คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ความจุของ Mux และบิทเรต เป็นตัวแปรหลักครับ
ตัวแปรรองที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการใช้คลื่นว่าใช้เต็มหรือยัง
---------------
DVB-T2 ที่ใช้ในไทย ได้ปริมาณข้อมูลหรือบิทเรตรวมประมาณ 21Mbps ต่อ 1 Mux (1 ช่องสัญญาณ)
ช่องทีวีใช้ตัวบีบอัดแบบ H.264 (MPEG4)
ซึ่งช่อง HD ใช้ปริมาณข้อมูล หรือบิทเรต อยู่ที่ 6Mbps (2-8Mbps VBR)
และช่อง SD ที่ 1.5-2Mbps (1-3Mbps VBR)
* VBR = Variable Bit Rate ทำให้ปริมาณข้อมูลใช้มากน้อยตามภาพ ณ ขณะนั้น แบ่งปันกันใช้
* HD จะใช้ปริมาณข้อมูลประมาณ 3-4เท่าของ SD เป็นมาตรฐาน
ยังไม่รวมปลีกย่อย เช่น เสียง 2ภาษาทุกช่อง, EPG ที่ต้องส่งมาคู่กันหมดทุก Mux (ฝากกันส่ง), Subtitle, ช่องเสียง AD สำหรับทีวีสาธารณะ
---------------
ถ้าอยากให้ HD ทุกช่อง มี 4ทางครับ
1.เพิ่ม Mux (ปัจจุบันใช้กันแน่นแล้วสำหรับ 4 Mux หลัก [แน่นถึงขนาดใส่ Sub พร้อมกันไม่ได้ทุกช่อง อุบ๊ะ!])
2.เพิ่มบิทเรตรวม Mux (ผลการรับสัญญาณจะต่าง โดยการรับสัญญาณจะต้องเก็บสัญญาณให้ได้มากกว่าเดิม)
3.ลดช่อง (1 Mux ให้ได้ 3 HD หรือถ้ายัดๆกันก็ 4 HD แบบไม่เอา SD มาปน)
4.ลดบิทเรต (ถ้าต่ำไป ภาพจะดูแตกหรือเป็นกระเบื้อง ซึ่ง 6Mbps นี่ก็กลางๆ)
---------------
แต่ละความละเอียด จะมีค่าบิทเรต ในระดับที่ "ยอมรับได้" และ "เหมาะสม" ถ้าต่ำไป ภาพจะแตกหรือเป็นกระเบื้อง
จึงต้องคงค่านั้นไว้ เพื่อไม่ให้เสียคุณภาพของภาพ แลกกับจำนวนช่องทีวีที่อาจใส่ได้น้อยลง
ปริมาณข้อมูลของ Mux ของบ้านเรา จะเน้นไปประเภท Portable Outdoor ซึ่งใช้คุณภาพสัญญาณที่ไม่ต้องสูงมาก ใช้คู่กันทั้งรับที่บ้าน และรับกับรถยนต์ (แนะนำพวก Tuner 2เสา) และสัญญาณกระจายได้ค่อนข้างไกล จึงไม่ได้ตั้งค่าสูงมาก ผลเลยไปตกประมาณ 21Mbps
* ตามจริงเซ็ตได้สูงถึง 40Mbps [ที่ UK ใช้] แต่ใช้คุณภาพสัญญาณที่สูง ซึ่งก็ต้องรับสัญญาณได้แรงด้วย เคลื่อนที่มากไม่ได้ ดับครับ ที่นั้นเค้าจะเน้นให้ใช้ก้างปลาที่บ้านอย่างเดียว
** จะมีการปรับเพิ่มหรือไม่ ต้องดูแผนในอนาคต เพราะอย่าง UK ก็มีการปรับบิทเรต Mux DVB-T ช่วงเปลี่ยนผ่านอนาล็อกให้ได้ปริมาณข้อมูล Mux ที่สูงขึ้น (แต่โครงข่ายต้องครอบคลุมด้วย ไม่งั้นเกิดปัญหาสัญญาณที่เคยรับได้ แล้วหายไปในบางจุด)
เรื่องของ Mux ตามแผนวางแผนไว้ที่ 6 Mux 4 ชุดความถี่ (2ชุดสำรอง สำหรับชายแดนมาเลเซีย ถ้าจำไม่ผิดนะ)
ก็ถือว่าค่อนข้างเยอะ และถ้าตัดแบ่งย่าน 700MHz มาทำ LTE อีก ก็หายไปอีกหลายช่องสัญญาณ (อินโดตัดแบ่งรอไปแล้ว ออสเตรเลียก็เช่นกัน)
---------------
อยากยัด HD ได้ทุกช่อง โดยไม่เพิ่ม Mux ก็คงต้องตัดช่องที่ไม่จำเป็นออก และไปใช้ HEVC มั้งครับ 555 (ช่องละ 3Mbps เพราะ HEVC กินครึ่งเดียวของ H.264 ในคุณภาพเท่ากัน 3*7 = 21Mbps) แต่ต้นทุนในการส่งยังค่อนข้างสูงทีเดียว และอุปกรณ์นู่นนี่เปลี่ยนกันบาน แผนเราวางแผนไว้ล่วงหน้าเป็นปี ตอนนั้น HEVC ไม่ได้เริ่มแพร่หลายแบบในตอนนี้ (และ HEVC เอาไปใช้กับ 4K เป็นหลักทั้งนั้น)
บางประเทศ ทีวีดิจิตอล ยังไม่ HD, บางประเทศ ทีวีดิจิตอลยังเป็น MPEG2 (แต่ภาพอาจดูเทพ เพราะ 1ช่องทีวี = 1ช่องสัญญาณ = บิทเรตต่อช่องสูง = ภาพแตกน้อย)
ตัวแปรรองที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการใช้คลื่นว่าใช้เต็มหรือยัง
---------------
DVB-T2 ที่ใช้ในไทย ได้ปริมาณข้อมูลหรือบิทเรตรวมประมาณ 21Mbps ต่อ 1 Mux (1 ช่องสัญญาณ)
ช่องทีวีใช้ตัวบีบอัดแบบ H.264 (MPEG4)
ซึ่งช่อง HD ใช้ปริมาณข้อมูล หรือบิทเรต อยู่ที่ 6Mbps (2-8Mbps VBR)
และช่อง SD ที่ 1.5-2Mbps (1-3Mbps VBR)
* VBR = Variable Bit Rate ทำให้ปริมาณข้อมูลใช้มากน้อยตามภาพ ณ ขณะนั้น แบ่งปันกันใช้
* HD จะใช้ปริมาณข้อมูลประมาณ 3-4เท่าของ SD เป็นมาตรฐาน
ยังไม่รวมปลีกย่อย เช่น เสียง 2ภาษาทุกช่อง, EPG ที่ต้องส่งมาคู่กันหมดทุก Mux (ฝากกันส่ง), Subtitle, ช่องเสียง AD สำหรับทีวีสาธารณะ
---------------
ถ้าอยากให้ HD ทุกช่อง มี 4ทางครับ
1.เพิ่ม Mux (ปัจจุบันใช้กันแน่นแล้วสำหรับ 4 Mux หลัก [แน่นถึงขนาดใส่ Sub พร้อมกันไม่ได้ทุกช่อง อุบ๊ะ!])
2.เพิ่มบิทเรตรวม Mux (ผลการรับสัญญาณจะต่าง โดยการรับสัญญาณจะต้องเก็บสัญญาณให้ได้มากกว่าเดิม)
3.ลดช่อง (1 Mux ให้ได้ 3 HD หรือถ้ายัดๆกันก็ 4 HD แบบไม่เอา SD มาปน)
4.ลดบิทเรต (ถ้าต่ำไป ภาพจะดูแตกหรือเป็นกระเบื้อง ซึ่ง 6Mbps นี่ก็กลางๆ)
---------------
แต่ละความละเอียด จะมีค่าบิทเรต ในระดับที่ "ยอมรับได้" และ "เหมาะสม" ถ้าต่ำไป ภาพจะแตกหรือเป็นกระเบื้อง
จึงต้องคงค่านั้นไว้ เพื่อไม่ให้เสียคุณภาพของภาพ แลกกับจำนวนช่องทีวีที่อาจใส่ได้น้อยลง
ปริมาณข้อมูลของ Mux ของบ้านเรา จะเน้นไปประเภท Portable Outdoor ซึ่งใช้คุณภาพสัญญาณที่ไม่ต้องสูงมาก ใช้คู่กันทั้งรับที่บ้าน และรับกับรถยนต์ (แนะนำพวก Tuner 2เสา) และสัญญาณกระจายได้ค่อนข้างไกล จึงไม่ได้ตั้งค่าสูงมาก ผลเลยไปตกประมาณ 21Mbps
* ตามจริงเซ็ตได้สูงถึง 40Mbps [ที่ UK ใช้] แต่ใช้คุณภาพสัญญาณที่สูง ซึ่งก็ต้องรับสัญญาณได้แรงด้วย เคลื่อนที่มากไม่ได้ ดับครับ ที่นั้นเค้าจะเน้นให้ใช้ก้างปลาที่บ้านอย่างเดียว
** จะมีการปรับเพิ่มหรือไม่ ต้องดูแผนในอนาคต เพราะอย่าง UK ก็มีการปรับบิทเรต Mux DVB-T ช่วงเปลี่ยนผ่านอนาล็อกให้ได้ปริมาณข้อมูล Mux ที่สูงขึ้น (แต่โครงข่ายต้องครอบคลุมด้วย ไม่งั้นเกิดปัญหาสัญญาณที่เคยรับได้ แล้วหายไปในบางจุด)
เรื่องของ Mux ตามแผนวางแผนไว้ที่ 6 Mux 4 ชุดความถี่ (2ชุดสำรอง สำหรับชายแดนมาเลเซีย ถ้าจำไม่ผิดนะ)
ก็ถือว่าค่อนข้างเยอะ และถ้าตัดแบ่งย่าน 700MHz มาทำ LTE อีก ก็หายไปอีกหลายช่องสัญญาณ (อินโดตัดแบ่งรอไปแล้ว ออสเตรเลียก็เช่นกัน)
---------------
อยากยัด HD ได้ทุกช่อง โดยไม่เพิ่ม Mux ก็คงต้องตัดช่องที่ไม่จำเป็นออก และไปใช้ HEVC มั้งครับ 555 (ช่องละ 3Mbps เพราะ HEVC กินครึ่งเดียวของ H.264 ในคุณภาพเท่ากัน 3*7 = 21Mbps) แต่ต้นทุนในการส่งยังค่อนข้างสูงทีเดียว และอุปกรณ์นู่นนี่เปลี่ยนกันบาน แผนเราวางแผนไว้ล่วงหน้าเป็นปี ตอนนั้น HEVC ไม่ได้เริ่มแพร่หลายแบบในตอนนี้ (และ HEVC เอาไปใช้กับ 4K เป็นหลักทั้งนั้น)
บางประเทศ ทีวีดิจิตอล ยังไม่ HD, บางประเทศ ทีวีดิจิตอลยังเป็น MPEG2 (แต่ภาพอาจดูเทพ เพราะ 1ช่องทีวี = 1ช่องสัญญาณ = บิทเรตต่อช่องสูง = ภาพแตกน้อย)

แสดงความคิดเห็น
กสทช. สามารถทำให้ดิจิตอลทีวีทุกช่องเป็น HD ทั้งหมดได้หรือไม่?