เรามีเรื่องอึดอัดเกี่ยวกับครอบครัวของเรามาเล่าสู่ฟังค่ะ เราอยู่กับแม่อายุ 80 ปี พี่สาว (พิการ) ต้องใส่ขาเทียม เราแต่งงานกับสามีได้หลายปีแล้วมีลูก 5 ขวบ 1 คน และกำลังท้องลูกคนที่ 2 เราลาออกจากงานตั้งแต่ลูกคนแรกคลอดเพราะไม่มีใครเลี้ยงลูกต้องออกมาดูแลลุก แม่กับพี่สาวจะมีค่าใช้จ่ายจากพี่ชายที่ส่งมาให้เดือนละ 3000 บาท และเงินค่าคนชราเดือนละ 500 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายค่ากินค่าอยู่ภายในบ้านจึงเป็นหน้าที่ของแฟนเราคนเดียว ประมาณว่าเลี้ยงทุกคนในครอบครัวโดยปริยาย
แม่กับพี่สาวเราอยู่ชั้น 1 เรากับครอบครัวอยู่ชั้น 2 แต่แม่กับพี่สาวเป็นอะไรที่ชอบมาสำรวจ แกมบ่น ว่าห้องไม่สะอาด ของให้เก็บ ๆ ทิ้งไปได้แล้ว คอยจัดแจงให้ทำโน่นทำนี่ เหมือนเรายังเป็นเด็ก ๆ ชั้น 2 มีห้องอยู่ 4 ห้อง ตั้งแต่แต่งงานวันแรก ๆ ก็ให้ย้ายห้องไปอยู่ห้องโน้นห้องนี้บ้างล่ะ ตอนนี้ย้ายครบทุกห้องแล้ว ตอนแรกก็ทำตาม แต่หลัง ๆ เริ่มหนักเข้าเราก็เริ่มเบื่อไม่ไหวแล้ว ว่างมากไปมั้ย แฟนเราก็เริ่มบ่นอยากแยกครอบครัวอยากเป็นส่วนตัว เราก็บอกแม่กับพี่สาวว่าขอความเป็นส่วนตัวของจะเก็บเอง หลัง ๆ มาเลยเสียงแข็งก็เงียบ ๆ ไปสักพักก็เป็นอีก
ล่าสุดเรากับแฟนออกไปข้างนอกไม่อยู่บ้าน กลับมาห้องนอนเราของจากมุมนั้นไปอยู่อีกมุม บ้านของเล่นลูกที่ใช้นอนในห้องก็ไปอยู่อีกห้องนึง เรารู้เลยเกิดไรขึ้น แฟนบอกสมุดบัญชีที่สอดไว้ข้างกระเป๋าทำงานมีคนดึงออกมาแล้วเสียบเข้าไปใหม่ไม่เหมือนเดิมบอกเป็นคนเก็บเองยืนยันจำได้ แฟนเราไม่ชอบให้ใครไปยุ่งวุ่นวายในห้องของเขาเพราะมีเอกสารมากมายกลัวหาย จึงรู้สึกอึดอัดที่มายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป เราคนกลางก็อ่อนใจ
ประมาณ 2 เดือนที่แล้วพี่สาวเรามีโอกาสไปทำงานแห่งหนึ่ง เราก็ดีใจ เพื่อจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ มีเงินเดือนเลี้ยงตัวเองได้ไม่ลำบากเพราะเป็นสาวโสด ไม่มีครอบครัว เราเป็นคนรับส่ง แต่ละวันที่ทำงานก็จะกลับมาบ่นว่า ทำไม่ได้ เหนื่อยบ้างล่ะ คนที่ทำงานที่สอนพูดไม่ค่อยดีด้วย เครียด นอนไม่ค่อยหลับ โดนกดดัน เดี๋ยวจะให้ไปอบรม ให้ไปคนเดียว เราคิดในใจ ก็ต้องพยายามปรับตัวให้ได้นะ ต้องทำใจการทำงานไม่เหมือนอยู่บ้านเฉย ๆ
(ต่อนะคะ)
แค่อยากระบาย
แม่กับพี่สาวเราอยู่ชั้น 1 เรากับครอบครัวอยู่ชั้น 2 แต่แม่กับพี่สาวเป็นอะไรที่ชอบมาสำรวจ แกมบ่น ว่าห้องไม่สะอาด ของให้เก็บ ๆ ทิ้งไปได้แล้ว คอยจัดแจงให้ทำโน่นทำนี่ เหมือนเรายังเป็นเด็ก ๆ ชั้น 2 มีห้องอยู่ 4 ห้อง ตั้งแต่แต่งงานวันแรก ๆ ก็ให้ย้ายห้องไปอยู่ห้องโน้นห้องนี้บ้างล่ะ ตอนนี้ย้ายครบทุกห้องแล้ว ตอนแรกก็ทำตาม แต่หลัง ๆ เริ่มหนักเข้าเราก็เริ่มเบื่อไม่ไหวแล้ว ว่างมากไปมั้ย แฟนเราก็เริ่มบ่นอยากแยกครอบครัวอยากเป็นส่วนตัว เราก็บอกแม่กับพี่สาวว่าขอความเป็นส่วนตัวของจะเก็บเอง หลัง ๆ มาเลยเสียงแข็งก็เงียบ ๆ ไปสักพักก็เป็นอีก
ล่าสุดเรากับแฟนออกไปข้างนอกไม่อยู่บ้าน กลับมาห้องนอนเราของจากมุมนั้นไปอยู่อีกมุม บ้านของเล่นลูกที่ใช้นอนในห้องก็ไปอยู่อีกห้องนึง เรารู้เลยเกิดไรขึ้น แฟนบอกสมุดบัญชีที่สอดไว้ข้างกระเป๋าทำงานมีคนดึงออกมาแล้วเสียบเข้าไปใหม่ไม่เหมือนเดิมบอกเป็นคนเก็บเองยืนยันจำได้ แฟนเราไม่ชอบให้ใครไปยุ่งวุ่นวายในห้องของเขาเพราะมีเอกสารมากมายกลัวหาย จึงรู้สึกอึดอัดที่มายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป เราคนกลางก็อ่อนใจ
ประมาณ 2 เดือนที่แล้วพี่สาวเรามีโอกาสไปทำงานแห่งหนึ่ง เราก็ดีใจ เพื่อจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ มีเงินเดือนเลี้ยงตัวเองได้ไม่ลำบากเพราะเป็นสาวโสด ไม่มีครอบครัว เราเป็นคนรับส่ง แต่ละวันที่ทำงานก็จะกลับมาบ่นว่า ทำไม่ได้ เหนื่อยบ้างล่ะ คนที่ทำงานที่สอนพูดไม่ค่อยดีด้วย เครียด นอนไม่ค่อยหลับ โดนกดดัน เดี๋ยวจะให้ไปอบรม ให้ไปคนเดียว เราคิดในใจ ก็ต้องพยายามปรับตัวให้ได้นะ ต้องทำใจการทำงานไม่เหมือนอยู่บ้านเฉย ๆ
(ต่อนะคะ)