ไปดูแล้ว...มารีวิว : TERMINATOR GENISYS (SPOIL)


นี่เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ตัวอย่างดูไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่เรื่องจริงดีชะมัด ย้ำนะครับว่าเป็นความชอบส่วนตัว จะว่าผมไม่มีรสนิยมในการดูหนังก็ไม่เป็นไร เพราะผมดูหนังเพื่อความบันเทิง เรื่องไหนตอบโจทย์ข้อนี้ผมได้ ผมก็โอเคแล้ว

“อะไรที่มันไม่เข้าท่าเข้าที เละเทะ หามุกไปต่อลำบาก ก็รีบู๊ตมันซะ”  นี่คือวิธีจัดการ The Terminator ให้กลับมาอยู่ในจุดที่พร้อมจะเปิดตำนานการเดินทางครั้งใหม่ หลังจากเริ่มตีบตัน และไม่ได้สร้างความน่าสนใจโดยเฉพาะภาค3 Terminator : Rise of The Machines ที่แทบจะนึกจุดเด่นไม่ออก อันเป็นแนวทางเดียวกับ The X-men : Days of Future past  ที่จัดการ The X-men ให้พร้อมกับมาเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ โดยคนเหล็กภาคนี้กำกับโดย อลัน เทย์เลอร์ ผู้เคยกำกับ Thor : The Dark World และแน่นอน ต้องมีตำนานคนเหล็กตัวจริง อาร์โนลด์ ซวาเซเน็กเกอร์ เป็นตัวชูโรง

หนังเริ่มต้นด้วยการเท้าความเรื่องการเกิด Judgement Day และการลุกฮือขึ้นต่อต้านและยึดโลกของมนุษย์คืนมาจากเครื่องจักร แล้วตามด้วยการไล่ล่า การกลับไปแก้ไขอดีตของเครื่องจักรในมุขที่คนดูอาจคิดว่าพอจะเดาทางได้ แต่ภาคนี้เอาเรื่อง “ไทม์ไลน์” มาเป็นหัวใจของการเดินเรื่อง และเปลี่ยนจุดศูนย์กลางเรื่องแทนที่จะเป็นโฟกัสไปที่บทของ จอห์น คอนเนอร์ ไปเป็น ไคล์น รีส ซะนับเป็นทางออกที่เข้าท่ามาก เพราะคนดูน่าจะคาดเดาเช่นนั้น
แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนแกนดำเนินเรื่องใหม่ แต่ก็ไม่ทำให้โครงเรื่องเดิมเสียไป ยังคงมีแกนเรื่องที่เคารพบทภาพยนต์เดิมที่ดำเนินสืบต่อมา ไม่ว่าจะเป็น ซาร่าห์ คอนเนอร์, ไคล์น รีส, T-800, T-1000, ไซเบอร์ไดน์ และ สกายเน็ต รวมถึงธีมเพลงประกอบคนเหล็กที่คุ้นเคยติดหูจนเป็นเอกลักษณ์ เพียงแต่เอา “ไทม์ไลน์” ที่ซ้อนกันไปมา นำมาเป็นลูกเล่นให้บทหนังน่าสนใจ แต่ก็ทิ้งปมไว้ว่า ใคร? ที่ส่ง T-800 มาหาซาร่าห์ คอนเนอร์ในวัย 9 ขวบ? ซึ่งอาจเป็นหัวใจสำคัญในการปูทางสู่ภาคต่อตอนใหม่ได้แบบเปิดกว้างไม่ตีบตัน

นี่คือหนังแอ๊คชั่น-ไซไฟ ตามแบบฉบับ คนเหล็กที่ควรจะเป็น แอ๊คชั่นหนักแน่น ไม่หน่อมแน้ม ฉากคนเหล็กอัดกันนี่ได้อรรถรสสมกับเป็นการดวลของคนเหล็กจริงๆ ชอบใจบทจริงๆที่เปลี่ยนบทบาทฮีโร่กู้โลกของจอห์น คอนเนอร์ ให้กลายเป็นตัวร้ายได้แบบไม่ขัดเขิน และในส่วนฉากเอฟเฟคท์การกลายร่างของคนเหล็กรุ่นใหม่ก็ทำได้ดีมีพลัง น่าเกรงขาม เป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำ ส่วนมุขตลกๆที่แทรกมาเป็นระยะๆ ก็กำลังงามไม่เฝือและจงใส่จนเกินไป ดูแข็งๆสมกับความเป็นคนเหล็กที่ทำอดยิ้มให้ไม่ได้


นอกจากนี้ หนังยังสร้างปมในประเด็นที่ว่าเดี๋ยวนี้พวกเราถูกเทคโนโลยีครอบงำกันแล้วจริงๆในทุกๆวงการ ซึ่งหนังสะท้อนออกมาได้แบบน่าสนใจและมีพลัง แค่เพียงนำเอาพวกแท๊บเบล็ต มือถือ มาเป็นประกอบทำให้แอบฉุกคิดว่า เอ๊ะ เดี๋ยวนี้เราก็อยู่ใน “ไทม์ไลน์” แบบนี้ งั้นอนาคตอาจเป็นแบบในหนังได้รึเปล่า?
ขนาดอัดฉากแอ๊คชั่นมามากมาย แต่บทก็ไม่ลืม ปิดช่องโหว่เรื่อง ไทม์ไลน์ ให้ครบถ้วน ไม่ว่า ไทม์ไลน์ระหว่าง ไคลน์ รีส กับ ซาร่า คอนเนอร์ หรือ ระหว่าง ไคลน์ รีส กับ ตัวไคล์ รีสเอง
บทสรุปหนังชัดเจนครับ “อนาคตไม่ได้ถูกเซ็ตอัพไว้” ภาคต่อไป คือการสู้กันในเวลาปัจจุบันแน่ๆ จากบทที่ชาญฉลาด ที่หาทางออกให้กับหนังภาคต่อเรียบร้อย แถมลุงอาร์โนลด์ได้รับการอัพเกรดแล้วซะด้วย
เคยคิดว่า คนเหล็ก คงต้องไปอ้อนวอนให้ เจมส์ คาร์เมรอน มาปลุกให้ฟื้นคืนชีพ แต่คงไม่ต้อง เพราะตอนนี้ อลัน เทย์เลอร์ไปนำคนเหล็กกลับมาแล้ว

ในความเห็นส่วนตัว ย้ำอีกทีว่า ส่วนตัว เพราะบางคนออกจะไม่ชอบที่มันหักหลังทำร้ายคนดูที่เปลี่ยน จอห์น คอนเนอร์เป็นตัวร้ายไปซะ แต่อย่างที่เกริ่นมา เรื่องนี้ทางผู้สร้างคงตั้งใจจะรีบู๊ตอยู่แล้ว และเมื่อลบอนาคตไปแล้ว จอห์น คอนเนอร์ก็ยังไม่เกิด  เหตุผลพอรับกันได้ครับในจุดนี้ นี่เป็นหนัง แอ๊คชั่น-ไซไฟ ที่ ถูกใจมากๆเอาไปเลย 9/10 (เผื่อเอาไว้ยังอีกหลายเดือนจะสิ้นปีเผื่อจะมีหนังดีๆเข้าฉายอีก)
ปล. หนังมี End Credit ด้วยคล้ายจะเดินตามรอย มาร์เวล เป็นการบอกใบ้ให้กลายๆ เตรียมตัวดูต่อไปได้มันยังไม่จบและยังคงน่าค้นหาต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่