[CR] [Mini Review] ----------------------- One day trip ตอน เกาะเกร็ดไม่มีทะเล -----------------------

"อ้าว นี่เข้าใจผิดมาตลอดเลยนะ เราเห็นว่าเกาะเกร็ด ก็นึกว่าจะมีทะเล คงต้องจำใหม่แล้วว่า..."

"เกาะเกร็ดไม่มีทะเล"





จุดเริ่มต้นของทริปเล็กๆวันนี้ เกิดจากสมาชิกชมรมสลัมคลับ ของจุฬาฯ ที่พอจบค่ายอาสาที่อ.สวี จ.ชุมพร ค่ายจบแล้วแต่คนไม่จบ พากันตะลอนเที่ยวแทบทุกอาทิตย์ จนวันหนึ่งที่ชาวค่ายจะจัดทริปไปดรีมเวิร์ลด์ เจ้พริม เจ๊ใหญ่ประจำแก๊งค์ที่สนิทกัน ก็ขอบายเพราะดันกลัวเครื่องเล่น ขาดชาวแก๊งค์ไปคนนึงก็ไม่สนุกแล้ว แล้วเราจะทำไงดี?

"ถ้างั้นไปเที่ยวเกาะเกร็ดกัน..."


ออกตัวก่อนนะครับว่าวันนี้ไม่เน้นบรรยาย เพราะขี้เกียจ Facepalm แถมรูปยังขาดเป็นช่วงๆ เพราะอยากเก็บบรรยากาศด้วยตาตัวเองให้ได้เท่าที่จะทำได้ แถมยังมีช่วงจังหวะที่ปั่นจักรยาน ที่ไม่ได้เก็บรูปมาเลย จะพยายามบรรยายให้เห็นภาพมากที่สุด ต้องขอโทษด้วยนะครับ

_____________________________________________________________________________________________

เราเริ่มต้นวันของการท่องเที่ยวด้วยการนัดกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับ ซึ่งการเดินทางของวันนี้เราจะใช้พาหนะคือ รถเมล์ ครับ





โดยเราจะขึ้นสาย 166 ที่ป้ายรถเมล์ฝั่งเกาะพหลโยธินครับ สังเกตตรงฝั่งที่ไม่มีห้าง แต่มีป้ายโฆษณาใหญ่ๆ
ขึ้นไปก็บอกกระเป๋าว่าลงปากเกร็ด ค่าโดยสารไปเกาะเกร็ดแค่ 18 บาทเอง
พอใกล้ถึง กระเป๋ารถเมล์จะบอกครับ คนจะลงป้ายนี้เยอะมาก แหงล่ะ ก็แหล่งท่องเที่ยวนี่เนาะ
พอลงปั๊บ ก็งงกันทั้งแก๊งค์ ไม่มีใครไปที่ท่าน้ำเป็นสักคน ทำไงที่นี้
เดินตามฝรั่งครับ แหะๆ เม่าเหม่อ เดินย้อนกลับจากป้ายเรื่อยๆ จะเจอตลาดโลตัสครับ ก็เลี้ยวเข้าซอยตรงไปเล้ยยยย
จนถึงวัดสนามเหนือครับ วัดแรกที่เจอ ก็ตรงเข้าไปในวัดเลย จะมีท่าน้ำข้ามไปเกาะเกร็ดอยู่หลังวัด
ค่าข้ามฝาก 2 บาท เม่าบัลเล่ต์




วันนี้นัดกันใส่ชุดมากันในธีม Forever in blue jeans ครับ อารมณ์เสื้อขาว กางเกงยีนส์ แดดค่อนข้างแรงเลยทีเดียวครับ ก็เลยแบ่งเสื้อยีนส์ตัวเก่าที่แอบจิ๊กมาจากพ่อให้เจ้ใหญ่และน้องเล็กประจำแก๊งค์บังแดด

ถึงวันนี้แดดค่อนข้างแรง แต่บรรยากาศริมน้ำที่ลมโชยตลอดเวลา ก็ทำให้พัดพาความอบอ้าวออกไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่ภาพประทับใจกับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ พาให้นึกถึงสมัยก่อนเลยครับ ผู้คนยังคงสัญจรทางเรือไปมาไม่ขาดสาย เราก็จะข้ามมาที่วัดปรมัยยิกาวาส ตรงนี้จะมีของกิน ของขาย รวมถึงถนนคนเดินอีกด้วย แต่ที่สำคัญคือ ที่นี่มีเจดีย์เอียง ถือเป็นแลนด์มาร์คของเกาะเกร็ดเลยก็ว่าได้









เราเดินเลียบทางเดินริมน้ำมาทางซ้ายเรื่อยๆ ดูร้านรวงต่างๆ เพื่อรอเพื่อนๆที่เหลือ (ที่ช้า... นัดสิบโมง โผล่มาเกือบเที่ยง แว้กกกกก) มารวมตัวกัน แล้วผมก็สะดุดตากับร้านคาเฟ่เล็กๆร้านนึงชื่อร้าน "ยกเย็นขึ้นบก"

"แวะดูร้านนี้มั้ย"

"เราคุ้นๆ ร้านนี้ว่ะ เหมือนคุ้นๆว่า... อ้าว!!!!"

นะโม น้องเล็กเดินเข้าไปทักทายพี่เจ้าของร้านทันทีเลยครับ สรุปว่านะโมเคยเข้าค่ายด้วยกันกับพี่เจ้าของร้าน แล้วนะโมก็ยังจำได้อีกว่าพี่เค้าเคยบอกว่าเปิดร้านอยู่ที่เกาะเกร็ด ทั้งสองดูคุยออกรสออกชาติมาก ที่เหลือเลยไปหาที่นั่งรอในร้าน เป็นชานบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ลมพัดเย็นดี ไม่นานนะโมก็เดินมานั่งสมทบด้วยกัน

"อ้าว นี่เข้าใจผิดมาตลอดเลยนะ เราเห็นว่าเกาะเกร็ด ก็นึกว่าจะมีทะเล คงต้องจำใหม่แล้วว่าเกาะเกร็ดไม่มีทะเล"

เฮ้ออออ.... ทุกคนหันมาถอนหายใจพร้อมๆกัน

"ว่าแต่... เราจำไม่ได้ว่ะ ว่าพี่เจ้าของร้านเค้าชื่ออะไร แหะๆ"

"นะโม้!!!!!!!!!!"

จากนั้นเราก็สั่งเครื่องดื่มมาดื่มกัน เป็นม็อกเทลไร้แอลกอฮอล์ โดยมีหมายเลขเมนู 01 - 36 ผมเลยเสนอแกมบังคับให้ทุกคนสุ่มเลขโดยไม่ต้องดูชื่อเมนูครับ พอเลือกสุ่มเลขสั่งกันได้เรียบร้อย ก็เริ่มออกสำรวจร้านครับ ที่นี่ตกแต่งแนววินเทจ ย้อนยุค พาลให้นึกถึงบ้านไทยเมื่อสามสิบปีก่อนเลยครับ













พอสำรวจถ่ายรูปกันหอมปากหอมคอ ก็กลับมารวมกันที่ชานริมน้ำ พร้อมๆกันเครื่องดื่มที่ทยอยมาเสิร์ฟ ก็พลัดกันชิมของคนนู้นทีนี้ที อร่อยทุกรสครับ ของผมเป็น Piña colada น้ำสับปะรดผสมกะทิ อารมณ์ประมาณกินนมรสสับปะรด สดชื่นดีครับ เอาเป็นว่าผ่านทุกรสเลย หัวใจ







ระหว่างรอเพื่อนๆที่เหลือมาครบก็เป็นช่วง Who wanna be on top กันต่อครับ นัดไว้สิบโมง นี่ก็จนพระฉันเพลเสร็จแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แวว...
ในที่สุดเพื่อนที่เหลืออีก 3 คนก็มาครับ แวะดื่มน้ำท่า เตรียมตะลุยกันต่อ เย่!















มั่นไส้รูปด้านบนเป็นการส่วนตัวนะครับ เราเดินย้อนกลับไปที่วัด เพื่อเช่าจักรยานครับ 40 บาท แอบแพง แต่เช่าปั่นได้ทั้งวันเลยครับ ปั่นให้น่องโตกันไปเลยทีเดียว คุ้มมากๆ แต่เลือกจักรยานดีๆนะครับ ที่เอาไปมีคันของนะโมโซ่หลุดบ่อยมาก ตกหลุมทีก็หลุดที ดังนั้น เลือกดีๆนะครับ เราปั่นไปเลาะทางซ้ายตามแผนที่ที่ติดมากับจักรยานเรื่อยๆ ชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมฝั่งน้ำ จนไปหยุดอยู่ที่ร้านป้าสุนครับ ตามที่เสียงของกระเพาะอาหารเรียกร้อง เราจอดรถจักรยานกันใต้ถุนร้าน บรรยากาศภายในเรือนไทยนี่มันบ้านคนชัดๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านคุณย่ามากๆ ตรงชานเรือนมีน้ำใบเตยและชารางแดงหอมๆไว้บริการฟรี ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องขนมหวานพวกสลิ่ม ลอยแก้ว ลอดช่อง ส่วนของคาวก็เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอด ถุงทอง ส้มตำครับ แต่ด้วยความโหยหิว ทำให้หน้ามืดตามัว ถ่ายมาเฉพาะของคาว แหะๆ









ค่าอาหารแต่ละจานกับขนมก็อยู่ที่ถ้วยละ 20 -30 บาท ไม่แพงเลยครับ พอกองทัพได้เดินด้วยท้องแล้ว ก็ต้องใช้แรงต่อ เราปั่นไปเรื่อยๆครับ เจออะไรน่าสนใจเราก็แวะ ปั่นไปถึงย่านโรงปั้น ก็จะมีเตาเผาเครื่องปั้นเก่าๆ ที่ถูกอนุรักษ์ไว้มากมาย เราตามหาโรงปั้นเพื่อจะโชว์สกิลปั้นดิน แต่แทบทุกที่ปิดหมดเลยครับ รวมถึงโรงงานเครื่องปั้นดินเผา เราเลยต้องปั่นต่อไป เต่าเอือมเต่าเอือมเต่าเอือม
แต่เหมือนสวรรค์มีตา เราพบโรงปั้นก่อนถึงวัดฉิมพลีที่มีคุณลุงนั่งอยู่หน้าแท่นปั้น ส่งสายตาสงสัยมายังแก๊งค์จักรยานที่เพิ่งปั่นเข้ามา เราไม่รีรอเข้าไปขอคุณลุงปั้นดิน โดยคุณลุงคิดค่าดินปั้นกันแค่ 30 บาท!!!!! ร้านอื่นคิดตั้ง 50 แน่ะ







ระหว่างรอคิวก็ถ่ายรูปเล่นนู่นนี่ ปั้นกันแล้วพาลให้นึกถึงหนังเรื่อง Ghost ที่เดมี่ มัวร์กับแพทริก สเวซี่ย์นำแสดง ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าที่ชื่อหนังในลาวว่า ปั้นหม้อล่อผัว วานผู้รู้ช่วยแถลง เม่าแพนด้า











จากนั้นเราก็ปั่นรอบเกาะเกร็ดครับ หลายกิโลอยู่เหมือนกัน แต่อยากถามพระอาทิตย์อยู่ ว่านี่แดดหรือไออุ่นจากนรก ร้อนมากๆครับ คิดซะว่าซ้อมตกนรก โบ๊ะกันแดด เสื้อแขนยาว พกร่มมาให้ดีครับ ไม่งั้นมีเกรียม สองข้างทางจะเป็นสวนท้องร่องซะส่วนใหญ่ มีบ้านคนประปราย เงียบสงบดี ได้ฟีลชนบท ทั้งๆที่ห่างจากกทม.นิดเดียว แถมผู้คนก็ยังเป็นมิตร มีรอยยิ้มให้กันเสมอตลอดข้างทาง ยังไงก็ถ้าอยากหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง ก็ลองมาสัมผัสบรรยากาศที่นี่ดูได้ครับ แต่อย่าลืม! โบ๊ะกันแดด เสื้อแขนยาว พกร่มด้วยนะครับ เป็นห่วง
เราแวะดื่มน้ำเย็นๆกันข้างทาง พร้อมกับเล่นเกมคิลเลอร์พอหอมปากหอมคอ หายเหนื่อยเราก็ปั่นจักรยานกันไปต่อจนถึงถนนคนเดินหลังวัดวัดไผ่ล้อม จะมีร้านรวงยาวไปจนถึงวัดปรมัยฯ ของกินเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว เราไปเก็บภาพความประทับใจกันที่ริมน้ำเจ้าพระยา หน้ารูปปั้นร.5 ปิดท้ายความทรงจำดีๆที่เกาะเกร็ด แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านครับ ยิ้ม

















_____________________________________________________________________________________________

สรุปค่าใช้จ่าย

ค่ารถเมล์ 18 บาท
ค่าเรือข้ามฟาก 2 บาท
ค่าจักรยาน 40 บาท
ค่าม็อกเทล 35 บาท
ค่าอาหาร 45 บาท
ค่าปั้นดิน 30 บาท
ค่าเครื่องดื่ม 25 บาท
ค่าขนม 50 บาท
รวม 245 บาท

ฝากเพจSLUM CLUB (ชมรมจุฬาฯสู่ชุมชน) ด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/slumclubb

ขอบคุณรูปรวมจากพี่นัทไซจูนะ ไว้พบกันใหม่ทริปหน้าครับ หวังว่าจะไม่มีคนใส่ชุดผิดธีม กิกิ ยิ้ม

ชื่อสินค้า:   เกาะเกร็ด ปากเกร็ด นนทบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่