเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ เมื่อตะกี๊ให้ฟัง แกก็บอกว่า คนขับมอเตอร์ไซค์ผู้หญิงซะด้วย ดิฉันก็เอาภาพในกล้องให้ดู เพราะถ่ายทุกรายละเอียดจริงๆ รอบด้านทุกอย่างที่จะถ่ายไว้เป็นหลักฐานได้ ถนน เลน ทางที่จะไปข้างหน้า ทางด้านหลัง ทุกอย่างเก็บหมด
อีตาตำรวจคนที่ยียวน อีกคนที่ปากไม่ค่อยดี งุบงิบคราวก่อน ก็พูดว่าสงสัยต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนแล้วม้างเลขอาถรรพ์ เกิดเหตุเรื่อย คราวหน้าติดกล้องให้รอบคันเล้ยยย (ดูแม่มพูดหมาๆอีกแล้วไง) แล้วตำรวจคนอื่นๆ บวกประชาชนที่มาติดต่อก็หัวเราะ ไม่รู้ขำบ้าอะไรนักหนา ขำที่ดิฉันมาจนตำรวจจำหน้าได้หรือลีลาการเล่าเรื่องของดิฉันก็ไม่รู้ ดิฉันก็จะเล่าแบบตรงๆ สมจริง ขอย้ำว่าตรงจริงๆ แม้แต่เสียงยัยมอเตอร์ไซค์ตอนขอโทษ ทุกคนหัวเราะหมด ยกเว้นตาตำรวจคนที่ดิฉันชมว่าพูดตรงๆ คนนี้ไม่หัวเราะด้วย แกทำหน้าเฉยๆ(ตอนสมัยที่ดิฉันเป็นข้าราชการ ดิฉันก็บริการประชาชน(ชิปปิ้ง)ประมาณอีตาคนนี้ล่ะ เห็นแล้วนึกถึงตัวเองสมัยก่อน ฟังเฉยๆ ทำหน้าละเหี่ยแค่นั้น และก็จะตอบไรแบบตรงๆ แบบที่เป็นความดำมืดในองค์กรดิฉันก็จะบอกไปตรงๆ คือมันเป็นงี้นะ เรื่องที่ข้าราชการดีๆ ต้องปิดปากเงียบ แต่ดิฉันพูดออกมาตรงๆ นิสัยอย่างดิฉันจึงเป็นข้าราชการไม่ได้ (ถึงจะสอบเข้าบรรจุได้ทั้งสองแห่งก็เหอะนะ) ไม่ชอบตอหะแล รักอิสระเสรีภาพยิ่งชีพ ไม่ชอบเสียเปรียบ จึงต้องออกมาเป็นนายตัวเองในที่สุด เห็นตาตำรวจคนนี้แล้วนึกถึงอดีตของตัวเองมากๆ ถ้าเรายังเป็นข้าราชการอยู่ ก็คงบริการผู้คนประมาณตาคนนี้ล่ะ)
สรุปว่า แล้วตำรวจก็พรินต์ประวัติของคนขับมอเตอร์ไซค์ออกมา หาจากป้ายทะเบียน ซึ่งพรินต์ออกมาก็ใช่หน้ายัยนี่แหละ ใช่มันเลย ใช่คนที่มาชนท้ายดิฉัน มันแก่กว่าดิฉัน 14 ปี จากนั้นก็เป็นเรื่องของประกัน ที่จะตามต่อ ดิฉันก็รอแค่การติดต่อมาหากมีปัญหา
เรื่องนี้แม้จะเล็กน้อย จนบางคนอาจจะบอกให้ปล่อยผ่านไปเถอะ เพราะแผลที่รถมีแค่ชิ้นเดียว แต่สำหรับดิฉัน ยอมปล่อยไม่ได้ค่ะ ขับอยู่ดีๆ แล้วมาชนท้าย จะปล่อยให้ขอโทษแล้วเนียนหนีต่อไปได้ไง คนทำก็จะได้ใจ เที่ยวแถไปชนคนนั้นคนนี้ ขอโทษแล้วก็หนีไปง่ายๆ แบบนั้น คนขับรถเก๋งก็ต้องเสียค่าเอสเซสพันนึงทุกครั้งที่ซ่อมเหรอ บ้า...ดิฉันยอมเหนื่อย แต่จะไม่ยอมเสียเปรียบแน่ๆ เสียโอกาสทางธุรกิจไปนิดหนอ่ยก็ช่างมัน เปิดร้านช้ามาทำงานสายโด่งเพราะเรื่องนี้ ก็ดีกว่าต้องเสียค่าแอซเซสพันนึง คนที่ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายก็ต้องเรียนรู้ที่จะชดใช้กันบ้าง จะได้รู้ว่าทำอะไรลงไป มันก็จะมีผลตามมาเช่นกัน ไม่ใช่ว่าทำผิดแล้วจะไม่มีผล ถ้าทุกคนขี้เกียจกันหมด เสียหายแล้วไม่ต่อสู้เพื่อตัวเอง คนทำความผิดก็จะได้ใจและทำความเสียหายต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งแค่คำขอโทษสั่วๆ มันก็ซ่อมแซมแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดสูญเสียไปแล้วไม่ได้ เช่นกรณีนี้เป็นต้น ขอโทษแล้วแต่รอยชนบนรถดิฉันก็ไม่ได้หายไปไหน มันยังเด่นหราตอกย้ำให้เห็นว่าถูกมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหนี แถมถ้าไม่เอาเรื่อง ดิฉันก็ต้องมาเสียตังค์ค่าแอซเซสตอนซ่อมอีก เรื่องนี้ยอมให้ไม่ได้หรอกค่ะ
เวลารถเกิดชนกัน เราจำเป็นต้องเชื่อฟังพวกอาสากู้ภัยไหมที่ชอบมาจี้สั่งยิกๆ ให้เรารีบเอารถเข้าข้างทางทันที ข้องใจมาก!
อ้อ...แต่ดิฉันไม่ได้ฟังพวกกู้ภัยมันหรอกนะคะ มันสั่งให้ดิฉันเคลื่อนย้ายรถทันที แต่ดิฉันไม่ยอมเคลื่อนย้าย ดิฉันถ่ายรูปเสร็จก่อนถึงได้ยอมเคลื่อน แถมวี้ดใส่ความบ้าอำนาจของพวกมันอีกต่างหาก มันเสียงดังใส่ดิฉัน ตะคอกใส่ดิฉัน ท่าทางหยาบคาย สถูล ดิฉันก็ตะคอกกลับ ค่อนข้างแรง เถียงๆๆๆ...มัน จนมันต้องคอยดูรถ โบกรถให้ระหว่างที่ดิฉันถ่ายรูป
ครั้งก่อนดิฉันได้เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับกรณีเก๋งถูกมอเตอร์ไซค์ชน
http://pantip.com/topic/33175544
มาวันนี้ดิฉันเจออีกครั้งแล้วค่ะ!!!
สุดยอดของความซวย
ในเวลาผ่านมาไม่ถึง 6 เดือนดี เหตุการณ์แบบนี้ก็รีเทิร์นกลับมาอีกแล้ว
ครั้งนี้ เหตุเกิดตอนต้นเดือนกรกฎาคม
ก็เมื่อวานนี้ล่ะนะ
รถดิฉันถูกมอเตอร์ไซค์ชนท้ายอีกแล้ว แต่ครั้งนี้มันชนแล้วหนีค่ะ!!!
เหตุเกิดบริเวณถนนที่มีทางแยกค่ะ ดิฉันกำลังจะขับรถยูเทิร์นไปใต้สะพานข้ามคลองแห่งหนึ่ง ระหว่างที่ขับๆ อยู่ ก็มีสองแถวคันหนึ่งพุ่งเข้ามาในเลนที่ดิฉันขับดิฉันก็ชะลอรถ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เบรคหยุดแค่ชะลอรถให้ช้าลง ให้สองแถวไปก่อน จากนั้นก้ได้ยินเสียงปึง ดิฉันคิดตอนนั้นเลย เอาอีกแล้วไง แม่มอีกแล้ว!!!!
หันไปมองข้างหลัง เห็นมีมอเตอร์ไซค์มาชนท้ายรถจริงๆ ด้วยล่ะ
(ในภายหลังจึงได้พบว่าความเสียหายอยู่บริเวณใกล้ๆ ท่อไอเสียรถยนต์ ไม่มากเท่าไหร่แต่ก็เสียหาย ประกันชั้น 1 ถ้าซ่อมเองก็ต้องเสียค่าแอสเซสอีก 1,000 บาทและกลายเป็นฝ่ายผิดไม่ใช่ฝ่ายถูก)
เล่าต่อค่ะ อารมณ์แบบอกจะแตกอะ แม่ม อีกแล้วไง กุโดนอีกแล้ว มอไซอีกแล้ว มันจะจองเวรกุไปถึงไหนฟะ โกรธจิ๊ดดดด เลยนะคะขอบอก
ดิฉันได้ยินเสียงเหมือนรถมอไซค์กระแทกอะ แล้วก็ได้ยินเสียงคนขับมอเตอร์ไซค์ขอโทษ คนขับเป็นผู้หญิง “ขอโทษด้วยนะค้า” แล้วนางก็ลากรถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นก็จูงมาข้างๆ หน้าต่างฝั่งที่ดิฉันนั่งขับรถก็คือด้านขวา แล้วนางก็พูดว่า “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆ รถไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ มีแค่รอยนิ้ดดดด...เดียว ชนแค่นิดเดียวเองค่ะ ขอโทษนะคะ” พูดจบสิ้น จากนั้นนางก็ขี่มอเตอร์ไซค์จากไปอย่างไว ดิฉันอึ้งมากโกรธจนตาปลิ้นตาเหลือก จ้องหน้านางตอนที่ขอโทษแต่ยังไม่ลดกระจกลง ยังไม่ได้มีการพูดจาด้วย เพราะกำลังควบคุมรถอยู่ บริเวณนั้นรถขวักไขว่มาก ตั้งสติอยู่ค่ะ เดี๋ยวจะเกิดเหตุยาวต่อเนื่อง นางเล่นขอโทษไวมาก ยังไม่รอให้ดิฉันตอบว่าอะไร แล้วก็รีบไปทันที ดิฉันนั่งนิ่งไม่ได้ขยับรถ จ้องไปที่หมายเลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ของนาง จ้องและจำในหัว ท่องๆๆๆๆ....จากนั้นก็หากระดาษมาจดๆๆๆ.... ดิฉันได้เลขทะเบียนมันค่ะ!!! อีอนางคนขับมอเตอร์ไซค์ชุ่ยๆ คนนี้ ดิฉันได้เลขทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ของมัน
มันขับจากไปโดยที่ยังไม่รอเสียงทางฝั่งดิฉันว่าจะยกโทษให้มันหรือเปล่า ดิฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะอภัยให้ จะยอมให้ แต่มันก็ชิ่งไปเลยอะ ขอโทษแล้วหายหัวไปอย่างรวดเร็ว แบบนี้ศัพท์ของตำรวจและของประกันเรียกว่าการหลบหนีค่ะ ชนแล้วหนี!!!
จากนั้นดิฉันก็โทรหาประกัน ประกันบอกให้ไปแจ้งความ ดิฉันบอกว่ายังไปไม่ได้ยังไม่ได้ถ่ายรูป ครั้งก่อนไปแบบไม่มีรูปแล้วมันมีปัญหามากมาย ครั้งก่อนตำรวจหาว่าดิฉันไม่มีหลักฐานอะ ตำรวจบอกว่า ต้องถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุด้วย ถ่ายให้เห็นในมุมกว้างๆ ถนนเส้นไหน อยู่เลนไหนอะไรแบบนี้ ดิฉันจำเรื่องครั้งที่แล้วได้ดี มีบทเรียนแล้ว การไปแจ้งความแบบไม่มีหลักฐานเป็นรูปภาพมันส่งผลอย่างไรบ้าง ครั้งนี้ดิฉันมีกล้องค่ะ แต่ยังลงไปถ่ายไม่ได้ เนื่องจากรถวิ่งน่ากลัวมาก ลงไปอาจกลายเป็นศพ จึงต้องจอดรถเกะกะแบบนั้น และเปิดไฟกะพริบไว้
ประมาณ 5 นาทีต่อมา
ก็มีอาสากู้ภัยมาคนหนึ่งมาเคาะกระจก บอกให้ดิฉันเอารถเข้าข้างทาง มาอีหรอบเดิมเหมือนครั้งที่แล้วเปี๊ยบ http://pantip.com/topic/33175544
แต่ครั้งนี้ดิฉันไม่ยอม ดิฉันพูดเสียงดังใส่ว่า ครั้งก่อนก็เจอเหตุการณ์ถูกชนท้ายแบบนี้ เอารถเข้าข้างทางตำรวจบอกว่าเป็นการทำลายหลักฐาน ประกันก็บอก แล้วมันก็มีปัญหามากครั้งที่แล้ว ที่เอารถเข้าข้างทางแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ดิฉันต้องกลายเป็นโดนประมาทร่วม ทั้งที่ดิฉันไม่ได้ผิด วันนี้ฉันไม่เอาเข้าข้างทางหรอก ยังไม่ได้ถ่ายรูป แต่มันลงไปถ่ายไม่ได้นี่ คุณดูสิ ลงไปถ่ายได้ไง รถวิ่งขนาดนี้ กู้ภัยคนนี้ก็บอกเดี๋ยวผมดูรถให้ คุณลงไปถ่ายรูป (กู้ภัยคนนี้พุดจาดีพอสมควร)
ระหว่างที่ดิฉันจอดรถเปิดไฟกะพริบเกะกะ ก็มีอีรถเห็นแก่ตัวหลายคันมาบอกให้เอารถเข้าข้างทาง บ่นนั่นนี่ นิสัยสน้นตรีน เห็นแก่ตัว เพราะไม่ได้เกิดกับตัวเอง จะพุดไงก็พูดได้ ดิฉันก็ไม่แคร์ แล้วดิฉันก็กลับเข้าไปในรถ ยังไม่ทันจะตัดสินใจว่าไงต่อ เพราะรูปยังถ่ายได้ไม่ชัดเจน รถวิ่งจะขับมาปาดตายห่ะ คนสมัยนี้มันเห็นแก่ตัวจริงๆ จะเอาแต่ตัวเองไปให้ได้ ใครจะเป็นไงไม่สน
ก็มีไอ่วินมอเตอร์ไซค์คนนึงมา ไม่รู้อยู่กู้ภัยด้วย หรือขาสะเอือก มีเอี่ยวกะตำรวจ เคยเป็นขี้ข้าของราชการมาก่อน หรือว่าอะไร ดิฉันไม่ทราบ ไอ่ห่ะนี่หยาบคาย สะถุนสุดๆ กร่างมากๆ มาถึงก็มาเคาะกระจกรถดิฉันแรงๆ ขอย้ำว่ารุนแรง เรียกให้ดิฉันเอารถเข้าข้างทาง มันมาหยาบคายกะดิฉัน ดิฉันก็วี้ดแตก พูดแบบใส่อารมณ์โกรธเต็มที่ โกรธแบบมาจากโคตๆ มาลงกะมันนี่แหละ เกลียดมากพวกวางอำนาจ ดิฉันก็บอกไปว่ารถที่เอาเข้าข้างทางไม่ได้นี่เพราะมันเคยมีปัญหาอะไรบ้าง เพราะคร้งก่อนเจอเหตุการณืแบบนี้ แล้วเอาเข้าข้างทาง ดิฉันเสียเปรียบมากในครั้งก่อน มันก็บอกว่า ลงมา!!! ถ่ายรถไว้ทั้ง 4 ด้าน ลงมา!!!! ดิฉันจ้องหน้ามันแบบแค้นจัด
เดี๋ยวจะจัดเต็มให้ แม่มๆๆๆๆๆ....
ดิฉันถ่ายทั้ง 4 ทิศ มันก็มาโบกรถให้ ดิฉันถ่ายเสร็จมันก็มาตะคอกดิฉันอีก จะให้ดิฉันเอารถเข้าข้างทาง ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้พวกตำรวจจะมาไม้ไหน จะรอให้พวกมันมา ก็ไม่รู้มันจะมาเมื่อไหร่ มีแต่พวกกู้ภัยนี่แหละที่สาเอ๊อะมาแทน ดิฉันก็วี้ดเสียงใส่มันว่า ถ้ามีปัญหาอีกจะทำยังไง ใครจะรับผิดชอบล่ะ แล้วก็เหวี่ยงๆๆ... มันบอกไม่มีปัญหา ถ่ายรูปแล้วไม่มีปัญหา เอารถเข้าข้างทางได้แล้ว เสียงมันอ่อนลง เพราะเสียงดิฉันวีนแทบจะกรี๊ดอยู่แล้ว โกรธมาก ไม่แน่ใจว่าครั้งนี้จะได้เรื่องรึเปล่า เดี๋ยวก็มามั่วให้ดิฉันผิดอีก เบื่อจริงๆ ครั้งที่แล้วเหนื่อยแทบบ้า
พอเอารถออกจากที่เกิดเหตุก็ดันหาที่จอดข้างทางไม่ได้เลย
สรุปว่าจึงไปที่สถานีตำรวจในพื้นที่นั้นแทน ก็คือ สน. เดียวกับที่เคยไปเมื่อคราวก่อนนั่นแหละ (อยู่ฝั่งธน) เหตุชอบเกิดใกล้บ้าน ในชีวิตดิฉัน ขับไปสุวรรณภูมิ กับคลองเตย (บ่อยมาก สมัยก่อน เพราะเคยรับราชการอยู่ในกรมที่อยู่แถวนั้น ขับทุกวันเลยด้วย ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีการชน) แล้วก็ขับไปพัทยา สวนผึ้ง ราชบุรี อัมพวา บางปู ฉะเชิงเทรา ดิฉันขับไปไกลๆ ไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีการชน แต่ชอบมีปัญหากะรถแถวบ้านไม่รู้เป็นไร หรือว่าคนแถวบ้านขับรถเฮฮงซวยก็ไม่รู้ พวกสมองกลวง ขับรถมอเตอร์ไซค์แต่นึกว่าขี่กระบือหรือเปล่า มันชอบขับงี่เง่ามาชนท้ายรถดิฉันเรื่อย น่าโมโหจริงๆ สมัยก่อนดิฉันออกเวรขับรถกลับจากสุวรรณภูมิสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม ขับเร็วกว่านี้มากมาย ไม่เคยชนสักครั้ง คลองเตยก็ขับทุกวันก็ไม่เคยเจอเคสแบบนี้ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ แต่มาตกม้าตายตรงใกล้บ้านทุกที
กลับมาเข้าเรื่องต่อ...
พอมาถึงสถานีตำรวจก็เจอกับประกันที่นั่น พวกตำรวจเจอหน้าดิฉันก็จำหน้าได้เลย ดิฉันโผล่หน้าเข้าไป ก็ยิ้มให้ตำรวจเจ้าเดิม ไม่ได้อยากจะยิ้มให้หรอกนะ และไม่อยากจะเจอหน้าพวกนี้เลยด้วย เซ็งตั้งกะคราวก่อนไม่หาย (พวกตำรวจพวกนี้ โคตจำหน้าดิฉันได้แม่นยำเว่อร์ๆ รูปร่างหน้าตาดิฉันก็พื้นๆ บ้านๆ ประมาณสาวใหญ่ใจร้อน ทำไมถึงจำได้ก็ไม่รู้ เซ็งโคเด)
ตำรวจเจ้าเดิมคู่ดูโอ้คู่เดิมเลยล่ะ อีตาคนยียวนจอมงุงิคราวก่อนก็ถามแล้วทำหน้ายิ้ม ๆ แบบเยาะๆ มาทำอะไรคับ ดิฉันก็บอกไป รถถูกชนท้ายค่ะ ไรแบบนี้ คู่กรณีล่ะมาด้วยกันป่าวดิฉันก็บอก หนีไปแล้วค่ะ ตานี่ก็หัวเราะใหญ่ http://pantip.com/topic/33175544 (เรื่องราวคราวก่อน)
แล้วคนที่เป็นตำรวจที่ที่ดิฉันเคยชมว่าพูดตรงๆ หน่อยที่ดิฉันยิ้มทักทายตอนแรก ตอนเดินเข้าห้อง ก็เดินเข้ามาทักทาย มองหน้าดิฉัน แล้วก็พูดว่า หน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเจอกันเมื่อไม่นานมานี้เอง (เนียนอีกนะ...จำได้ก็บอกมาเหอะ ครั้งก่อนฉันนี่แหละที่ลุยขึ้นไปถึงห้องทำงานชั้นบน) ดิฉันรำคาญ เซ็งจิต หงุดหงิด ก็บอกไปว่า เราเพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่เดือนก่อนไงคะ รู้สึกจะเดือนมกรา แล้วก็เล่าไปว่าวันนี้เจออะไรยังไง พร้อมเอาภาพในกล้องให้ดูด้วย (พอถ่ายรูปไปล่ะ ไม่ค่อยจะดูหรอก กวนจริงๆ แม่มเอ๊ยยย) แกก็ถามว่าคราวที่แล้วโดนตรงไหนนะ ดิฉันก็บอกไป แล้วก็เล่าเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ เมื่อตะกี๊ให้ฟัง แกก็บอกว่า คนขับมอเตอร์ไซค์ผู้หญิงซะด้วย ดิฉันก็เอาภาพในกล้องให้ดู เพราะถ่ายทุกรายละเอียดจริงๆ รอบด้านทุกอย่างที่จะถ่ายไว้เป็นหลักฐานได้ ถนน เลน ทางที่จะไปข้างหน้า ทางด้านหลัง ทุกอย่างเก็บหมด
อีตาตำรวจคนที่ยียวน อีกคนที่ปากไม่ค่อยดี งุบงิบคราวก่อน ก็พูดว่าสงสัยต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนแล้วม้างเลขอาถรรพ์ เกิดเหตุเรื่อย คราวหน้าติดกล้องให้รอบคันเล้ยยย (ดูแม่มพูดหมาๆอีกแล้วไง) แล้วตำรวจคนอื่นๆ บวกประชาชนที่มาติดต่อก็หัวเราะ ไม่รู้ขำบ้าอะไรนักหนา ขำที่ดิฉันมาจนตำรวจจำหน้าได้หรือลีลาการเล่าเรื่องของดิฉันก็ไม่รู้ ดิฉันก็จะเล่าแบบตรงๆ สมจริง ขอย้ำว่าตรงจริงๆ แม้แต่เสียงยัยมอเตอร์ไซค์ตอนขอโทษ ทุกคนหัวเราะหมด ยกเว้นตาตำรวจคนที่ดิฉันชมว่าพูดตรงๆ คนนี้ไม่หัวเราะด้วย แกทำหน้าเฉยๆ(ตอนสมัยที่ดิฉันเป็นข้าราชการ ดิฉันก็บริการประชาชน(ชิปปิ้ง)ประมาณอีตาคนนี้ล่ะ เห็นแล้วนึกถึงตัวเองสมัยก่อน ฟังเฉยๆ ทำหน้าละเหี่ยแค่นั้น และก็จะตอบไรแบบตรงๆ แบบที่เป็นความดำมืดในองค์กรดิฉันก็จะบอกไปตรงๆ คือมันเป็นงี้นะ เรื่องที่ข้าราชการดีๆ ต้องปิดปากเงียบ แต่ดิฉันพูดออกมาตรงๆ นิสัยอย่างดิฉันจึงเป็นข้าราชการไม่ได้ (ถึงจะสอบเข้าบรรจุได้ทั้งสองแห่งก็เหอะนะ) ไม่ชอบตอหะแล รักอิสระเสรีภาพยิ่งชีพ ไม่ชอบเสียเปรียบ จึงต้องออกมาเป็นนายตัวเองในที่สุด เห็นตาตำรวจคนนี้แล้วนึกถึงอดีตของตัวเองมากๆ ถ้าเรายังเป็นข้าราชการอยู่ ก็คงบริการผู้คนประมาณตาคนนี้ล่ะ)
สรุปว่า แล้วตำรวจก็พรินต์ประวัติของคนขับมอเตอร์ไซค์ออกมา หาจากป้ายทะเบียน ซึ่งพรินต์ออกมาก็ใช่หน้ายัยนี่แหละ ใช่มันเลย ใช่คนที่มาชนท้ายดิฉัน มันแก่กว่าดิฉัน 14 ปี จากนั้นก็เป็นเรื่องของประกัน ที่จะตามต่อ ดิฉันก็รอแค่การติดต่อมาหากมีปัญหา
เรื่องนี้แม้จะเล็กน้อย จนบางคนอาจจะบอกให้ปล่อยผ่านไปเถอะ เพราะแผลที่รถมีแค่ชิ้นเดียว แต่สำหรับดิฉัน ยอมปล่อยไม่ได้ค่ะ ขับอยู่ดีๆ แล้วมาชนท้าย จะปล่อยให้ขอโทษแล้วเนียนหนีต่อไปได้ไง คนทำก็จะได้ใจ เที่ยวแถไปชนคนนั้นคนนี้ ขอโทษแล้วก็หนีไปง่ายๆ แบบนั้น คนขับรถเก๋งก็ต้องเสียค่าเอสเซสพันนึงทุกครั้งที่ซ่อมเหรอ บ้า...ดิฉันยอมเหนื่อย แต่จะไม่ยอมเสียเปรียบแน่ๆ เสียโอกาสทางธุรกิจไปนิดหนอ่ยก็ช่างมัน เปิดร้านช้ามาทำงานสายโด่งเพราะเรื่องนี้ ก็ดีกว่าต้องเสียค่าแอซเซสพันนึง คนที่ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายก็ต้องเรียนรู้ที่จะชดใช้กันบ้าง จะได้รู้ว่าทำอะไรลงไป มันก็จะมีผลตามมาเช่นกัน ไม่ใช่ว่าทำผิดแล้วจะไม่มีผล ถ้าทุกคนขี้เกียจกันหมด เสียหายแล้วไม่ต่อสู้เพื่อตัวเอง คนทำความผิดก็จะได้ใจและทำความเสียหายต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งแค่คำขอโทษสั่วๆ มันก็ซ่อมแซมแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดสูญเสียไปแล้วไม่ได้ เช่นกรณีนี้เป็นต้น ขอโทษแล้วแต่รอยชนบนรถดิฉันก็ไม่ได้หายไปไหน มันยังเด่นหราตอกย้ำให้เห็นว่าถูกมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหนี แถมถ้าไม่เอาเรื่อง ดิฉันก็ต้องมาเสียตังค์ค่าแอซเซสตอนซ่อมอีก เรื่องนี้ยอมให้ไม่ได้หรอกค่ะ