ใครที่อยู่หอพัก อยู่ห้อง อยู่บ้านคนเดียว โดยเฉพาะผู้หญิง ตั้งใจอ่านให้ดีครับ ผมมีเหตุการณ์จริง ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวผมมาเล่าให้อ่านกัน เผื่อใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ควรเอาตัวรอดยังไง หรือวิธีป้องกันยังไงบ้าง จริงๆเรื่องนี้เกิดมาได้หลายเดือนแล้ว แต่น้องผมไม่เคยเล่าให้ฟัง เพราะน้องหลอนและกลัวมาก จนผ่านมาหลายเดือนน้องทำใจได้จึงเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟัง
ขอเกริ่นนิดนึงก่อนนะครับ ที่บอกว่าน้องสาวผม จริงๆก็ไม่ใช่น้องแท้ๆผมหรอกครับ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน (สมมุติว่าน้องผมชื่อ "ปอ" แล้วกันนะครับ) แม่ของปอ เป็นพี่สาวแม่ผม แม่ของน้องปอ มีลูก 3 คน ปอเป็นน้องคนที่ 2 มีพี่สาว 1 คน น้องชาย อีก 1 คน
ครอบครัวของน้องปอ อยู่ต่างจังหวัดในภาคอีสาน ก็ช่วยพ่อแม่ ทำไร่ ปลูกผัก มาตลอด จนเริ่มโตเป็นสาว จึงชวนพี่สาว เข้ามาเรียนต่อ ในกรุงเทพ และหางานทำไปด้วย ทั้งคู่เช่าห้องอยู่กัน 2 คน เป็นห้องพักราคาถูก เพราะไม่ค่อยมีเงินมากนักในตอนนั้น ต้องทำงานส่งตัวเองเรียนทั้งคู่ สภาพห้องเป็นห้องเล็กๆ แคบๆ ไม่มีแอร์ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีเพียงห้องเปล่าๆ และ ห้องน้ำ 1 ห้อง
น้องปอ กับ พี่สาว ไม่ได้เรียนที่เดียวกัน และทำงานคนละที เข้างานคนละเวลา ทำให้บางครั้ง ต้องอยู่คนเดียวบ้าง ก็อยู่ด้วยกันมาเป็นปี จนกระทั่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น
ตอนนั้นเองเป็นช่วงวันที่พี่สาวของปอ ออกไปทำงาน เหลือปอซึ่งเพิ่งกลับมาจากเรียน อยู่ห้องคนเดียว หลังจากกลับมาถึงห้อง ก็ไปอาบน้ำตามปกติ จู่ๆก็รู้สึกว่า มีเสียงก๊อกแก๊กๆ เหมือนมีคนอยู่คนเพดานฝ้า ปอตกใจ แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีผู้ชายเปิดฝ้าและกระโดดลงมาในห้องน้ำ ขณะที่น้องกำลังอาบน้ำในสภาพเปลือยเปล่า ปอยังไม่ทันได้ทำอะไร เพราะตกใจอยู่ ในใจก็ไม่รู้ว่าโจรคนนี้บุกเข้ามาหวังจะทำอะไรกันแน่ ปอยังไม่ทันได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ ก็โดนข่มขู่ให้เงียบไว้ น้องปอคิดว่ามันบุกเข้ามาหมายจะทำมิดีมิร้าย จึงยกมือไหว้ขอร้องว่า "พี่อย่าทำอะไรหนูเลย" แต่ยังพอมีสติที่จะหาทางรอดโดยหลอกโจรว่า "หนูอยู่กับยาย ยายลงไปซื้อของข้างล่าง ยายหนูดุมาก ถ้าขึ้นมาเจอหนูอยู่กับผู้ชาย หนูตายแน่"
หลังจากพูดไปโจรจึงแสดงตัวว่า จริงๆแล้ว กำลังหนีตำรวจมา แล้วก็ปีนฝ้าหนีมาลงที่ห้องนี้ จากที่น้องเล่าให้ฟัง เหมือนโจรจะเป็นพวกติดยา ค้ายา แล้วหนีตำรวจมามากว่าหนีการพนัน แล้วโจรก็บอกให้น้องไปช่วยดูตำรวจให้ พร้อมขู่ว่า "ถ้ากรูโดนจับ กรูจะกลับมาฆ่า

แน่" ด้วยความที่น้องผมกลัวมาก จึงรับปากไปว่าจะช่วย ระหว่างนั้นตำรวจก็เดินไล่หาตามห้องพักทีละห้อง จนมาถึงห้องน้องผม ตำรวจก็มาถามว่า"เห็นผู้ชายแปลกหน้าผ่านมาทางนี้บ้างไหม? " น้องผมกลัวว่าถ้าบอกไปอาจจะโดนฆ่า จึงโกหกไปว่า ไม่เห็น แล้วตำรวจก็เดินจากไป
โจรอยู่ในห้องสองต่อสองกับน้องผมอยู่ซักพัก แต่น้องผมก็ไม่อยู่เฉยๆ ทำท่าทีแสดงให้การช่วยเหลือโจรเต็มที่ เพื่อให้โจรเกิดความไว้ใจว่าเราไม่ตุกติก เพราะอาจจะโดนทำร้ายร่างกายได้ ลุกไปดูต้นทางเดินไปดูตำรวจว่าไม่มีแน่แล้ว กลับไปแน่แล้ว จึงเดินมาบอกโจรว่า "ตำรวจไม่อยู่แล้ว พี่รีบไปเร็วก่อนยาย จะกลับมาเห็น เดี๋ยวยายแจ้งตำรวจ"
จึงทำให้โจรออกไปจากห้องได้ แต่ก่อนโจรจะออกไป โจรพูดขู่ทิ้งท้ายไว้ว่า "ถ้า

ไปบอกตำรวจ กรูจะตามมาฆ่า

ถึงโรงเรียน" เพราะมันเห็นชุดนักเรียนแขวนอยู่ในห้อง และรู้ว่าอยู่โรงเรียนอะไรด้วย แล้วมันก็รีบออกไป
น้องผมทำอะไรไม่ถูก โทรบอกพี่สาวให้รีบกลับมา และไปเล่าเจ้าขอหอพักฟัง ซึ่งที่หอนี้ ระบบความปลอดภัย คีย์การ์ด ยาม กล้องวงจรปิด ก็ไม่มี จึงไม่รู้จะตามตัวยังไง น้องไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวโจรกลับมาทำร้าย และไม่กล้าเล่าให้ใครฟังมากเพราะอาย เจ้าของหอพักนี้จึงให้น้องผม ไปนอนด้วยที่บ้านก่อน แล้วค่อยว่ากัน
สุดท้ายน้องผมก็ต้องขอย้ายห้อง ย้ายของออกจากหอนั้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเลย และไปอยู่หอใหม่ที่มีระบบความปลอดภัยดีขึ้น และขอร้องพี่ชายที่เป็นญาติที่ไว้ใจได้ มาอยู่เป็นเพื่อนด้วยเป็นเวลาหลายเดือน สภาพจิตใจน้องตอนนั้นหลอนมาก ไม่กล้าอยู่ห้องคนเดียว ไม่กล้าลงไปซื้อของข้างล่าง เพราะเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงหลอกหลอนน้องผมตลอดเวลา จนเวลาผ่านมาหลายเดือน น้องเริ่มทำใจได้ และสภาพจิตใจกลับมาเป็นปกติ จึงมาเล่าให้ฟัง
และนี่ก็เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริงๆกับน้องผม ซึ่งจริงๆแล้วน้องผมอยู่กับพี่สาว และกว่าจะกลับมาคืออีกนานเลย ยังดีที่น้องมีสติและหลอกโจรได้จึงรอดพ้นจากตรงนั้นมา ยังคิดอยู่ว่าถ้าทำทีขัดขืนหรือต่อสู้อาจจะเป็นอันตรายมากกว่า และการทำให้โจรไว้ใจก็ทำให้น้องผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ ถึงแม้โจรจะได้ได้หมายข่มขืนแต่แรก แต่มาเจอผู้หญิงในสภาพเปลือย อยู่กัน 2 ต่อ 2 ในห้องน้ำ มันก็เสี่ยงอยู่เหมือนกัน
จึงอยากเตือนหลายๆคนที่พักอยู่คนเดียว หรือมีลูกหลานกำลังจะอยู่หอพัก ว่าให้ระมัดระวังตัวเองให้ดี เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับเราเมื่อไร หาเพื่อนมาอยู่ด้วย หรือทางที่ดีหาห้องพักที่ดูมีระบบความปลอดภัยซักนิด จ่ายแพงกว่าแต่ชีวิตปลอดภัยกว่าก็ยอมเถอะครับ มันไม่คุ้มเลยถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ก็หวังว่าเหตุการณ์นี้ จะไม่เกิดขึ้นกับใครอีกนะครับ
*ขออณุญาติแท็กชาญเรือน เผื่อคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก อยู่ห้องคนเดียว
เตือนภัย เหตุการณ์ระทึก โจรบุกเข้าห้องน้ำ ขณะน้องสาวอาบน้ำ
ขอเกริ่นนิดนึงก่อนนะครับ ที่บอกว่าน้องสาวผม จริงๆก็ไม่ใช่น้องแท้ๆผมหรอกครับ เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน (สมมุติว่าน้องผมชื่อ "ปอ" แล้วกันนะครับ) แม่ของปอ เป็นพี่สาวแม่ผม แม่ของน้องปอ มีลูก 3 คน ปอเป็นน้องคนที่ 2 มีพี่สาว 1 คน น้องชาย อีก 1 คน
ครอบครัวของน้องปอ อยู่ต่างจังหวัดในภาคอีสาน ก็ช่วยพ่อแม่ ทำไร่ ปลูกผัก มาตลอด จนเริ่มโตเป็นสาว จึงชวนพี่สาว เข้ามาเรียนต่อ ในกรุงเทพ และหางานทำไปด้วย ทั้งคู่เช่าห้องอยู่กัน 2 คน เป็นห้องพักราคาถูก เพราะไม่ค่อยมีเงินมากนักในตอนนั้น ต้องทำงานส่งตัวเองเรียนทั้งคู่ สภาพห้องเป็นห้องเล็กๆ แคบๆ ไม่มีแอร์ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ มีเพียงห้องเปล่าๆ และ ห้องน้ำ 1 ห้อง
น้องปอ กับ พี่สาว ไม่ได้เรียนที่เดียวกัน และทำงานคนละที เข้างานคนละเวลา ทำให้บางครั้ง ต้องอยู่คนเดียวบ้าง ก็อยู่ด้วยกันมาเป็นปี จนกระทั่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้น
ตอนนั้นเองเป็นช่วงวันที่พี่สาวของปอ ออกไปทำงาน เหลือปอซึ่งเพิ่งกลับมาจากเรียน อยู่ห้องคนเดียว หลังจากกลับมาถึงห้อง ก็ไปอาบน้ำตามปกติ จู่ๆก็รู้สึกว่า มีเสียงก๊อกแก๊กๆ เหมือนมีคนอยู่คนเพดานฝ้า ปอตกใจ แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีผู้ชายเปิดฝ้าและกระโดดลงมาในห้องน้ำ ขณะที่น้องกำลังอาบน้ำในสภาพเปลือยเปล่า ปอยังไม่ทันได้ทำอะไร เพราะตกใจอยู่ ในใจก็ไม่รู้ว่าโจรคนนี้บุกเข้ามาหวังจะทำอะไรกันแน่ ปอยังไม่ทันได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ ก็โดนข่มขู่ให้เงียบไว้ น้องปอคิดว่ามันบุกเข้ามาหมายจะทำมิดีมิร้าย จึงยกมือไหว้ขอร้องว่า "พี่อย่าทำอะไรหนูเลย" แต่ยังพอมีสติที่จะหาทางรอดโดยหลอกโจรว่า "หนูอยู่กับยาย ยายลงไปซื้อของข้างล่าง ยายหนูดุมาก ถ้าขึ้นมาเจอหนูอยู่กับผู้ชาย หนูตายแน่"
หลังจากพูดไปโจรจึงแสดงตัวว่า จริงๆแล้ว กำลังหนีตำรวจมา แล้วก็ปีนฝ้าหนีมาลงที่ห้องนี้ จากที่น้องเล่าให้ฟัง เหมือนโจรจะเป็นพวกติดยา ค้ายา แล้วหนีตำรวจมามากว่าหนีการพนัน แล้วโจรก็บอกให้น้องไปช่วยดูตำรวจให้ พร้อมขู่ว่า "ถ้ากรูโดนจับ กรูจะกลับมาฆ่า
โจรอยู่ในห้องสองต่อสองกับน้องผมอยู่ซักพัก แต่น้องผมก็ไม่อยู่เฉยๆ ทำท่าทีแสดงให้การช่วยเหลือโจรเต็มที่ เพื่อให้โจรเกิดความไว้ใจว่าเราไม่ตุกติก เพราะอาจจะโดนทำร้ายร่างกายได้ ลุกไปดูต้นทางเดินไปดูตำรวจว่าไม่มีแน่แล้ว กลับไปแน่แล้ว จึงเดินมาบอกโจรว่า "ตำรวจไม่อยู่แล้ว พี่รีบไปเร็วก่อนยาย จะกลับมาเห็น เดี๋ยวยายแจ้งตำรวจ"
จึงทำให้โจรออกไปจากห้องได้ แต่ก่อนโจรจะออกไป โจรพูดขู่ทิ้งท้ายไว้ว่า "ถ้า
น้องผมทำอะไรไม่ถูก โทรบอกพี่สาวให้รีบกลับมา และไปเล่าเจ้าขอหอพักฟัง ซึ่งที่หอนี้ ระบบความปลอดภัย คีย์การ์ด ยาม กล้องวงจรปิด ก็ไม่มี จึงไม่รู้จะตามตัวยังไง น้องไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวโจรกลับมาทำร้าย และไม่กล้าเล่าให้ใครฟังมากเพราะอาย เจ้าของหอพักนี้จึงให้น้องผม ไปนอนด้วยที่บ้านก่อน แล้วค่อยว่ากัน
สุดท้ายน้องผมก็ต้องขอย้ายห้อง ย้ายของออกจากหอนั้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเลย และไปอยู่หอใหม่ที่มีระบบความปลอดภัยดีขึ้น และขอร้องพี่ชายที่เป็นญาติที่ไว้ใจได้ มาอยู่เป็นเพื่อนด้วยเป็นเวลาหลายเดือน สภาพจิตใจน้องตอนนั้นหลอนมาก ไม่กล้าอยู่ห้องคนเดียว ไม่กล้าลงไปซื้อของข้างล่าง เพราะเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงหลอกหลอนน้องผมตลอดเวลา จนเวลาผ่านมาหลายเดือน น้องเริ่มทำใจได้ และสภาพจิตใจกลับมาเป็นปกติ จึงมาเล่าให้ฟัง
และนี่ก็เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริงๆกับน้องผม ซึ่งจริงๆแล้วน้องผมอยู่กับพี่สาว และกว่าจะกลับมาคืออีกนานเลย ยังดีที่น้องมีสติและหลอกโจรได้จึงรอดพ้นจากตรงนั้นมา ยังคิดอยู่ว่าถ้าทำทีขัดขืนหรือต่อสู้อาจจะเป็นอันตรายมากกว่า และการทำให้โจรไว้ใจก็ทำให้น้องผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ ถึงแม้โจรจะได้ได้หมายข่มขืนแต่แรก แต่มาเจอผู้หญิงในสภาพเปลือย อยู่กัน 2 ต่อ 2 ในห้องน้ำ มันก็เสี่ยงอยู่เหมือนกัน
จึงอยากเตือนหลายๆคนที่พักอยู่คนเดียว หรือมีลูกหลานกำลังจะอยู่หอพัก ว่าให้ระมัดระวังตัวเองให้ดี เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดกับเราเมื่อไร หาเพื่อนมาอยู่ด้วย หรือทางที่ดีหาห้องพักที่ดูมีระบบความปลอดภัยซักนิด จ่ายแพงกว่าแต่ชีวิตปลอดภัยกว่าก็ยอมเถอะครับ มันไม่คุ้มเลยถ้าเป็นอะไรขึ้นมา ก็หวังว่าเหตุการณ์นี้ จะไม่เกิดขึ้นกับใครอีกนะครับ
*ขออณุญาติแท็กชาญเรือน เผื่อคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก อยู่ห้องคนเดียว