สวัสดีเพื่อนๆพันธุ์ทิพย์ อ่านหัวข้อก็คงจะรู้แล้วนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ต้องบอกก่อนว่าที่เขียนไม่ได้โจมตีใคร ดังนั้นเราจะไม่เอ่ยชื่อแบรนด์ และไม่ขอเอ่ยชื่อที่ทำงานเรา แค่อยากระบายความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นกับตัวเรา
ก่อนหน้านี้เราเคยเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์มาก่อน แต่ไม่ได้วาดรูปเองหรอก เป็นงานวางเลย์เอ้าหนังสือทั่วไป ตอนนี้เปลี่ยนมาเขียนบทความ เราได้วาดภาพประกอบบทความไว้ ก็ไม่ได้วาดดีเลิศอะไรนัก เอาแค่พอประกอบเรื่องเข้าใจ ซึ่งภาพนี้วาดไว้เมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้ใส่ copyright และลายน้ำใดๆทั้งสิ้น แหม...วาดกากๆซะขนาดนี้ ใครจะอยากใส่ล่ะคะ บอกตรงๆว่าไม่คิดว่าใครจะเอาไปใช้ด้วยซ้ำ ขนาดจะใส่เครดิตตัวเองยังอายเลย
แต่เรื่องมันก็เกิดจนได้ เมื่อออฟฟิศเชี่ยลแฟนเพจ (ประเทศไทย) ของแบรนด์ระดับโลกที่เรากด like อยู่ เอาภาพที่เราวาดเองไปใส่ใน info graphic ฟีดในแฟนเพจ มีรูปที่เราวาด 45% ซึ่งเป็นคอนเทนส์หลัก และอีก 45% เป็นแพ็คช็อตของแบรนด์ อีก 10% เป็นตกแต่งและข้อความ ถ้าเอาไปเปลี่ยนสี เปลี่ยนทรงสักนิดเราจะไม่ว่าเลย แต่นี่เอาไปใช้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย อ้อ เปลี่ยนนิดนึงคือของเราทำแนวตั้ง แต่ของเขาทำแนวนอน! รู้รึเปล่าว่าสีที่เราใช้เป็นสีไม่ได้จิ้มมาจากหน้า Photoshop แต่เป็นสีของอีกภาพหนึ่งที่เอามาซ้อนตรงที่อยากให้มีสีนั้น ซึ่งเราสามารถบอกได้ว่าสีนั้นมาจากของสิ่งไหน (ตรงนี้ใครงงต้องขออภัยนะคะ) เพราะเราทำเองกับมือ!
พอรู้เรื่องเราได้ไปทางต้นสักกัดของเรา และทีมงานกับทนายได้ติดต่อไป แต่ทางนั้นยืนยันว่ากราฟฟิคเป็นคนวาดเอง ทำเอาทุกคนในออฟฟิศอึ้ง กล้ามากที่บอกว่า “กราฟฟิคเราวาดเอง” ดีออก เราอยากขอไฟล์ .psd มาดูจริงๆ เชื่อว่าภาพต้นฉบับที่เอาของเราไปใช้ ต้องเป็น .jpg แน่ๆ เราไม่เชื่อหรอกว่านางจะมี .psd จริงๆ แต่ทางเราก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะ
1. เราไม่มีไฟล์ต้นฉบับ .psd เหมือนกัน คอมฯเราฮาร์ดดิสเสีย โดนล้างเครื่องไป 2 ครั้ง และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนฮาร์ดดิส งานเมื่อปีที่แล้วหายหมดค่ะ แม้จะมีงานอยู่ในอินเทอร์เน็ต แต่มีแค่ .jpg เท่านั้น
2. เราไม่ได้ใส่ copyright เครดิต หรือลายน้ำลงในภาพเอง อาจทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเราก็ก็อปของคนอื่นมา เฮลโหลลลลล พวกคุณก็อปอย่าคิดว่าดิฉันก็อปได้ป่ะ วาดเองจบนะ
3. ได้ไม่คุ้มเสีย ซูไม่ได้ค่ะ เพราะงานนี้แค่ info ง่อยๆ ไม่ได้ก่อให้ทาง บ. เขาเกิดรายได้เท่าไร ค่าเสียหายไม่พอค่าทนายหรอก
4. แบรนด์นี้อาจจะเป็นลูกค้าเราในอนาคต เรื่องจริงที่ต้องทำใจยอมรับ แบบถ้าไม่มีลูกค้า งานเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ความรู้สึกเรามันช็อคมาก รู้ว่าใครผิดแต่เอาเรื่องเขาไม่ได้ เข้าใจในละครเลยเวลาที่นางเอกรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ทำไมไม่แฉมันเป็นยังไง (ประมาณนี้) เราต้องกลับบ้านด้วยอาการโกรธจนหูอื้อตลอดทาง เสียงรอบข้างดังแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เล่าให้เพื่อนฟังก็ยังไม่หาย ยังไม่สาแก่ใจ ต้องมาเล่าในพันธุ์ทิพย์ เราไม่ได้อยากให้ช่วยกันรุมด่าหรอกนะ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราหมายถึงใคร และไม่ได้อยากให้รู้ด้วย จริงๆ
แค่อยากจะเตือนกราฟฟิคดีไซเนอร์รุ่นใหม่ทุกคน และรุ่นเก่าที่ยังใช้วิธีนี้ เลิกเหอะ มีมือมีเท้าเหมือนกันก็ใช้ปัญญาวาดเองนะ ขอร้อง ทำอย่างนี้ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก เราเพิ่งเข้าใจความเป็น original ว่ามันรู้สึกยังไง ทำแบบนี้ไม่ต้องใช้ photoshop ไม่ต้องใช้ illus ก็ได้ เอามาวางแปะใน word, powerpoint, pages, keynote แล้วแคปภาพมาลงก็ยังได้ อย่ายืมสมองคนอื่นรับเงินเดือนเลย ทำอย่างนี้เมื่อไรจะเจริญ แค่เอาภาพมาเปลี่ยนสีสักหน่อยก็ยังดี นี่เอาแบบเดิมเป๊ะ คือไร? สมงสมองไม่มี เรียนหนังสือมา 20 ปีไม่รู้เรื่องเลยเหรอว่านี่เขาเรียนว่า copier ไม่ใช่ desiner
แบบ...อารมณ์เสีย บอกเลยว่าถ้าเรื่องนี้ถึงศาล บ. เขาจะปัดความรับผิดชอบให้คนทำ รับโชคสองชั้นนะจ๊ะ โดนไล่ออกด้วย และต้องจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของงานด้วย อย่าหาว่าด่าเลยนะ (ก็ด่านั่นแหละ) แต่อย่าทำอีก ถ้าโดนฟ้องมันไม่คุ้ม เราเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ถึงเงินเดือนจะน้อย นายจะจู้จี้ เออีจะชอบจิก เซลจะชอบบ่น ก็ต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นคน เอาของคนอื่นมาเพื่อ? ภูมิใจเหรอ? บอกได้เต็มปากไหมว่าตัวเองทำ เราวาดเอง
เห้อ~ ด่าแล้วก็โล่งอกนะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทั้งๆที่ก็ไม่บอกอยู่ดีว่าแบรนด์อะไร ช่างมันเถอะ ขอปล่อยความโกรธนี้ลงสู่กระทู้ทั้งหมด พรุ่งนี้เราก็จะลืมมัน แต่ถ้าคนทำมาเห็นเราอโหสิกรรมให้ ถ้ามันจะทำให้คุณเจริญขึ้น ได้ดีขึ้นเพราะงานของเรา เราก็ยินดี ขอมีส่วนช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานของคุณให้เจริญๆยิ่งขึ้น เราก็ได้บุญเพิ่มขึ้น สาธุ
จบๆ กันไป คราวหลังอย่าทำอีก ขอร้อง!
ปล.เลือก tag ยากกว่าเขียนจริงๆ เพราะฉะนั้น tag ผิดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ความรู้สึกเมื่อเห็นรูปที่เราวาดไปอยู่บน info ออฟฟิศเชี่ยลแฟนเพจ (ประเทศไทย) ของแบรนด์ระดับโลก
ก่อนหน้านี้เราเคยเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์มาก่อน แต่ไม่ได้วาดรูปเองหรอก เป็นงานวางเลย์เอ้าหนังสือทั่วไป ตอนนี้เปลี่ยนมาเขียนบทความ เราได้วาดภาพประกอบบทความไว้ ก็ไม่ได้วาดดีเลิศอะไรนัก เอาแค่พอประกอบเรื่องเข้าใจ ซึ่งภาพนี้วาดไว้เมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้ใส่ copyright และลายน้ำใดๆทั้งสิ้น แหม...วาดกากๆซะขนาดนี้ ใครจะอยากใส่ล่ะคะ บอกตรงๆว่าไม่คิดว่าใครจะเอาไปใช้ด้วยซ้ำ ขนาดจะใส่เครดิตตัวเองยังอายเลย
แต่เรื่องมันก็เกิดจนได้ เมื่อออฟฟิศเชี่ยลแฟนเพจ (ประเทศไทย) ของแบรนด์ระดับโลกที่เรากด like อยู่ เอาภาพที่เราวาดเองไปใส่ใน info graphic ฟีดในแฟนเพจ มีรูปที่เราวาด 45% ซึ่งเป็นคอนเทนส์หลัก และอีก 45% เป็นแพ็คช็อตของแบรนด์ อีก 10% เป็นตกแต่งและข้อความ ถ้าเอาไปเปลี่ยนสี เปลี่ยนทรงสักนิดเราจะไม่ว่าเลย แต่นี่เอาไปใช้ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย อ้อ เปลี่ยนนิดนึงคือของเราทำแนวตั้ง แต่ของเขาทำแนวนอน! รู้รึเปล่าว่าสีที่เราใช้เป็นสีไม่ได้จิ้มมาจากหน้า Photoshop แต่เป็นสีของอีกภาพหนึ่งที่เอามาซ้อนตรงที่อยากให้มีสีนั้น ซึ่งเราสามารถบอกได้ว่าสีนั้นมาจากของสิ่งไหน (ตรงนี้ใครงงต้องขออภัยนะคะ) เพราะเราทำเองกับมือ!
พอรู้เรื่องเราได้ไปทางต้นสักกัดของเรา และทีมงานกับทนายได้ติดต่อไป แต่ทางนั้นยืนยันว่ากราฟฟิคเป็นคนวาดเอง ทำเอาทุกคนในออฟฟิศอึ้ง กล้ามากที่บอกว่า “กราฟฟิคเราวาดเอง” ดีออก เราอยากขอไฟล์ .psd มาดูจริงๆ เชื่อว่าภาพต้นฉบับที่เอาของเราไปใช้ ต้องเป็น .jpg แน่ๆ เราไม่เชื่อหรอกว่านางจะมี .psd จริงๆ แต่ทางเราก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะ
1. เราไม่มีไฟล์ต้นฉบับ .psd เหมือนกัน คอมฯเราฮาร์ดดิสเสีย โดนล้างเครื่องไป 2 ครั้ง และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนฮาร์ดดิส งานเมื่อปีที่แล้วหายหมดค่ะ แม้จะมีงานอยู่ในอินเทอร์เน็ต แต่มีแค่ .jpg เท่านั้น
2. เราไม่ได้ใส่ copyright เครดิต หรือลายน้ำลงในภาพเอง อาจทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเราก็ก็อปของคนอื่นมา เฮลโหลลลลล พวกคุณก็อปอย่าคิดว่าดิฉันก็อปได้ป่ะ วาดเองจบนะ
3. ได้ไม่คุ้มเสีย ซูไม่ได้ค่ะ เพราะงานนี้แค่ info ง่อยๆ ไม่ได้ก่อให้ทาง บ. เขาเกิดรายได้เท่าไร ค่าเสียหายไม่พอค่าทนายหรอก
4. แบรนด์นี้อาจจะเป็นลูกค้าเราในอนาคต เรื่องจริงที่ต้องทำใจยอมรับ แบบถ้าไม่มีลูกค้า งานเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ความรู้สึกเรามันช็อคมาก รู้ว่าใครผิดแต่เอาเรื่องเขาไม่ได้ เข้าใจในละครเลยเวลาที่นางเอกรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ทำไมไม่แฉมันเป็นยังไง (ประมาณนี้) เราต้องกลับบ้านด้วยอาการโกรธจนหูอื้อตลอดทาง เสียงรอบข้างดังแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เล่าให้เพื่อนฟังก็ยังไม่หาย ยังไม่สาแก่ใจ ต้องมาเล่าในพันธุ์ทิพย์ เราไม่ได้อยากให้ช่วยกันรุมด่าหรอกนะ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราหมายถึงใคร และไม่ได้อยากให้รู้ด้วย จริงๆ
แค่อยากจะเตือนกราฟฟิคดีไซเนอร์รุ่นใหม่ทุกคน และรุ่นเก่าที่ยังใช้วิธีนี้ เลิกเหอะ มีมือมีเท้าเหมือนกันก็ใช้ปัญญาวาดเองนะ ขอร้อง ทำอย่างนี้ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก เราเพิ่งเข้าใจความเป็น original ว่ามันรู้สึกยังไง ทำแบบนี้ไม่ต้องใช้ photoshop ไม่ต้องใช้ illus ก็ได้ เอามาวางแปะใน word, powerpoint, pages, keynote แล้วแคปภาพมาลงก็ยังได้ อย่ายืมสมองคนอื่นรับเงินเดือนเลย ทำอย่างนี้เมื่อไรจะเจริญ แค่เอาภาพมาเปลี่ยนสีสักหน่อยก็ยังดี นี่เอาแบบเดิมเป๊ะ คือไร? สมงสมองไม่มี เรียนหนังสือมา 20 ปีไม่รู้เรื่องเลยเหรอว่านี่เขาเรียนว่า copier ไม่ใช่ desiner
แบบ...อารมณ์เสีย บอกเลยว่าถ้าเรื่องนี้ถึงศาล บ. เขาจะปัดความรับผิดชอบให้คนทำ รับโชคสองชั้นนะจ๊ะ โดนไล่ออกด้วย และต้องจ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของงานด้วย อย่าหาว่าด่าเลยนะ (ก็ด่านั่นแหละ) แต่อย่าทำอีก ถ้าโดนฟ้องมันไม่คุ้ม เราเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ถึงเงินเดือนจะน้อย นายจะจู้จี้ เออีจะชอบจิก เซลจะชอบบ่น ก็ต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นคน เอาของคนอื่นมาเพื่อ? ภูมิใจเหรอ? บอกได้เต็มปากไหมว่าตัวเองทำ เราวาดเอง
เห้อ~ ด่าแล้วก็โล่งอกนะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทั้งๆที่ก็ไม่บอกอยู่ดีว่าแบรนด์อะไร ช่างมันเถอะ ขอปล่อยความโกรธนี้ลงสู่กระทู้ทั้งหมด พรุ่งนี้เราก็จะลืมมัน แต่ถ้าคนทำมาเห็นเราอโหสิกรรมให้ ถ้ามันจะทำให้คุณเจริญขึ้น ได้ดีขึ้นเพราะงานของเรา เราก็ยินดี ขอมีส่วนช่วยส่งเสริมหน้าที่การงานของคุณให้เจริญๆยิ่งขึ้น เราก็ได้บุญเพิ่มขึ้น สาธุ
จบๆ กันไป คราวหลังอย่าทำอีก ขอร้อง!
ปล.เลือก tag ยากกว่าเขียนจริงๆ เพราะฉะนั้น tag ผิดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ