คือตัวผมนั้นยังเป็นนักศึกษาอยู่ อารมณ์ แนวอินดี้นิดๆครับ ชอบเดินทาง
ซึ่งระหว่างการเดินทางนั้น เจอสิ่งที่ผมได้เห็นความสุขมากมาย แค่นั้น
ลองอ่านดูแล้วกันครับถึงการเดินทางที่ผ่านมาจะมีทั้งดี และ ไม่ดี แต่วันนี้ขอเล่าให้ฟังแต่เรื่องดีๆนะครับ
Part 1 รถไฟ
ผมนั้นชอบท่องเที่ยวโดยรถไฟมาก คลาสสิคดีครับ ปล.ชอบชั้น 3 ที่สุด เพราะได้เห็นวิถี ชีวิตต่างๆมากมายที่ในห้องแอร์ไม่มีครับ
เรื่องที่ประทับใจที่สุดคงเป็น แม่คนหนึ่ง กับ เด็กวัย 16 - 17 หล่ะครับ นั่งชั้น 3 แรกๆก็คงสนุกหล่ะครับแต่ถ้าเดินทางไกลเป็น 10 กว่า ชม.
ก็คงจะมีเบื่อๆกันบ้าง ซึ่งเป็นเด็นมันอยู่ที่ได้เด็กผู้ชายตรงข้ามผมเนี่ยมันอยากนอนบนเบาะ มันก็งอแง ทั้งๆที่มัน 16 แล้วนะ สุดท้ายคุณแม่
ก็หันมาบอกผมว่าให้เอาของเบี่ยงไปทางอื่นได้ไหม เพราะจะขอนั่งที่พื้น เพื่อให้ลูกชายได้นอนบนเบาะคนเดียว เหตุการก็เป็นเช่นนี้จนเช้า
เรื่องนี้ผมมองสองมุมนะ คือ ไอ้คนที่ควรมานั่งพื้นควรเป็นลูกมากกว่า แต่ความรักของแม่นี่ยิ่งใหญ่มากจบแล้วครับ [การเดินทางจาก นครปฐม-ตรัง]
รถไฟ 2
เหตุการณ์ยังอยู่ที่รถไฟเช่นเลยครับ แต่คราวนี้เป็นเรื่องราวความประทับใจ ชาวต่างชาติครับ เป็น พวก วิลาส(แหะๆแอบอินละคร)
คือฝรั่งหนุ่มคนเนี้ยเค้ามีที่นั่งของเค้าครับ แต่ผมเห็นเค้าเนี่ยเดินผ่านไปผ่านมาไม่นั่งซักที เค้าจะหิ้ว ถุงนอนของเค้าเดินไปเดินมา หาที่ซุกอ่าครับ
ผมก็สงสัย อ๋อ ที่แท้ตรงที่นั่งตรงนั้นมีเด็กมากับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแม่แหล่ะครับ ตาฝรั่งคนนี้เค้าอยากให้เด็กนั่งสบายๆไม่อยากเบียดเค้าเลยลุก
พอตกกลางคืนคนตรวจตั๋วก็สั่งให้ตาฝรั่งเนี่ยไปนั่งที่เพราะมีที่นั่งเค้าไม่อยากให้มานอนขวางทางหน่ะ แต่ไปถึงมันเห็นเด็กหลับอยู่ คุณฝรั่งคนเนี้ยก็ของไปนอนตรงพื้นตรงกลางกับถุงนอนเค้านั่นแหล่ะครับ จนกว่า แม่ลูกคู่นั้นลงฝรั่งคนนี้ถึงมานั่งบนเบาะครับ ชอบมากเห็นสิ่งที่เขาทำ ความมีน้ำใจ
ผมนี่ยืนดูและมองเห็นตลอดเลยครับ เพราะ ผมได้ตั๋วยืนเพราะซื้อตั๋วก่อนรถออกครับ พื้นที่หน้าห้องน้ำผมจอง อิอิ [การเดินทางจาก กรุงเทพ - ตรังครับ ]
รถไฟ 3
ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาส นั่งรถไฟเดินทาง ซึ่งในตอนนั้นผมยังไม่มีสมาทโฟน หรือ สิ่งที่ต้องทำจึงเกิดอาการว่างขึ้นครับ หลังจากมองซ้าย มองขวาดันหันไปเห็นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ อ่านหนังสืออยู่ เบาะตรงข้าม นั่งรถไฟมาประมาณ สาม ช.ม. คราวนี้เริ่มทนอาการว่างไม่ไหวก็เลยชวนคุยเรื่องหนังสือ คุยไป คุยมา ก็ขอยืมหนังสืออ่านเฉย แต่พี่เค้าก็ใจดีนะครับ โดยเค้าได้บอกว่า พี่มีเล่มอื่นอีก ฮ่าๆมาถึงตรงนี้หนังสือเล่มนั้นผมยังจำได้ดี ชื่อว่า พฤกษา มาตา จะเป็นเรื่องที่เปรียบเทียบว่าแม่เป็นเหมือนต้นไม้ แม่แต่ละคนจะมีบทบาทต่างกันออกไป โดยตอนท้ายของเรื่องจะมีสรุปว่าทำไมถึงเหมือนต้นไม้ชนิดนั้นๆ ผมก็อ่านยาวทั้งคืน จนจบเล่ม ขอบคุณรถไฟไทยจริงๆที่ใช้เวลานานมากจนอ่านหนังสือได้จบ พอจะหันไปคืนหนังสือ พี่เค้าก็หลับไปซะแล้วผมจึงได้เขียนขอบคุณไว้บนที่คั่นหนังสือ ตอนเช้ารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนพี่เค้าสะกิดจึงได้ส่งหนังสือคืนไปพร้อมกับรอยยิ้ม ท้ายที่สุดนี้ หากพี่คนนั้นได้มีโอกาสมาเห็นข้อความนี้ อยากจะบอกว่า ขอบคุณมากครับ
ถ้าพี่ได้มาอ่านจริงๆก็ขอบอกว่ากระทู้คงทำให้พี่คลายเครียดจากเรื่องน่าปวดหัวมากมายบนโลกนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณต่ะ พี่ชื่อพี่เมย่า ช้ะ ใช่คนที่ใส่ชุดรถตุ๊กๆป่าวครับ
Edit 3/3/59
Part 2 รถประจำทาง [ บัส - เมล์ - รถตู้ ]
เหตุการณ์นี้บนรถตู้นะครับ แอบฟินเล็กน้อยครับช่วงนั้นผมเหนื่อยๆจากการสอบเพลีย อยากกลับบ้านเมื่อโอกาศมาถึงผมก็ขึ้นรถตู้ดิ่งกลับบ้านเลยครับระยะทางประมาณ 2 ชม. ซึ่งผมอยากถึงบ้านเร็วเลยมาขึ้นรถช่วงเช้ามืดเลยครับแต่คนเยอะอยู่ดีเพราะส่วนมากเค้าไปทำงานกันนะครับ ผมขึ้นรถไปก็ได้นั่งข้างพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง วัยรุ่นแหล่ะครับแต่ไม่เห็นหน้าเพราะพี่เค้าใส่ผ้าปิดปากผมก็ง่วงๆมึนๆด้วย พอขึ้นไปแล้วแล้วรถออกมาได้ประมาณ 10 นาที ผมก็ฟังเพลงชิวๆแต่แล้วก็หลับครับแล้วพิงไปข้างๆผมมารู้สึกตัวตอนที่มาได้ประมาณครึ่งทางครับแล้วก็สะดุ้งเล็กน้อย เพราะเผลอไปพิงพี่เค้าแหล่ะครับ แล้วเหมือนพี่เค้านึกว่าเค้าทำให้ผมสะดุ้ง เค้าเลยขยับตัวให้สูงขึ้นหน่ะครับเพราะเค้าเตี้ยเค้าคงคิดว่าที่ผมสะดุ้งเพราะนอนไม่สบายมั้งพี่เค้าเลยขบัยให้ผมนอนสบายขึ้น ทีนี้ก็หลับยาวจนถึงที่หมายเลยครับ พอลงจากรถตู้เสร็จผมก็รอปิดประตูรถตู้แล้วจะขอบคุณซักหน่อยแต่พี่เค้าก็เดินไปแล้วหายไปไหนแล้วไม่รู้ผมได้แต่ยิ้ม นึกในใจว่า ขอบคุณนะครับพี่ถึงจะไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้าเลยก็เถอะ [การเดินทางจาก มหาลัย-บ้าน]
รถตู้เหมือนเดิมครับ แต่กลับกันที่ คราวเป็นผมไม่ใช่คนหลับ แต่พี่ คนข้างๆน่าจะเป็นพยาบาลจบใหม่มั้งครับเพราะเค้าแลยังไม่ชินเลยต้องมาหลับบนรถตู้ตอนเช้ามืดหน่ะครับ คือพี่เค้าหลับก็พิงมา ก็เฉยๆนะครับตอนแรก ผมเลยขยับเล็กน้อยเพื่อให้เค้าพิงสบายขึ้น แอบมองหน้าด้วย น่ารักจัง แฮ่ๆประเด็นมันอยู่ที่ซักพักผมก็เผลอเค้าแล้วพองหัวพี่เค้าเหมือนกันหน่ะครับ เพราะสะดุ้งแต่ว่าพี่เค้ายังหลับอยู่ก็ปล่อยให้เค้าหลับไปจนถึงที่หน่ะครับแต่ผมแอบเสียใจเล็กน้อยคือตอนที่เค้าตื่นมาเค้าทำสายตาแบบ รังเกียจ แงๆๆๆ ถึงผมไม่หล่อก็ไม่ได้สกปรกขนาดนั้นซักหน่อย ว่าแต่มีเหาติดพี่เค้าก็ไม่รู้สินะ อิอิ
[การเดินทางจากมหาลัย-อนุสาวรีชัย]
ปล.ผมหน่ะเพิ่ง 20 เองเลยคิดว่าคนที่เจอนี่น่าจะโตกว่าเลยเรียกเค้าว่าพี่หมด
คราวนี้รถทัว นะครับ
สั้นๆเลยครับ ผมนั่งอยู่แล้วรถทัวเค้าจะมีขนมให้บริการหน่ะครับ ผมก็เป็นวัยรุ่นกินเก่ง[ตละกะ] ก็กินหมดอย่างว่องไว แล้วทำหน้าเหมือนหิวๆอีก ตาแป๋วๆ ตอนนั้นผมยังไม่ 20 ครับเลยเหมือนเด็กอยากกินขนม ซักพักหนึ่งพี่ที่นั่งข้างๆก็สะกิด น้องๆพี่เห็นน้องกินหมดแล้วเอาอีกไหม เห็นน้องชอบ อ๊าก ผู้หญิงอีกแล้วครับ น่ารักด้วย ฮ่าๆ ผมก็รับมากอย่างไว แล้วก็บอกขอบคุณครับ แค่นี้แหล่ะครับทิปนี้ แต่ประเด็นตอนกลับมาถึงบ้านนี่สิครับ โดน ที่บ้านด่าใหญ่เลยหลังจากเล่าให้ฟัง อย่ารับของจากคนแปลกหน้า เค้าอาจใส่ยานอนหลับ แล้วรูดทรัพย์เราก็ได้ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ คือเรื่องนี้เตือนคุณผู้หญิงที่ชอบเดินทางทั้งหลายด้วยนะครับ ส่วนผมหน่ะเหรอจะกลัวอะไรมีแต่ โนเกีย เก่าๆ กับ ตังติดตัวไม่เท่าไหร่ จะกลัวใครเป็นผู้ชายวัยรุ่นอีกตะหาก [ การเดินทางเชียงใหม่ - กรุงเทพ ]
รถเมล์ ก็ปกติครับรถเมล์ส่วนมากจะเห็นการที่เด็กวัยรุ่นลุกให้คนแก่นั่ง หรือ คนท้อง แต่ที่ผมประทับใจคงเป็นเด็กผู้หญิง ม.ปลายคนหนึ่งละมั้งครับ ที่ลุกให้ป้าแก่ๆคนหนึ่งนั่ง ทั้งๆที่ผู้ชายวัยรุ่นอีกหลายคน หลับบ้าง คุยกับแฟนบ้าง หรือบางคนแกล้งหลับก็เป็นไปได้ ผมหน่ะเวลาลุกให้คนอื่นนั่งแล้วมันเขินๆส่วนมากตัวผมเองรู้อยู่แล้วว่ารถรอบเย็นจะต้องเต็มก็เลย ขึ้นไปยืนรอเลย เลยไม่ค่อยได้มีโอกาศโชวแมนอิอิ แต่มีครั้งหนึ้งครับตอนนั้นเจ้าของกระทู้แตะบอล แล้วกล้ามเนื้ออักเสก ทำให้ยืนแทบไม่ได้เพื่อนๆก็มาส่งขึ้นรถเมล์ พอมีคนขึ้นมาเยอะแล้ววันนั้นดันมีแต่ป้าแก่ๆผู้หญิงหน่ะครับ ตัวผมเองก็สงสารป้าอยากลุกให้นั่ง แต่ไอ้ตัวผมเองหน่ะไม่ไหวแล้ววันแบบว่ามีสายตาป้าหลายคู่มากเลยมองแบบ เป็นเด้กผู้ชายวัยรุ่นแท้ๆ เด็กดหนุ่มๆหรือสาวๆคนอื่นก็ยืนกันหมดแล้วเหลือผมคนเดียว ไอ้จะให้ตะโกนว่า ผมอยากลุกให้นั่งนะแต่ขาผมเจ็บ ก็กะไรอยู่เลยได้แต่ทนสายตามองแบบนั้นเลื่อยไป แต่แล้วคนลงไปเกือบหมดผมถึงค่อยกระดึ๊บลงๆแล้วมาล้มตอนลงประตู คนอื่นๆก็เพิ่งรู้ว่าผมขาเจ็บ แหม่ มองผมด้วยสายตาไม่ดีมาตั้ง 1 ชม. แอบน้อยใจเลยครับเรื่องนี้เลยทำให้ผมเปลี่ยนไป คือ ผมจะไม่มองสายตาแบบนั้นให้กับเด็กวัยรุ่นที่ไม่ลุกให้คนแก่นั่ง เพราะ ว่า เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเด็กเหล่านั้นเป็นอะไรหรือป่าว
เค้าอาจจะมีเหตุผลที่จำเป็นก็ได้ แต่เราลุกให้คนอื่นก็พอ อิอิ [การเดินทางจากมหาลัย-อนุสาวรีชัย ปล 538 นานมากครับ]
Part 3 รถรับจ้าง
แท็กซี่ ครับ พี่แท็กซี่คงไม่พ้นการเมืองหล่ะครับ เค้าชวนผมคุยด้วยคือพี่เค้าก็มีมุมมองที่ต่างออกไป ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมก็ชอบอ่านชอบฟังเรื่องพวกนี้ด้วยแล้ว ก็เพลินเลยครับทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่เบื่อเลย คืออะไรที่เราเชื่ออยู่แล้วเราแค่รับฟังเพิ่มเติมแล้วคิดตามไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมด
คือผมชอบนะ คุยกับพี่เค้า พี่เค้าจะมีคำพูดประจำว่า น้องไม่ต้องเชื่อพี่หรอก แต่พี่อยากให้รู้ไว้ ฮ่าๆ ชอบๆ [การเดินทางจาก เซนจูรี่ - หัวลำโพง ]
พี่ วิน ใจดี ฮ่าๆ
ครั้งนี้คือผมเดินทางไปกับน้าแล้วไม่รู้จักทางในซอยครับแวะข้างทางถามวินมอเตอร์ไซค์ พี่เค้าบอกอ๋อ แล้วสตาทรถเลยครับ แล้วบอกตามผมมาเลยครับ แล้วพี่เค้าก็ขี่รถนำไปครับ พอถึงที่หมายในซอยไกลมาก ก็ถามพี่เค้าเท่าไหร่ครับ พี่เค้าบอกเค้านำทางมาเฉยๆครับเพราะคนไม่รู้จักเข้ามาต้องหลงแน่ซอยนี้มันวกวน กรี๊ด คือแบบพี่ ปลื้มครับ สุดท้ายก็ยัดให้เค้าไปร้อย 1 ครับ พี่เค้าตอนแรกจะไม่เอาก็บอกเอาเถอะพี่เติมน้ำมัน [การเดินทางจากบ้าน-ซอยที่ทางวกวนที่สุดในโลก]
ไว้แค่นี้ก่อนนะครับไว้จะมาต่อให้ คือการเดินทางก(็ไม่สุขเสมอไปหรอกครับเรื่องแย่ๆผมก็เจอมาเยอะ แต่ที่นี้อยากเล่าให้ฟังแต่เรื่องดีๆ ใครมีเรื่องแบบนี้มาแชร์กันได้เลยครับ
ใครเคยมีความสุขระหว่างการเดินทางบ้างครับ[เรื่องเล่าสั้นๆ]
ซึ่งระหว่างการเดินทางนั้น เจอสิ่งที่ผมได้เห็นความสุขมากมาย แค่นั้น
ลองอ่านดูแล้วกันครับถึงการเดินทางที่ผ่านมาจะมีทั้งดี และ ไม่ดี แต่วันนี้ขอเล่าให้ฟังแต่เรื่องดีๆนะครับ
Part 1 รถไฟ
ผมนั้นชอบท่องเที่ยวโดยรถไฟมาก คลาสสิคดีครับ ปล.ชอบชั้น 3 ที่สุด เพราะได้เห็นวิถี ชีวิตต่างๆมากมายที่ในห้องแอร์ไม่มีครับ
เรื่องที่ประทับใจที่สุดคงเป็น แม่คนหนึ่ง กับ เด็กวัย 16 - 17 หล่ะครับ นั่งชั้น 3 แรกๆก็คงสนุกหล่ะครับแต่ถ้าเดินทางไกลเป็น 10 กว่า ชม.
ก็คงจะมีเบื่อๆกันบ้าง ซึ่งเป็นเด็นมันอยู่ที่ได้เด็กผู้ชายตรงข้ามผมเนี่ยมันอยากนอนบนเบาะ มันก็งอแง ทั้งๆที่มัน 16 แล้วนะ สุดท้ายคุณแม่
ก็หันมาบอกผมว่าให้เอาของเบี่ยงไปทางอื่นได้ไหม เพราะจะขอนั่งที่พื้น เพื่อให้ลูกชายได้นอนบนเบาะคนเดียว เหตุการก็เป็นเช่นนี้จนเช้า
เรื่องนี้ผมมองสองมุมนะ คือ ไอ้คนที่ควรมานั่งพื้นควรเป็นลูกมากกว่า แต่ความรักของแม่นี่ยิ่งใหญ่มากจบแล้วครับ [การเดินทางจาก นครปฐม-ตรัง]
รถไฟ 2
เหตุการณ์ยังอยู่ที่รถไฟเช่นเลยครับ แต่คราวนี้เป็นเรื่องราวความประทับใจ ชาวต่างชาติครับ เป็น พวก วิลาส(แหะๆแอบอินละคร)
คือฝรั่งหนุ่มคนเนี้ยเค้ามีที่นั่งของเค้าครับ แต่ผมเห็นเค้าเนี่ยเดินผ่านไปผ่านมาไม่นั่งซักที เค้าจะหิ้ว ถุงนอนของเค้าเดินไปเดินมา หาที่ซุกอ่าครับ
ผมก็สงสัย อ๋อ ที่แท้ตรงที่นั่งตรงนั้นมีเด็กมากับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแม่แหล่ะครับ ตาฝรั่งคนนี้เค้าอยากให้เด็กนั่งสบายๆไม่อยากเบียดเค้าเลยลุก
พอตกกลางคืนคนตรวจตั๋วก็สั่งให้ตาฝรั่งเนี่ยไปนั่งที่เพราะมีที่นั่งเค้าไม่อยากให้มานอนขวางทางหน่ะ แต่ไปถึงมันเห็นเด็กหลับอยู่ คุณฝรั่งคนเนี้ยก็ของไปนอนตรงพื้นตรงกลางกับถุงนอนเค้านั่นแหล่ะครับ จนกว่า แม่ลูกคู่นั้นลงฝรั่งคนนี้ถึงมานั่งบนเบาะครับ ชอบมากเห็นสิ่งที่เขาทำ ความมีน้ำใจ
ผมนี่ยืนดูและมองเห็นตลอดเลยครับ เพราะ ผมได้ตั๋วยืนเพราะซื้อตั๋วก่อนรถออกครับ พื้นที่หน้าห้องน้ำผมจอง อิอิ [การเดินทางจาก กรุงเทพ - ตรังครับ ]
รถไฟ 3
ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาส นั่งรถไฟเดินทาง ซึ่งในตอนนั้นผมยังไม่มีสมาทโฟน หรือ สิ่งที่ต้องทำจึงเกิดอาการว่างขึ้นครับ หลังจากมองซ้าย มองขวาดันหันไปเห็นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ อ่านหนังสืออยู่ เบาะตรงข้าม นั่งรถไฟมาประมาณ สาม ช.ม. คราวนี้เริ่มทนอาการว่างไม่ไหวก็เลยชวนคุยเรื่องหนังสือ คุยไป คุยมา ก็ขอยืมหนังสืออ่านเฉย แต่พี่เค้าก็ใจดีนะครับ โดยเค้าได้บอกว่า พี่มีเล่มอื่นอีก ฮ่าๆมาถึงตรงนี้หนังสือเล่มนั้นผมยังจำได้ดี ชื่อว่า พฤกษา มาตา จะเป็นเรื่องที่เปรียบเทียบว่าแม่เป็นเหมือนต้นไม้ แม่แต่ละคนจะมีบทบาทต่างกันออกไป โดยตอนท้ายของเรื่องจะมีสรุปว่าทำไมถึงเหมือนต้นไม้ชนิดนั้นๆ ผมก็อ่านยาวทั้งคืน จนจบเล่ม ขอบคุณรถไฟไทยจริงๆที่ใช้เวลานานมากจนอ่านหนังสือได้จบ พอจะหันไปคืนหนังสือ พี่เค้าก็หลับไปซะแล้วผมจึงได้เขียนขอบคุณไว้บนที่คั่นหนังสือ ตอนเช้ารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนพี่เค้าสะกิดจึงได้ส่งหนังสือคืนไปพร้อมกับรอยยิ้ม ท้ายที่สุดนี้ หากพี่คนนั้นได้มีโอกาสมาเห็นข้อความนี้ อยากจะบอกว่า ขอบคุณมากครับ
ถ้าพี่ได้มาอ่านจริงๆก็ขอบอกว่ากระทู้คงทำให้พี่คลายเครียดจากเรื่องน่าปวดหัวมากมายบนโลกนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณต่ะ พี่ชื่อพี่เมย่า ช้ะ ใช่คนที่ใส่ชุดรถตุ๊กๆป่าวครับ
Edit 3/3/59
Part 2 รถประจำทาง [ บัส - เมล์ - รถตู้ ]
เหตุการณ์นี้บนรถตู้นะครับ แอบฟินเล็กน้อยครับช่วงนั้นผมเหนื่อยๆจากการสอบเพลีย อยากกลับบ้านเมื่อโอกาศมาถึงผมก็ขึ้นรถตู้ดิ่งกลับบ้านเลยครับระยะทางประมาณ 2 ชม. ซึ่งผมอยากถึงบ้านเร็วเลยมาขึ้นรถช่วงเช้ามืดเลยครับแต่คนเยอะอยู่ดีเพราะส่วนมากเค้าไปทำงานกันนะครับ ผมขึ้นรถไปก็ได้นั่งข้างพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง วัยรุ่นแหล่ะครับแต่ไม่เห็นหน้าเพราะพี่เค้าใส่ผ้าปิดปากผมก็ง่วงๆมึนๆด้วย พอขึ้นไปแล้วแล้วรถออกมาได้ประมาณ 10 นาที ผมก็ฟังเพลงชิวๆแต่แล้วก็หลับครับแล้วพิงไปข้างๆผมมารู้สึกตัวตอนที่มาได้ประมาณครึ่งทางครับแล้วก็สะดุ้งเล็กน้อย เพราะเผลอไปพิงพี่เค้าแหล่ะครับ แล้วเหมือนพี่เค้านึกว่าเค้าทำให้ผมสะดุ้ง เค้าเลยขยับตัวให้สูงขึ้นหน่ะครับเพราะเค้าเตี้ยเค้าคงคิดว่าที่ผมสะดุ้งเพราะนอนไม่สบายมั้งพี่เค้าเลยขบัยให้ผมนอนสบายขึ้น ทีนี้ก็หลับยาวจนถึงที่หมายเลยครับ พอลงจากรถตู้เสร็จผมก็รอปิดประตูรถตู้แล้วจะขอบคุณซักหน่อยแต่พี่เค้าก็เดินไปแล้วหายไปไหนแล้วไม่รู้ผมได้แต่ยิ้ม นึกในใจว่า ขอบคุณนะครับพี่ถึงจะไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้าเลยก็เถอะ [การเดินทางจาก มหาลัย-บ้าน]
รถตู้เหมือนเดิมครับ แต่กลับกันที่ คราวเป็นผมไม่ใช่คนหลับ แต่พี่ คนข้างๆน่าจะเป็นพยาบาลจบใหม่มั้งครับเพราะเค้าแลยังไม่ชินเลยต้องมาหลับบนรถตู้ตอนเช้ามืดหน่ะครับ คือพี่เค้าหลับก็พิงมา ก็เฉยๆนะครับตอนแรก ผมเลยขยับเล็กน้อยเพื่อให้เค้าพิงสบายขึ้น แอบมองหน้าด้วย น่ารักจัง แฮ่ๆประเด็นมันอยู่ที่ซักพักผมก็เผลอเค้าแล้วพองหัวพี่เค้าเหมือนกันหน่ะครับ เพราะสะดุ้งแต่ว่าพี่เค้ายังหลับอยู่ก็ปล่อยให้เค้าหลับไปจนถึงที่หน่ะครับแต่ผมแอบเสียใจเล็กน้อยคือตอนที่เค้าตื่นมาเค้าทำสายตาแบบ รังเกียจ แงๆๆๆ ถึงผมไม่หล่อก็ไม่ได้สกปรกขนาดนั้นซักหน่อย ว่าแต่มีเหาติดพี่เค้าก็ไม่รู้สินะ อิอิ
[การเดินทางจากมหาลัย-อนุสาวรีชัย]
ปล.ผมหน่ะเพิ่ง 20 เองเลยคิดว่าคนที่เจอนี่น่าจะโตกว่าเลยเรียกเค้าว่าพี่หมด
คราวนี้รถทัว นะครับ
สั้นๆเลยครับ ผมนั่งอยู่แล้วรถทัวเค้าจะมีขนมให้บริการหน่ะครับ ผมก็เป็นวัยรุ่นกินเก่ง[ตละกะ] ก็กินหมดอย่างว่องไว แล้วทำหน้าเหมือนหิวๆอีก ตาแป๋วๆ ตอนนั้นผมยังไม่ 20 ครับเลยเหมือนเด็กอยากกินขนม ซักพักหนึ่งพี่ที่นั่งข้างๆก็สะกิด น้องๆพี่เห็นน้องกินหมดแล้วเอาอีกไหม เห็นน้องชอบ อ๊าก ผู้หญิงอีกแล้วครับ น่ารักด้วย ฮ่าๆ ผมก็รับมากอย่างไว แล้วก็บอกขอบคุณครับ แค่นี้แหล่ะครับทิปนี้ แต่ประเด็นตอนกลับมาถึงบ้านนี่สิครับ โดน ที่บ้านด่าใหญ่เลยหลังจากเล่าให้ฟัง อย่ารับของจากคนแปลกหน้า เค้าอาจใส่ยานอนหลับ แล้วรูดทรัพย์เราก็ได้ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหะๆ คือเรื่องนี้เตือนคุณผู้หญิงที่ชอบเดินทางทั้งหลายด้วยนะครับ ส่วนผมหน่ะเหรอจะกลัวอะไรมีแต่ โนเกีย เก่าๆ กับ ตังติดตัวไม่เท่าไหร่ จะกลัวใครเป็นผู้ชายวัยรุ่นอีกตะหาก [ การเดินทางเชียงใหม่ - กรุงเทพ ]
รถเมล์ ก็ปกติครับรถเมล์ส่วนมากจะเห็นการที่เด็กวัยรุ่นลุกให้คนแก่นั่ง หรือ คนท้อง แต่ที่ผมประทับใจคงเป็นเด็กผู้หญิง ม.ปลายคนหนึ่งละมั้งครับ ที่ลุกให้ป้าแก่ๆคนหนึ่งนั่ง ทั้งๆที่ผู้ชายวัยรุ่นอีกหลายคน หลับบ้าง คุยกับแฟนบ้าง หรือบางคนแกล้งหลับก็เป็นไปได้ ผมหน่ะเวลาลุกให้คนอื่นนั่งแล้วมันเขินๆส่วนมากตัวผมเองรู้อยู่แล้วว่ารถรอบเย็นจะต้องเต็มก็เลย ขึ้นไปยืนรอเลย เลยไม่ค่อยได้มีโอกาศโชวแมนอิอิ แต่มีครั้งหนึ้งครับตอนนั้นเจ้าของกระทู้แตะบอล แล้วกล้ามเนื้ออักเสก ทำให้ยืนแทบไม่ได้เพื่อนๆก็มาส่งขึ้นรถเมล์ พอมีคนขึ้นมาเยอะแล้ววันนั้นดันมีแต่ป้าแก่ๆผู้หญิงหน่ะครับ ตัวผมเองก็สงสารป้าอยากลุกให้นั่ง แต่ไอ้ตัวผมเองหน่ะไม่ไหวแล้ววันแบบว่ามีสายตาป้าหลายคู่มากเลยมองแบบ เป็นเด้กผู้ชายวัยรุ่นแท้ๆ เด็กดหนุ่มๆหรือสาวๆคนอื่นก็ยืนกันหมดแล้วเหลือผมคนเดียว ไอ้จะให้ตะโกนว่า ผมอยากลุกให้นั่งนะแต่ขาผมเจ็บ ก็กะไรอยู่เลยได้แต่ทนสายตามองแบบนั้นเลื่อยไป แต่แล้วคนลงไปเกือบหมดผมถึงค่อยกระดึ๊บลงๆแล้วมาล้มตอนลงประตู คนอื่นๆก็เพิ่งรู้ว่าผมขาเจ็บ แหม่ มองผมด้วยสายตาไม่ดีมาตั้ง 1 ชม. แอบน้อยใจเลยครับเรื่องนี้เลยทำให้ผมเปลี่ยนไป คือ ผมจะไม่มองสายตาแบบนั้นให้กับเด็กวัยรุ่นที่ไม่ลุกให้คนแก่นั่ง เพราะ ว่า เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเด็กเหล่านั้นเป็นอะไรหรือป่าว
เค้าอาจจะมีเหตุผลที่จำเป็นก็ได้ แต่เราลุกให้คนอื่นก็พอ อิอิ [การเดินทางจากมหาลัย-อนุสาวรีชัย ปล 538 นานมากครับ]
Part 3 รถรับจ้าง
แท็กซี่ ครับ พี่แท็กซี่คงไม่พ้นการเมืองหล่ะครับ เค้าชวนผมคุยด้วยคือพี่เค้าก็มีมุมมองที่ต่างออกไป ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมก็ชอบอ่านชอบฟังเรื่องพวกนี้ด้วยแล้ว ก็เพลินเลยครับทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่เบื่อเลย คืออะไรที่เราเชื่ออยู่แล้วเราแค่รับฟังเพิ่มเติมแล้วคิดตามไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมด
คือผมชอบนะ คุยกับพี่เค้า พี่เค้าจะมีคำพูดประจำว่า น้องไม่ต้องเชื่อพี่หรอก แต่พี่อยากให้รู้ไว้ ฮ่าๆ ชอบๆ [การเดินทางจาก เซนจูรี่ - หัวลำโพง ]
พี่ วิน ใจดี ฮ่าๆ
ครั้งนี้คือผมเดินทางไปกับน้าแล้วไม่รู้จักทางในซอยครับแวะข้างทางถามวินมอเตอร์ไซค์ พี่เค้าบอกอ๋อ แล้วสตาทรถเลยครับ แล้วบอกตามผมมาเลยครับ แล้วพี่เค้าก็ขี่รถนำไปครับ พอถึงที่หมายในซอยไกลมาก ก็ถามพี่เค้าเท่าไหร่ครับ พี่เค้าบอกเค้านำทางมาเฉยๆครับเพราะคนไม่รู้จักเข้ามาต้องหลงแน่ซอยนี้มันวกวน กรี๊ด คือแบบพี่ ปลื้มครับ สุดท้ายก็ยัดให้เค้าไปร้อย 1 ครับ พี่เค้าตอนแรกจะไม่เอาก็บอกเอาเถอะพี่เติมน้ำมัน [การเดินทางจากบ้าน-ซอยที่ทางวกวนที่สุดในโลก]
ไว้แค่นี้ก่อนนะครับไว้จะมาต่อให้ คือการเดินทางก(็ไม่สุขเสมอไปหรอกครับเรื่องแย่ๆผมก็เจอมาเยอะ แต่ที่นี้อยากเล่าให้ฟังแต่เรื่องดีๆ ใครมีเรื่องแบบนี้มาแชร์กันได้เลยครับ